ไปเที่ยวกัน !!
บอกเพื่อนสาว ที่รู้จักกัน ผ่านจากเพจ แบกเป้เที่ยว จากการไปเที่ยวเบตง เมื่อปลายเดือน พ.ค. ด้วยกันครั้งก่อน
เป็นทริปสั้นๆ ที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา การใช้ชีวิต ของผู้หญิง 2 คน ที่มี LifeStyle ค่อนข้างเหมือนกัน
ทริปนี้จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอีกเช่นกัน >>> กาญจนบุรี
เราจำกัดงบประมาณไว้คนละ 1,000 บาท รายละเอียดสรุปตอนท้ายนะคะ
เริ่มจากการจองที่พัก >>> เราเลือกพักที่ บ้านชาวเกาะ ของลุงยศ
โดยราคาของลุงยศ นั้น รวม ที่พัก ห้องแอร์ (ห้องน้ำรวม) ค่านำเที่ยว ในวันที่ไปถึง พร้อมกับ อาหารเช้าของวันถัดไป
การเดินทางเพื่อไปบันทึกความทรงจำ >>> รถไฟฟรี !!!!
แต่ เกิดความผิดพลาดของเราเอง ที่ไม่ได้เช็ค ก่อนว่า รถไฟธนบุรี - กาญจนบุรี
วิ่งแค่ ธนบุรี - หนองปลาดุก และ จาก กาญจนบุรี - น้ำตก
น้ำตาไหลพราก อะไรคือการที่เรานั่งแทกซี่จากที่พัก ไป 200 บาท เพื่อไปสถานีรถไฟ
เราจึงเปลี่ยนแผนการเดินทาง โดยเปลี่ยนเป็น นั่งรถตู้แทน โดยขึ้นแถวปิ่นเกล้า
รถตู้วิ่งถึงสถานีขนส่งกาญจนบุรี เวลาประมาณ 10.45 น.
เราโทรให้ลุงยศมารับ ลุงยศมาพร้อมกับรถตู้คู่ใจ วันนี้มีแค่เรา 2 คน ที่ลุงจะพาเที่ยว
สบายเลยยยยย ลุงปล่อยให้เราถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย ไม่รีบ ไม่เร่ง
1. เริ่มจาก
วัดถ้ำมังกรทอง..."บันไดมังกรสวย วิวงาม แม่ชีลอยน้ำ...เลื่องลือ" 📌
เราไม่ได้ดูแม่ชีลอยน้ำ ตอนที่เราลงมาจากด้านบน มีคนไม่เยอะ เลยไม่ได้ดู
2.ต้นจามจุรียักษ์
โดยต้นจามจุรีต้นนี้ ใหญ่มากจริง ๆ อยู่ในพื้นที่ของ กรมการสัตว์ทหารบก 📌
3.จากนั้นคุณลุง พาไปวัดถ้ำเสือ ต่อไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปวัดถ้ำเสือ ประทับใจวัดนี้จริงๆ : ) 📌
4.คุณลุงพามาแวะที่วัดบ้านถ้ำ 📌
วัดนี้ไม่มีรูปภาพเลย มัวแต่หิวข้าวมาก TT
5.แล้วก็มาต่อกันที่ประตูเมืองเก่า ตั้งอยู่บริเวณชุมชนปากแพรก 📌
เราเดินเล่นที่นี่กันนานพอสมควร ซึ่งช่วงเย็นๆ จะเปิดเป็นถนนคนเดินคะ
กลางวันบ่าย ๆ ก็ชิว ไปอีก แบบนึง
6.คุณลุงพาเราแวะไป "สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" 📌
ท้องฟ้าสวยๆ ก็แวะมาทักทาย
7.ที่สุดท้ายก่อนจะกลับที่พัก "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" 📌
อย่างที่บอก ว่าวันที่เราไปนั้น ท้องฟ้าสวยจริง ๆ ถึงจะร้อนเป็นบางคราว
หลังจากนั้น คุณลุงแวะส่งเราที่ที่พัก มีคุณป้า มารอรับ และพาเข้าที่พัก
ป้าบอกตามสบายย เราก็ขึ้นไปงีบกันสักพักนึง โดยบ้าน นั้นเป็น 2 ชั้น เราได้พักชั้นบน
เนื่องจากมีแค่เรา ป้าเลยให้พักด้านบน ด้านบนมีห้องพักประมาณ 6 ห้อง ป้าบอกเลือกเลย จะนอนห้องไหน : )
เราตื่นมาประมาณ 5 โมงเย็น ก็เลยจะไปเดินเล่นถนนคนเดิน ลุงบอกว่าอยู่ใกล้ๆที่พัก
แต่เราก็หลงทางอีกตามเคย 55 ถ้าออกจากที่พักแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไม่ไกลก็ถึงแล้ว
เราเดินเลี้ยวขวาค่าาาา วนไปรอบนึง
แวะถามทางที่ 7 พี่เค้าบอกจะเดินจริงๆ เหรอ 555 แต่เราก็เลือกเดินนะ เราไม่ได้รีบอะไรมากมาย
เราแวะนั่งกิน ข้าวเหนียวไก่ทอด ที่ถนนคนเดิน ซึ่งผู้คนก็มาเดินกันเยอะแยะเลย
เราไม่ได้เก็บบรรยากาศมาซักเท่าไหร่ เรามัวแต่กิน
และ คิดแผนวันรุ่งขึ้นว่าเราจะไป น้ำตกกันยังไง : )
เราได้ข้อมูลมาจากคุณลุง ว่า รถไฟมีรอบ 6 โมงเช้า และ 10.30 น.
เราเลยเลือก รอบ 6 โมงเช้า เราเลยรีบเดินกลับที่พัก เพื่อที่จะพักผ่อน ^^
ระหว่างทาง
********************* เริ่มเช้าวันใหม่**********************
ก่อนนอนคุณป้าบอกว่า ป้าตื่นแต่เช้า เดี๋ยวป้าจะมาปลุก
ตอนเช้า เสียงนาฬิกาปลุก กับ เสียงป้ามาเคาะห้องก็พร้อมๆ กัน
เรารีบลงมาข้างล่าง ป้าเตรียมขนมปังไว้ให้ คนละ 2 คู่ พร้อมกับ ชา กาแฟ โอวัลติน ชลตามใจชอบ
สุดท้ายก็กินไม่ทัน เพราะคุณลุงเอารถคู่ใจมารับ ไปส่งที่สถานีรถไฟ
แต่ป้ายังให้เราเอาขนมปังไปกินด้วย แน่นอนน ไม่พลาดคะ 555
จากที่พัก ไปสถานีรถไฟ ประมาณ 10 นาทีได้คะ แปบเดียวเอง ^__________^
เราขอให้คุณลุง รอก่อน เราจะเข้าไปสอบถามก่อนว่า รถไฟมีรึป่าว
สรุปว่ามีรถไฟ และเป็นรถไฟฟรี ซึ่งกำลังจะออก เราจึงเดินกลับไปร่ำลาคุณลุง
แบกเป้ ขึ้นรถไฟ ไปชิวววกัน ^^
อากาศตอนเช้านั้นดีจริงๆ คนบนรถไฟไม่เยอะคะ
วิวข้างทางก็น่ารักตามธรรมชาติ ถ้ำกระแซะ ก็สวยงามตามท้องเรื่อง ยิ่งอากาศตอนเช้าๆ เข้ากันได้ดีเชียว
สถานีสุดท้ายคือ สถานีน้ำตก เราลงกันที่นี่คะ
และแวะกินอาหารเช้า
อืมมม อาหารเช้าสินะ
เราเลือกเดินไปที่ต้นน้ำก่อน อ้อ ไม่ใช่สินะ เราเดินหลงไป : )
เราเดินขึ้นไปถึงข้างบน ก็มีรถมอเตอร์ไซค์ เที่ยวละ 20 บาทไป - กลับ
หันมองหน้ากัน เอาไงดี!! ถามพี่เค้าว่าไกลไหม เค้าบอก ไป กลับ ก็ 2 กิโล 555
เลือกเดินคะ เดินไปชิวไป บอกแล้วว่าเราไม่รีบ ^________________^
เดินไปชมวิวไป
เรามาถึงต้นน้ำแล้ว น้ำใสๆ เห็นปลาเยอะแยะ ก็อยู่กันตรงนี้พักนึง
ส่วนขากลับ เราเลือกติดรถออกไปคนละ 10 บาท 555
คาดว่าจะเดินไม่ไหว
เราแวะไปแถวน้ำตก แปบนึงคะ
เวลานั้นก็เที่ยงกว่าแล้ว เราเลยตัดสินใจจะกลับกัน แต่ด้วยการจำกัดงบประมาณของเรา
มีบางอย่างผิดแผน มีบางอย่างผิดพลาด รถไฟเส้นธนบุรี - กาญจนบุรี ปิดทำการ ทำให้เราต้องเปลี่ยนจากรถไฟฟรีเป็น รถตู้
นั่นหมายความว่า เงิน 200 บาท จากค่าแทกซี่ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย 📌
ทำให้เราเลือกใช้วิธีโบกรถจากน้ำตก เข้าตัวเมืองกาญ เพื่อกลับ กทม. โดยรถตู้เช่นเดิม
จากใจจริง คือไม่เคยโบกรถ เพื่อนเคยโบกมาแล้ว
เราก็ให้นางโบกไปก่อน โบกไปเยอะมาก เยอะมากจริง ๆ TT ไม่มีใครจอดคะ
แต่มีพี่ใจดี เป็นเจ้าหน้าที่ ด้านบน มาถามว่าจะไปไหน แล้วมาช่วยโบก
เอาจริงๆเราไม่จำเป็นจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่บางครั้งชีวิตคือการเรียนรู้เพื่ออยู่รอดและได้ไปต่อแค่นั้นเอง
จากนั้นมีพี่เสื้อฟ้าใจดี ยิ้มฟันขาวมาเชียว 'น้องจะไปไหน' หนูจะเข้าเมืองกาญคะ 'รถทัวร์ไหม' ไม่คะ เงินหมด 555
พี่เค้าพาเราซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปหน้าป้อมตำรวจ แกบอกว่าไม่ร้อน 👌
ที่ไหนได้ ถึงหน้าป้อม คนเยอะจังพี่ อายยย 555 พี่เค้าบอกว่า ด้านได้ อาย อด
พี่เค้าขับไปอีกนิดนึง แล้วจอดรถ สายตาเหลือบเห็นรถคันนึง ก็ตัดสินใจโบก
พี่เค้าชะลอรถ น้ำตาจะไหล พี่เค้าให้ติดรถไปได้
นั่งหลังกระบะไปพักนึง พี่เค้าจอดให้เราย้ายไปข้างใน
ขอบคุณการเดินทาง ขอบคุณความน่ารักของพี่ๆ ขอบคุณมิตรภาพ รอยยิ้มระหว่างทาง
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง การเจอกันของเราเริ่มจากการท่องเที่ยว
การใช้ชีวิตที่เข้ากันได้ของเรา ทำให้การเที่ยวด้วยกันเป็นครั้งที่ 2 ไม่มีการเคอะเขิน การเป็นตัวของตัวเอง
ที่เราต่างแสดงออกมา ทำให้เรามีความสุขกับการเดินไปถ่ายรูปไป เดินไปคุยไป เดินไปบ่นไป เดินไปยิ้มไป
ขอบคุณนะ ขอบคุณจากใจ : - )
ขอบคุณอุปกรณ์บันทึกความทรงจำ เราและเพื่อนใช้ fuji xa 1 ทั้งเลนส์ kit และ มือหมุน 35 mm f 1.6
************************************ ค่าใช้จ่าย *************************************
ค่ารถแทกซี่จากบ้านไป สถานีรถไฟ = 200
ค่ารถแทกซี่จาก สถานีรถไฟ ไปขึ้นรถตู้ = 45
ค่ารถตู้ จาก กทม - ไป กาญ 100 บาท / คน = 200
ค่าที่พัก คนละ 550 = 1100
ค่ารถขากลับ กาญ - อนุเสาวรีย์ 120 / คน = 240
= 1,785 บาท ประมาณ 890 / คน
เงินที่เหลือ นั้นคือค่ากินล้วน ๆ เอาจริง ๆ เราใช้เงินเกิน 1,000 ไปอีกประมาณ 200 บาท
เรากินมื้อใหญ่ๆ คือส้มตำอาหารเช้าเรานั่นเอง 555
อาหารที่เรากินส่วนมากง่ายๆ เลยคะ ข้าวกระเพรา ก๋วยเตี๋ยว 1,000 บาท เอาอยู่แน่ๆ ถ้าไม่พลาดแบบเรา 55555
ขอบคุณพื้นที่เก็บความทรงจำคะ : )
[CR] | แบกเป้ สะพายกล้อง ลองนอนโฮมสเตย์ รถไฟฟรี โบกรถ ครบสูตร กาญจนบุรี | by Fuji xa 1 + Vsco
บอกเพื่อนสาว ที่รู้จักกัน ผ่านจากเพจ แบกเป้เที่ยว จากการไปเที่ยวเบตง เมื่อปลายเดือน พ.ค. ด้วยกันครั้งก่อน
เป็นทริปสั้นๆ ที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา การใช้ชีวิต ของผู้หญิง 2 คน ที่มี LifeStyle ค่อนข้างเหมือนกัน
ทริปนี้จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอีกเช่นกัน >>> กาญจนบุรี
เราจำกัดงบประมาณไว้คนละ 1,000 บาท รายละเอียดสรุปตอนท้ายนะคะ
เริ่มจากการจองที่พัก >>> เราเลือกพักที่ บ้านชาวเกาะ ของลุงยศ
โดยราคาของลุงยศ นั้น รวม ที่พัก ห้องแอร์ (ห้องน้ำรวม) ค่านำเที่ยว ในวันที่ไปถึง พร้อมกับ อาหารเช้าของวันถัดไป
การเดินทางเพื่อไปบันทึกความทรงจำ >>> รถไฟฟรี !!!!
แต่ เกิดความผิดพลาดของเราเอง ที่ไม่ได้เช็ค ก่อนว่า รถไฟธนบุรี - กาญจนบุรี
วิ่งแค่ ธนบุรี - หนองปลาดุก และ จาก กาญจนบุรี - น้ำตก
น้ำตาไหลพราก อะไรคือการที่เรานั่งแทกซี่จากที่พัก ไป 200 บาท เพื่อไปสถานีรถไฟ
เราจึงเปลี่ยนแผนการเดินทาง โดยเปลี่ยนเป็น นั่งรถตู้แทน โดยขึ้นแถวปิ่นเกล้า
เราโทรให้ลุงยศมารับ ลุงยศมาพร้อมกับรถตู้คู่ใจ วันนี้มีแค่เรา 2 คน ที่ลุงจะพาเที่ยว
สบายเลยยยยย ลุงปล่อยให้เราถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย ไม่รีบ ไม่เร่ง
1. เริ่มจาก
วัดถ้ำมังกรทอง..."บันไดมังกรสวย วิวงาม แม่ชีลอยน้ำ...เลื่องลือ" 📌
เราไม่ได้ดูแม่ชีลอยน้ำ ตอนที่เราลงมาจากด้านบน มีคนไม่เยอะ เลยไม่ได้ดู
2.ต้นจามจุรียักษ์
โดยต้นจามจุรีต้นนี้ ใหญ่มากจริง ๆ อยู่ในพื้นที่ของ กรมการสัตว์ทหารบก 📌
3.จากนั้นคุณลุง พาไปวัดถ้ำเสือ ต่อไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปวัดถ้ำเสือ ประทับใจวัดนี้จริงๆ : ) 📌
4.คุณลุงพามาแวะที่วัดบ้านถ้ำ 📌
วัดนี้ไม่มีรูปภาพเลย มัวแต่หิวข้าวมาก TT
5.แล้วก็มาต่อกันที่ประตูเมืองเก่า ตั้งอยู่บริเวณชุมชนปากแพรก 📌
เราเดินเล่นที่นี่กันนานพอสมควร ซึ่งช่วงเย็นๆ จะเปิดเป็นถนนคนเดินคะ
กลางวันบ่าย ๆ ก็ชิว ไปอีก แบบนึง
6.คุณลุงพาเราแวะไป "สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" 📌
ท้องฟ้าสวยๆ ก็แวะมาทักทาย
7.ที่สุดท้ายก่อนจะกลับที่พัก "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" 📌
อย่างที่บอก ว่าวันที่เราไปนั้น ท้องฟ้าสวยจริง ๆ ถึงจะร้อนเป็นบางคราว
หลังจากนั้น คุณลุงแวะส่งเราที่ที่พัก มีคุณป้า มารอรับ และพาเข้าที่พัก
ป้าบอกตามสบายย เราก็ขึ้นไปงีบกันสักพักนึง โดยบ้าน นั้นเป็น 2 ชั้น เราได้พักชั้นบน
เนื่องจากมีแค่เรา ป้าเลยให้พักด้านบน ด้านบนมีห้องพักประมาณ 6 ห้อง ป้าบอกเลือกเลย จะนอนห้องไหน : )
เราตื่นมาประมาณ 5 โมงเย็น ก็เลยจะไปเดินเล่นถนนคนเดิน ลุงบอกว่าอยู่ใกล้ๆที่พัก
แต่เราก็หลงทางอีกตามเคย 55 ถ้าออกจากที่พักแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไม่ไกลก็ถึงแล้ว
เราเดินเลี้ยวขวาค่าาาา วนไปรอบนึง
แวะถามทางที่ 7 พี่เค้าบอกจะเดินจริงๆ เหรอ 555 แต่เราก็เลือกเดินนะ เราไม่ได้รีบอะไรมากมาย
เราแวะนั่งกิน ข้าวเหนียวไก่ทอด ที่ถนนคนเดิน ซึ่งผู้คนก็มาเดินกันเยอะแยะเลย
เราไม่ได้เก็บบรรยากาศมาซักเท่าไหร่ เรามัวแต่กิน
และ คิดแผนวันรุ่งขึ้นว่าเราจะไป น้ำตกกันยังไง : )
เราได้ข้อมูลมาจากคุณลุง ว่า รถไฟมีรอบ 6 โมงเช้า และ 10.30 น.
เราเลยเลือก รอบ 6 โมงเช้า เราเลยรีบเดินกลับที่พัก เพื่อที่จะพักผ่อน ^^
ระหว่างทาง
********************* เริ่มเช้าวันใหม่**********************
ก่อนนอนคุณป้าบอกว่า ป้าตื่นแต่เช้า เดี๋ยวป้าจะมาปลุก
ตอนเช้า เสียงนาฬิกาปลุก กับ เสียงป้ามาเคาะห้องก็พร้อมๆ กัน
เรารีบลงมาข้างล่าง ป้าเตรียมขนมปังไว้ให้ คนละ 2 คู่ พร้อมกับ ชา กาแฟ โอวัลติน ชลตามใจชอบ
สุดท้ายก็กินไม่ทัน เพราะคุณลุงเอารถคู่ใจมารับ ไปส่งที่สถานีรถไฟ
แต่ป้ายังให้เราเอาขนมปังไปกินด้วย แน่นอนน ไม่พลาดคะ 555
จากที่พัก ไปสถานีรถไฟ ประมาณ 10 นาทีได้คะ แปบเดียวเอง ^__________^
เราขอให้คุณลุง รอก่อน เราจะเข้าไปสอบถามก่อนว่า รถไฟมีรึป่าว
สรุปว่ามีรถไฟ และเป็นรถไฟฟรี ซึ่งกำลังจะออก เราจึงเดินกลับไปร่ำลาคุณลุง
แบกเป้ ขึ้นรถไฟ ไปชิวววกัน ^^
อากาศตอนเช้านั้นดีจริงๆ คนบนรถไฟไม่เยอะคะ
สถานีสุดท้ายคือ สถานีน้ำตก เราลงกันที่นี่คะ
และแวะกินอาหารเช้า อืมมม อาหารเช้าสินะ
เราเลือกเดินไปที่ต้นน้ำก่อน อ้อ ไม่ใช่สินะ เราเดินหลงไป : )
เราเดินขึ้นไปถึงข้างบน ก็มีรถมอเตอร์ไซค์ เที่ยวละ 20 บาทไป - กลับ
หันมองหน้ากัน เอาไงดี!! ถามพี่เค้าว่าไกลไหม เค้าบอก ไป กลับ ก็ 2 กิโล 555
เลือกเดินคะ เดินไปชิวไป บอกแล้วว่าเราไม่รีบ ^________________^
เดินไปชมวิวไป
เรามาถึงต้นน้ำแล้ว น้ำใสๆ เห็นปลาเยอะแยะ ก็อยู่กันตรงนี้พักนึง
ส่วนขากลับ เราเลือกติดรถออกไปคนละ 10 บาท 555
คาดว่าจะเดินไม่ไหว
เราแวะไปแถวน้ำตก แปบนึงคะ
เวลานั้นก็เที่ยงกว่าแล้ว เราเลยตัดสินใจจะกลับกัน แต่ด้วยการจำกัดงบประมาณของเรา
มีบางอย่างผิดแผน มีบางอย่างผิดพลาด รถไฟเส้นธนบุรี - กาญจนบุรี ปิดทำการ ทำให้เราต้องเปลี่ยนจากรถไฟฟรีเป็น รถตู้
นั่นหมายความว่า เงิน 200 บาท จากค่าแทกซี่ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย 📌
ทำให้เราเลือกใช้วิธีโบกรถจากน้ำตก เข้าตัวเมืองกาญ เพื่อกลับ กทม. โดยรถตู้เช่นเดิม
จากใจจริง คือไม่เคยโบกรถ เพื่อนเคยโบกมาแล้ว
เราก็ให้นางโบกไปก่อน โบกไปเยอะมาก เยอะมากจริง ๆ TT ไม่มีใครจอดคะ
แต่มีพี่ใจดี เป็นเจ้าหน้าที่ ด้านบน มาถามว่าจะไปไหน แล้วมาช่วยโบก
เอาจริงๆเราไม่จำเป็นจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่บางครั้งชีวิตคือการเรียนรู้เพื่ออยู่รอดและได้ไปต่อแค่นั้นเอง
จากนั้นมีพี่เสื้อฟ้าใจดี ยิ้มฟันขาวมาเชียว 'น้องจะไปไหน' หนูจะเข้าเมืองกาญคะ 'รถทัวร์ไหม' ไม่คะ เงินหมด 555
พี่เค้าพาเราซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปหน้าป้อมตำรวจ แกบอกว่าไม่ร้อน 👌
ที่ไหนได้ ถึงหน้าป้อม คนเยอะจังพี่ อายยย 555 พี่เค้าบอกว่า ด้านได้ อาย อด
พี่เค้าขับไปอีกนิดนึง แล้วจอดรถ สายตาเหลือบเห็นรถคันนึง ก็ตัดสินใจโบก
พี่เค้าชะลอรถ น้ำตาจะไหล พี่เค้าให้ติดรถไปได้
นั่งหลังกระบะไปพักนึง พี่เค้าจอดให้เราย้ายไปข้างใน
ขอบคุณการเดินทาง ขอบคุณความน่ารักของพี่ๆ ขอบคุณมิตรภาพ รอยยิ้มระหว่างทาง
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง การเจอกันของเราเริ่มจากการท่องเที่ยว
การใช้ชีวิตที่เข้ากันได้ของเรา ทำให้การเที่ยวด้วยกันเป็นครั้งที่ 2 ไม่มีการเคอะเขิน การเป็นตัวของตัวเอง
ที่เราต่างแสดงออกมา ทำให้เรามีความสุขกับการเดินไปถ่ายรูปไป เดินไปคุยไป เดินไปบ่นไป เดินไปยิ้มไป
ขอบคุณนะ ขอบคุณจากใจ : - )
ขอบคุณอุปกรณ์บันทึกความทรงจำ เราและเพื่อนใช้ fuji xa 1 ทั้งเลนส์ kit และ มือหมุน 35 mm f 1.6
************************************ ค่าใช้จ่าย *************************************
ค่ารถแทกซี่จากบ้านไป สถานีรถไฟ = 200
ค่ารถแทกซี่จาก สถานีรถไฟ ไปขึ้นรถตู้ = 45
ค่ารถตู้ จาก กทม - ไป กาญ 100 บาท / คน = 200
ค่าที่พัก คนละ 550 = 1100
ค่ารถขากลับ กาญ - อนุเสาวรีย์ 120 / คน = 240
= 1,785 บาท ประมาณ 890 / คน
เงินที่เหลือ นั้นคือค่ากินล้วน ๆ เอาจริง ๆ เราใช้เงินเกิน 1,000 ไปอีกประมาณ 200 บาท
เรากินมื้อใหญ่ๆ คือส้มตำอาหารเช้าเรานั่นเอง 555
อาหารที่เรากินส่วนมากง่ายๆ เลยคะ ข้าวกระเพรา ก๋วยเตี๋ยว 1,000 บาท เอาอยู่แน่ๆ ถ้าไม่พลาดแบบเรา 55555
ขอบคุณพื้นที่เก็บความทรงจำคะ : )