ความเดิมจากตอนที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/32022642
กระทู้เดิมผมเขียนไว้เมื่อ 8 พ.ค.2557 โดยผมได้ไล่เรียงเหตุการณ์จาก ประสพการณ์ ส่วนตัวในวิกฤติต่างๆ ที่ได้เคยผ่านๆมา
โดยในตอนที่ผมเขียนนั้น บอกตรงๆ ผมยังไม่ทราบว่ามันเป็นวิกฤติแบบไหน แล้วเราจะเรียกว่าอะไร .............
แต่ที่แน่ๆ ผมไม่คิดว่ามันจะลากยาวมานานขนาดนี้ !!!!!
ส่วนตัวผม ถามว่ากระทบไหม ตอนนี้ก็เหมือนกับมันชินชากับเศรษฐกิจนิ่งๆ แบบนี้ไปแล้วครับ
โชคดีที่ บ้านไม่ต้อง ผ่อน/เช่า ค่าใช้จ่ายต่างๆผมถือว่าน้อย รายได้ที่เข้ามาแม้ว่าจะน่อยลงเยอะ แต่ก็พอประคองธุรกิจไปได้เรื่อยๆ
โดยไม่ต้องลดคน แต่ก็ไม่มีนโยบายรับคนเพิ่มเช่นกัน หากมีคนงานลาออกช่วงนี้ ผมก็คงไม่จ้างเพิ่ม
ตอนนี้ก็เลยเหมือนเริ่มปรับตัวได้กับสภาวะนิ่งๆ เริ่มชินกับการนั่งว่างๆเป็นบางช่วง มีเวลาไป รับ ส่ง ลูกๆมากขึ้น
ขอแสดงความเห็น แบบบ้านๆ ของผมในสภาวะปัจจุบันก่อนนะครับ
สภาพ "เงินเฟ้อติดลบ" แบบนี้ อาจจะเป็นต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยถึงสิ้นปี ผมมองว่ามันไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้ในภาพรวม
แต่อาจจะมีบางอุตสาหกรรมที่จะกระทบมากกว่าบางอัน แบบนี้ถือว่าปรกตินะครับ
ปัจจัยที่อาจจะทำให้เงินฝืดขึ้นไปอีกคือเรื่อง น้ำแล้ง ซึ่งจะเป็นตัวดูดซับกำลังซื้อจากเกษตรกร ขึ้นไปอีก อันนี้ถ้าหากเกิดแล้งกว่านี้อีก
ก็ถือว่าน่ากลัวครับ เพราะจะทำให้ซึมกันยาวยิ่งไปอีก ชาวบ้านระดับรากหญ้าที่เดือดร้อนอยู่แล้วก็จะยิ่งเดือดร้อนขึ้นไปอีก
ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการรายย่อยอย่างผม ถ้าอึดไหวถึงปีหน้า ผมว่าน่าจะค่อยๆดีขึ้นนะครับ ผมว่าตอนนี้สุดๆแล้ว ทนอีกนิดนะครับ
การใช้จ่ายอะไรที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก็งดๆไปก่อน ถ้ามีเงินเหลือเก็บ หรือ มีรายได้หัก ค่าใช้จ่าย แล้วไม่ติดลบ คุณน่าจะผ่านมันไปได้
กรณีที่คุณเป็นพนักงานกินเงินเดือน ก็คงใช้สูตรประคองตัวไปตามเดิม คือพยายามลดรายจ่ายไม่จำเป็น มีเงินสำรองสะสมไว้ในกรณีฉุกเฉิน4-6 เดือน
สถานการณ์คงไม่เลวร้ายถึงขั้นต้องปลดคนเหมือน ปี40
ขอย้ำอีกครั้งว่า ความเห็นของผมมองจากการที่ตัวเลขยอดขายมันนิ่งแบบนี้มาได้พักหนึ่งแล้วครับ คงแย่กว่านี้ยาก เว้นแต่มีเหตุไม่คาดฝันใหญ่
อันนี้คงสุดแท้แต่ความสามารถในการเดาของผมนะครับ แหะๆ
ที่เขียนมาก็เพียงแค่อยากให้กำลังใจเพื่อนๆ ชาว SME และ เพื่อนๆที่ได้อ่าน เผื่อได้ผ่อนคลายความกังวลไปบ้าง
ยินดีให้เพื่อนๆมาแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกันนะครับ ขอเว้นเรื่องการเมืองนะครับ ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรเราแก้มันไม่ได้แล้ว
ลองมาคุยเพื่อปรับทุกข์และเป็นกำลังใจให้กันดีกว่าครับ
ผ่านไป 1 ปีเศษ กับ จุดเริ่มของวิกฤติภาวะเงินฝืด (ขอคุยต่อจากกระทู้เก่า)
กระทู้เดิมผมเขียนไว้เมื่อ 8 พ.ค.2557 โดยผมได้ไล่เรียงเหตุการณ์จาก ประสพการณ์ ส่วนตัวในวิกฤติต่างๆ ที่ได้เคยผ่านๆมา
โดยในตอนที่ผมเขียนนั้น บอกตรงๆ ผมยังไม่ทราบว่ามันเป็นวิกฤติแบบไหน แล้วเราจะเรียกว่าอะไร .............
แต่ที่แน่ๆ ผมไม่คิดว่ามันจะลากยาวมานานขนาดนี้ !!!!!
ส่วนตัวผม ถามว่ากระทบไหม ตอนนี้ก็เหมือนกับมันชินชากับเศรษฐกิจนิ่งๆ แบบนี้ไปแล้วครับ
โชคดีที่ บ้านไม่ต้อง ผ่อน/เช่า ค่าใช้จ่ายต่างๆผมถือว่าน้อย รายได้ที่เข้ามาแม้ว่าจะน่อยลงเยอะ แต่ก็พอประคองธุรกิจไปได้เรื่อยๆ
โดยไม่ต้องลดคน แต่ก็ไม่มีนโยบายรับคนเพิ่มเช่นกัน หากมีคนงานลาออกช่วงนี้ ผมก็คงไม่จ้างเพิ่ม
ตอนนี้ก็เลยเหมือนเริ่มปรับตัวได้กับสภาวะนิ่งๆ เริ่มชินกับการนั่งว่างๆเป็นบางช่วง มีเวลาไป รับ ส่ง ลูกๆมากขึ้น
ขอแสดงความเห็น แบบบ้านๆ ของผมในสภาวะปัจจุบันก่อนนะครับ
สภาพ "เงินเฟ้อติดลบ" แบบนี้ อาจจะเป็นต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยถึงสิ้นปี ผมมองว่ามันไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้ในภาพรวม
แต่อาจจะมีบางอุตสาหกรรมที่จะกระทบมากกว่าบางอัน แบบนี้ถือว่าปรกตินะครับ
ปัจจัยที่อาจจะทำให้เงินฝืดขึ้นไปอีกคือเรื่อง น้ำแล้ง ซึ่งจะเป็นตัวดูดซับกำลังซื้อจากเกษตรกร ขึ้นไปอีก อันนี้ถ้าหากเกิดแล้งกว่านี้อีก
ก็ถือว่าน่ากลัวครับ เพราะจะทำให้ซึมกันยาวยิ่งไปอีก ชาวบ้านระดับรากหญ้าที่เดือดร้อนอยู่แล้วก็จะยิ่งเดือดร้อนขึ้นไปอีก
ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการรายย่อยอย่างผม ถ้าอึดไหวถึงปีหน้า ผมว่าน่าจะค่อยๆดีขึ้นนะครับ ผมว่าตอนนี้สุดๆแล้ว ทนอีกนิดนะครับ
การใช้จ่ายอะไรที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก็งดๆไปก่อน ถ้ามีเงินเหลือเก็บ หรือ มีรายได้หัก ค่าใช้จ่าย แล้วไม่ติดลบ คุณน่าจะผ่านมันไปได้
กรณีที่คุณเป็นพนักงานกินเงินเดือน ก็คงใช้สูตรประคองตัวไปตามเดิม คือพยายามลดรายจ่ายไม่จำเป็น มีเงินสำรองสะสมไว้ในกรณีฉุกเฉิน4-6 เดือน
สถานการณ์คงไม่เลวร้ายถึงขั้นต้องปลดคนเหมือน ปี40
ขอย้ำอีกครั้งว่า ความเห็นของผมมองจากการที่ตัวเลขยอดขายมันนิ่งแบบนี้มาได้พักหนึ่งแล้วครับ คงแย่กว่านี้ยาก เว้นแต่มีเหตุไม่คาดฝันใหญ่
อันนี้คงสุดแท้แต่ความสามารถในการเดาของผมนะครับ แหะๆ
ที่เขียนมาก็เพียงแค่อยากให้กำลังใจเพื่อนๆ ชาว SME และ เพื่อนๆที่ได้อ่าน เผื่อได้ผ่อนคลายความกังวลไปบ้าง
ยินดีให้เพื่อนๆมาแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกันนะครับ ขอเว้นเรื่องการเมืองนะครับ ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรเราแก้มันไม่ได้แล้ว
ลองมาคุยเพื่อปรับทุกข์และเป็นกำลังใจให้กันดีกว่าครับ