ทำความเข้าใจก่อนอ่านแปบนะคะ เรื่องราวค่อยข้างยาว รึป่าว? แต่จะมีสองตอนนะคะ คือตอนแรก และตอนจบ (เนื่องจากโพสนึงก็จำกัดจำนวนตัวอักษรเนอะ ) ( มีเวลาจริงๆมานั่งอ่านนะ เดี๋ยวขาดตอน 555+'อ่านแล้วรบกวนนึกภาพตาม ) อ่าวเริ่มได้ !!!
หลายคนเคยบอกว่า เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง แต่เรื่องราวของฉันมันผ่านมาก็ไม่กี่เดือน แต่ความรู้สึกมันยังชัดเจนทุกขณะและไม่รู้จะต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่?..เรื่องราวที่จะมาแชร์ในวันนี้ มันคือเรื่องจริง เกิดขึ้นจริงเมื่อไม่นานนี่เอง อาจเรียกได้ว่าเตือนใจหรือหวังว่าเป็นข้อคิดให้คู่รักหลายๆคู่ได้นะคะ จะให้แง่คิดเรื่องอะไรบ้าง มาดูกัน 🔺เรื่องมันมีอยู่ว่า(เกริ่นก่อน) ฉันมีแฟนที่รักกันมา คบกันมา3ปี อยู่จังหวัดเดียวกันเจอกันอาทิตย์ละครั้ง ปีนึงทะเลาะกันครั้งนึง .. คือรักกันมาก? ปีนึงเราทะเลาะกันครั้งนึง *แต่พอย่างเข้าปีที่3 ก็มีผช อีกคนเข้ามาในชีวิตของฉัน เขาเป็นคนสิงคโปร์ ตอนแรกฉันก็ไม่คิดไรมากนะเพราะเราเจอกันในสถานบันเทิง อีกอย่างฉันรักแฟนคนไทยมาก เอ่อ ก็แค่แลกไลน์กันไว้เพราะฉันคิดว่า เขาเป็นคนต่างชาติ คบไว้เป็นเพื่อน เดี๋ยวเขาก็กลับไปประเทศเขาแล้ว.. ก็ไม่ได้คิดไร
แต่พอนานวันสิคะ ฉันก็เริ่มหวั่นๆกับคนใหม่ เขาทำดีกับเราทุกอย่าง ใส่ใจ ดูแล รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เขาจะจดจำรายทุกๆอย่างได้ดี เหมือนใส่ใจ พอมาเปรียบเทียบกับแฟนไทย มันก็เลยกลายเป็นปมไปเลย เพราะแฟนคนไทยไม่เคยทำอะไรให้เราได้ตื่นเต้น ไม่เคยจดจำอะไร ไม่เคยมีวันสำคัญ เหมือนคบไปวันๆ ไอ่เราก็เฉเลยคะ ผญอ่าเนอะ.. (น้ำหยดหินทุกวัน หินมันยังกร่อน )...หลายๆคน เพื่อน ครอบครัว ก็บอกอย่าคบซ้อน อย่าจับปลาสองมือ เพราะสักวันจะไม่เหลือใคร ( คำนี้ได้ยินมาหลายรุ่น ) ไอ่เราก็คิดหนักอยู่ ... แต่ยังอยู่ช่วงสับสน ไม่รู้จะเดินไปทางไหน
จนแล้วจนเล่า ผชสองคนของเราก็จับได้สิ่คะว่าเราคบซ้อน
1สาเหตุที่คนไทยจับได้คือ ผช ต่างชาติโทรหาเราตอนดึกๆตอนที่อยู่ด้วยกัน.. (ทะเลาะกันแหลก)
2สาเหตุที่ผชสิงคโปร์จับได้ ฟังเหตุผลแล้วอย่าอึ้งนะ .. เพื่อนรักเราสิคะ ไปบอกนาง ว่าเรานอนกะแฟนอีกคน คือจะพูดทำไม !!! กูนี่เข่าอ่อนเลยคะ เมื่อรู้ว่าเพื่อนหักหลัง และไม่ได้บอกแค่เรื่องเดียว แต่ดันเล่าทุกเรื่องให้เขาฟังจนหมดเปลือกเลยคะ เหมือนเอาเนื้อกูมาแร่ทาเกลือโรยพริกและจุดไฟเผา และยังบอกขอโทดไม่ได้ตั้งใจ (นี่ไม่ได้ตั้งใจช่ะ )แต่นี่ยังไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่..(แค่คิดว่า ยังเพื่อนกูมั้ย)
คือทุกคนก็ถามแหล่ะ เราจะเลือกใคร ใจนี่คิดไว้ละ จะเลือกคนไทย เลยงัดคำถามเด็ดถามแฟนคนไทยว่า เมื่อไหร่จะเก็บเงินสร้างอนาคต ผญทุกคนไม่มีใครโอเคหรอกนะ เมื่อเจอแฟนดื่มทุกวัน รอเงินเดือนไปทุกเดือนๆไม่มีเงินเก็บ ต้องเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ (คือตลอดเวลา เราก็จะบ่นเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ) 'คำตอบขอบเขาคือ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไปหาคนใหม่เลย ..!!! เท่านั่นละคะ เลิกเลยคะ ฉันไม่เอาแล้ว เขายังไม่รักตัวเองเลย ต่อไปจะดูแลฉันได้ยังไง ฉันเลยตัดสินใจเลือกอีกคน(อาจมองว่าเห็นแก่ตัว แต่คนเรามันต้องเลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเองป้ะ?) หลังจากนั้นเขาก็มีตามง้อเรานะ แต่เสียใจคะ มันสายเกินไปแล้วววววววว เขาก็ง้อเราตลอดนะ แถมโทรหาแม่เราบอกว่า ผมขอโทดนะคับ ผมคงดูแลน้องเขาต่อไปไม่ได้แล้ว (ทำเสียงเศร้า) เราก็บอกเขาไปขอโทดนะ ฉันรักเทอไม่ได้อีกแล้ว (ดูเหมือนใจดำ แต่มันต้องหักดิบอะ ) ( โอเค นี่แค่เกริ่น จบละ ) (มาเริ่มเรื่องราวดราม่ากัน )!!!
คือฉันตกลงคบกันกับผชสิงคโปร์ หลังจากที่เขากลับไปประเทศเขาแล้ว เขาก็ส่งตั๋วให้เราไปเที่ยวบ้านเขา คือต้องบอกก่อนว่ามันคือความรักที่ยากจะจูนติด ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เขาพูดไทยไม่ได้ ด้วยความที่คุยไลน์กันไง google แปลช่วยสิ่คะ 555
แต่พอไปบ้านเขา ก็ไปเที่ยวกัน เราก็ภาษามือบ้าง พิมพ์คุยบ้าง แต่นางก็ดูแลดี พยายามทำให้เราเข้าใจ นางน่ารัก เดินไปไหนมาไหน นางชอบจูงมือ จูบมือ เจอกันจะชอบกอด จูบหน้าผาก เอาอกเอาใจ จูบเท้าเราเช้าเย็น เอาเท้าเราไปแนบหน้า คือนึกภาพออกช่ะ ? 555 กินไรเสร็จชอบล้างมือให้ จะออกไปข้างนอกแต่ละทีคือจะใส่รองเท้าให้เรา คือมันดีอ้ะ มันก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ทุกเดือนที่คบกัน คือต้องบอกก่อนว่า จะเจอกันทุกเดือน เดือนละ4-5วัน เราชอบวางแผนอนาคตร่วมกัน ว่าฉันเรียนจบจะแต่งงานกัน มีลูกสาวคนนึง นุ้นนี่นั่น !!
เขาทำงานเป็นนักบิน ส่วนเราก็เรียน ด้วยความต่างด้านภาษา เวลา ความคิด จึงทำให้เราพยายามเข้าหากันมากขึ้น แต่ความใส่ใจที่เขาให้เราไม่เคยลดลง ด้วยความที่เชื่อใจกันเราจึงพยุงความรักมาเข้าเดือนที่ 5 ก็เริ่มสื่อสารกันแบบ อังกฤษครึ่ง ไทยครึ่ง เริ่มรู้เรื่องล้ะ555 ก็ยังรักกันดีจนกระทั่งเราไปโกหกเขา(เริ่มบ่อย) อาทิ ไปทำงานเป็นพริตตี้ ก็อาชีพเดิมเราอะ หาเงินสิค่ะ เขาก็จับได้ คือเขาไม่ชอบให้เราไปแต่งตัวสวยๆคนมองเยอะๆไง ไอ่เราก็รับปากเขาไง แต่ด้วยความต้องกินต้องใช้เราก็มีแอบทำบ้าง ไม่บอกเขา เพื่อให้เขาไม่คิดมาก แต่ก็ยังอุส่ามีอิเพื่อนรักคนเดิมนี่แหละ ยุแหย่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ทำให้รักเราพังหรอกคะ!
แต่ด้วยความนิสัยไม่ดีของเราเองนี่แหละ ได้ใจไง คิดว่าเขารัก ก็จะทำนิสัยเอาแต่ใจ งอแงเหมือนเด็กตลอด หาเรื่องทะเลาะ (ฟิวผญอารมณ์ขึ้นๆลงๆ) (ทำเหมือนไม่แคร์เขา) ก็เก้าเข้ามาคบกัน8เดือนละ นิสัยเด็กยังไม่เลิกคะ ด้วยความที่เขาตามเรามากเกินไป ไปไหนต้องรายงาน บางทีมันไม่ใช่เรื่องปะ ไอ่เราก็ลำคาญไง บอกเลิกนางไป นางก็ไม่ยอมเลิกคะ !!
จากนั้นเดือนธันวาคม(ที่ผ่านมา) งานวันเกิดฉันเอง เขาบินมาเซอร์ไพส์ถึงเมืองไทยเลยคะ ฉันเองก็ใจอ่อน เราก็เคาท์ดาวน์วันเกิดด้วยกัน กับครอบครัวของฉัน คือมันมีความสุขมากอ้ะ เราก็เที่ยวด้วยกันหลายวัน แต่พอวันที่เขาจะกลับก่อนคืนนึง เราก็ไปเที่ยวลาวกัน มีฉัน แฟน และเพื่อนอีกคนนึงคะ เราก็อยากจะดื่มกับเพื่อน แต่แฟนคือไม่ชอบผญ เที่ยว ดื่ม แต่ฉันไม่แคร์คะ ทำเก่งไง ไล่เขาไปนอน เขาก็ขึ้นห้องไปนอน หลังจากนั้นรู้เรื่องเลยคะ เราเมามาก บวกกับมีโต๊ะข้างๆมาขอเบอร์เลยได้นั่งด้วยกัน แต่เมาไง แฟนเราย่องมาดูตอนไหนไม่รู้ (พร้อมถ่ายคลิปไว้) เขารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า เขาลากเราขึ้นห้อง เขาร้องไห้ เขาทุบกำแพง บอกเราว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ เราก็อึ้งนะ แต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพราะเมา หลังจากเข้าห้องเราก็อ้วกต่อหน้าต่อตาเขา เขาก็เอาน้ำมาลาดหัวลาดตัวเราคะ คือน้ำมันเข้าหูเข้าจมูกกูคะ !! เหมือนเขาจะทำให้เรารู้สึกตัวอะ และส่งท้ายว่าจะกลับประเทศพรุ่งนี้ เราเลิกกัน
หลังจากนั้นรู้สึกตัวอีกทีเช้าคะ เขาก็โวยวายบอกทำไมแจกไลน์ผช ผชก็เรียกเราที่รัก ไอ่เราก็รู้สึกผิดแล้วละ ก็ขอโทดเขาทั้งน้ำตา บอกว่าจะไม่ทำอีกแล้ว เขาก็ไม่พูดอะไร
หลังจากนั้นเราก็ไปส่งเขาที่สนามบิน พอเขาถึงบ้าน
เราก็โทรคุยกันปกติ เขาบอกเขาให้อภัยเรานะ หวังว่าเราคงจะไม่ทำอีกแล้ว
พอมากลางเดือนธันวา ด้วยความที่เราดื้อไง หาเรื่องเที่ยวสิคะ แอบไปต่างประเทศกับเพื่อนค่ะ
เป็นจังหวะไปผับไง ตำรวจลงสิคะ โดนตำรวจจับคะ เพราะเขาคิดว่าเราลักลอบไปทำงาน 555 เราก็ได้แต่บอกพี่สาวไง ว่าตอนนี้เคลียร์ที่สถานีตำรวจอยู่ ว่าเรามาแบบถูกกฏหมายไรประมาณนี้ ไอ่เราก็กังวลละ เพราะแฟนติดต่อเราไม่ได้ นางก็โทรไปหาพี่สาวฉัน สรุปรู้ความจริงว่าฉันโกหกอีก(กี่รอบแล้ว t^t) และด้วยความความที่เป็นห่วง เขาก็บินไปหาเราในประเทศที่โดนจับ เขาก็โกดนะ แต่ด้วยความที่เป็นห่วงเขาก็มาดูแลฉัน เราก็ได้คริสมาตร์กันอย่างมีความสุข บอกว่าจะเจอกันอีกที30มกราคม ที่กทม นะ และก็กลับมาไทยคะ
เราก็คุยกันปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอ10มกราคม ที่ผ่านมา เขาบอกเลิกเราคะ เขาบอกว่า เขามานั่งคิดๆดูแล้วเราคงไปกันไม่ได้หรอก เพราะฉันชอบโกหกปิดบัง ทั้งๆที่เขาให้ใจเราแล้ว แต่เราเลือกที่จะทำลายมันเอง บอกฉันชอบทำอะไรไม่คิดก่อนทำ พอสักที ให้เขาไปดีเถอะ สงสารเขาเถอะ เขาบอกว่าขอโทดผมไม่รักคุณอีกต่อไปแล้ว 😭
ไอ่เราก็อึ้งเลยคะ ทำไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้ งี่เง่า พิมไลน์หาเขาเป็นร้อยๆฉบับ เขาก็อ่านละตอบกลับมาแค่ขอโทด เอ่อก็ยังดีที่ยังไม่บลอคเรา ฉันก็ร้องไห้ไม่กินไม่นอนคะ ได้แต่ถามเขา 30มกรานี้ เราจะเจอกันมั้ย เขาก็บอกขอโทดไม่เจอแล้ว เราก็อยากจะง้อไง ตามกับเพื่อนเขาเลย ขอร้องเพื่อนเขาให้ช่วย แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือเพื่อนเขาซ้ำเติมเรา เราก็แย่คูณสิบเลยคะ ตัดสินใจเลย ฉันก็จองตั๋วเลยคะ 30มกรานี้ กะบินไปหาเขาที่นุ้น ไปแบบไม่บอกใครเลย จะมีบอกแค่เพื่อนในกรุ๊ป กะเพื่อนแฟนที่เขาเป็นคนไทยอะที่รู้ โอเคไอ่เราก็อยู่ไม่ได้ไงกว่าจะสิ้นเดือน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตื่นก็ร้องไห้ นอนก็ร้อง ไปเรียนยังนั่งร้องไห้ คือเข้าใจมั้ย แค่หายใจยังเจ็บเลย เหมือนคนจะตายอะ .. สรุปน้ำหนักลดประมาณ5กิโลอะ
และแล้ววันที่30 ก็มาถึง พร้อมแล้วจะบินไปกทม ฉันคนต่างจังหวัดไง ไฟท์4โมงไปกาม. บังเอิญเครื่องดีเลย์ เปลี่ยน5โมง ไฟท์จากกทม ไปสิงคโปร์ ไฟท์2ทุ่ม15 ก็เลยคิดว่าคงทัน .. พอดีเลย์เอาจริงๆคือออกตัวเกือบ6โมงคะ เราก็คิดแหละว่า ถึง กทม คงทุ่มนึงแล้ว คงจะไปต่อไฟท์ทัน พอระหว่างทางนี่เหมือนไม่ได้การ เลยแจ้งลูกเรือบนเครื่องบอกเรามีเดินทางต่างประเทศนะ นี่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว ช่วยติดต่อเคาท์เตอร์ทำเรื่องให้เราได้มั้ย นางลูกเรือก็โอเค สรุปถึงดอนเมือง ทุ่มครึ่งอะคะ มีเวลาวิ่งไปเคาร์เตอร์45นาที จากทางลงเครื่องนี่เราวิ่งไม่หยุดเลยคะ สุดชีวิต ขอโทดตลอดทางไม่รู้ชนใครบ้าง วิ่งสุดชีวิตอย่างเหนื่อย หมดแรง สรุปใช้เวลาวิ่ง15นาที มาถึงหน้าเคาร์เตอร์ตอน ทุ่ม 45 สรุป เคาเตอร์ปิดแล้วคะ เราก็ไปยืนคุยบอกว่าแจ้งลูกเรือ(สายการบินสีเหลือง)ไปแล้ว สายการบินที่เราจะไปสิงคโปร์ก็สีเหลืองนี่แหละ นางบนเคาร์เตอร์ก็บอกไม่มีใครแจ้งมานะ เราก็ยืนยันเสียงแข็งบอกว่าแจ้งไปแล้ว นางเคาร์เตอร์ก็บอกจำชื่อลูกเรือคนนั้นได้มั้ย เราบอกจำชื่อไม่ได้จำหน้าได้งั้นไปตามพนักงานมาเลย จะชี้หน้าให้ดู!!! คือเราไม่ยอมนะ เราเสียเงินเป็นหมื่นแล้ว ที่พักก็จองแล้ว ใครจะรับผิดชอบ นางเคาร์เตอร์ก็บอกว่าคุณเป็นคนผิดนะ (คือกูผิดช่ะ)?! เพราะถ้ารู้จะไปต่างประเทศคุณต้องจองไฟท์ห่างกัน3-4 ชม. คือมันใช่เรื่องมั้ยที่กูต้องจองและมานั่งรอนานๆ!! พนักงานเถียงๆเราฉอดๆๆ คือกูอยากจะถามว่า มันความผิดกูมั้ย ถ้าเครื่องไม่ดีเลย์ กูคงไปถึงสิงคโปร์แล้วคะ !!!! (พูดละขึ้นเลย) เราก็บอกเราไม่ยอมคะ จะร้องเรียน นางก็ให้เรากรอกใบร้องเรียน และให้เบอร์โทรคอลเซ็นเตอร์ที่สิงคโปร์คะ เราก็โทรเลยคะ มันฮาตรงที่คุยผิดคุยถูก เราก็ไม่เก่งอังกฤษอ่าเนอะ 555 สรุปมันให้เราซื้อตั๋วใหม่ (หลังจากคุยกัน30นาที) ทั้งกระเป๋ามีเงิน 4พันบาท เลยโทรไปร้องไห้กับเพื่อน เพื่อนก็สงสารไง กะจะบินไปง้อแฟนแต่กลับตกเครื่อง เพื่อนเลยช่วยซื้อตั๋วให้เลยคะ เราก็ดีใจ สักแปบ มีสายจากต่างประเทศโทรมา เสียงปลายทางคือผช ที่เรากำลังจะไปง้อคะ เขาบอกรู้ข่าวว่าเราจะมา เราก็เล่าไปว่าเราตกเครื่อง อยากไปเจอเขา นุ่นนี่นั้น เขากลับตอบมาว่า ไม่ต้องมานะ ไม่อยากเจอ ยังไงละ ? ทิ้งกระเป๋าลง ทิ้งตัวลงที่สนามบินนั่งร้องไห้คะ !! คนเดินผ่านก็มองคะ จังหวะนั้นไม่แคร์สายตาประชาชีเลย ทำไรไม่ได้ไง เพื่อนช่วยซื้อตั๋วไฟท์เสาร์สองทุ่มสิบห้า เวลาเดิม หลังจากนั้นก็หาที่พักที่กทม.ให้(คือเพื่อนดีอะ )
พร้อมแล้วคะ คืนวันเสาร์มารอเลยคะ เจอพนักงานคนเดิมที่เคาท์เตอร์ เรานี่เบะปากให้เลยคะ 555+
เย้ๆๆ เครื่องออกแล้ว จะถึงสิงคโปร์เกือบเที่ยงคืน .. เราก็ตื่นเต้นไม่รู้ว่าจะต้องไปเผชิญอะไร อย่างน้อยต้องไปสู้รบกะตม.แหละ 555 อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดคะ ตม.ถาม มาทำไร มาทำไม พักไหน มาวันเดียวมาทำไม เพื่ออะไร !!! เป็นชุดเลยคะ คือต้องบอกก่อน เรามีตั๋วกลับวันอาทิตย์ไงคะ คือมีเวลาที่สิงคโปร์ไม่กี่ชั่วโมงหรอก อีตม.ก็งงไงมาทำไมวันเดียว!! (คือถ้ากูไม่ตกเครื่องกูก็มา2วันเห่อะ คิดในใจจะมาวันเดียวให้เหนื่อยทำไม)
พอสู้รบกะตม.ภาวนาเดินออกมาประตูทางออกหวังจะเจอเขาไง เพราะเราคิดว่าเขาน่าจะรู้ว่าเราจะมา ศุกร์ตกเครื่อง เสาร์ไม่ล้มเลิกคะ .. ยังไงละ เข้าข้างตัวเองคะ สุดท้ายก็ว่างป่าว ไม่มีแม้แต่เงาเขาตอนเที่ยงคืน15นาที มาเป็นเพลงแปบ 555
สิ่งที่เราได้เจอคือมีคนมาดึงแขนเราจากด้านหลัง อ่านต่อตอนจบ
รู้ว่ามีอยู่ก็สายไป ตอนแรก
หลายคนเคยบอกว่า เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง แต่เรื่องราวของฉันมันผ่านมาก็ไม่กี่เดือน แต่ความรู้สึกมันยังชัดเจนทุกขณะและไม่รู้จะต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่?..เรื่องราวที่จะมาแชร์ในวันนี้ มันคือเรื่องจริง เกิดขึ้นจริงเมื่อไม่นานนี่เอง อาจเรียกได้ว่าเตือนใจหรือหวังว่าเป็นข้อคิดให้คู่รักหลายๆคู่ได้นะคะ จะให้แง่คิดเรื่องอะไรบ้าง มาดูกัน 🔺เรื่องมันมีอยู่ว่า(เกริ่นก่อน) ฉันมีแฟนที่รักกันมา คบกันมา3ปี อยู่จังหวัดเดียวกันเจอกันอาทิตย์ละครั้ง ปีนึงทะเลาะกันครั้งนึง .. คือรักกันมาก? ปีนึงเราทะเลาะกันครั้งนึง *แต่พอย่างเข้าปีที่3 ก็มีผช อีกคนเข้ามาในชีวิตของฉัน เขาเป็นคนสิงคโปร์ ตอนแรกฉันก็ไม่คิดไรมากนะเพราะเราเจอกันในสถานบันเทิง อีกอย่างฉันรักแฟนคนไทยมาก เอ่อ ก็แค่แลกไลน์กันไว้เพราะฉันคิดว่า เขาเป็นคนต่างชาติ คบไว้เป็นเพื่อน เดี๋ยวเขาก็กลับไปประเทศเขาแล้ว.. ก็ไม่ได้คิดไร
แต่พอนานวันสิคะ ฉันก็เริ่มหวั่นๆกับคนใหม่ เขาทำดีกับเราทุกอย่าง ใส่ใจ ดูแล รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เขาจะจดจำรายทุกๆอย่างได้ดี เหมือนใส่ใจ พอมาเปรียบเทียบกับแฟนไทย มันก็เลยกลายเป็นปมไปเลย เพราะแฟนคนไทยไม่เคยทำอะไรให้เราได้ตื่นเต้น ไม่เคยจดจำอะไร ไม่เคยมีวันสำคัญ เหมือนคบไปวันๆ ไอ่เราก็เฉเลยคะ ผญอ่าเนอะ.. (น้ำหยดหินทุกวัน หินมันยังกร่อน )...หลายๆคน เพื่อน ครอบครัว ก็บอกอย่าคบซ้อน อย่าจับปลาสองมือ เพราะสักวันจะไม่เหลือใคร ( คำนี้ได้ยินมาหลายรุ่น ) ไอ่เราก็คิดหนักอยู่ ... แต่ยังอยู่ช่วงสับสน ไม่รู้จะเดินไปทางไหน
จนแล้วจนเล่า ผชสองคนของเราก็จับได้สิ่คะว่าเราคบซ้อน
1สาเหตุที่คนไทยจับได้คือ ผช ต่างชาติโทรหาเราตอนดึกๆตอนที่อยู่ด้วยกัน.. (ทะเลาะกันแหลก)
2สาเหตุที่ผชสิงคโปร์จับได้ ฟังเหตุผลแล้วอย่าอึ้งนะ .. เพื่อนรักเราสิคะ ไปบอกนาง ว่าเรานอนกะแฟนอีกคน คือจะพูดทำไม !!! กูนี่เข่าอ่อนเลยคะ เมื่อรู้ว่าเพื่อนหักหลัง และไม่ได้บอกแค่เรื่องเดียว แต่ดันเล่าทุกเรื่องให้เขาฟังจนหมดเปลือกเลยคะ เหมือนเอาเนื้อกูมาแร่ทาเกลือโรยพริกและจุดไฟเผา และยังบอกขอโทดไม่ได้ตั้งใจ (นี่ไม่ได้ตั้งใจช่ะ )แต่นี่ยังไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่..(แค่คิดว่า ยังเพื่อนกูมั้ย)
คือทุกคนก็ถามแหล่ะ เราจะเลือกใคร ใจนี่คิดไว้ละ จะเลือกคนไทย เลยงัดคำถามเด็ดถามแฟนคนไทยว่า เมื่อไหร่จะเก็บเงินสร้างอนาคต ผญทุกคนไม่มีใครโอเคหรอกนะ เมื่อเจอแฟนดื่มทุกวัน รอเงินเดือนไปทุกเดือนๆไม่มีเงินเก็บ ต้องเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ (คือตลอดเวลา เราก็จะบ่นเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ) 'คำตอบขอบเขาคือ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไปหาคนใหม่เลย ..!!! เท่านั่นละคะ เลิกเลยคะ ฉันไม่เอาแล้ว เขายังไม่รักตัวเองเลย ต่อไปจะดูแลฉันได้ยังไง ฉันเลยตัดสินใจเลือกอีกคน(อาจมองว่าเห็นแก่ตัว แต่คนเรามันต้องเลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเองป้ะ?) หลังจากนั้นเขาก็มีตามง้อเรานะ แต่เสียใจคะ มันสายเกินไปแล้วววววววว เขาก็ง้อเราตลอดนะ แถมโทรหาแม่เราบอกว่า ผมขอโทดนะคับ ผมคงดูแลน้องเขาต่อไปไม่ได้แล้ว (ทำเสียงเศร้า) เราก็บอกเขาไปขอโทดนะ ฉันรักเทอไม่ได้อีกแล้ว (ดูเหมือนใจดำ แต่มันต้องหักดิบอะ ) ( โอเค นี่แค่เกริ่น จบละ ) (มาเริ่มเรื่องราวดราม่ากัน )!!!
คือฉันตกลงคบกันกับผชสิงคโปร์ หลังจากที่เขากลับไปประเทศเขาแล้ว เขาก็ส่งตั๋วให้เราไปเที่ยวบ้านเขา คือต้องบอกก่อนว่ามันคือความรักที่ยากจะจูนติด ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เขาพูดไทยไม่ได้ ด้วยความที่คุยไลน์กันไง google แปลช่วยสิ่คะ 555
แต่พอไปบ้านเขา ก็ไปเที่ยวกัน เราก็ภาษามือบ้าง พิมพ์คุยบ้าง แต่นางก็ดูแลดี พยายามทำให้เราเข้าใจ นางน่ารัก เดินไปไหนมาไหน นางชอบจูงมือ จูบมือ เจอกันจะชอบกอด จูบหน้าผาก เอาอกเอาใจ จูบเท้าเราเช้าเย็น เอาเท้าเราไปแนบหน้า คือนึกภาพออกช่ะ ? 555 กินไรเสร็จชอบล้างมือให้ จะออกไปข้างนอกแต่ละทีคือจะใส่รองเท้าให้เรา คือมันดีอ้ะ มันก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ทุกเดือนที่คบกัน คือต้องบอกก่อนว่า จะเจอกันทุกเดือน เดือนละ4-5วัน เราชอบวางแผนอนาคตร่วมกัน ว่าฉันเรียนจบจะแต่งงานกัน มีลูกสาวคนนึง นุ้นนี่นั่น !!
เขาทำงานเป็นนักบิน ส่วนเราก็เรียน ด้วยความต่างด้านภาษา เวลา ความคิด จึงทำให้เราพยายามเข้าหากันมากขึ้น แต่ความใส่ใจที่เขาให้เราไม่เคยลดลง ด้วยความที่เชื่อใจกันเราจึงพยุงความรักมาเข้าเดือนที่ 5 ก็เริ่มสื่อสารกันแบบ อังกฤษครึ่ง ไทยครึ่ง เริ่มรู้เรื่องล้ะ555 ก็ยังรักกันดีจนกระทั่งเราไปโกหกเขา(เริ่มบ่อย) อาทิ ไปทำงานเป็นพริตตี้ ก็อาชีพเดิมเราอะ หาเงินสิค่ะ เขาก็จับได้ คือเขาไม่ชอบให้เราไปแต่งตัวสวยๆคนมองเยอะๆไง ไอ่เราก็รับปากเขาไง แต่ด้วยความต้องกินต้องใช้เราก็มีแอบทำบ้าง ไม่บอกเขา เพื่อให้เขาไม่คิดมาก แต่ก็ยังอุส่ามีอิเพื่อนรักคนเดิมนี่แหละ ยุแหย่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ทำให้รักเราพังหรอกคะ!
แต่ด้วยความนิสัยไม่ดีของเราเองนี่แหละ ได้ใจไง คิดว่าเขารัก ก็จะทำนิสัยเอาแต่ใจ งอแงเหมือนเด็กตลอด หาเรื่องทะเลาะ (ฟิวผญอารมณ์ขึ้นๆลงๆ) (ทำเหมือนไม่แคร์เขา) ก็เก้าเข้ามาคบกัน8เดือนละ นิสัยเด็กยังไม่เลิกคะ ด้วยความที่เขาตามเรามากเกินไป ไปไหนต้องรายงาน บางทีมันไม่ใช่เรื่องปะ ไอ่เราก็ลำคาญไง บอกเลิกนางไป นางก็ไม่ยอมเลิกคะ !!
จากนั้นเดือนธันวาคม(ที่ผ่านมา) งานวันเกิดฉันเอง เขาบินมาเซอร์ไพส์ถึงเมืองไทยเลยคะ ฉันเองก็ใจอ่อน เราก็เคาท์ดาวน์วันเกิดด้วยกัน กับครอบครัวของฉัน คือมันมีความสุขมากอ้ะ เราก็เที่ยวด้วยกันหลายวัน แต่พอวันที่เขาจะกลับก่อนคืนนึง เราก็ไปเที่ยวลาวกัน มีฉัน แฟน และเพื่อนอีกคนนึงคะ เราก็อยากจะดื่มกับเพื่อน แต่แฟนคือไม่ชอบผญ เที่ยว ดื่ม แต่ฉันไม่แคร์คะ ทำเก่งไง ไล่เขาไปนอน เขาก็ขึ้นห้องไปนอน หลังจากนั้นรู้เรื่องเลยคะ เราเมามาก บวกกับมีโต๊ะข้างๆมาขอเบอร์เลยได้นั่งด้วยกัน แต่เมาไง แฟนเราย่องมาดูตอนไหนไม่รู้ (พร้อมถ่ายคลิปไว้) เขารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า เขาลากเราขึ้นห้อง เขาร้องไห้ เขาทุบกำแพง บอกเราว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ เราก็อึ้งนะ แต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพราะเมา หลังจากเข้าห้องเราก็อ้วกต่อหน้าต่อตาเขา เขาก็เอาน้ำมาลาดหัวลาดตัวเราคะ คือน้ำมันเข้าหูเข้าจมูกกูคะ !! เหมือนเขาจะทำให้เรารู้สึกตัวอะ และส่งท้ายว่าจะกลับประเทศพรุ่งนี้ เราเลิกกัน
หลังจากนั้นรู้สึกตัวอีกทีเช้าคะ เขาก็โวยวายบอกทำไมแจกไลน์ผช ผชก็เรียกเราที่รัก ไอ่เราก็รู้สึกผิดแล้วละ ก็ขอโทดเขาทั้งน้ำตา บอกว่าจะไม่ทำอีกแล้ว เขาก็ไม่พูดอะไร
หลังจากนั้นเราก็ไปส่งเขาที่สนามบิน พอเขาถึงบ้าน
เราก็โทรคุยกันปกติ เขาบอกเขาให้อภัยเรานะ หวังว่าเราคงจะไม่ทำอีกแล้ว
พอมากลางเดือนธันวา ด้วยความที่เราดื้อไง หาเรื่องเที่ยวสิคะ แอบไปต่างประเทศกับเพื่อนค่ะ
เป็นจังหวะไปผับไง ตำรวจลงสิคะ โดนตำรวจจับคะ เพราะเขาคิดว่าเราลักลอบไปทำงาน 555 เราก็ได้แต่บอกพี่สาวไง ว่าตอนนี้เคลียร์ที่สถานีตำรวจอยู่ ว่าเรามาแบบถูกกฏหมายไรประมาณนี้ ไอ่เราก็กังวลละ เพราะแฟนติดต่อเราไม่ได้ นางก็โทรไปหาพี่สาวฉัน สรุปรู้ความจริงว่าฉันโกหกอีก(กี่รอบแล้ว t^t) และด้วยความความที่เป็นห่วง เขาก็บินไปหาเราในประเทศที่โดนจับ เขาก็โกดนะ แต่ด้วยความที่เป็นห่วงเขาก็มาดูแลฉัน เราก็ได้คริสมาตร์กันอย่างมีความสุข บอกว่าจะเจอกันอีกที30มกราคม ที่กทม นะ และก็กลับมาไทยคะ
เราก็คุยกันปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอ10มกราคม ที่ผ่านมา เขาบอกเลิกเราคะ เขาบอกว่า เขามานั่งคิดๆดูแล้วเราคงไปกันไม่ได้หรอก เพราะฉันชอบโกหกปิดบัง ทั้งๆที่เขาให้ใจเราแล้ว แต่เราเลือกที่จะทำลายมันเอง บอกฉันชอบทำอะไรไม่คิดก่อนทำ พอสักที ให้เขาไปดีเถอะ สงสารเขาเถอะ เขาบอกว่าขอโทดผมไม่รักคุณอีกต่อไปแล้ว 😭
ไอ่เราก็อึ้งเลยคะ ทำไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้ งี่เง่า พิมไลน์หาเขาเป็นร้อยๆฉบับ เขาก็อ่านละตอบกลับมาแค่ขอโทด เอ่อก็ยังดีที่ยังไม่บลอคเรา ฉันก็ร้องไห้ไม่กินไม่นอนคะ ได้แต่ถามเขา 30มกรานี้ เราจะเจอกันมั้ย เขาก็บอกขอโทดไม่เจอแล้ว เราก็อยากจะง้อไง ตามกับเพื่อนเขาเลย ขอร้องเพื่อนเขาให้ช่วย แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือเพื่อนเขาซ้ำเติมเรา เราก็แย่คูณสิบเลยคะ ตัดสินใจเลย ฉันก็จองตั๋วเลยคะ 30มกรานี้ กะบินไปหาเขาที่นุ้น ไปแบบไม่บอกใครเลย จะมีบอกแค่เพื่อนในกรุ๊ป กะเพื่อนแฟนที่เขาเป็นคนไทยอะที่รู้ โอเคไอ่เราก็อยู่ไม่ได้ไงกว่าจะสิ้นเดือน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตื่นก็ร้องไห้ นอนก็ร้อง ไปเรียนยังนั่งร้องไห้ คือเข้าใจมั้ย แค่หายใจยังเจ็บเลย เหมือนคนจะตายอะ .. สรุปน้ำหนักลดประมาณ5กิโลอะ
และแล้ววันที่30 ก็มาถึง พร้อมแล้วจะบินไปกทม ฉันคนต่างจังหวัดไง ไฟท์4โมงไปกาม. บังเอิญเครื่องดีเลย์ เปลี่ยน5โมง ไฟท์จากกทม ไปสิงคโปร์ ไฟท์2ทุ่ม15 ก็เลยคิดว่าคงทัน .. พอดีเลย์เอาจริงๆคือออกตัวเกือบ6โมงคะ เราก็คิดแหละว่า ถึง กทม คงทุ่มนึงแล้ว คงจะไปต่อไฟท์ทัน พอระหว่างทางนี่เหมือนไม่ได้การ เลยแจ้งลูกเรือบนเครื่องบอกเรามีเดินทางต่างประเทศนะ นี่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว ช่วยติดต่อเคาท์เตอร์ทำเรื่องให้เราได้มั้ย นางลูกเรือก็โอเค สรุปถึงดอนเมือง ทุ่มครึ่งอะคะ มีเวลาวิ่งไปเคาร์เตอร์45นาที จากทางลงเครื่องนี่เราวิ่งไม่หยุดเลยคะ สุดชีวิต ขอโทดตลอดทางไม่รู้ชนใครบ้าง วิ่งสุดชีวิตอย่างเหนื่อย หมดแรง สรุปใช้เวลาวิ่ง15นาที มาถึงหน้าเคาร์เตอร์ตอน ทุ่ม 45 สรุป เคาเตอร์ปิดแล้วคะ เราก็ไปยืนคุยบอกว่าแจ้งลูกเรือ(สายการบินสีเหลือง)ไปแล้ว สายการบินที่เราจะไปสิงคโปร์ก็สีเหลืองนี่แหละ นางบนเคาร์เตอร์ก็บอกไม่มีใครแจ้งมานะ เราก็ยืนยันเสียงแข็งบอกว่าแจ้งไปแล้ว นางเคาร์เตอร์ก็บอกจำชื่อลูกเรือคนนั้นได้มั้ย เราบอกจำชื่อไม่ได้จำหน้าได้งั้นไปตามพนักงานมาเลย จะชี้หน้าให้ดู!!! คือเราไม่ยอมนะ เราเสียเงินเป็นหมื่นแล้ว ที่พักก็จองแล้ว ใครจะรับผิดชอบ นางเคาร์เตอร์ก็บอกว่าคุณเป็นคนผิดนะ (คือกูผิดช่ะ)?! เพราะถ้ารู้จะไปต่างประเทศคุณต้องจองไฟท์ห่างกัน3-4 ชม. คือมันใช่เรื่องมั้ยที่กูต้องจองและมานั่งรอนานๆ!! พนักงานเถียงๆเราฉอดๆๆ คือกูอยากจะถามว่า มันความผิดกูมั้ย ถ้าเครื่องไม่ดีเลย์ กูคงไปถึงสิงคโปร์แล้วคะ !!!! (พูดละขึ้นเลย) เราก็บอกเราไม่ยอมคะ จะร้องเรียน นางก็ให้เรากรอกใบร้องเรียน และให้เบอร์โทรคอลเซ็นเตอร์ที่สิงคโปร์คะ เราก็โทรเลยคะ มันฮาตรงที่คุยผิดคุยถูก เราก็ไม่เก่งอังกฤษอ่าเนอะ 555 สรุปมันให้เราซื้อตั๋วใหม่ (หลังจากคุยกัน30นาที) ทั้งกระเป๋ามีเงิน 4พันบาท เลยโทรไปร้องไห้กับเพื่อน เพื่อนก็สงสารไง กะจะบินไปง้อแฟนแต่กลับตกเครื่อง เพื่อนเลยช่วยซื้อตั๋วให้เลยคะ เราก็ดีใจ สักแปบ มีสายจากต่างประเทศโทรมา เสียงปลายทางคือผช ที่เรากำลังจะไปง้อคะ เขาบอกรู้ข่าวว่าเราจะมา เราก็เล่าไปว่าเราตกเครื่อง อยากไปเจอเขา นุ่นนี่นั้น เขากลับตอบมาว่า ไม่ต้องมานะ ไม่อยากเจอ ยังไงละ ? ทิ้งกระเป๋าลง ทิ้งตัวลงที่สนามบินนั่งร้องไห้คะ !! คนเดินผ่านก็มองคะ จังหวะนั้นไม่แคร์สายตาประชาชีเลย ทำไรไม่ได้ไง เพื่อนช่วยซื้อตั๋วไฟท์เสาร์สองทุ่มสิบห้า เวลาเดิม หลังจากนั้นก็หาที่พักที่กทม.ให้(คือเพื่อนดีอะ )
พร้อมแล้วคะ คืนวันเสาร์มารอเลยคะ เจอพนักงานคนเดิมที่เคาท์เตอร์ เรานี่เบะปากให้เลยคะ 555+
เย้ๆๆ เครื่องออกแล้ว จะถึงสิงคโปร์เกือบเที่ยงคืน .. เราก็ตื่นเต้นไม่รู้ว่าจะต้องไปเผชิญอะไร อย่างน้อยต้องไปสู้รบกะตม.แหละ 555 อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดคะ ตม.ถาม มาทำไร มาทำไม พักไหน มาวันเดียวมาทำไม เพื่ออะไร !!! เป็นชุดเลยคะ คือต้องบอกก่อน เรามีตั๋วกลับวันอาทิตย์ไงคะ คือมีเวลาที่สิงคโปร์ไม่กี่ชั่วโมงหรอก อีตม.ก็งงไงมาทำไมวันเดียว!! (คือถ้ากูไม่ตกเครื่องกูก็มา2วันเห่อะ คิดในใจจะมาวันเดียวให้เหนื่อยทำไม)
พอสู้รบกะตม.ภาวนาเดินออกมาประตูทางออกหวังจะเจอเขาไง เพราะเราคิดว่าเขาน่าจะรู้ว่าเราจะมา ศุกร์ตกเครื่อง เสาร์ไม่ล้มเลิกคะ .. ยังไงละ เข้าข้างตัวเองคะ สุดท้ายก็ว่างป่าว ไม่มีแม้แต่เงาเขาตอนเที่ยงคืน15นาที มาเป็นเพลงแปบ 555
สิ่งที่เราได้เจอคือมีคนมาดึงแขนเราจากด้านหลัง อ่านต่อตอนจบ