กระจกเงาเตือนใจให้มีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ

กระทู้สนทนา
พอดีผมเพิ่งไปอ่านเจอข้อเขียนสั้นๆที่สอนเตือน เรื่องการมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ ได้อย่างเฉียบคม
เลยขอนำมาฝากผู้ที่ยังไม่เคยอ่าน หวังว่าจะเป็นประโยชน์อยู่บ้างครับ

........................................

ศิษย์น้อยยกกระจกเงาบานใหญ่ขึ้นมาส่อง ในขณะที่ส่องก็ได้พูดขึ้นมาว่า
“กระจกบานนี้ราคาถูกจังขอรับ ไม่กี่สิบบาทก็ได้กระจกเงาบานใหญ่เชียว”
อาจารย์เห็นความไร้เดียงสาของลูกศิษย์ก็พูดไปยิ้มไปว่า
“เจ้าอย่าได้ดูแคลนกระจกบานนี้เลยเทียวล่ะ มันสามารถเป็นครูของเจ้าได้!”
“อะไรนะขอรับ? กระจกเงาบานนี้จะเป็นครูของกระผมได้ยังไงขอรับ?”
ศิษย์น้อยมองหน้าอาจารย์อย่างฉงน

“ไม่ว่าจะนำอะไรก็ตามมาวางไว้หน้ากระจก มันก็จะสะท้อนสิ่งต่างๆนั้นออกมาใช่หรือเปล่า?”
“ใช่ขอรับ” ศิษย์น้อยตอบ แต่ยังสงสัย
“และเมื่อนำสิ่งของออกไป ในกระจกเงาบานนั้นจะยังมีเงาของสิ่งนั้นเหลืออยู่หรือไม่?”
“มันจะอยู่ได้ยังไงขอรับ ในเมื่อเอาออกไปแล้ว?” ศิษย์น้อยยิ่งงงไปกันใหญ่
“นี่แหละคือปัญญา” อาจารย์เฉลย
“สิ่งที่กระจกเงากำลังบอกเจ้าอยู่ก็คือ “เมื่อเรื่องเกิดให้รู้รับมือ เมื่อเรื่องจบอย่ารื้อหรือฟื้นฝอย” ศิษย์ข้า เมื่อเจ้าเผชิญกับเรื่องราวต่างๆ เจ้าสามารถรับมือกับเรื่องราวนั้นๆได้ แต่เมื่อเรื่องจบลงเจ้าจบตามเรื่องนั้นได้หรือไม่?”
“โห ยากจังขอรับท่านอาจารย์ ศิษย์ยังทำไม่ได้ขอรับ” ศิษย์น้อยตอบไปตามความเป็นจริง

“มันยังมีปริศนาธรรมอะไรอีกหรือเปล่าขอรับ?” ศิษย์น้อยถามไปอย่างอยากรู้
“ยังมีอยู่อีกมากมาย” อาจารย์ตอบ
“เวลาน้าเดชหรือหมากปุรินมาส่องมัน เจ้าว่ามันจะดีใจและส่องเจ้าสองคนนี้ให้ละเอียดขึ้นไหม?”
“ไม่ขอรับ”ศิษย์น้อยตอบ
“แล้วเวลาขอทานหรือหัวขโมยมาส่องมันล่ะ มันจะแสดงอาการรังเกียจหรือไล่เขาเหล่านี้ออกห่างๆมันไหม?”
“ไม่ขอรับ”ลูกศิษย์ตอบออกไป
“อย่างนี้เรียกว่าน้ำขึ้นสะพานไม่โก่งน้ำลงสะพานไม่แอ่น หมายถึงว่า ต่อหน้าผู้มีชื่อเสียงไม่ปิติจนลืมตัว ต่อหน้าคนชั่วไม่รังเกียจจนเกินงาม หากเจ้าต้องเผชิญอย่างกระจก เจ้าจะมีสติโดยไม่สะทกสะท้านได้หรือไม่?”
“ไม่ได้ขอรับ เอ่อยังมีอีกไหมขอรับ?”ศิษย์น้อยถามด้วยความสนใจและรู้สึกอัศจรรย์ใจ

“เมื่อนาย ข มายืนส่องตัวเองอยู่หน้ากระจก กระจกส่องนาย ข พลาง คิดถึงนาย ก เมื่อมาส่องเมื่อครู่นี้พลางหรือไม่?”
“ไม่ขอรับ”ศิษย์น้อยตอบ
“อย่างนี้เรียกว่า “อยู่กับปัจจุบัน” เจ้าทำได้หรือไม่”
“ไม่ได้ขอรับ เอ่อ ยังมีอีกหรือขอรับท่านอาจารย์”
“มีสิ! เมื่อกระจกส่องของสีแดง มันก็ไม่กลายเป็นสีแดงตามของชิ้นนั้น เมื่อกระจกส่องสีเขียว มันกลายเป็นสีเขียวตามของชิ้นนั้นหรือไม่? ”
“ไม่ขอรับ อย่างนี้หมายความว่ายังไงขอรับ”
“อย่างนี้เรียกว่า “คล้อยตามปัจจัยแต่ไม่เปลี่ยนอุดมการณ์” เจ้าทำได้ไหม?”
“ไม่ได้ขอรับท่านอาจารย์”

“กระจกเงายามส่องคน ส่องสิ่งของ ส่องน้ำ ส่องไฟ คุณสมบัติความเป็นกระจกของมันไม่เปลี่ยนสภาพไปตามสิ่งนั้นๆ อย่างนี้เรียกว่า “มีจุดยืนเป็นของตัวเอง” อาจารย์กล่าวอย่างนี้เจ้าเข้าใจไหม?”
“เข้าใจขอรับ ไม่น่าเชื่อเลยว่าแค่เพียงกระจกเงาก็มีหลักปรัชญาแฝงไว้มากมาย มิน่าล่ะท่านอาจารย์ถึงได้สอนพวกเราอยู่เสมอว่า ธรรมะแฝงอยู่ในทุกที่ ทุกที่มีธรรมะแฝงอยู่ วันนี้กระผมก็มีกระจกเป็นครูเพิ่มอีกท่านหนึ่งแล้ว สาธุๆขอรับท่านอาจารย์”ศิษย์น้อยกล่าวออกไปด้วยความปิติยินดี

เครติต : นุสนธิ์บุคส์
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปฏิบัติธรรม
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่