อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันแล้วนะคะว่ามะลิหายยังไง เล่าคร่าวๆแล้วกันนะคะ วันที่ 6มิ.ย.5 8 เวลา 8.00 น. เราทำมะลิหล่นบนรถเมล์สายปอ.40 แถวแยกราชวงศ์ เราลงรถปุ๊บก็เดินไปเจอกระจกแล้วก็เอ๊ะใจว่ามะลิละ ค้นกระเป๋าตัวเอง แต่ก็ไม่เจอ คิดว่าบนรถเมล์แน่นอนวิ่งตามรถเมล์เลยคะ ข้ามถนนไม่มองรถด้วย รถเกือบชนเสียงแตรถนิดังสนั่นเลยคะ บอกเลยคะเหมือนในหนังที่ตามล่ากันเลยคะ เลยโบกแท็กซี่ขอแท็กซี่ตามรถเมล์ไป รถเมล์จอดประมาณ 2 ป้าย คะ เราก็โบกมือเรียกรถเมล์ให้จอดคะ เค้าก็จอดให้นะคะ เราก็ขึ้นไปบนรถเมล์เพื่อไปหามะลิ แต่ไม่เจอแล้วคะ (มะลิอยู่ในกระเป๋านะคะลืมบอกคะ) ตอนนั้นคือทำอะไรไม่ถูกถามรถเมล์เค้าบอกว่าน่าจะเป็นผู้หญิงคนนึงเก็บลงไปแล้ว เรานี่เครียดหนักคะ รีบลงจากรถเมล์ขึ้นรถแท็กซี่ขอให้เค้าไปจอดที่เดิม พอลงรถเสร็จก็เดินหาตามแยก ตามป้ายคะ แต่ก็ไม่เจอ ไปขอตำรวจที่ป้อมช่วยอีกแรงคะ หากคนที่เก็บได้เอามาฝากไว้ แต่ก็ไม่เจอคะ เลยไปแจ้งความที่สถานีแถวนั้นคะ บอกเลยคะว่าไม่ปลื้มเลยคะ เรานี่ยิ่งกว่าของหายอีกคะ เค้าคือลูกสาว แจ้งความไปก็ร้องไห้ไป ตำรวจกลับบอกว่าให้ไปซื้อใหม่เพราะคิดว่าเค้าคงตั้งใจเอาไปแล้วแหละ อยากถามย้อยกลับมากว่าถ้าลูกคุณหาย คุณจะสมารถหาซื้อให้เหมือนลูกคุณได้ไหม แต่ก็ไม่อยากจะคิดไรมากคะ เพราะมันเป็นความผิดของเราจริงๆ เรากลับคิดอีกแง่ว่าเค้าอาจจะถือน้องลงจากรถเพื่อตามหาเราหรือป่าว เราก็เดินไปเดินมาจนถึงเที่ยงคะ คิดว่ายังไงวันนี้ก็ไม่เจอจึงกลับบ้านคะ กลับบ้านมาก็รีบโพสลงเฟส โพสลงเว็ปไซด์ โพสลงกระทู้พันทิป แจ้งจส.100 คือทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้คะ พอตกเย็นมีคนโทรมาบอกว่ามีกระทู้นึงได้ชูก้ามาโดยบังเอิญ ตอนนั้นก็รีบดูเลยคะ กระทู้นั้นได้มาโดยบังเอิญไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชูก้าเลย รีบแสดงความคิดเห็น ส่งข้อความทำทุกอย่างคะ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ พอวันรุ่งขึ้นออกจากบ้าน06.00น.เพื่อไปขึ้นเรือที่ท่านั้นนั่งไปยังสำเพ็งต่อคะ ครั้งนี้ติดประกาศคะ ขอตำรวจติดประกาศ ตำรวจก็บอกให้ไปติดต่อร้อยเวรเพื่อขอดูกล้อง แล้วก็ไปสถานีตำรวจนั้นอีกครั้งโดนอีกแล้วคะ ว่าเป็นฉอดๆ คือบางครั้งเราก็ตอบไม่ได้รึป่าวคะ ลืมแต่บอกสถานที่ได้ แต่จำชื่อแยกไม่ได้ แต่ก็มีตำรวจอีกคนเข้ามาแนะนำ แต่ก็บอกว่าไม่มีกล้องตรงป้ายรถเมล์ ถึงได้ภาพไปก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นใคร เราเลยถอยกลับบ้านดีกว่า ฟุ้งซ่านร้องไห้อยู่อย่างงั้นแหละคะเกือบ คิดถึงแต่ภาพเค้ากินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว ตอนนี้ถึงเวลาต้องให้อาหาร ต้องเกาท้องให้ ต้องจุ๊บกันก่อนนอน แต่ไม่ม่เค้าแล้ว มันยิ่งกว่าอกหักอีกคะ ติดต่อพันทิพก็บอกว่าต้องให้ตำรวจดำเนินเรื่องแต่เราเสียความรู้สึกจากตรงนั้นแล้วอะคะพอ
พอไปเที่ยววันที่11/6/58 ตอนเย็นก็มีคนติดต่อมาว่ามีคนติดป้ายประกาศตามหาเจ้าขอชูก้า ตอนนั้นก็ทำอะไรม่ถูกเลยคะ คิดว่าใช่กำลังจะเดินทางเลยคะ ขอให้เค้าถ่ายรูปให้ดู แต่กลับไม่ใช่ ใจนี่ตกอยู่ตาตุ๋มเลยคะ ร้องไห้อีกครั้งแระก็กลับบ้านไป ครอบครัวนิบนกันใหญ่เลยคะ ขอผีปู่ย่าช่วย ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยกันใหญ่
แล้วปฏิหารก็มีจริงคะ มีคนติดต่อมาวันที่16/6/58ว่าเป็นคนเก็บเจ้ามะลิได้ บอกเหตุการณ์ใช่ทุกอย่าง เลยถามเค้าไปว่ามะลิกัดไหมคะ เค้าบอกไม่เลยเชื่องมากๆแต่เค้าจะหวงของกินจะดุเวลาไปยุ้งตอนกิน เราคิดว่าใช่แน่มะลิแน่นอน แต่ปัญหามันยุที่ว่าเค้าเอาไปให้คนอื่นเลี้ยงอยู่นนทบุรีคะ เค้าเลยถามว่าเราบ้านอยู่ไหน เราก็บอกไปบ้านอยู่นนท์ แต่ทำงานยุพระโขนง เค้าเลยบอกว่างั้นมาเอาที่พระโขนงดีกว่าออฟฟิตเค้าอยู่ตรงนั้น แต่ขอเวลาพี่ประมาณ1-2อาทิตย์พี่จะเอามาคืน แต่คนเลี้ยงเค้าซื้อกรงแล้ว เราก็เลยขอซื้อคืนให้คะ เค้บอกงั้นโอเคร เราเลยขอบคุณเค้าเป็นยกใหญ่เสียงสั่นมากกลั้นน้ำตาไม่ไหวจริงๆคะ เค้าเลยบอกว่าให้เราใจเย็นๆยังไงก็ได้คืน แต่ขอเวลาหน่อยนะ เราเลยโอเครคะเพราะคิดว่าถึงนานไปหน่อยยังไงก็ได้คืน เลยรีบาบอกข่าวดีในกลุ่มคนรักชูก้าไกรเดอร์ ว่าเจอน้องมะลิแล้ว ทุกคนดีใจกันมากคะ ในที่นี้ลืมพูดถึงเรื่องกำลังใจในกลุ่มคนรักชูก้าไกรเดอร์คะ ทุกคนช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีคะ ช่วยโพส ช่วยแชร์ ช่วยเหลือทุกอย่างที่เค้าพอจะทำได้คะ ต้องขอขอบคุณทุกคน ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้เราตลอดมาจนเจอมะลิในที่สุด เหมือนจะมีเซ้นคะเพราะคืนก่อนที่จะมีคนติดต่อมา จู่ๆก็คิดว่าถ้ามะลิอยู่ในกน๋าแล้วออกมาไม่ได้จะทำไงดี ถ้าคนเก็บได้ใจดำเอาเค้าไปทิ้งถังขยะจะทำไง สุดท้ายก็ปัดความคิดนั้นไปคิดว่ายังไงก็ต้องเจอ คิดแค่ว่ามะลิไปเที่ยว
เล่าต่อคะ พอมาวันที่18/6/58 เราคิดว่าทนไม่ไหวแล้วคะ เลยขอโทรติดต่อคนที่เก็บได้อีกครั้งว่าเราอยสกไปรับน้องตอนเสา-อาทิตนี้ เค้าบอกว่าเค้าประสานงานให้แล้ว คนที่รับเลี้ยงเค้าจะเอามาให้วันจันทร์ให้มาอาที่ออฟฟิตเลย เราก็เลยตอบตกลง เพราะคิดว่าเค้าคงต้องการให้เรามาเอาที่นี่มั้ง เลยไม่คิดอะไรมาก แต่คนที่คิดมากกลับเป็นคนในกลุ่มคนรักชูก้าซะงั้น555 พวกเค้าทั้งเซง ทั้งกลุ้มแทนเลยคะ แต่เราก็คิดว่ายังไงก็ได้คืน รออีกไม่กี่วันก็ได้คืน พอมาถึงวันจันทร์เราก็โทรไปหาคนที่เก็บได้ เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวติดต่อกลับไปเพราะคนที่รับเลี้ยงยังมาไม่ถึงออฟฟิต พอสัก10โมงเราก็โทรกลับไปเค้าบอกว่าคนที่รับเลี้ยงไม่ได้เอามาเพราะไม่ได้กลับนนท์ ตอนนั้นคือเครียดมากเลยคะ เหมือนตอนมะลิหายวันแรกเลย กลัวมากกลัวจะไม่ได้คืน วันนั้นทั้งอึนทั้งงง กันข้าวก็ไม่ได้ ทำงานไม่ได้เลยคะ คนในกลุ่มคนรักชูก้าก็เดือดขึ้นอีกครั้งคะ จะให้ผู้ใหญ่คุยเลย แต่เราก็กลัวถ้าให้ผู้ใหญ่คุยแล้วเค้าจะแกล้งไม่คืนให้จะทำไงดี ก็ได้แต่บอกว่าเราคงได้แต่รอคะ วันถัดมาเราก็โทรไปหาพี่เค้าอีกครั้งเพื่อขอให้เค้าเตือนคนที่จะเอามะลิมาให้ พี่เค้าก็ตอบกลับมาเลยว่า “มีคนช่วยพี่เตือนแล้วคะ และคนที่เลี้ยงมะลิก็มาบอกกับพี่แล้วว่าจะเอามาคืนพุ่งนี้คะ” แค่นี้ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมานิดนึงแล้วคะ แต่พอกลับบ้านไปเล่นน้องชูก้าที่แม่ส่งมาให้ ก็หันไปเจอรูปที่ทำพวงกุญแจก็พูดถึงนางแล้วก็ร้องไห้ไปอีก คิดแต่ว่าเมื่อไหร่หนูจะกลับมาหาแม่ หนูจะกลับมาใช่ไหม ได้แต่นั่งร้องไห้ฟูมฟาย ทำอะไรไม่ได้เลย แค่รอ จนมาถึงวันที่ต้องไปเอาคือวันนั้นไม่อยากหวังอะไรมากเลย เลยไม่อยากตื่นเต้นแล้วมันเหนื่อย อีกใจที่ทำแบบนี้เพราะบางทีถ้าเราหวังอะไรมากไปมันมักจะไม่เป็นอย่างที่คิดเลยไม่ขอหวังดีกว่าคะ ถ้าไม่หวังเราก็จะได้มะลิมา เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยมีความรู้สึกนี้ เลยไม่อยากคิดอะไรแล้วคะ ตื่นเช้ามามาทำงานปกติทำนู้นทำนี่ไปเรื่อยคิดได้แต่ว่าได้เจอก็ได้เจอไม่ได้เจอเดี๋ยวก็ได้เจอ สักพักพี่คนที่เก็บได้ก็โทรมาบอกว่ามะลิมาถึงออฟฟิตแล้วนะ และก็ได้ส่งรูปให้เราดู ใช่เลยคะ ในรูปคือมะลิคือแบบดีใจมากคะ รีบประกาศลงกลุ่มเลยคะ ทุกคนต่างดีใจกับเรามาก พอพักเที่ยงก็ขอลางานไปรับน้องคะ พอมะลิมาถึงพี่เค้าก็ให้เราเปิดดูน้องก่อนว่าใช่ไหม คือแบบว่าเราไม่ต้องดูก็ได้คะ แค่มองผ่านรูเข้าไปเราก็รู้เลยว่ามะลิแน่นอน แต่แค่สีขนเปลี่ยนไป กลายเป็นสีเหลือง ตัวอ้วนกว่าเดิมคะ เพราะเค้าบอกว่ามะลิกินเก่งมาก เราก็ให้เงินค่ากรงที่คนเลี้ยงเค้าซื้อ เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรไม่เอาคะ เราก็บอกให้รับไปเหอะนะคะเค้าก็ยืนยันที่จะไม่เอาคะ เราจึงขอบคุณเค้ายกใหญ่ขอให้เค้ามีความสุขเหมือนที่เราเป็นตอนนี้ขอบคุณมากจริงๆคะ และแล้วก็ได้มะลิกลับมาอยู่กับเราอีกครั้ง
เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละคะ อาจจะเล่าไม่ได้เรื่อง ซ้ำซ้อน วกไปวนมาไปหน่อย ก็ขอโทษด้วยนะคะ เพราะแค่ตัวเองอ่านยังงงเลยคะ อินเนอร์อาจจะน้อยไปเพราะถ้าให้เขียน2หน้าก็คงไม่หมดคะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เรา2แม่ลูกได้กลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะ ถ้ามีอะไรที่เราสามารถช้วยเหลือได้เราก็พร้อมที่จะทำนะคะ
ความรู้สึกของการเสียของรักที่เรียกว่า ชูก้าไกร์เดอร์ (มะลิที่หายไป)
อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันแล้วนะคะว่ามะลิหายยังไง เล่าคร่าวๆแล้วกันนะคะ วันที่ 6มิ.ย.5 8 เวลา 8.00 น. เราทำมะลิหล่นบนรถเมล์สายปอ.40 แถวแยกราชวงศ์ เราลงรถปุ๊บก็เดินไปเจอกระจกแล้วก็เอ๊ะใจว่ามะลิละ ค้นกระเป๋าตัวเอง แต่ก็ไม่เจอ คิดว่าบนรถเมล์แน่นอนวิ่งตามรถเมล์เลยคะ ข้ามถนนไม่มองรถด้วย รถเกือบชนเสียงแตรถนิดังสนั่นเลยคะ บอกเลยคะเหมือนในหนังที่ตามล่ากันเลยคะ เลยโบกแท็กซี่ขอแท็กซี่ตามรถเมล์ไป รถเมล์จอดประมาณ 2 ป้าย คะ เราก็โบกมือเรียกรถเมล์ให้จอดคะ เค้าก็จอดให้นะคะ เราก็ขึ้นไปบนรถเมล์เพื่อไปหามะลิ แต่ไม่เจอแล้วคะ (มะลิอยู่ในกระเป๋านะคะลืมบอกคะ) ตอนนั้นคือทำอะไรไม่ถูกถามรถเมล์เค้าบอกว่าน่าจะเป็นผู้หญิงคนนึงเก็บลงไปแล้ว เรานี่เครียดหนักคะ รีบลงจากรถเมล์ขึ้นรถแท็กซี่ขอให้เค้าไปจอดที่เดิม พอลงรถเสร็จก็เดินหาตามแยก ตามป้ายคะ แต่ก็ไม่เจอ ไปขอตำรวจที่ป้อมช่วยอีกแรงคะ หากคนที่เก็บได้เอามาฝากไว้ แต่ก็ไม่เจอคะ เลยไปแจ้งความที่สถานีแถวนั้นคะ บอกเลยคะว่าไม่ปลื้มเลยคะ เรานี่ยิ่งกว่าของหายอีกคะ เค้าคือลูกสาว แจ้งความไปก็ร้องไห้ไป ตำรวจกลับบอกว่าให้ไปซื้อใหม่เพราะคิดว่าเค้าคงตั้งใจเอาไปแล้วแหละ อยากถามย้อยกลับมากว่าถ้าลูกคุณหาย คุณจะสมารถหาซื้อให้เหมือนลูกคุณได้ไหม แต่ก็ไม่อยากจะคิดไรมากคะ เพราะมันเป็นความผิดของเราจริงๆ เรากลับคิดอีกแง่ว่าเค้าอาจจะถือน้องลงจากรถเพื่อตามหาเราหรือป่าว เราก็เดินไปเดินมาจนถึงเที่ยงคะ คิดว่ายังไงวันนี้ก็ไม่เจอจึงกลับบ้านคะ กลับบ้านมาก็รีบโพสลงเฟส โพสลงเว็ปไซด์ โพสลงกระทู้พันทิป แจ้งจส.100 คือทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้คะ พอตกเย็นมีคนโทรมาบอกว่ามีกระทู้นึงได้ชูก้ามาโดยบังเอิญ ตอนนั้นก็รีบดูเลยคะ กระทู้นั้นได้มาโดยบังเอิญไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชูก้าเลย รีบแสดงความคิดเห็น ส่งข้อความทำทุกอย่างคะ แต่ก็ไม่มีการตอบรับ พอวันรุ่งขึ้นออกจากบ้าน06.00น.เพื่อไปขึ้นเรือที่ท่านั้นนั่งไปยังสำเพ็งต่อคะ ครั้งนี้ติดประกาศคะ ขอตำรวจติดประกาศ ตำรวจก็บอกให้ไปติดต่อร้อยเวรเพื่อขอดูกล้อง แล้วก็ไปสถานีตำรวจนั้นอีกครั้งโดนอีกแล้วคะ ว่าเป็นฉอดๆ คือบางครั้งเราก็ตอบไม่ได้รึป่าวคะ ลืมแต่บอกสถานที่ได้ แต่จำชื่อแยกไม่ได้ แต่ก็มีตำรวจอีกคนเข้ามาแนะนำ แต่ก็บอกว่าไม่มีกล้องตรงป้ายรถเมล์ ถึงได้ภาพไปก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นใคร เราเลยถอยกลับบ้านดีกว่า ฟุ้งซ่านร้องไห้อยู่อย่างงั้นแหละคะเกือบ คิดถึงแต่ภาพเค้ากินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว ตอนนี้ถึงเวลาต้องให้อาหาร ต้องเกาท้องให้ ต้องจุ๊บกันก่อนนอน แต่ไม่ม่เค้าแล้ว มันยิ่งกว่าอกหักอีกคะ ติดต่อพันทิพก็บอกว่าต้องให้ตำรวจดำเนินเรื่องแต่เราเสียความรู้สึกจากตรงนั้นแล้วอะคะพอ
พอไปเที่ยววันที่11/6/58 ตอนเย็นก็มีคนติดต่อมาว่ามีคนติดป้ายประกาศตามหาเจ้าขอชูก้า ตอนนั้นก็ทำอะไรม่ถูกเลยคะ คิดว่าใช่กำลังจะเดินทางเลยคะ ขอให้เค้าถ่ายรูปให้ดู แต่กลับไม่ใช่ ใจนี่ตกอยู่ตาตุ๋มเลยคะ ร้องไห้อีกครั้งแระก็กลับบ้านไป ครอบครัวนิบนกันใหญ่เลยคะ ขอผีปู่ย่าช่วย ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยกันใหญ่
แล้วปฏิหารก็มีจริงคะ มีคนติดต่อมาวันที่16/6/58ว่าเป็นคนเก็บเจ้ามะลิได้ บอกเหตุการณ์ใช่ทุกอย่าง เลยถามเค้าไปว่ามะลิกัดไหมคะ เค้าบอกไม่เลยเชื่องมากๆแต่เค้าจะหวงของกินจะดุเวลาไปยุ้งตอนกิน เราคิดว่าใช่แน่มะลิแน่นอน แต่ปัญหามันยุที่ว่าเค้าเอาไปให้คนอื่นเลี้ยงอยู่นนทบุรีคะ เค้าเลยถามว่าเราบ้านอยู่ไหน เราก็บอกไปบ้านอยู่นนท์ แต่ทำงานยุพระโขนง เค้าเลยบอกว่างั้นมาเอาที่พระโขนงดีกว่าออฟฟิตเค้าอยู่ตรงนั้น แต่ขอเวลาพี่ประมาณ1-2อาทิตย์พี่จะเอามาคืน แต่คนเลี้ยงเค้าซื้อกรงแล้ว เราก็เลยขอซื้อคืนให้คะ เค้บอกงั้นโอเคร เราเลยขอบคุณเค้าเป็นยกใหญ่เสียงสั่นมากกลั้นน้ำตาไม่ไหวจริงๆคะ เค้าเลยบอกว่าให้เราใจเย็นๆยังไงก็ได้คืน แต่ขอเวลาหน่อยนะ เราเลยโอเครคะเพราะคิดว่าถึงนานไปหน่อยยังไงก็ได้คืน เลยรีบาบอกข่าวดีในกลุ่มคนรักชูก้าไกรเดอร์ ว่าเจอน้องมะลิแล้ว ทุกคนดีใจกันมากคะ ในที่นี้ลืมพูดถึงเรื่องกำลังใจในกลุ่มคนรักชูก้าไกรเดอร์คะ ทุกคนช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีคะ ช่วยโพส ช่วยแชร์ ช่วยเหลือทุกอย่างที่เค้าพอจะทำได้คะ ต้องขอขอบคุณทุกคน ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้เราตลอดมาจนเจอมะลิในที่สุด เหมือนจะมีเซ้นคะเพราะคืนก่อนที่จะมีคนติดต่อมา จู่ๆก็คิดว่าถ้ามะลิอยู่ในกน๋าแล้วออกมาไม่ได้จะทำไงดี ถ้าคนเก็บได้ใจดำเอาเค้าไปทิ้งถังขยะจะทำไง สุดท้ายก็ปัดความคิดนั้นไปคิดว่ายังไงก็ต้องเจอ คิดแค่ว่ามะลิไปเที่ยว
เล่าต่อคะ พอมาวันที่18/6/58 เราคิดว่าทนไม่ไหวแล้วคะ เลยขอโทรติดต่อคนที่เก็บได้อีกครั้งว่าเราอยสกไปรับน้องตอนเสา-อาทิตนี้ เค้าบอกว่าเค้าประสานงานให้แล้ว คนที่รับเลี้ยงเค้าจะเอามาให้วันจันทร์ให้มาอาที่ออฟฟิตเลย เราก็เลยตอบตกลง เพราะคิดว่าเค้าคงต้องการให้เรามาเอาที่นี่มั้ง เลยไม่คิดอะไรมาก แต่คนที่คิดมากกลับเป็นคนในกลุ่มคนรักชูก้าซะงั้น555 พวกเค้าทั้งเซง ทั้งกลุ้มแทนเลยคะ แต่เราก็คิดว่ายังไงก็ได้คืน รออีกไม่กี่วันก็ได้คืน พอมาถึงวันจันทร์เราก็โทรไปหาคนที่เก็บได้ เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวติดต่อกลับไปเพราะคนที่รับเลี้ยงยังมาไม่ถึงออฟฟิต พอสัก10โมงเราก็โทรกลับไปเค้าบอกว่าคนที่รับเลี้ยงไม่ได้เอามาเพราะไม่ได้กลับนนท์ ตอนนั้นคือเครียดมากเลยคะ เหมือนตอนมะลิหายวันแรกเลย กลัวมากกลัวจะไม่ได้คืน วันนั้นทั้งอึนทั้งงง กันข้าวก็ไม่ได้ ทำงานไม่ได้เลยคะ คนในกลุ่มคนรักชูก้าก็เดือดขึ้นอีกครั้งคะ จะให้ผู้ใหญ่คุยเลย แต่เราก็กลัวถ้าให้ผู้ใหญ่คุยแล้วเค้าจะแกล้งไม่คืนให้จะทำไงดี ก็ได้แต่บอกว่าเราคงได้แต่รอคะ วันถัดมาเราก็โทรไปหาพี่เค้าอีกครั้งเพื่อขอให้เค้าเตือนคนที่จะเอามะลิมาให้ พี่เค้าก็ตอบกลับมาเลยว่า “มีคนช่วยพี่เตือนแล้วคะ และคนที่เลี้ยงมะลิก็มาบอกกับพี่แล้วว่าจะเอามาคืนพุ่งนี้คะ” แค่นี้ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมานิดนึงแล้วคะ แต่พอกลับบ้านไปเล่นน้องชูก้าที่แม่ส่งมาให้ ก็หันไปเจอรูปที่ทำพวงกุญแจก็พูดถึงนางแล้วก็ร้องไห้ไปอีก คิดแต่ว่าเมื่อไหร่หนูจะกลับมาหาแม่ หนูจะกลับมาใช่ไหม ได้แต่นั่งร้องไห้ฟูมฟาย ทำอะไรไม่ได้เลย แค่รอ จนมาถึงวันที่ต้องไปเอาคือวันนั้นไม่อยากหวังอะไรมากเลย เลยไม่อยากตื่นเต้นแล้วมันเหนื่อย อีกใจที่ทำแบบนี้เพราะบางทีถ้าเราหวังอะไรมากไปมันมักจะไม่เป็นอย่างที่คิดเลยไม่ขอหวังดีกว่าคะ ถ้าไม่หวังเราก็จะได้มะลิมา เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยมีความรู้สึกนี้ เลยไม่อยากคิดอะไรแล้วคะ ตื่นเช้ามามาทำงานปกติทำนู้นทำนี่ไปเรื่อยคิดได้แต่ว่าได้เจอก็ได้เจอไม่ได้เจอเดี๋ยวก็ได้เจอ สักพักพี่คนที่เก็บได้ก็โทรมาบอกว่ามะลิมาถึงออฟฟิตแล้วนะ และก็ได้ส่งรูปให้เราดู ใช่เลยคะ ในรูปคือมะลิคือแบบดีใจมากคะ รีบประกาศลงกลุ่มเลยคะ ทุกคนต่างดีใจกับเรามาก พอพักเที่ยงก็ขอลางานไปรับน้องคะ พอมะลิมาถึงพี่เค้าก็ให้เราเปิดดูน้องก่อนว่าใช่ไหม คือแบบว่าเราไม่ต้องดูก็ได้คะ แค่มองผ่านรูเข้าไปเราก็รู้เลยว่ามะลิแน่นอน แต่แค่สีขนเปลี่ยนไป กลายเป็นสีเหลือง ตัวอ้วนกว่าเดิมคะ เพราะเค้าบอกว่ามะลิกินเก่งมาก เราก็ให้เงินค่ากรงที่คนเลี้ยงเค้าซื้อ เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรไม่เอาคะ เราก็บอกให้รับไปเหอะนะคะเค้าก็ยืนยันที่จะไม่เอาคะ เราจึงขอบคุณเค้ายกใหญ่ขอให้เค้ามีความสุขเหมือนที่เราเป็นตอนนี้ขอบคุณมากจริงๆคะ และแล้วก็ได้มะลิกลับมาอยู่กับเราอีกครั้ง
เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละคะ อาจจะเล่าไม่ได้เรื่อง ซ้ำซ้อน วกไปวนมาไปหน่อย ก็ขอโทษด้วยนะคะ เพราะแค่ตัวเองอ่านยังงงเลยคะ อินเนอร์อาจจะน้อยไปเพราะถ้าให้เขียน2หน้าก็คงไม่หมดคะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เรา2แม่ลูกได้กลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะ ถ้ามีอะไรที่เราสามารถช้วยเหลือได้เราก็พร้อมที่จะทำนะคะ