เรื่องมีอยู่ว่า ไม่กี่วันนี้ มีพระที่เป็นหลานชายของสามี บวชอยู่วัดแห่งหนึ่งใน กทม.
ขอไม่เอ่ยชื่อวัดแล้วกัน โทรมาบอกสามีว่า เป็นลมหกล้มมีดแทงอยู่ รพ. ไม่ให้บอกแม่ของเขานะ
ขอให้ไปเคลียร์ค่ารักษาให้หน่อย ด้วยความเป็นห่วงเราจึงบอกให้สามีเราโทรบอกแม่เขาเพราะอยู่ใกล้สุด
เรื่องค่าใช่จ่ายค่อยไปช่วยตอนหลังก็ว่ากันไป ตอนนี้คือให้รีบไปดูพระเจ็บก่อน สามีก็ทำตามนั้น
แล้วโทรไปเพื่อจะส่งข่าวให้พระหลานชายทราบ ปรากฎว่ามีผู้หญิงรับแทน แฟนก็ถามไถ่ผู้หญิงคนนั้นว่าเป็นใคร
ขอตัดตรงนี้ไปนะ เพราะมีรายละเอียดเยอะ ....สรุปผู้หญิงบอกขอเงินค่ารักษาพยาบาลซึ่งประมาณ 3 หมื่นบาท
สามีเราก็บอกว่าไม่มีอะไรขนาดนั้นหรอก ไม่ได้ทำงานแล้ว ไปๆมาๆ ผู้หญิงบอกค่ารักษาพยาบาล 7500 บาท
ตอนนั้นเย็นแล้ว กว่าจะคุยกันจบก็มืดแล้ว สามีจึงไม่ได้ไปดูพระหลานชายที่ รพ. ทราบว่าต้องย้าย รพ.
เช้ารุ่งขึ้น แกไปแต่เช้าก่อนญาติคนอื่น ไปเจอปผู้หญิงคนนั้น จึงตะล่อมถาม ได้ความว่า มีลูกมีผัวแล้ว มีความสัมพันธ์กับพระ
มีเพศสัมพันธ์กันสัปดาห์ละครั้ง.....
สามีเรางี้เสียใจมากที่หลานชายสุดที่รักทำไมเลวได้ขนาดนี้
อาการก็หนักเหมือนกันนอนร้องด้วยความเจ็บปวด ซึ่งจริงๆ ไม่ได้เป็นลมล้มโดนมีดอะไรหรอก ถูกแทง
แต่ไม่มีการเอาเรื่องเอาราวอะไรกับคนแทงหรอก เพราะคนเจ็บปกปิดคงเนื่องจากรู้ตัวดีว่าตัวเองทำอะไรผิด
สามีเราและพี่ป้า น้า อา ไม่มีใครเข้าข้างหรือช่วยปกปิดเรื่องนี้ จึงคุยกับ พ่อ-แม่ พระว่าอย่างนี้ต้องให้สึก หรือเอาเสื้อผ้าธรรมดาไปใส่ได้แล้ว
อย่าห่มผ้าเหลืองอยู่ต่อไปอีกเลย อาบัติปาราชิก อย่างนี้ ปาบมหันต์ สึกออกมาเถอะ
อ้อ..บอกก่อนว่าวัดนี้ แต่ก่อนพ่อของพระก็บวชวัดนี้อยู่หลายปีก่อนจะสึกมามีครอบครัว
แล้วสามีก็ต้องตกตะลึงเป็นครั้งที่สอง เมื่อทาง พ่อ-แม่ ของพระบอกว่าได้คุยกับเจ้าอาวาสแล้ว ทางเจ้าอาวาสจะไล่ผู้หญิงออกจากวัด
ไม่ให้เข้าบริเวณวัดนี้อีก และจะว่ากล่าวตักเตือนคอยช่วยดูพระให้
สามีกับญาติคนอื่นๆ ก็ เฮ้ยทำงี้ได้ไงวะ พ่อมันก็เคยบวชเคยเรียนมานาน เจ้าอาวาสวัดนี้ก็เป็นไรวะ นี่มันไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยกันเลยนี่หว่า
หรือมันเป็นกันทั้งหมดวะ ถึงช่วยกันปกป้องปกปิด
ก็มาถึงบางอ้อเมื่อญาติคนนึงบอกว่าใช่..เคยเห็นพ่อมันเป็นสมัยเป็นพระ (คงจะกะแม่ของพระนี่แหละ) เพราะคนที่เห็นเป็นน้องสาวของแม่พระ
ส่วนเจ้าอาวาสที่ปกป้องก็เป็นเครือญาติกับพ่อพระ....เจ้าอาวาสรูปก่อนก็ถูกฆ่าตายในกุฏิในวัดนี้แหละ ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องผู้หญิงประมาณนี้แหละ
ญาติๆ พากันทุกข์ใจ เสียใจ นอนไม่หลับ เจ้าตัวโทรมาหาสามีเราว่าขอให้อย่าเพิ่งบอกใคร เขาขอเคลียร์ตัวเองสักระยะนึง
เรารับรู้รับฟังแล้วก็เศร้าใจเหลือเกิน ที่เห็นอลัชชีเหล่านี้ ยังลอยหน้าลอยตา หลอกลวงคนกันอยู่
ญาติๆ ก็ทำหน้าที่ได้เท่านี้ ตอนนี้ทุกคนก็ตัดญาติกับครอบครัวนี้แล้ว สามีก็จะไม่รับโทรศัพท์ของหลานชายคนนี้อีกต่อไป
พวกเขาทนไม่ได้ที่จะยังมีญาติเลวๆ อย่างนี้อีกต่อไป
ถ้าใครคิดว่ารู้จักวัดนี้ อาจจะเรื่องราวสอดคล้องกับที่รู้เห็นอยู่ ก็ช่วยจัดการให้ด้วยก็แล้วกัน ทางญาติทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
เซ็งมากเมื่อมีญาติบวชเป็นพระมากว่า 10 ปี ปาราชิก ไม่ยอมสึก
ขอไม่เอ่ยชื่อวัดแล้วกัน โทรมาบอกสามีว่า เป็นลมหกล้มมีดแทงอยู่ รพ. ไม่ให้บอกแม่ของเขานะ
ขอให้ไปเคลียร์ค่ารักษาให้หน่อย ด้วยความเป็นห่วงเราจึงบอกให้สามีเราโทรบอกแม่เขาเพราะอยู่ใกล้สุด
เรื่องค่าใช่จ่ายค่อยไปช่วยตอนหลังก็ว่ากันไป ตอนนี้คือให้รีบไปดูพระเจ็บก่อน สามีก็ทำตามนั้น
แล้วโทรไปเพื่อจะส่งข่าวให้พระหลานชายทราบ ปรากฎว่ามีผู้หญิงรับแทน แฟนก็ถามไถ่ผู้หญิงคนนั้นว่าเป็นใคร
ขอตัดตรงนี้ไปนะ เพราะมีรายละเอียดเยอะ ....สรุปผู้หญิงบอกขอเงินค่ารักษาพยาบาลซึ่งประมาณ 3 หมื่นบาท
สามีเราก็บอกว่าไม่มีอะไรขนาดนั้นหรอก ไม่ได้ทำงานแล้ว ไปๆมาๆ ผู้หญิงบอกค่ารักษาพยาบาล 7500 บาท
ตอนนั้นเย็นแล้ว กว่าจะคุยกันจบก็มืดแล้ว สามีจึงไม่ได้ไปดูพระหลานชายที่ รพ. ทราบว่าต้องย้าย รพ.
เช้ารุ่งขึ้น แกไปแต่เช้าก่อนญาติคนอื่น ไปเจอปผู้หญิงคนนั้น จึงตะล่อมถาม ได้ความว่า มีลูกมีผัวแล้ว มีความสัมพันธ์กับพระ
มีเพศสัมพันธ์กันสัปดาห์ละครั้ง.....
สามีเรางี้เสียใจมากที่หลานชายสุดที่รักทำไมเลวได้ขนาดนี้
อาการก็หนักเหมือนกันนอนร้องด้วยความเจ็บปวด ซึ่งจริงๆ ไม่ได้เป็นลมล้มโดนมีดอะไรหรอก ถูกแทง
แต่ไม่มีการเอาเรื่องเอาราวอะไรกับคนแทงหรอก เพราะคนเจ็บปกปิดคงเนื่องจากรู้ตัวดีว่าตัวเองทำอะไรผิด
สามีเราและพี่ป้า น้า อา ไม่มีใครเข้าข้างหรือช่วยปกปิดเรื่องนี้ จึงคุยกับ พ่อ-แม่ พระว่าอย่างนี้ต้องให้สึก หรือเอาเสื้อผ้าธรรมดาไปใส่ได้แล้ว
อย่าห่มผ้าเหลืองอยู่ต่อไปอีกเลย อาบัติปาราชิก อย่างนี้ ปาบมหันต์ สึกออกมาเถอะ
อ้อ..บอกก่อนว่าวัดนี้ แต่ก่อนพ่อของพระก็บวชวัดนี้อยู่หลายปีก่อนจะสึกมามีครอบครัว
แล้วสามีก็ต้องตกตะลึงเป็นครั้งที่สอง เมื่อทาง พ่อ-แม่ ของพระบอกว่าได้คุยกับเจ้าอาวาสแล้ว ทางเจ้าอาวาสจะไล่ผู้หญิงออกจากวัด
ไม่ให้เข้าบริเวณวัดนี้อีก และจะว่ากล่าวตักเตือนคอยช่วยดูพระให้
สามีกับญาติคนอื่นๆ ก็ เฮ้ยทำงี้ได้ไงวะ พ่อมันก็เคยบวชเคยเรียนมานาน เจ้าอาวาสวัดนี้ก็เป็นไรวะ นี่มันไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยกันเลยนี่หว่า
หรือมันเป็นกันทั้งหมดวะ ถึงช่วยกันปกป้องปกปิด
ก็มาถึงบางอ้อเมื่อญาติคนนึงบอกว่าใช่..เคยเห็นพ่อมันเป็นสมัยเป็นพระ (คงจะกะแม่ของพระนี่แหละ) เพราะคนที่เห็นเป็นน้องสาวของแม่พระ
ส่วนเจ้าอาวาสที่ปกป้องก็เป็นเครือญาติกับพ่อพระ....เจ้าอาวาสรูปก่อนก็ถูกฆ่าตายในกุฏิในวัดนี้แหละ ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องผู้หญิงประมาณนี้แหละ
ญาติๆ พากันทุกข์ใจ เสียใจ นอนไม่หลับ เจ้าตัวโทรมาหาสามีเราว่าขอให้อย่าเพิ่งบอกใคร เขาขอเคลียร์ตัวเองสักระยะนึง
เรารับรู้รับฟังแล้วก็เศร้าใจเหลือเกิน ที่เห็นอลัชชีเหล่านี้ ยังลอยหน้าลอยตา หลอกลวงคนกันอยู่
ญาติๆ ก็ทำหน้าที่ได้เท่านี้ ตอนนี้ทุกคนก็ตัดญาติกับครอบครัวนี้แล้ว สามีก็จะไม่รับโทรศัพท์ของหลานชายคนนี้อีกต่อไป
พวกเขาทนไม่ได้ที่จะยังมีญาติเลวๆ อย่างนี้อีกต่อไป
ถ้าใครคิดว่ารู้จักวัดนี้ อาจจะเรื่องราวสอดคล้องกับที่รู้เห็นอยู่ ก็ช่วยจัดการให้ด้วยก็แล้วกัน ทางญาติทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้