สวัสดีครับ ดีเจพี่อ้อย ดีเจพี่ฉอด

ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ "เคที่" ครับ อายุ26ปี ไม่ใช่ชายไม่ใช่หญิง แต่ผมคือเก้งกวางตัวน้อยๆที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะครับ

Club Friday ชื่อนี้ผมรู้จักจนเกือบสนิทและได้ติดตามมานานครับ ทั้งฟังผ่านวิทยุ จนบางครั้งอยากจะกด 02-665-8381แล้วโทรออก ทั้งผ่านเรื่องราวความรู้สึกแล้วแปลงเป็นตัวอักษรสู่ Pocket Book Club Friday ต่างๆ และปัจจุบันที่ชมผ่านจอทีวี ผ่านซีรี่ส์ที่มีตัวละครมาแสดงบทบาทนั้นๆจากเค้าโครงเรื่องจริงมาให้ชมกันจนอินไปกับตัวละครนั้นๆได้ดีเลยทีเดียว

-ระบาย
-ปรึกษา
-ปัญหา
-ความรัก
เมื่อสี่อย่างนี้มารวมตัวกัน ก็ต้องคิดถึง รายการClub Friday และพี่อ้อย พี่ฉอด ขึ้นมาทันที เชื่อว่าหลายๆคนก็เคยเป็น

ความรักของเคที่ รัก ที่หมายถึงคู่รัก มันช่างอาภัพยิ่งนัก แต่ถ้า รัก ที่หมายถึงรักครอบครัวพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูง ก็เป็นปรกติดีครับ แต่คู่รักนี่สิ เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งยังไงยังงั้น ไม่รู้สิ!

หลายคนมักมองว่า เคที่ เจ้าชู้ มีกิ๊กมีกั๊กมากมาย ก็ยอมรับนะครับว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้จริงๆ ก็ไม่รู้สิ เบ้าหน้าและบุคลิกส่วนตัวก็ไม่ได้ดูดี ดูหล่อหรือโดดเด่นหรอกนะครับ แถมยังคิดว่าตัวเองขี้เหร่ด้วยซ้ำไป

เข้าเรื่องเลยนะครับพี่อ้อย พี่ฉอด จริงๆแล้วเคที่ หนักอกหนักใจมานานมาก คือเมื่อปี2553 ตอนนั้นเรียนอยู่ปี3 ที่มหา'ลัย แห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และช่วงปิดเทอม ปรกติแล้วทุกๆช่วงปิดภาคเรียน เคที่ ก็กลับมาภูเก็ตตลอด และช่วงปิดเทอมนี้แหละครับ เคที่ ได้เจอคนรักที่คิดว่าใช่ เราเจอกันครั้งแรกที่ร้านอาหารกึ่งคลับแห่งหนึ่งในศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง เค้าคือชาวต่างชาติ ชื่อเสียงเรียงนามว่า "Alan" ซึ่งจริงๆแล้ว เคที่ ชอบชาวต่างชาติมาโดยตลอดนะ ไม่ชอบชายไทยนี่เป็นเหตุผลส่วนตัว ก็ไม่รู้สินะ

ออ บอกเลย ครั้งแรกที่เรารู้จักกัน เคที่ไม่รู้หรอกว่าเค้ามีแฟนอยู่รึป่าว ก็เค้าบอกว่าโสดอ่ะ และไม่รู้หรอกว่า เค้าร่ำรวยหรือยากดีมีจนอะไร ได้เพียงแต่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของแต่ละฝ่ายให้พอรู้จักตัวตนของแต่ละคนกันพอประมาณ แล้วผมก็หลงรักเค้า เพียงเพราะ เออ ดูอบอุ่นดี แล้วเราก็คบกันมาจนถึงทุกวันนี้

และเคที่ต้องกล่าวขอโทษ บุคคลที่ สอง สาม สี่ ห้า หก ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ ยอมรับว่าต้องโกหก ปิดบังมาโดยตลอด ทั้งเพื่อนๆสนิทที่เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ ทั้งน้องๆที่สุราษฎร์ธานี ที่เคยคบกันกับเคที่ โอเคร ยอมรับ เคที่ แอบคบซ้อน เจ้าชู้ ทั้งๆที่ใจเคที่อยู่ที่ ลุง "Alan" เคที่ ขอโทษจากใจจริงนะครับ

โอเครครับ กิ๊ก หรือ แฟน ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต เคที่ ในช่วงที่เคที่ มีลุง "Alan" อยู่นั้น เคที่ต้องขอโทษด้วยจริงๆ จะโกรธจะเกลียดเคที่ก็ได้นะครับ แต่จะบอกว่าตอนเรียนอยู่ที่สุราษฎร์ธานีมันเป็นช่วงเวลาที่เหงาเมื่อเห็นคนอื่นมีคู่กัน เดินจับมือกัน ทานข้าวกัน เพราะเคที่เองไม่ได้อยู่ด้วยกันกับลุงอลัน เลยทำตัวนิสัยไม่ดีจึงแอบมีกิ๊กมีแฟนเพื่อแลกกับความสุขเล็กๆน้อยๆให้กับตัวเองโดยรู้ทั้งรู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำ

ในยุคนั้น โลกโซเชี่ยวก็ไม่ได้มีช่องทางมากมายอะไรนัก ยามห่างกัน เคที่ก็ใช้บริการ SMS ติดต่อสื่อสารกันซะส่วนใหญ่ ไม่ได้แชทหรือโทรสนทนาอะไรมากมาย

พี่อ้อย พี่ฉอด ครับ นั่นเป็นแค่เพียงเรื่องราวเริ่มต้นที่ เคที่ อยากจะระบายความในใจ อยากจะปรึกษาพี่ๆทั้งสองครับ

เรื่องที่ เคที่ อยากปรึกษาพี่อ้อยพี่ฉอด อ่ะครับมันเรียบเรียงเป็นคำพูดยากสะเหลือเกินเพราะเรื่องราวความรักที่ เคที่ คิดอยู่เสมอว่า มันช่างดูเรียบๆง่ายๆ หรือดูไม่มีพิษไม่มีภัยแก่ตนเองและคนรอบข้างนั้น จริงๆแล้ว เคที่ คิดว่ามันช่างโหดร้ายและซับซ้อนเหลือเกิน

เมื่อไม่นานมานี้ เคที่ เริ่มเปิดเผยเรื่องราวชีวิตคู่มากขึ้น ทั้งในกลุ่มเพื่อนๆสนิทและบรรดาญาติๆ มีบ้างครับที่คนนั้นคิดอย่างนั้น คนนี้คิดอย่างโน้น คนนู้นคิดอย่างนี้ สารพัดความคิดเห็นและคำติฉินนินทา บ้างประโคมข่าวกันอย่างเอิกเกริกสนุกปากกัน

ด่าว่า อีตุ๊ด อีแต๋ว บ้างหล่ะ มีแฟนแก่รุ่นราวคราวพ่อบ้างหล่ะ หลอกเอาเงินทรัพย์สมบัติบ้างหล่ะ โอ้ยยยยยยย ต่างๆนานา ถ้าถามว่าเสียใจมั๊ย ก็แอบมีบ้างนะครับที่นอยๆ แต่ก็ยิ้มสู้ และได้แต่ตอบกลับไปบ้าง หยุดนิ่งทำเฉยๆไปบ้างครับพี่อ้อย พี่ฉอด

-- เป็นตุ๊ด เก้ง กวาง บ่าง ชะนี ---
ครับ อันนี้ ยอมรับ เพราะคนเรามันเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้ ถูกต้องมั้ยครับพี่อ้อย พี่ฉอด ถูกคนอื่นมองว่าผิดเพศ ผิดมนุษย์ แต่ก็นะ ตัดสินกันยากนะครับ ถ้ามามองว่ากลุ่มคนอีตุ๊ด อีแต๋ว มันไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ กลุ่มคนปรกติชายจริงหญิงแท้ ก็มีดี มีเลว กันทั้งหมด (ความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้พาดพิงใครนะ)

-- มีแฟนแก่ --
แล้วไง การครองรักหรือมีคู่ชีวิต มันไม่ได้มีสูตรตายตัวที่จะต้องมีแฟนอายุห่างกันเท่านั้นเท่านี้ แต่คู่รักแต่ละคู่มันเกิดจากความรักของคนสองคน ผมจะมีแฟนแก่คราวพ่อ มันผิดตรงไหน นี่แหละครับพี่อ้อยพี่ฉอด ที่หลายๆคนก็ต่างคิดว่าสาเหตุที่ เคที่ ไม่ยอม เปิดเผยรูป หรือ ตัวจริงของแฟน เพราะกลัวจะอายว่ามีแฟนแก่ ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ไม่อายเลยครับ เพราะปรกติก็ไปไหนมาไหน ช้อป เที่ยว เดินห้าง ดูหนัง ทานข้าว ด้วยกันโดยไม่ต้องเอาปิ๊ปมาคลุมหัวเลยสักครั้ง และปรกติก็เรียกชื่อเค้าว่า "ลุงอลัน" เรียกลุงมาตั้งแต่วันแรกที่คบกัน

-- หลอกเพื่อหวังเงินทอง --
ใช่ "ลุงอลัน" เป็นชาวอังกฤษ ประเทศที่ใครๆกล่าวขานกันว่าเมืองผู้ดี มีบ้าน มีแม่ มีญาติๆอยู่ลอนดอน และมีบ้านอยู่ที่ภูเก็ตกว้างขวางสุดหรู ในแบบสไตล์วิลล่า สามห้องนอน หลายห้องน้ำ มีสระน้ำกว้างใหญ่ มีสวนหย่อมสนามหญ้าบริเวณบ้าน มีแม่บ้านคอยดูแล มีรถยนต์ขับ มีหลายสิ่งหลายอย่างสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่แปลกไม่ผิดที่คนอื่นจะมองว่า เคที่ เป็นแฟน ลุงอลัน เพื่อหวังเงินทอง เพียงแต่ความคิดของพวกคุณนั้นคิดผิดครับ ก็อย่างที่ เคที่ เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ครั้งแรกที่เราตกลงคบกัน เคที่ ไม่รู้หรอกว่า เค้าร่ำรวยหรือยากดีมีจน แต่ เคที่ คิดเพียงว่าผู้ชายคนนี้ดูอบอุ่น และสเปค เคที่ คือ ชาวต่างชาติ ก็แค่นั้น ส่วนเรื่องเงินๆทองๆ เคที่ ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้มาครอบครองเลยครับ
ออ! บางที เห็น เคที่ มีของใช้นู่นนี่นั่น ก็คิดกันไปต่างๆนานาว่า คงหลอกให้ ลุงอลัน ซื้อให้ (OMG ชั้นก็ทำงานของชั้น เก็บหอมรอมริบ ก็ซื้อใช้จ่ายด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองค่ะ) จะห้ามความคิดคนนี่มันช่างยากสะเหลือเกินเน้อะ พี่อ้อย พี่ฉอด เน้อะ

-- ผิดหลักศาสนา --
ครับ อันนี้ก็ยอมรับความผิดแต่โดยดี ผิดตั้งแต่ผมเป็นเกย์แล้วหล่ะ แล้วยิ่งมีแฟนเพศเดียวกันยิ่งผิดทวีคูณ แต่ทำไงได้อ่ะ ชั้นก็รักของชั้น!

-- สารพัดคำนินทา --
คือพูดในสิ่งที่ใช่ อ่ะ ยอมรับได้ แต่ถ้า ปากหอยปากปู พูดไปเรื่อยในสิ่งที่ไม่จริงอ่ะ บ่องตง! เกลี๊ยด เกลียดคนพวกนี้ บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องพอเอาไปพูดกันสนุกปากจนดังก้องไปถึงคนเป็นพ่อเป็นแม่ นี่แหละ สงสารท่านมาก ที่ต้องมารับฟังเรื่องบ้าๆไม่เป็นเรื่อง แต่ก็เหอะ เชื่อว่า ถูกผิด ผิดถูก แต่ผมเป็นคนดีสะอย่าง ท่านคงอภัยเน๊อะ!

มัวพร่ำเพ้อกับ คำติฉินนินทา สะนานนนนนเลย
มาเรื่องความรักที่ได้เกริ่นกับพี่อ้อย พี่ฉอด ไว้อ่ะครับมันช่างดูยากเย็น แสนเข็ญ ลำเค็ญ อาภัพ

ผมขอตั้งชื่อเรื่องว่า..

"เส้นทางรัก มักขรุขระ"

พี่อ้อย พี่ฉอด ครับ บางทีผมพยายามจะไม่คิด แต่เพราะรักนี่แหละครับจึงต้องคิด(มาก) คือตอนผมเรียนอยู่สุราษฎร์ธานี ลุงอลันอยู่ภูเก็ตบ้างกลับลอนดอนบ้าง คือไปๆมาๆ ยอมรับช่วงนั้นไม่ค่อยหึงมากนัก เพราะอย่างที่ได้ขอโทษไว้ก่อนหน้านี้คือ ผมก็แอบมีกิ๊กเพื่อคลายเหงา

หลังจากเรียนจบ ผมกลับมาอยู่ภูเก็ตก็เริ่มทำงานเลยครับ ทุกๆวันหยุด ลุงอลันจะมารับผมไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน ทำนู่นนี่นั่นตามประสาคนเป็นแฟนกัน ณ ตอนนี้ มีแค่ น้าสาว เท่านั้นที่รู้ความเป็นไปของผมในแต่ละวัน บางทีวันหยุดบางสัปดาห์ผมเองมักปฏิเสธที่จะไม่ไปอยู่ด้วยกันกับลุงอลัน เพราะอยากพักร่างจากงานนอนนิ่งๆที่บ้านคนเดียวไรงี้ เพราะเชื่อว่ายังไงเราก็คือตัวจริง ไรงี้
ลุงอลันคงไม่แอบมีกิ๊กแก้เหงาหรอก (คิดในใจคนเดียว)

แต่บางเดือนลุงอลันจะต้องกลับไปลอนดอน คราวนี้หล่ะผมโคตรคิดถึง แต่ก็ไม่หึง อะไรมากนัก สำหรับลุงอลันบางทีสามเดือนจะอยู่ภูเก็ต สี่เดือนกลับไปลอนดอน คือไปๆมาๆ แต่อยู่ภูเก็ตมากกว่า และทุกๆครั้งที่ลุงอลันต้องเดินทางไปลอนดอนก็มักจะแวะไปหา "เพื่อน" ที่พัทยาทุกครั้งก่อนบินไปลอนดอน และเวลาบินกลับมาก็ต้องแวะหา "เพื่อน" ที่พัทยาเช่นเคย ก่อนบินกลับมาภูเก็ต เป็นแบบนี้มาโดยตลอด แต่ลุงอลันจะบอกให้ทราบทุกครั้งว่าอยู่ไหนทำอะไรยังไง แต่ผมก็คิดมากหึงหวงอยู่ดี หึง และกลัวว่าลุงอลันต้องมีกิ๊กอยู่ที่พัทยาเป็นแน่ (คิดเองเออเอง)

วันปรกติผมทำงานมีนะแอบคิดว่าลุงอลันจะต้องมีกิ๊กไปมาหาสู่ที่บ้าน จนเพื่อนสนิทผมเคยบอกว่าให้ลองแอบไปดูถึงที่บ้านบ้างไรงี้ แต่ไม่รู้ทำไม ไม่กล้าไปดู แล้วตอบตัวเองตลอดว่า ต้องไม่หึงๆๆๆๆๆๆ บางทีอยากถามแม่บ้านนะ แต่กลัวคำตอบที่ได้กลับมาแล้วเราจะยิ่งเจ็บ ก็เลยยอมทรมานใจตัวเองอยู่เรื่อยมา แต่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรให้มีพิรุธจับได้เลยแม้แต่นิด นั่นไงหรือว่าเราแค่คิดมากไปเอง

ความหึงความหวงยังไม่จบ ก็บ่อยครั้งที่เกิดขึ้นจนต้องคิด คือเวลานั่งรถด้วยกัน หากมีสายเข้า ลุงอลันจะไม่รับสาย หรือบางทีรับสายแต่รีบตัดบท แล้วรีบวางสายตลอด เนี่ยะ! มันคิดอ่ะ! แต่พยายามจะไม่คิดนะ หรือคิดบวกตลอดว่า อ๋อ แกคงไม่อยากคุยโทรศัพท์ขณะขับรถไรงี้

ความหึงหวงจบลง แต่เมื่อมาเจอกับคำว่า "มุสลิม" เกย์ในโลกมุสลิมนี่แหละอีกหนึ่งปัญหาของผม ที่ยากจะแก้ไข ใช่ โดยปรกติลุงอลันให้เกียรติผมมาโดยตลอดคือลุงอลันจะไม่ทานเนื้อหมูหรือเลี้ยงสุนัขใดๆเลย ทั้งที่ลอนดอนและที่ภูเก็ตเคยมีก็แต่แมวเหมียว โอเค นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรได้บ้างที่ให้เราได้คบกันอย่างสมบูรณ์แบบ คือ ทุกฝ่าย ทุกสายตารับได้ แต่เชื่อว่าก็คงยาก เพราะพื้นฐานครอบครัวมุสลิมของผม คงรับไม่ได้แน่นอน นี่แหละมันเหมือนมีอะไรมาค้ำคออยู่ตลอดเวลา คือจะทำอะไรก็ไม่สุดๆสักที

รู้สึกโล่ง มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้ระบายมันออกมา แม้หลายคนอ่านแล้วจะไม่ชอบก็ตาม แต่เรื่องราวทั้งหมดที่ผมได้ระบายมันออกมา ทำให้ผมยิ้มได้นะครับพี่อ้อย พี่ฉอด

ปล.ทุกวันนี้ผมก็ยังคบกับลุงอลัน อยู่เหมือนเดิมนะครับ และรักมากด้วย ขอบคุณดีเจพี่อ้อย ดีเจพี่ฉอด นะครับที่ทนฟังผมระบายความในใจมาสะยาวเลย ;)

-- เคที่ --