ความสุขจากฟูลมูนยังไม่ทันจางก็ต้องตื่นจากเสียงข้อเข่าที่ดังในตอนเช้า นี้มันช่างเหมือนเสียงนาฬิกาปลุกเลย เป็นอีกวันที่ต้องตื่นเช้าเพราะต้องออกเดินทางจากเกาะพะงันไปเกาะเต่า เกาะนางยวน นี้ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เคยได้ยินเเต่ชื่อแต่ไม่เคยได้มาสัมผัสจนวันนี้


ขณะที่เรือออกเกาะพะงันก็นั่งนึกอยู่ว่าไปเกาะเต่าจะไปดำน้ำทันไหมน่า เพราะกว่าจะไปถึงก็สิบโมงนิดๆแหละเลย ตัดสินใจโทรไปหาพี่ที่ แสงทองทัวร์ พี่คับๆจะออกไปดำน้ำกี่โมง พอดีผมจะถึงสิบโมงทันไหม พี่ที่ปลายสายตอบกลับมาอย่างทันทีว่าทันน้องๆเดี๋ยวพี่ไปรอรับที่ท่าเรือเลย ต้นคุงก็ปลื้มปริ่มว่าวันนี้ไม่ได้มานั่งรอเมาตอนเย็นอย่างเดียวเเหละ พอเรือเทียบเกาะเเค่นั้นเเหละวิ่งไม่คิดชีวิต จนมีพี่ที่ท่าเรือถามว่าน้องพักที่นี้ไหม ต้นคุงตอบเลยว่าพักที่นี้แหละค๊าบ พี่บอกงั้นไปทางขวานะ เห้ย!!! ชักเอะใจ ว่าทำไมต้องถามว่ะ หลังจากนั้นก็วิ่งต่อแต่ก็อดสงสัยไม่ได้เลยย้อนกลับมาถาม พี่ๆนี้เกาะเต่าใช่ไหม พี่บอกไม่ใช่น้องนี้มันเกาะนางยวน ชิปแหละทำไงดีว่ะ พี่ตะโกนบอกเป็นทอดๆว่าให้เรือรอก่อน ต้นคุงนี้วิ่งแทบตายตอนวิ่งลงว่าไวแหละนะ ตอนวิ่งกลับนี้ นึกถึงตอนเเจ๊ค ดอร์สัน ตอนได้ขึ้นเรือไททานิคยังไง ยังงั้นเลย พอเรือออกมีสายตาที่อยู่ท้ายเรือมองแล้วยิ้ม คงนึกในใจทำไมไม่ฟังว่าถึงไหนก่อนลง ( แหม...ก็อยากไปดำน้ำนี้หว่า) เอาล่ะถึงเกาะเต่าจิงๆซะที เห็นพี่สาวสุดสวยยืนรอรับที่ท่าเรือ แล้วบอกว่าไปขึ้นเรือเลยนะเรือจะออกไปดำน้ำ นึกในใจจะไม่ให้เก็บเเรงไว้ดำน้ำเลยหรา เหนื่อยจุง เรือออกจากท่าเลยถามพี่เอ้คนเรือว่าไปไหนบ้าง สรุปไปดำน้ำ 4 จุดปิดท้ายด้วยเกาะนางยวน


จุดเเรกที่ดำน้ำจะเป็นจุดที่มีปลาฉลาม แบบตื่นเต้นเล็กๆแต่โชว์แมนโดดลงไปเลย ดำไปซักพักพี่ไม่เห็นมีฉลาดเลย คนขับเรือตะโกนมาว่าฉลามกลับบ้านนอนหมดแล้วขึ้นเรือเถอะไปอีกที่สวยกว่าเยอะ


จุดที่ 2 นี้ยอมรับว่าสวยจิงเพราะปะการังเยอะมากดำกันเพลินเลยที่เดียว


จุดที่ 3 และ 4 จะมีปลาค่อนข้างเยอะหลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาครึ่งค่อนวันแหละ ก็ได้กินข้าวซะทีเป็นกระเพราไก่ที่อร่อยมากเพราะทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ขณะที่กินข้าวไปเรื่อยๆเรือก็พาเราไปสู่เกาะนางยวน


ให้เวลาอยู่บนเกาะประมาณ 2 ชม พอเหยียบเกาะได้เเค่นั้นแหละต้นคุงรีบเดินหาจุดชมวิวเลย คิดในใจจะสูงซักแค่ไหนกัน เดินขึ้นเขายังไม่ถึงครึ่งทางเลยลมจะจับเหนื่อยมว๊ากก ( เสียงสูง )


แต่เอาว่ะไหนๆก็ไหนๆล่ะเอาให้สุด พอขึ้นไปแค่นั้นแหละ ( หลายคนคงคิดว่าจะได้ยินคำพูดว่าเห็นวิวแล้วหายเหนื่อย ใช่ไหม ) ฮึฮึ คุณคิดถูกแต่ๆแค่ครึ่งเดียว เพราะมันร้อนมากจนแทบไม่อยากเดินไปถ่ายรูปเลยแถมนักท่องเที่ยวก็เยอะแต่ไม่มีคนถ่ายรูปซักคน สรุปลองถามๆดูเหนื่อยเหมือนกันทุกคนเลยพักก่อน ฮ่าๆ เอาล่ะได้รูปตามต้องการเเหละ


เอาไงดีหว่าเวลาเหลือเป็นชั่วโมงจะว่ายน้ำก็ไม่ไหว อาบเเดดก็ไม่น่ารอดเพราะขนาดยังไม่อาบยังดำขนาดนี้ อาบไปละเเม่เอ้ยยย เลยตัดสินใจไปกินน้ำแตงโมปั่นให้ชุ่มฉ่ำหัวใจดีกว่า พี่ๆเก็บตังค์ด้วยเท่าไหร่คับ 100 บาทจ้า สำหรับน้ำแตงโมปั่น วิวก็ได้ดูแล้วน้ำก็กินแล้วไปรอที่เรือดีกว่าพอทุกคนมาครบก็ออกเรือกลับสู่เกาะเต่า



พี่สาวคนสวยก็มารอรับเหมือนเคยพร้อมเอารถไปส่งที่พัก เลยถามเท่าไหร่คับพี่ค่าทัวร์วันนี้ พี่สาวตอบปกติ 750 บาท พี่คิดเราเเค่ 630 พอ ว้าวว..ขอบคุณค๊าบ ต้นคุงนั่งกะบะท้ายจนมาถึงที่พักก็ขอบคุณกันอีกที


ตอนนี้ก็เย็นแหละอาบน้ำแล้วออกไปดูเเสงสีดีกว่า อ้อลืมบอก แหล่งราตรีของเกาะเต่า ก็คือ หาดทรายรี ที่ต้นคุงพักนี้เอง มาเกาะเต่าทั้งที่ไม่ถ่ายต้นมะพร้าวเอนก็คงไม่ใช่มั้งเลยเปิดหนังสือแล้วถามที่เคาเตอร์ว่า มะพร้าวเนี้ยไปไกลไหม พนักงานบอกเดินเลียบชายหาด 5 นาทีก็ถึง 5นาทีก็แล้วไม่ถึงซะทีเเต่ระหว่างทางก็มีอะไรให้เราเดินชมไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพระอาทิตย์ตกดิน ชาวต่างชาติเล่นน้ำ หรือชาวต่างชาติที่อยู่กันเป็นกลุ่มๆพร้อมสำหรับปาร์ตี้คืนนี้ เดินมาจนเจอต้นมะพร้าวแหละที่นี้ล่ะรอพระอาทิตย์ตกดิน รอทั้งไฟที่ต้นไม้


เมื่อได้ภาพก็เดินกลับมานั่งตามร้านเเถวชายหาดกินข้าวแล้วก็รอดูอีกหนึ่งกิจกรรมคือ โชว์ควงกระบองไฟ


ซึ่งการที่มาเกาะเต่าก็ไม่ทำให้ผิดหวังจิงๆไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม แหล่งบันเทิงยามราตรี แต่การมาเที่ยวครั้งนี้สิ่งที่ได้กลับมาคือความประทับใจจากการช่วยเหลือของชาวบ้านที่มีน้ำใจให้กันตลอด...ขอบคุณค๊าบพี่น้องชาวไทย