สวัสดีค่ะ ดิฉันเพิ่งเรียนจบและทำงานอยู่ที่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งตอนสัมภาษณ์งานเค้ารับเป็นสัญญาจ้าง 6 เดือน
ตอนนี้ใกล้ครบสัญญาจ้างแล้วเหลืออีก 1 เดือน ซึ่งทางบริษัทกำลังจะต่อสัญญาจ้างแต่ไม่ได้บอกว่าจะบรรจุให้
ตอนสัมภาษณ์ก็บอกว่าจะบรรจุให้เมื่อครบสัญญาจ้าง ความรู้สึกคือท้อนิดหน่อยค่ะแต่ดิฉันเป็นคนแอคทีฟตลอดเวลา
เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และมีความตั้งใจว่าอยากทำงานที่ใดสักที่เอาประสบการณ์ทำไปสักพักและกำลังเรียนต่อโทเพื่อนำความรู้ไปใช้ในการทำงาน
ตอนที่ดิฉันมาสัมภาษณ์และรู้ว่าได้เป็นสัญญาจ้างไปก่อนดิฉันก็ไม่คิดมาก คิดแค่ว่าเรามาทำงานเพิ่งเรียนจบเขาเปฺิดโอกาสให้เราทำก็ทำไปเต็มที่กับมัน
เพราะคนเราไม่ได้มีโอกาสมากมาย และหวังว่าเขาจะบรรจุให้เพราะตอนสัมภาษณ์เขาบอกอย่างนั้นนะค่ะ
เชื่อว่าหลายคนทำงานก็อยากมั่นคงในหน้าที่การงานไม่มีใครอยากย้ายงานบ่อยๆอยู่ตลอดเวลาตลอดเวลา
ถ้าดิฉันไปสัมภาษณ์ที่อื่นก็คงดูไม่ดีรึป่าวค่ะ เพราะรีคูสคงคิดว่าความอดทนมีน้อยทำยังไม่ถึงปีก็เปลี่ยนจะบอกว่าอยากเปลี่ยนงานเพราะที่เดิมเป็นอัตราจ้างแล้วเขาไม่บรรจุให้ก็คงดูไม่โอเค แต่ถ้าทำต่อไปต่อสัญญาอีก 6 เดือนเท่ากับว่าดิฉันเป็นอัตราจ้างครบ 1 ปี แล้วในขณะนั้น6เดือนก็ต้องมานั่งภวงค์ว่าพอครบหกเดือน เขาจะต่อสัญญาจ้างหรือจะบรรจุให้ หรือจะ เลิกจ้างรึป่าวก็ไม่รู้ ถ้าเลิกจ้างเราก็ต้องหาที่ใหม่ ถ้าไปสมัครที่อื่นเขาถามถึงประสบการณ์แล้วถ้าจะไปบอกเขาว่ามีประสบการณ์การทำงานมา 1 ปี แต่เป็นสัญญาจ้างเขาไม่ได้บรรจุให้ เขาก็จะคิดว่าเราคงไม่มีประสิทธิภาพพอที่บริษัทนั้นเขาบรรจุให้รึป่าวค่ะ
ซึ่งในความเป็นจริงดิฉันไม่เคยย่อท้อต่อการทำงาน ทำงานด้วยความตั้งใจ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา รวมไปถึงสร้างสีสันบบรยากาศในที่ทำงานให้สนุกสนานเพราะดิฉันเป็นร่าเริงอารมดี แต่ทำไมเขาถึงเหมือนไม่เห็นคุณค่าเขาต่อสัญญาจ้างแต่ไม่บรรจุให้ทั้งๆที่แผนกนั้นคนก็ลาออกไปแล้ว 2 ซึ่งมันก็ต้องมีอัตราว่างแน่นอน ดิฉันกำลังโดนเอาเปรียบรึป่าว และดิฉันควรทำอย่างไร ขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์หน่อยนะค่ะ
จะได้มีกำลังใจในการทำงาน เพราะดิฉันต้องทำงานส่งตัวเองเรียนต่อโท และส่งน้องเรียนต่อมัทธยมอยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ อยากทำงานที่มันมั่นคง
ขอโทษนะค่ะหากพิมอะไรผิดพลาดไป แค่อยากระบายให้ฟังและอยากได้คำแนะนำที่ดี
ตอนนี้ก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ ^^เพราะชีวิตคนเราไม่ได้มีโอกาสเข้ามาบ่อยๆเสมอไปอยู่กับปัจจุบันทำสิ่งปัจจุบันให้ดีที่สุดหวังว่าสักวันเขาคงเห็นถึงความตั้งใจ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและรับฟังนะค่ะ
ทำงานกับบริษัทใหญ่แต่ไม่ได้รับการบรรจุเป็นแค่อัตราจ้าง ครบสัญญาก็ต่อเพิ่มซึ่งในตอนสัมภาษณ์ก็บอกว่าจะบรรจุให้
ตอนนี้ใกล้ครบสัญญาจ้างแล้วเหลืออีก 1 เดือน ซึ่งทางบริษัทกำลังจะต่อสัญญาจ้างแต่ไม่ได้บอกว่าจะบรรจุให้
ตอนสัมภาษณ์ก็บอกว่าจะบรรจุให้เมื่อครบสัญญาจ้าง ความรู้สึกคือท้อนิดหน่อยค่ะแต่ดิฉันเป็นคนแอคทีฟตลอดเวลา
เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และมีความตั้งใจว่าอยากทำงานที่ใดสักที่เอาประสบการณ์ทำไปสักพักและกำลังเรียนต่อโทเพื่อนำความรู้ไปใช้ในการทำงาน
ตอนที่ดิฉันมาสัมภาษณ์และรู้ว่าได้เป็นสัญญาจ้างไปก่อนดิฉันก็ไม่คิดมาก คิดแค่ว่าเรามาทำงานเพิ่งเรียนจบเขาเปฺิดโอกาสให้เราทำก็ทำไปเต็มที่กับมัน
เพราะคนเราไม่ได้มีโอกาสมากมาย และหวังว่าเขาจะบรรจุให้เพราะตอนสัมภาษณ์เขาบอกอย่างนั้นนะค่ะ
เชื่อว่าหลายคนทำงานก็อยากมั่นคงในหน้าที่การงานไม่มีใครอยากย้ายงานบ่อยๆอยู่ตลอดเวลาตลอดเวลา
ถ้าดิฉันไปสัมภาษณ์ที่อื่นก็คงดูไม่ดีรึป่าวค่ะ เพราะรีคูสคงคิดว่าความอดทนมีน้อยทำยังไม่ถึงปีก็เปลี่ยนจะบอกว่าอยากเปลี่ยนงานเพราะที่เดิมเป็นอัตราจ้างแล้วเขาไม่บรรจุให้ก็คงดูไม่โอเค แต่ถ้าทำต่อไปต่อสัญญาอีก 6 เดือนเท่ากับว่าดิฉันเป็นอัตราจ้างครบ 1 ปี แล้วในขณะนั้น6เดือนก็ต้องมานั่งภวงค์ว่าพอครบหกเดือน เขาจะต่อสัญญาจ้างหรือจะบรรจุให้ หรือจะ เลิกจ้างรึป่าวก็ไม่รู้ ถ้าเลิกจ้างเราก็ต้องหาที่ใหม่ ถ้าไปสมัครที่อื่นเขาถามถึงประสบการณ์แล้วถ้าจะไปบอกเขาว่ามีประสบการณ์การทำงานมา 1 ปี แต่เป็นสัญญาจ้างเขาไม่ได้บรรจุให้ เขาก็จะคิดว่าเราคงไม่มีประสิทธิภาพพอที่บริษัทนั้นเขาบรรจุให้รึป่าวค่ะ
ซึ่งในความเป็นจริงดิฉันไม่เคยย่อท้อต่อการทำงาน ทำงานด้วยความตั้งใจ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา รวมไปถึงสร้างสีสันบบรยากาศในที่ทำงานให้สนุกสนานเพราะดิฉันเป็นร่าเริงอารมดี แต่ทำไมเขาถึงเหมือนไม่เห็นคุณค่าเขาต่อสัญญาจ้างแต่ไม่บรรจุให้ทั้งๆที่แผนกนั้นคนก็ลาออกไปแล้ว 2 ซึ่งมันก็ต้องมีอัตราว่างแน่นอน ดิฉันกำลังโดนเอาเปรียบรึป่าว และดิฉันควรทำอย่างไร ขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์หน่อยนะค่ะ
จะได้มีกำลังใจในการทำงาน เพราะดิฉันต้องทำงานส่งตัวเองเรียนต่อโท และส่งน้องเรียนต่อมัทธยมอยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ อยากทำงานที่มันมั่นคง
ขอโทษนะค่ะหากพิมอะไรผิดพลาดไป แค่อยากระบายให้ฟังและอยากได้คำแนะนำที่ดี
ตอนนี้ก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ ^^เพราะชีวิตคนเราไม่ได้มีโอกาสเข้ามาบ่อยๆเสมอไปอยู่กับปัจจุบันทำสิ่งปัจจุบันให้ดีที่สุดหวังว่าสักวันเขาคงเห็นถึงความตั้งใจ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและรับฟังนะค่ะ