หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] หยุดเสียใจเพราะคนขี้หลี เลิกร้องไห้เพราะซีรีย์เกาหลี เว้นการกินส้มตำแซ่บอีหลี ให้ธรรมชาติกอดพวกนาย4วัน3คืนที่"เกาะบาหลี"
กระทู้รีวิว
บาหลี
ประเทศอินโดนีเซีย
ทำไมโลกมันช่างน่าเบื่อขนาดนี้
เบื่อที่ต้องตื่นไปทำงาน
เบื่อคนเยอะแยะบนบีทีเอส
ไปเดินห้างก็ไม่รู้จะทำอะไร
ไปคาเฟ่ที่ไหนก็ไม่ตอบโจทย์…
ถ้าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นายประสบอยู่ ชัดเจนแล้วแหละว่าร่างกายของนายต้องการให้ธรรมชาติเท่านั้นเป็นผู้เยียวยา
แต่จะเอายังไงล่ะ ทะเลก็อยากไป ภูเขาก็อยากสัมผัส วัฒนธรรมก็อยากจะเห็น…
เราขอเสนอ “เกาะบาหลี” ให้พวกนายเลยละกัน ขอแค่พวกนายมีเวลาสัก4วัน3คืน รับรองไม่มีผิดหวัง พร้อมยังอ่ะ พร้อมแล้วตามมาเล้ยยยยยยยย
อย่าเพิ่งคิดว่าโอ้ยยยยย ไอคนเขียน บ้ารึเปล่าาาาาาา แค่4วัน3คืนจะไปได้สักกี่ที่เชียว... เพราะมันไปได้เยอะอยู่นะ เวลาเท่านี้พวกนายสามารถเก็บความดีงามบนเกาะบาหลีได้ร้อยละ 85เลยทีเดียว ส่วนอีกร้อยละ15ที่เราไม่ได้ไป เราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาให้พวกนายเรียบร้อยแล้ว แหมะ ง่ายดายขนาดนี้พวกนายจะรออะไรอีกกกกกก ไปปปปๆๆๆๆ
ก่อนไปก็ต้องมีความรู้กันสักกะนิดสักกะหน่อย…ใจกลางของบาหลีอยู่ที่เมืองเดนปาซาร์(denpasar)ค่ะ เกาะบาหลีเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย เพื่อนบ้านของพี่ไทยเรานั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องความร้อนชื้นไม่ต้องพูดถึง ความร้อนอาจจะสูสี แต่ความชื้นต้องยอมให้พี่บาหลีเขาจริงๆค่ะ บาหลีมีทั้งหมด3ฤดู ช่วงที่ฟ้าโปร่ง อากาศเย็นสบายเหมาะจะไปเที่ยว คือช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคมค่ะ ส่วนช่วงเดือนตุลาคม-เดือนมีนาคมเป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งเราก็ไปช่วงนี้มา ข้อดีคือราคาตั๋วเครื่องบินจะถูก ข้อเสียคือจะออกไปไหนต้องพกร่มไปด้วยค่ะ ส่วนช่วงที่ไม่ควรไปเลยคือเดือนธันวาคมและเดือนมกราคม เพราะฝนนี่ตกกันแบบหนักหน่วง ขนาดที่คนบาหลีเองก็ยังไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเลยนะจะบอกให้
คนบาหลีนับถือศาสนาฮินดู เชื่อเรื่องจิตวิญญาณ และที่สำคัญคือ คนที่นี่รักน้ำบูชาน้ำค่ะ ทุกการกราบไหว้ การสักการะ การพักผ่อน และการเอ็นเตอร์เทน เกี่ยวข้องกับน้ำทั้งหมด ได้ไปเห็นอะไรอย่างนี้ก็ช่วยคลายความร้อนให้คนไทยอย่างพวกเราได้เยอะเหมือนกัน และสำหรับใครที่ฝันอยากจะเป็นเศรษฐีเงินล้านนะคะ คุณได้เป็นแน่นอนค่ะถ้าคุณไปที่นี่ เพราะสกุลเงินที่ใช้ที่นี่คือรูเปียห์ของอินโดนีเซีย 1บาทเท่ากับ395หรือเกือบ400รูเปียห์ 10,000รูเปียห์ประมาณ25บาท 50,000รูเปียห์ประมาณ130บาท แหมะ โม้เพื่อนได้เลยว่ากินข้าวจานละห้าหมื่น นอนโรงแรมคืนละสี่แสน(1,000บาท) อย่างคูล อย่างคูล
วันแรกพอถึงบาหลีปุ๊ป เราพุ่งตรงจากสนามบินไปที่ที่พักเลยค่ะ แนะนำว่าพอถึงสนามบินแล้วให้เดินออกมาหน่อย มาเรียกรถแท็กซี่ข้างนอกเอา เพราะแท็กซี่ในสนามบินนี่ขี้โกง โก่งราคามากค่ะ แล้วจะตามตื๊อมากๆๆๆ ตื๊อๆๆๆ บอกไม่เอาๆๆๆก็ไม่เลิกตื๊อค่ะ แฟนเรายังไม่ตื๊อเราขนาดนี้เลย…เดี๋ยว…มีแฟนหรอปิง?...ไม่…โอเคผ่านไป ตัดมาตอนถึงที่พักค่ะ5555555555555 เราพักที่โรงแรมชื่อ The Bene Kuta hotel คือดีงามมากกกกกกกกกกก คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ โรงแรมนี้อยู่ห่างจากหาดกูตา หาดที่ป๊อปปูล่าที่สุดบนเกาะบาหลีเพียง200เมตรเท่านั้น นอกจากราคาย่อมเยาว์(1,000-1,900บาทต่อคืน) ห้องพักดี บริการดี มีสปาในโรงแรม มีพนักงานที่เป็นมิตรและเม้าท์เก่งมากๆแล้ว ตรงข้ามโรงแรมยังมี tourism information center สะดวกสบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ
ขออธิบายก่อนว่า tourism information centerบนเกาะบาหลีมันดียังไง มันจะเป็นเหมือนบูธเล็กๆที่มีอยู่ทั่วเกาะค่ะ นอกจากจะให้คำแนะนำเรื่องการท่องเที่ยวบนเกาะแล้ว ยังมีบริการรับจ้างขับรถพาเที่ยว ซึ่งอยู่ที่นั่นสี่วันเราจ้างสี่วันเลยค่ะ คือเขาจะขับรถ(ซึ่งเป็นรถส่วนตัวของเขา)พาเราไปสถานที่ต่างๆที่เราแพลนไว้ และช่วยจัดตารางเที่ยวให้เรา ว่าแต่ละที่ที่เราอยากไปอันไหนอยู่ใกล้อันไหน ไหนอันควรไปวันเดียวกัน พาไปกินอาหารพื้นเมืองเด็ดๆ ที่สำคัญคนบาหลีพูดอังกฤษคล่องทุกคนค่ะ สื่อสารกันรู้เรื่อง ไม่มีนั่งเงียบนั่งมึนแน่นอน เราสงสัยหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวเขาก็ตอบเราได้หมดค่ะ เรียกกว่าเป็นไกด์ส่วนตัวเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องราคาเขาจะคิดไม่เป็นวันก็เป็นชั่วโมงค่ะ อย่างเช่น8-10ชั่วโมง คิดเป็นเงินไทยประมาณ1,000บาท เต็มวัน1,500บาท ถ้ามากัน4-5คน หารกันก็โอเคเลย นี่เป็นราคาที่เราต่อรองกับเค้าแล้วนะคะ ยังไงถ้าใครจะไป เรามันใจว่าคนไทยมีความสามารถทางด้านนี้อยู่แล้ว เอาออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ค่ะ55555555555555
ส่วนการเดินทางด้วยวิธีอื่นก็มี จะไปรอขึ้นบัสเป็นรอบตามจุดต่างๆรอบเกาะก็ได้ หรือจะนั่งสองแถวไปลงแต่ละที่ก็ได้ แต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไกลออกไปก็จะลำบากหน่อยค่ะ
กว่าจะเช็คอินที่พัก ตกลงเรื่องจ้างคนขับรถเสร็จก็ปาไป11โมงแล้ว พอออกจากที่พักพี่เอ็ดดี้(ชื่อคนขับรถของเรา)แกก็พาพวกเราตรงไปกินมื้อเที่ยงเลยค่ะ เป็นอาหารพื้นเมืองของบาหลี ซึ่งมันอร่อยแบบบรมมมมมมม ขออภัยที่จำชื่อเมนูไม่ได้ แต่เอารูปมาฝากกัน ถ้าใครไปก็เปิดรูปนี้ถามคนบาหลีเลยนะ55555555555555 เติมพลังกันก่อนค่ะ วันนี้ยังต้องไปต่อกันอีกยาว
มาถึงแล้วค่ะที่แรก “Bajra Sandhi Monumen” พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ภายในจัดแสดงภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับความเป็นมาของเกาะบาหลี สถาปัตยกรรมและประติมากรรมแบบบาหลีค่ะ ก็ถือว่าปูพื้นฐานความรู้ก่อนจะไปเที่ยวที่อื่นละกัน สำหรับเราที่นี่ไม่มีอะไรมาก แต่สำหรับคนบาหลีที่นี่ถือเป็นอนุสาวรีย์เสรีภาพของพวกเขาเลยแหละ
มาต่อกันที่ “วัดทามัน อายุน หรือ Pura Taman Ayun”ค่ะ Puraแปลว่าวัดหรือวิหารนะคะ บอกกันไว้ก่อนเพราะหลังจากนี้คงเจอคำนี้บ่อยๆ วัดทามัน อายุน เป็นวัดที่สวยงามติดอันดับ 1ใน6 ของวัดบาหลี เคยได้รับรางวัลมรดกโลก UNESCOเมื่อปี 2012 จุดเด่นอยู่ที่หลังคาทรงเมรุหลายชั้น และสระน้ำที่ล้อมรอบวัดค่ะ วัดนี้เป็นวังเก่าสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษ ที่ 17 ใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมของกษัตริย์ราชวงศ์เม็งวี…เป็นไง ปวดหัวกันล่ะสิ เข้าเรื่องจริงจังวิชาการหน่อยไม่ได้ ปวดหัวกันเลยนะ เอาเป็นว่าถ้าพวกนายไปที่นี่ก็จะได้เห็นงานประติมากรรม สถาปัตยกรรม และการละเล่นการแสดงต่างๆที่บาหลีสุดๆ มาแล้วอินกันสุดๆไปเลยยยยย ท้องฟ้าอาจจะขุ่นๆ แต่รูปสวยถูกใจพวกนายแน่นอน ไปชมกันเลยไป
เออ ลืมบอกไปค่ะว่าวัดที่บาหลีทุกวัดเขาซีเรียสเรื่องการแต่งกาย ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายเขาไม่ให้ใส่ขาสั้น แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะทุกวัดจะอำนวยความสะดวกให้พวกเราด้วยผ้าคลุมหรือโสร่ง บางวัดก็คิดเงิน บางวัดก็ให้บริจาคตามศรัทธาค่ะ
ปิดท้ายวันแรกที่ “วิหารทานาห์ลอต หรือ Pura Tanah Lot” อีกหนึ่งแลนมาร์คของบาหลีที่ถ้าใครจะไปนี่ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนอกจากพวกนายจะได้เห็นวิวสวยๆอย่างวิหารที่สร้างยื่นลงไปในทะเลแล้ว อีกหนึ่งความดีงามที่พวกนายจะได้เห็นคือนักเล่นเซิฟ(อันนี้สำหรับผู้หญิงค่ะ55555555) เพราะบริเวณนี้ติดกับมหาสมุทรอินเดีย ทำให้มีคลื่นสูงและแรงเหมาะแก่การโชว์ลีลาเล่นเซิฟสุดคูล ขอแทรกความรู้นิดนึงงงง นิดเดียวจริงๆ ไม่โกรธกันๆๆ วิหารนี้สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่16 นักบวชฮินดูสร้างที่นี่เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเลค่ะ วันแรกเอาพอหอมปากหอมคอพอเนอะ ไปพักผ่อนกันดีกว่า
ตื่นนนนนนนนนนนนนนนน ตื่นๆๆๆๆๆ เวลามาเที่ยวนี่สำคัญและมีค่าทุกนาทีนะฮะ จะมาหลับยาวโดนเตียงดูดไม่ได้ๆๆๆ เจ๊งกันพอดี ที่แรกที่เราจะพาพวกนายไปในวันที่สองนี่ถือว่าเป็นที่โปรดของเราที่นึงเลย ชื่อภาษาไทยว่า “วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์” หรือชื่อภาษาบาหลีว่า “Pura Tirta empul(ปูราเตียร์ตาอัมปีล)” วัดนี้ก็เหมือนกับทุกวัดค่ะ…อย่าเพิ่งคิดในใจว่าอ้าวเหมือนทุกวัดละจะพามาทำส้นอะไร เราหมายถึงก่อนเข้าไปในวัดพวกนายต้องนุ่งโสร่งก่อนนนนนนนนน เหมือนวัดอื่นๆไงงงงงงงงงง แหมะ ใจร้อนกันเหลือเกินนะ
วัดนี้อยู่ในเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าทัมปักสิริง(tampak siring) เปิด8โมงเช้าถึง4โมงเย็นค่ะ ค่าเข้าคนละ15,000รูเปียห์หรือประมาณ40บาท ชาวบาหลีเชื่อว่าพระอินทร์เป็นผู้สร้างวัดนี้ ภายในวัดก่อนเข้าสู่บริเวณน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จะมีศาลาสำหรับสักการะ ศาลให้เทพเจ้าสิงสถิต และวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่แบ่งเป็นชั้นๆตามความสำคัญ(ชั้นที่อยู่ในสุดคือศักดิ์สิทธ์ที่สุด) พอเข้าไปในบริเวณน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แล้วจะเห็นคนบาหลีลงไปอาบน้ำและถวายเครื่องบูชาเทพเจ้าประจำสระ เพราะพวกเขาเชื่อว่าน้ำที่ไหลออกมาจากท่อเหล่านี้บำบัดโรคได้ และช่วยชำระสิ่งไม่ดีออกไปชีวิตค่ะ คนไทยคนไหนใจถึงก็ลงไปอาบกับเขาได้ไม่ว่ากัน
ชื่อสินค้า:
เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เมื่อฉันไปบาหลี EP.2 Heaven Gate of Bali
ถ้าพูดถึงบาหลีจะพลาดที่นี่ไปไม่ได้เลย วัดเลมปูยัง Pura Lempuyang..หรือ...Heaven Gate of Bali ...เป็นหนึ่งแลนด์มาคที่สำคัญของบาห
จูงมือไป-Joongmeupai
ใครอยากไป "บาหลี" เชิญทางนี้!!! - บาหลี Day 1
หมีหมูไปกรุยทางมาให้แล้ว เที่ยวตามรีวิวได้เลย โดยรีวิวภาพนิ่งชุดนี้เป็นเพียงแค่วันแรกของทริปสุดหฤโหดของเราทั้งคู่ ================================================= "บาหลี" เนี่ยไม่ได้เป็นป
The Planners
BALI ISLAND, Indonesia 4 Days 3 Nights with strangers/ ด้วยงบ 12,XXX ไปแบบชิคๆ
BALI ISLAND, Indonesia 🇮🇩 4 days 3 nights with (baby) girls เป็นทริปที่ปุ๊บปั๊บมาก! ✈️ตั๋วลดคือจองและมากันเลย 🏝️ทริปนี้เราได้เพื่อนใหม่อี
สมาชิกหมายเลข 5066173
บาหลี: สถานที่ท่องเที่ยวในบาหลี - Tourist Attractions in Bali
สืบเนื่องจาก จขกท. ได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตที่บาหลีมาช่วง 10 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา และได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับอาหารการกินที่จขกท.เคยกินในบาหลีในกระทู้ก่อนหน้านี้ชื่อ "บาหลี : อาหา
taweepa
บาหลี สไตล์ สาวสายเปย์ 8,900 บาท
เดือนตุลาคม 2560 นางบินเดี่ยว ไร้ลูกตามติด 555................ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ชอบเที่ยวแบบสบายๆ ไม่ชอบจอยทัวร์ ดั้งนั้น เราเลยเหมารถเที่ยวส่วนตัว ค่ารถถูกมาก เต็มวันตกวันละ 1400 บาท ส่วนวันที่ร
สมาชิกหมายเลข 3456564
อบรมฝึกสวดโอ้เอ้วิหารรายในส่วนกลาง ผลักดันเยาวชนร่วมศึกษา สืบสานต่อยอด การสวดโอ้เอ้วิหารรายให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี
กรมการศาสนา จัดอบรมฝึกสวดโอ้เอ้วิหารรายในส่วนกลาง ผลักดันเยาวชนร่วมศึกษา สืบสาน ต่อยอด การสวดโอ้เอ้วิหารรายให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี วันที่ 21 ธันวาคม 2567 เวลา 
อาคุงกล่อง
บาหลี...ในวันร้อนๆของเราสองคน 4: Tanah Lot-Jatiluwih-Ulun Danu-Luwak Coffee-Jimbaran Beach
มีทั้งหมด 4 ตอน (4 วันครับ) สนใจอันไหน มี ทำ shortcut ไว้ให้ครับ บาหลี...ในวันร้อนๆของเราสองคน : วันเดินทางไป http://ppantip.com/topic/35091690 บาหลี...ในวันร้อนๆของเราสองคน 2: Benoa-Uluwatu http://pa
Krith Dreamtrips
ภัยคุกคามรอบทิศทาง นักการเมืองที่ดี ถึงจะไม่เก่ง แต่ต้องรับผิดชอบ มีภาวะผู้นำ ต้องคิดเองได้ไม่ต้องรอ พ่อสั่งการ.
ทิศเหนือ ........ว้าแดง ขี่คอ ยึดเนินสูงข่ม หลายจุดตามแนวสันปันน้ำ ที่ยังไม่ปักปันเขตแดน ชาวบ้านยังมี ปัญหาการครอบครองปรปักษ์ เรื่องยึดดอย ยึดเนินนี้ นานเข้าๆ เราอาจจะเสียดินแดน เสียดอยจำนวนหลายดอยให
สมาชิกหมายเลข 7585251
ได้เวลาแล้วที่ประเทศไทยจะยึดดินแดนคืน
ตอนนี้ภาคเหนือของไทยก็โดนทหารว้ายึดอยู่ กองทัพไทยควรขับไล่ทหารว้าออกจากดินแดนให้หมด ส่วนทางฝั่งกัมพูชาก็มีปัญหาเรื่องเกาะกูดกันอยู่ กองทัพไทยควรจะส่งทหารเข้ายึดครองเกาะกง รวมถึงพวกจังหวัดพระตะบอง นครว
สมาชิกหมายเลข 8494233
‘นพดล’ฉะใช้ความเท็จโจมตี ตอบ 3 เรื่องใหญ่ถูกกล่าวหาปม‘เกาะกูด’ (ฟังความจริงอย่าไปปั่นกระแสกันให้มาก)
แหล่งที่มา: https://www.naewna.com/politic/839102 นพดล’วอนหยุดปั่นกระแสไทยเสีย‘เกาะกูด’ อย่าใช้ความเท็จโจมตีอย่างที่เคยถูกใส่ร้ายเรื่อง‘เขาพระวิหาร’ แต่พอศาลยก
อัยยูบ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บาหลี
ประเทศอินโดนีเซีย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 1
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] หยุดเสียใจเพราะคนขี้หลี เลิกร้องไห้เพราะซีรีย์เกาหลี เว้นการกินส้มตำแซ่บอีหลี ให้ธรรมชาติกอดพวกนาย4วัน3คืนที่"เกาะบาหลี"
เบื่อที่ต้องตื่นไปทำงาน
เบื่อคนเยอะแยะบนบีทีเอส
ไปเดินห้างก็ไม่รู้จะทำอะไร
ไปคาเฟ่ที่ไหนก็ไม่ตอบโจทย์…
ถ้าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นายประสบอยู่ ชัดเจนแล้วแหละว่าร่างกายของนายต้องการให้ธรรมชาติเท่านั้นเป็นผู้เยียวยา
แต่จะเอายังไงล่ะ ทะเลก็อยากไป ภูเขาก็อยากสัมผัส วัฒนธรรมก็อยากจะเห็น…
เราขอเสนอ “เกาะบาหลี” ให้พวกนายเลยละกัน ขอแค่พวกนายมีเวลาสัก4วัน3คืน รับรองไม่มีผิดหวัง พร้อมยังอ่ะ พร้อมแล้วตามมาเล้ยยยยยยยย
อย่าเพิ่งคิดว่าโอ้ยยยยย ไอคนเขียน บ้ารึเปล่าาาาาาา แค่4วัน3คืนจะไปได้สักกี่ที่เชียว... เพราะมันไปได้เยอะอยู่นะ เวลาเท่านี้พวกนายสามารถเก็บความดีงามบนเกาะบาหลีได้ร้อยละ 85เลยทีเดียว ส่วนอีกร้อยละ15ที่เราไม่ได้ไป เราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาให้พวกนายเรียบร้อยแล้ว แหมะ ง่ายดายขนาดนี้พวกนายจะรออะไรอีกกกกกก ไปปปปๆๆๆๆ
ก่อนไปก็ต้องมีความรู้กันสักกะนิดสักกะหน่อย…ใจกลางของบาหลีอยู่ที่เมืองเดนปาซาร์(denpasar)ค่ะ เกาะบาหลีเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย เพื่อนบ้านของพี่ไทยเรานั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องความร้อนชื้นไม่ต้องพูดถึง ความร้อนอาจจะสูสี แต่ความชื้นต้องยอมให้พี่บาหลีเขาจริงๆค่ะ บาหลีมีทั้งหมด3ฤดู ช่วงที่ฟ้าโปร่ง อากาศเย็นสบายเหมาะจะไปเที่ยว คือช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคมค่ะ ส่วนช่วงเดือนตุลาคม-เดือนมีนาคมเป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งเราก็ไปช่วงนี้มา ข้อดีคือราคาตั๋วเครื่องบินจะถูก ข้อเสียคือจะออกไปไหนต้องพกร่มไปด้วยค่ะ ส่วนช่วงที่ไม่ควรไปเลยคือเดือนธันวาคมและเดือนมกราคม เพราะฝนนี่ตกกันแบบหนักหน่วง ขนาดที่คนบาหลีเองก็ยังไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเลยนะจะบอกให้
คนบาหลีนับถือศาสนาฮินดู เชื่อเรื่องจิตวิญญาณ และที่สำคัญคือ คนที่นี่รักน้ำบูชาน้ำค่ะ ทุกการกราบไหว้ การสักการะ การพักผ่อน และการเอ็นเตอร์เทน เกี่ยวข้องกับน้ำทั้งหมด ได้ไปเห็นอะไรอย่างนี้ก็ช่วยคลายความร้อนให้คนไทยอย่างพวกเราได้เยอะเหมือนกัน และสำหรับใครที่ฝันอยากจะเป็นเศรษฐีเงินล้านนะคะ คุณได้เป็นแน่นอนค่ะถ้าคุณไปที่นี่ เพราะสกุลเงินที่ใช้ที่นี่คือรูเปียห์ของอินโดนีเซีย 1บาทเท่ากับ395หรือเกือบ400รูเปียห์ 10,000รูเปียห์ประมาณ25บาท 50,000รูเปียห์ประมาณ130บาท แหมะ โม้เพื่อนได้เลยว่ากินข้าวจานละห้าหมื่น นอนโรงแรมคืนละสี่แสน(1,000บาท) อย่างคูล อย่างคูล
วันแรกพอถึงบาหลีปุ๊ป เราพุ่งตรงจากสนามบินไปที่ที่พักเลยค่ะ แนะนำว่าพอถึงสนามบินแล้วให้เดินออกมาหน่อย มาเรียกรถแท็กซี่ข้างนอกเอา เพราะแท็กซี่ในสนามบินนี่ขี้โกง โก่งราคามากค่ะ แล้วจะตามตื๊อมากๆๆๆ ตื๊อๆๆๆ บอกไม่เอาๆๆๆก็ไม่เลิกตื๊อค่ะ แฟนเรายังไม่ตื๊อเราขนาดนี้เลย…เดี๋ยว…มีแฟนหรอปิง?...ไม่…โอเคผ่านไป ตัดมาตอนถึงที่พักค่ะ5555555555555 เราพักที่โรงแรมชื่อ The Bene Kuta hotel คือดีงามมากกกกกกกกกกก คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ โรงแรมนี้อยู่ห่างจากหาดกูตา หาดที่ป๊อปปูล่าที่สุดบนเกาะบาหลีเพียง200เมตรเท่านั้น นอกจากราคาย่อมเยาว์(1,000-1,900บาทต่อคืน) ห้องพักดี บริการดี มีสปาในโรงแรม มีพนักงานที่เป็นมิตรและเม้าท์เก่งมากๆแล้ว ตรงข้ามโรงแรมยังมี tourism information center สะดวกสบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ
ขออธิบายก่อนว่า tourism information centerบนเกาะบาหลีมันดียังไง มันจะเป็นเหมือนบูธเล็กๆที่มีอยู่ทั่วเกาะค่ะ นอกจากจะให้คำแนะนำเรื่องการท่องเที่ยวบนเกาะแล้ว ยังมีบริการรับจ้างขับรถพาเที่ยว ซึ่งอยู่ที่นั่นสี่วันเราจ้างสี่วันเลยค่ะ คือเขาจะขับรถ(ซึ่งเป็นรถส่วนตัวของเขา)พาเราไปสถานที่ต่างๆที่เราแพลนไว้ และช่วยจัดตารางเที่ยวให้เรา ว่าแต่ละที่ที่เราอยากไปอันไหนอยู่ใกล้อันไหน ไหนอันควรไปวันเดียวกัน พาไปกินอาหารพื้นเมืองเด็ดๆ ที่สำคัญคนบาหลีพูดอังกฤษคล่องทุกคนค่ะ สื่อสารกันรู้เรื่อง ไม่มีนั่งเงียบนั่งมึนแน่นอน เราสงสัยหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวเขาก็ตอบเราได้หมดค่ะ เรียกกว่าเป็นไกด์ส่วนตัวเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องราคาเขาจะคิดไม่เป็นวันก็เป็นชั่วโมงค่ะ อย่างเช่น8-10ชั่วโมง คิดเป็นเงินไทยประมาณ1,000บาท เต็มวัน1,500บาท ถ้ามากัน4-5คน หารกันก็โอเคเลย นี่เป็นราคาที่เราต่อรองกับเค้าแล้วนะคะ ยังไงถ้าใครจะไป เรามันใจว่าคนไทยมีความสามารถทางด้านนี้อยู่แล้ว เอาออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ค่ะ55555555555555
ส่วนการเดินทางด้วยวิธีอื่นก็มี จะไปรอขึ้นบัสเป็นรอบตามจุดต่างๆรอบเกาะก็ได้ หรือจะนั่งสองแถวไปลงแต่ละที่ก็ได้ แต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไกลออกไปก็จะลำบากหน่อยค่ะ
กว่าจะเช็คอินที่พัก ตกลงเรื่องจ้างคนขับรถเสร็จก็ปาไป11โมงแล้ว พอออกจากที่พักพี่เอ็ดดี้(ชื่อคนขับรถของเรา)แกก็พาพวกเราตรงไปกินมื้อเที่ยงเลยค่ะ เป็นอาหารพื้นเมืองของบาหลี ซึ่งมันอร่อยแบบบรมมมมมมม ขออภัยที่จำชื่อเมนูไม่ได้ แต่เอารูปมาฝากกัน ถ้าใครไปก็เปิดรูปนี้ถามคนบาหลีเลยนะ55555555555555 เติมพลังกันก่อนค่ะ วันนี้ยังต้องไปต่อกันอีกยาว
มาถึงแล้วค่ะที่แรก “Bajra Sandhi Monumen” พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ภายในจัดแสดงภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับความเป็นมาของเกาะบาหลี สถาปัตยกรรมและประติมากรรมแบบบาหลีค่ะ ก็ถือว่าปูพื้นฐานความรู้ก่อนจะไปเที่ยวที่อื่นละกัน สำหรับเราที่นี่ไม่มีอะไรมาก แต่สำหรับคนบาหลีที่นี่ถือเป็นอนุสาวรีย์เสรีภาพของพวกเขาเลยแหละ
มาต่อกันที่ “วัดทามัน อายุน หรือ Pura Taman Ayun”ค่ะ Puraแปลว่าวัดหรือวิหารนะคะ บอกกันไว้ก่อนเพราะหลังจากนี้คงเจอคำนี้บ่อยๆ วัดทามัน อายุน เป็นวัดที่สวยงามติดอันดับ 1ใน6 ของวัดบาหลี เคยได้รับรางวัลมรดกโลก UNESCOเมื่อปี 2012 จุดเด่นอยู่ที่หลังคาทรงเมรุหลายชั้น และสระน้ำที่ล้อมรอบวัดค่ะ วัดนี้เป็นวังเก่าสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษ ที่ 17 ใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมของกษัตริย์ราชวงศ์เม็งวี…เป็นไง ปวดหัวกันล่ะสิ เข้าเรื่องจริงจังวิชาการหน่อยไม่ได้ ปวดหัวกันเลยนะ เอาเป็นว่าถ้าพวกนายไปที่นี่ก็จะได้เห็นงานประติมากรรม สถาปัตยกรรม และการละเล่นการแสดงต่างๆที่บาหลีสุดๆ มาแล้วอินกันสุดๆไปเลยยยยย ท้องฟ้าอาจจะขุ่นๆ แต่รูปสวยถูกใจพวกนายแน่นอน ไปชมกันเลยไป
เออ ลืมบอกไปค่ะว่าวัดที่บาหลีทุกวัดเขาซีเรียสเรื่องการแต่งกาย ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายเขาไม่ให้ใส่ขาสั้น แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะทุกวัดจะอำนวยความสะดวกให้พวกเราด้วยผ้าคลุมหรือโสร่ง บางวัดก็คิดเงิน บางวัดก็ให้บริจาคตามศรัทธาค่ะ
ปิดท้ายวันแรกที่ “วิหารทานาห์ลอต หรือ Pura Tanah Lot” อีกหนึ่งแลนมาร์คของบาหลีที่ถ้าใครจะไปนี่ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนอกจากพวกนายจะได้เห็นวิวสวยๆอย่างวิหารที่สร้างยื่นลงไปในทะเลแล้ว อีกหนึ่งความดีงามที่พวกนายจะได้เห็นคือนักเล่นเซิฟ(อันนี้สำหรับผู้หญิงค่ะ55555555) เพราะบริเวณนี้ติดกับมหาสมุทรอินเดีย ทำให้มีคลื่นสูงและแรงเหมาะแก่การโชว์ลีลาเล่นเซิฟสุดคูล ขอแทรกความรู้นิดนึงงงง นิดเดียวจริงๆ ไม่โกรธกันๆๆ วิหารนี้สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่16 นักบวชฮินดูสร้างที่นี่เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเลค่ะ วันแรกเอาพอหอมปากหอมคอพอเนอะ ไปพักผ่อนกันดีกว่า
ตื่นนนนนนนนนนนนนนนน ตื่นๆๆๆๆๆ เวลามาเที่ยวนี่สำคัญและมีค่าทุกนาทีนะฮะ จะมาหลับยาวโดนเตียงดูดไม่ได้ๆๆๆ เจ๊งกันพอดี ที่แรกที่เราจะพาพวกนายไปในวันที่สองนี่ถือว่าเป็นที่โปรดของเราที่นึงเลย ชื่อภาษาไทยว่า “วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์” หรือชื่อภาษาบาหลีว่า “Pura Tirta empul(ปูราเตียร์ตาอัมปีล)” วัดนี้ก็เหมือนกับทุกวัดค่ะ…อย่าเพิ่งคิดในใจว่าอ้าวเหมือนทุกวัดละจะพามาทำส้นอะไร เราหมายถึงก่อนเข้าไปในวัดพวกนายต้องนุ่งโสร่งก่อนนนนนนนนน เหมือนวัดอื่นๆไงงงงงงงงงง แหมะ ใจร้อนกันเหลือเกินนะ
วัดนี้อยู่ในเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าทัมปักสิริง(tampak siring) เปิด8โมงเช้าถึง4โมงเย็นค่ะ ค่าเข้าคนละ15,000รูเปียห์หรือประมาณ40บาท ชาวบาหลีเชื่อว่าพระอินทร์เป็นผู้สร้างวัดนี้ ภายในวัดก่อนเข้าสู่บริเวณน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จะมีศาลาสำหรับสักการะ ศาลให้เทพเจ้าสิงสถิต และวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่แบ่งเป็นชั้นๆตามความสำคัญ(ชั้นที่อยู่ในสุดคือศักดิ์สิทธ์ที่สุด) พอเข้าไปในบริเวณน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แล้วจะเห็นคนบาหลีลงไปอาบน้ำและถวายเครื่องบูชาเทพเจ้าประจำสระ เพราะพวกเขาเชื่อว่าน้ำที่ไหลออกมาจากท่อเหล่านี้บำบัดโรคได้ และช่วยชำระสิ่งไม่ดีออกไปชีวิตค่ะ คนไทยคนไหนใจถึงก็ลงไปอาบกับเขาได้ไม่ว่ากัน