[CR] หยุดเสียใจเพราะคนขี้หลี เลิกร้องไห้เพราะซีรีย์เกาหลี เว้นการกินส้มตำแซ่บอีหลี ให้ธรรมชาติกอดพวกนาย4วัน3คืนที่"เกาะบาหลี"

ทำไมโลกมันช่างน่าเบื่อขนาดนี้
เบื่อที่ต้องตื่นไปทำงาน
เบื่อคนเยอะแยะบนบีทีเอส
ไปเดินห้างก็ไม่รู้จะทำอะไร
ไปคาเฟ่ที่ไหนก็ไม่ตอบโจทย์…
ถ้าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นายประสบอยู่ ชัดเจนแล้วแหละว่าร่างกายของนายต้องการให้ธรรมชาติเท่านั้นเป็นผู้เยียวยา
แต่จะเอายังไงล่ะ ทะเลก็อยากไป ภูเขาก็อยากสัมผัส วัฒนธรรมก็อยากจะเห็น…
เราขอเสนอ “เกาะบาหลี” ให้พวกนายเลยละกัน ขอแค่พวกนายมีเวลาสัก4วัน3คืน รับรองไม่มีผิดหวัง พร้อมยังอ่ะ พร้อมแล้วตามมาเล้ยยยยยยยย



อย่าเพิ่งคิดว่าโอ้ยยยยย ไอคนเขียน บ้ารึเปล่าาาาาาา แค่4วัน3คืนจะไปได้สักกี่ที่เชียว... เพราะมันไปได้เยอะอยู่นะ เวลาเท่านี้พวกนายสามารถเก็บความดีงามบนเกาะบาหลีได้ร้อยละ 85เลยทีเดียว ส่วนอีกร้อยละ15ที่เราไม่ได้ไป เราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาให้พวกนายเรียบร้อยแล้ว แหมะ ง่ายดายขนาดนี้พวกนายจะรออะไรอีกกกกกก ไปปปปๆๆๆๆ

ก่อนไปก็ต้องมีความรู้กันสักกะนิดสักกะหน่อย…ใจกลางของบาหลีอยู่ที่เมืองเดนปาซาร์(denpasar)ค่ะ เกาะบาหลีเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย เพื่อนบ้านของพี่ไทยเรานั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องความร้อนชื้นไม่ต้องพูดถึง ความร้อนอาจจะสูสี แต่ความชื้นต้องยอมให้พี่บาหลีเขาจริงๆค่ะ บาหลีมีทั้งหมด3ฤดู ช่วงที่ฟ้าโปร่ง อากาศเย็นสบายเหมาะจะไปเที่ยว คือช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคมค่ะ ส่วนช่วงเดือนตุลาคม-เดือนมีนาคมเป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งเราก็ไปช่วงนี้มา ข้อดีคือราคาตั๋วเครื่องบินจะถูก ข้อเสียคือจะออกไปไหนต้องพกร่มไปด้วยค่ะ ส่วนช่วงที่ไม่ควรไปเลยคือเดือนธันวาคมและเดือนมกราคม เพราะฝนนี่ตกกันแบบหนักหน่วง ขนาดที่คนบาหลีเองก็ยังไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเลยนะจะบอกให้




คนบาหลีนับถือศาสนาฮินดู เชื่อเรื่องจิตวิญญาณ และที่สำคัญคือ คนที่นี่รักน้ำบูชาน้ำค่ะ ทุกการกราบไหว้ การสักการะ การพักผ่อน และการเอ็นเตอร์เทน เกี่ยวข้องกับน้ำทั้งหมด ได้ไปเห็นอะไรอย่างนี้ก็ช่วยคลายความร้อนให้คนไทยอย่างพวกเราได้เยอะเหมือนกัน และสำหรับใครที่ฝันอยากจะเป็นเศรษฐีเงินล้านนะคะ คุณได้เป็นแน่นอนค่ะถ้าคุณไปที่นี่ เพราะสกุลเงินที่ใช้ที่นี่คือรูเปียห์ของอินโดนีเซีย 1บาทเท่ากับ395หรือเกือบ400รูเปียห์ 10,000รูเปียห์ประมาณ25บาท 50,000รูเปียห์ประมาณ130บาท แหมะ โม้เพื่อนได้เลยว่ากินข้าวจานละห้าหมื่น นอนโรงแรมคืนละสี่แสน(1,000บาท) อย่างคูล อย่างคูล

วันแรกพอถึงบาหลีปุ๊ป เราพุ่งตรงจากสนามบินไปที่ที่พักเลยค่ะ แนะนำว่าพอถึงสนามบินแล้วให้เดินออกมาหน่อย มาเรียกรถแท็กซี่ข้างนอกเอา เพราะแท็กซี่ในสนามบินนี่ขี้โกง โก่งราคามากค่ะ แล้วจะตามตื๊อมากๆๆๆ ตื๊อๆๆๆ บอกไม่เอาๆๆๆก็ไม่เลิกตื๊อค่ะ แฟนเรายังไม่ตื๊อเราขนาดนี้เลย…เดี๋ยว…มีแฟนหรอปิง?...ไม่…โอเคผ่านไป ตัดมาตอนถึงที่พักค่ะ5555555555555 เราพักที่โรงแรมชื่อ The Bene Kuta hotel คือดีงามมากกกกกกกกกกก คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ โรงแรมนี้อยู่ห่างจากหาดกูตา หาดที่ป๊อปปูล่าที่สุดบนเกาะบาหลีเพียง200เมตรเท่านั้น นอกจากราคาย่อมเยาว์(1,000-1,900บาทต่อคืน) ห้องพักดี บริการดี มีสปาในโรงแรม มีพนักงานที่เป็นมิตรและเม้าท์เก่งมากๆแล้ว ตรงข้ามโรงแรมยังมี tourism information center สะดวกสบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ





ขออธิบายก่อนว่า tourism information centerบนเกาะบาหลีมันดียังไง มันจะเป็นเหมือนบูธเล็กๆที่มีอยู่ทั่วเกาะค่ะ นอกจากจะให้คำแนะนำเรื่องการท่องเที่ยวบนเกาะแล้ว ยังมีบริการรับจ้างขับรถพาเที่ยว ซึ่งอยู่ที่นั่นสี่วันเราจ้างสี่วันเลยค่ะ คือเขาจะขับรถ(ซึ่งเป็นรถส่วนตัวของเขา)พาเราไปสถานที่ต่างๆที่เราแพลนไว้ และช่วยจัดตารางเที่ยวให้เรา ว่าแต่ละที่ที่เราอยากไปอันไหนอยู่ใกล้อันไหน ไหนอันควรไปวันเดียวกัน พาไปกินอาหารพื้นเมืองเด็ดๆ ที่สำคัญคนบาหลีพูดอังกฤษคล่องทุกคนค่ะ สื่อสารกันรู้เรื่อง ไม่มีนั่งเงียบนั่งมึนแน่นอน เราสงสัยหรืออยากรู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวเขาก็ตอบเราได้หมดค่ะ เรียกกว่าเป็นไกด์ส่วนตัวเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องราคาเขาจะคิดไม่เป็นวันก็เป็นชั่วโมงค่ะ อย่างเช่น8-10ชั่วโมง คิดเป็นเงินไทยประมาณ1,000บาท เต็มวัน1,500บาท ถ้ามากัน4-5คน หารกันก็โอเคเลย นี่เป็นราคาที่เราต่อรองกับเค้าแล้วนะคะ ยังไงถ้าใครจะไป เรามันใจว่าคนไทยมีความสามารถทางด้านนี้อยู่แล้ว เอาออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ค่ะ55555555555555

ส่วนการเดินทางด้วยวิธีอื่นก็มี จะไปรอขึ้นบัสเป็นรอบตามจุดต่างๆรอบเกาะก็ได้ หรือจะนั่งสองแถวไปลงแต่ละที่ก็ได้ แต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไกลออกไปก็จะลำบากหน่อยค่ะ

กว่าจะเช็คอินที่พัก ตกลงเรื่องจ้างคนขับรถเสร็จก็ปาไป11โมงแล้ว พอออกจากที่พักพี่เอ็ดดี้(ชื่อคนขับรถของเรา)แกก็พาพวกเราตรงไปกินมื้อเที่ยงเลยค่ะ เป็นอาหารพื้นเมืองของบาหลี ซึ่งมันอร่อยแบบบรมมมมมมม ขออภัยที่จำชื่อเมนูไม่ได้ แต่เอารูปมาฝากกัน ถ้าใครไปก็เปิดรูปนี้ถามคนบาหลีเลยนะ55555555555555 เติมพลังกันก่อนค่ะ วันนี้ยังต้องไปต่อกันอีกยาว



มาถึงแล้วค่ะที่แรก “Bajra Sandhi Monumen” พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ภายในจัดแสดงภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับความเป็นมาของเกาะบาหลี สถาปัตยกรรมและประติมากรรมแบบบาหลีค่ะ ก็ถือว่าปูพื้นฐานความรู้ก่อนจะไปเที่ยวที่อื่นละกัน สำหรับเราที่นี่ไม่มีอะไรมาก แต่สำหรับคนบาหลีที่นี่ถือเป็นอนุสาวรีย์เสรีภาพของพวกเขาเลยแหละ





มาต่อกันที่ “วัดทามัน อายุน หรือ Pura Taman Ayun”ค่ะ Puraแปลว่าวัดหรือวิหารนะคะ บอกกันไว้ก่อนเพราะหลังจากนี้คงเจอคำนี้บ่อยๆ วัดทามัน อายุน เป็นวัดที่สวยงามติดอันดับ 1ใน6 ของวัดบาหลี เคยได้รับรางวัลมรดกโลก UNESCOเมื่อปี 2012 จุดเด่นอยู่ที่หลังคาทรงเมรุหลายชั้น และสระน้ำที่ล้อมรอบวัดค่ะ วัดนี้เป็นวังเก่าสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษ ที่ 17 ใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมของกษัตริย์ราชวงศ์เม็งวี…เป็นไง ปวดหัวกันล่ะสิ เข้าเรื่องจริงจังวิชาการหน่อยไม่ได้ ปวดหัวกันเลยนะ เอาเป็นว่าถ้าพวกนายไปที่นี่ก็จะได้เห็นงานประติมากรรม สถาปัตยกรรม และการละเล่นการแสดงต่างๆที่บาหลีสุดๆ มาแล้วอินกันสุดๆไปเลยยยยย ท้องฟ้าอาจจะขุ่นๆ แต่รูปสวยถูกใจพวกนายแน่นอน ไปชมกันเลยไป










เออ ลืมบอกไปค่ะว่าวัดที่บาหลีทุกวัดเขาซีเรียสเรื่องการแต่งกาย ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายเขาไม่ให้ใส่ขาสั้น แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะทุกวัดจะอำนวยความสะดวกให้พวกเราด้วยผ้าคลุมหรือโสร่ง บางวัดก็คิดเงิน บางวัดก็ให้บริจาคตามศรัทธาค่ะ

ปิดท้ายวันแรกที่ “วิหารทานาห์ลอต หรือ Pura Tanah Lot”  อีกหนึ่งแลนมาร์คของบาหลีที่ถ้าใครจะไปนี่ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนอกจากพวกนายจะได้เห็นวิวสวยๆอย่างวิหารที่สร้างยื่นลงไปในทะเลแล้ว อีกหนึ่งความดีงามที่พวกนายจะได้เห็นคือนักเล่นเซิฟ(อันนี้สำหรับผู้หญิงค่ะ55555555) เพราะบริเวณนี้ติดกับมหาสมุทรอินเดีย ทำให้มีคลื่นสูงและแรงเหมาะแก่การโชว์ลีลาเล่นเซิฟสุดคูล ขอแทรกความรู้นิดนึงงงง นิดเดียวจริงๆ ไม่โกรธกันๆๆ วิหารนี้สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่16 นักบวชฮินดูสร้างที่นี่เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเลค่ะ วันแรกเอาพอหอมปากหอมคอพอเนอะ ไปพักผ่อนกันดีกว่า









ตื่นนนนนนนนนนนนนนนน ตื่นๆๆๆๆๆ เวลามาเที่ยวนี่สำคัญและมีค่าทุกนาทีนะฮะ จะมาหลับยาวโดนเตียงดูดไม่ได้ๆๆๆ เจ๊งกันพอดี ที่แรกที่เราจะพาพวกนายไปในวันที่สองนี่ถือว่าเป็นที่โปรดของเราที่นึงเลย ชื่อภาษาไทยว่า “วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์” หรือชื่อภาษาบาหลีว่า “Pura Tirta empul(ปูราเตียร์ตาอัมปีล)” วัดนี้ก็เหมือนกับทุกวัดค่ะ…อย่าเพิ่งคิดในใจว่าอ้าวเหมือนทุกวัดละจะพามาทำส้นอะไร เราหมายถึงก่อนเข้าไปในวัดพวกนายต้องนุ่งโสร่งก่อนนนนนนนนน เหมือนวัดอื่นๆไงงงงงงงงงง แหมะ ใจร้อนกันเหลือเกินนะ

วัดนี้อยู่ในเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าทัมปักสิริง(tampak siring) เปิด8โมงเช้าถึง4โมงเย็นค่ะ ค่าเข้าคนละ15,000รูเปียห์หรือประมาณ40บาท ชาวบาหลีเชื่อว่าพระอินทร์เป็นผู้สร้างวัดนี้ ภายในวัดก่อนเข้าสู่บริเวณน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จะมีศาลาสำหรับสักการะ ศาลให้เทพเจ้าสิงสถิต และวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่แบ่งเป็นชั้นๆตามความสำคัญ(ชั้นที่อยู่ในสุดคือศักดิ์สิทธ์ที่สุด) พอเข้าไปในบริเวณน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แล้วจะเห็นคนบาหลีลงไปอาบน้ำและถวายเครื่องบูชาเทพเจ้าประจำสระ เพราะพวกเขาเชื่อว่าน้ำที่ไหลออกมาจากท่อเหล่านี้บำบัดโรคได้ และช่วยชำระสิ่งไม่ดีออกไปชีวิตค่ะ คนไทยคนไหนใจถึงก็ลงไปอาบกับเขาได้ไม่ว่ากัน







ชื่อสินค้า:   เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่