** รฤกสุนทรภู่ ** ๒๖ มิ.ย. ๒๕๕๘
๑) สาลินีฉันท์ ๑๑
๐ หลวงสุนทรภู่แกล้ว กวีแนวประพนธ์กลอน
ดีเก่งกล้ากลสอน ประศาสน์ศรีประสาทใคร่
ปราดเปรื่องลือนามหล้า ระลึกฟ้าระลึกสมัย
กานท์กาพย์ปราดเปรื่องไซร้ กสานติ์เอกพิทูรชอง
ชาญแซ่ซ้องเปรียบปาน ฤดีมาน มนุญผ่อง
เอกศาสตร์องก์ศิลป์ก้อง กระเกริ่นร้องกระจรจันท์ ฯ
๒) กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ ( ธนัญชยางค์ )
๐ บรรพ์กวีภู่ แจ้งร่ายครูรู้
ดั่งดาราชู เชิดช้องสมปอง
เปี่ยมอณูเนา จิตเกลาแลมอง
ค่าพิมลคล้อง คู่ห้วงดวงแด ฯ
๐ สุนทรภู่สร้าง สื่อสรรค์สางวาง
ทิพย์ทัศน์บ่จาง จืดแท้เพ็ญแข
วิจักขณ์วางจัน โจษบรรณนาแปร
กาพย์ฉันท์โคลงแล้ ลึกล้ำคำกวี ฯ
๓) กลอนแปดสุภาพ
๐ สุปาณีภู่ท้วยสุนทรศรี ดั่งกวีกลอนสลักล้วนเลิศมหา
เอกอุสอนศิลป์ศาสตร์ปราชญ์แลครา ยอดปรัชญาถ้วนทั่วร้อยรอยกล
สถิตสู่ฟากฟ้าสันรวงไสว ดุจดาวใจดวงจรัสจ้าพหล
พิมานรวงแดนเทพไท้รามนตร์ ปุถุชนกล้ากลั่นฟื้นคืนกลอน
สุปรีย์เลิศปราชญ์แล้แลองอาจ ก็สามารถลงรักษ์ถ้อยอักษร
ยั่งยืนยงยืนหยัดรัตนาพร พรั่งพรูสอนสร้อยสุดซึ้งสยามนรา
สุนทรภู่แม้ชีพม้วยมรณ์จาก บ่ได้พรากกลอนแปดปั้นปัญหา
สู่สมพรสมพิศมิตรฦาชา ช่วยรักษาดั้นสู่แคว้นแดนดิน ฯ
๔) โคลงสี่สุภาพ
๑ หลวงสุนทรภู่แกล้ว กวี
แนวประพนธ์กลอนดี เก่งกล้า
กลสอนประศาสน์ศรี ประสาทใคร่
ปราดเปรื่องลือนามหล้า ระลึกฟ้าระลึกสมัย ฯ
๒ กานท์กาพย์ปราดเปรื่องไซร้ กสานติ์
เอกพิทูรชองชาญ แซ่ซ้อง
เปรียบปานฤดีมาน มนุญผ่อง
เอกศาสตร์องก์ศิลป์ก้อง กระเกริ่นร้องกระจรจันท์ ฯ
๓ บรรพ์กวีภู่แจ้ง ร่ายครู
รู้ดั่งดาราชู เชิดช้อง
สมปองเปี่ยมอณู เนาจิต เกลาแล
มองค่าพิมลคล้อง คู่ห้วงดวงแด ฯ
๔ สุนทรภู่สร้างสื่อ สรรค์สาง
วางทิพย์ทัศน์บ่จาง จืดแท้
เพ็ญแขวิจักขณ์วาง จันโจษ บรรณนา
แปรกาพย์ฉันท์โคลงแล้ ลึกล้ำคำกวี ฯ
๕ สุปาณีภู่ท้วย สุนทร
ศรีดั่งกวีกลอน สลักล้วน
เลิศมหาเอกอุสอน ศิลป์ศาสตร์ ปราชญ์แล
ครายอดปรัชญาถ้วน ทั่วร้อยรอยกล ฯ
๖ สถิตสู่ฟากฟ้า สันรวง
ไสวดุจดาวใจดวง จรัสจ้า
พหลพิมานรวง แมนเทพ ไท้รา
มนตร์ปุถุชนกล้า กลั่นฟื้นคืนกลอน ฯ
๗ สุปรีย์เลิศปราชญ์แล้ แลองค์
อาจก็สามารถลง รักษ์ถ้อย
อักษรยั่งยืนยง ยืนหยัด รัตนา
พรพรั่งพรูสอนสร้อย สุดซึ้งสยามนรา ฯ
๘ สุนทรภู่แม้ชีพ ม้วยมรณ์
จากบ่ได้พรากกลอน แปดปั้น
ปัญหาสู่สมพร สมพิศ มิตรฦา
ชาช่วยรักษาดั้น สู่แคว้นแดนดิน ฯ..
** รฤกครูสุนทรภู่ ** ( ฉันท์ กาพย์ กลอน โคลง )
๑) สาลินีฉันท์ ๑๑
๐ หลวงสุนทรภู่แกล้ว กวีแนวประพนธ์กลอน
ดีเก่งกล้ากลสอน ประศาสน์ศรีประสาทใคร่
ปราดเปรื่องลือนามหล้า ระลึกฟ้าระลึกสมัย
กานท์กาพย์ปราดเปรื่องไซร้ กสานติ์เอกพิทูรชอง
ชาญแซ่ซ้องเปรียบปาน ฤดีมาน มนุญผ่อง
เอกศาสตร์องก์ศิลป์ก้อง กระเกริ่นร้องกระจรจันท์ ฯ
๒) กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ ( ธนัญชยางค์ )
๐ บรรพ์กวีภู่ แจ้งร่ายครูรู้
ดั่งดาราชู เชิดช้องสมปอง
เปี่ยมอณูเนา จิตเกลาแลมอง
ค่าพิมลคล้อง คู่ห้วงดวงแด ฯ
๐ สุนทรภู่สร้าง สื่อสรรค์สางวาง
ทิพย์ทัศน์บ่จาง จืดแท้เพ็ญแข
วิจักขณ์วางจัน โจษบรรณนาแปร
กาพย์ฉันท์โคลงแล้ ลึกล้ำคำกวี ฯ
๓) กลอนแปดสุภาพ
๐ สุปาณีภู่ท้วยสุนทรศรี ดั่งกวีกลอนสลักล้วนเลิศมหา
เอกอุสอนศิลป์ศาสตร์ปราชญ์แลครา ยอดปรัชญาถ้วนทั่วร้อยรอยกล
สถิตสู่ฟากฟ้าสันรวงไสว ดุจดาวใจดวงจรัสจ้าพหล
พิมานรวงแดนเทพไท้รามนตร์ ปุถุชนกล้ากลั่นฟื้นคืนกลอน
สุปรีย์เลิศปราชญ์แล้แลองอาจ ก็สามารถลงรักษ์ถ้อยอักษร
ยั่งยืนยงยืนหยัดรัตนาพร พรั่งพรูสอนสร้อยสุดซึ้งสยามนรา
สุนทรภู่แม้ชีพม้วยมรณ์จาก บ่ได้พรากกลอนแปดปั้นปัญหา
สู่สมพรสมพิศมิตรฦาชา ช่วยรักษาดั้นสู่แคว้นแดนดิน ฯ
๔) โคลงสี่สุภาพ
๑ หลวงสุนทรภู่แกล้ว กวี
แนวประพนธ์กลอนดี เก่งกล้า
กลสอนประศาสน์ศรี ประสาทใคร่
ปราดเปรื่องลือนามหล้า ระลึกฟ้าระลึกสมัย ฯ
๒ กานท์กาพย์ปราดเปรื่องไซร้ กสานติ์
เอกพิทูรชองชาญ แซ่ซ้อง
เปรียบปานฤดีมาน มนุญผ่อง
เอกศาสตร์องก์ศิลป์ก้อง กระเกริ่นร้องกระจรจันท์ ฯ
๓ บรรพ์กวีภู่แจ้ง ร่ายครู
รู้ดั่งดาราชู เชิดช้อง
สมปองเปี่ยมอณู เนาจิต เกลาแล
มองค่าพิมลคล้อง คู่ห้วงดวงแด ฯ
๔ สุนทรภู่สร้างสื่อ สรรค์สาง
วางทิพย์ทัศน์บ่จาง จืดแท้
เพ็ญแขวิจักขณ์วาง จันโจษ บรรณนา
แปรกาพย์ฉันท์โคลงแล้ ลึกล้ำคำกวี ฯ
๕ สุปาณีภู่ท้วย สุนทร
ศรีดั่งกวีกลอน สลักล้วน
เลิศมหาเอกอุสอน ศิลป์ศาสตร์ ปราชญ์แล
ครายอดปรัชญาถ้วน ทั่วร้อยรอยกล ฯ
๖ สถิตสู่ฟากฟ้า สันรวง
ไสวดุจดาวใจดวง จรัสจ้า
พหลพิมานรวง แมนเทพ ไท้รา
มนตร์ปุถุชนกล้า กลั่นฟื้นคืนกลอน ฯ
๗ สุปรีย์เลิศปราชญ์แล้ แลองค์
อาจก็สามารถลง รักษ์ถ้อย
อักษรยั่งยืนยง ยืนหยัด รัตนา
พรพรั่งพรูสอนสร้อย สุดซึ้งสยามนรา ฯ
๘ สุนทรภู่แม้ชีพ ม้วยมรณ์
จากบ่ได้พรากกลอน แปดปั้น
ปัญหาสู่สมพร สมพิศ มิตรฦา
ชาช่วยรักษาดั้น สู่แคว้นแดนดิน ฯ..