วันวาน จากงาน Audax 600 จักรยานทางไกล
จากคราวที่แล้ว Audax 400 ผมสามารถปั่นได้จนจบรายการ 400 กม.เศษ ร่างกายหลังจากนั้นก็ระบมไปหลายวัน คิดต่อไปว่าถ้ามีใครมาชวนไปปั่นรายการ 600 กม. ไม่เอาหรอก ตายแน่นอน
เวลาผ่านไปอีกอาทิตย์ ผมก็ยังแน่วแน่ว่าจะไม่ขอลงรายการ 600 กม.นี้ จนกระทั่งเพื่อนสนิทคนนึงไปลงสมัครเรียบร้อย แล้วโพสต์รายการให้ดู อาการตาร้อนผ่าวๆเริ่มเข้ามาจับ ปล่อยไว้อาจจะมีอาการอื่นกำเริบขึ้นมาอีก ตัดสินใจตัดไฟแต่ต้นลม เปิดเน็ทสมัครบ้างทันที แปลกมากอาการตาร้อนผ่าวๆหายเป็นปลิดทิ้งเลย
แข่งกันวันเสาร์ 7 โมงเช้า พัทยา-ตราด-พัทยา ระยะทาง 603 กม. ต้องกลับมาถึงจุด finish ไม่เกิน 5 ทุ่มวันอาทิตย์ สรุปว่ามีเวลาปั่น 40 ชม. มีจุดเช็คพ๊อยต์ ระหว่างทาง 8 จุด ซีเครทเช๊คพ๊อตย์อีก 2 จุด ผมไปเปิดโรงแรมนอนรอที่พัทยาตั้งแต่คืนวันศุกร์ ก่อนหน้านั้นราว 5 วันก็หยุดพักการออกกำลังกายทั้งหมด โหลดคาร์โบอย่างเดียว
ช่วงแรกปล่อยตัว 7 โมง เดินทางไปเช็คพ๊อยต์แรก 84.1กม. ระหว่างทาง มีซีเครทเช็คพ๊อยต์ซ่อนอยู่ ตรงราวๆ 42 กม. กันใครแอบขี้โกงไม่ปั่น เส้นทางจากพัทยาออกไปทางระยอง เป็นเนินยาว ขึ้นลงๆๆ ยังคงมีแรงปั่นอยู่ ณ เวลานี้เนินไม่ใช่ปัญหาครับ จากเช็คพ๊อยต์แรก ผมกับเพื่อนปั่นต่อไป ชพ.ที่ 2 กมที่ 141.2 ไปถึงราวๆ บ่าย 2 ครึ่ง ยังคงมีแรงอยู่
จากจุดนี้ ผมกับเพื่อนเริ่มมองหาข้าวกินกัน หลังจากโหลดคาร์โบลงท้องแล้ว เราก็ปั่นไปจุดเช็คพ๊อยต์ถัดไป คือ แหลมสิงห์ จันทบุรี
เนินและเนินและเนินๆๆ ยังคงมีอยู่ ถึงแหลมสิงห์ที่ระยะทาง 221.3 กม. เวลา 2 ทุ่ม ร่างกายยังดีอยู่ครับ ยังรู้สึกสดใส ปึ๋งปั๋ง ผมกินข้าวไข่เจียวที่เจ้าหน้าที่เตรียมมาให้ ทานเสร็จก็ปั่นต่อไปที่จุดเช็คพ๊อยต์ถัดไป เป็นจุดที่อยู่ตรงกึ่งกลางระยะทางพอดี แหลมงอบจังหวัดตราดครับ ตอนนี้ปั่นไปท่ามกลางความมืด กลุ่มก้อนนักปั่นเริ่มกระจัดกระจาย ไปตามเรี่ยวแรงที่มีอยู่ ผมกับเพื่อนตกลงกันว่าจะไปจอดนอนเอาแรงที่แหลมงอบล่ะกัน ตุนระยะทางไว้ก่อนครึ่งนึง
การปั่นตอนกลางคืนนี่ลำบากมากครับ ถนนต่างจังหวัดนั้นไม่ค่อยเรียบสักเท่าไหร่ ทำเวลาได้ไม่ดีเลย ประกอบร่างกายใช้พลังงานไปเยอะพอดู แต่ก็ต้องรีบปั่นครับ กลัวฝนจะตก ซึ่งถ้าฝนตกทุกอย่างก็จะจบเกม เราไม่อาจเสียเวลากับฝนไป 2-3 ชม.ได้
ในที่สุด เราก็ถึงแหลมงอบ ตราด เวลา ตี 1.30 น. ระยะทำไปทั้งสิ้น 304.3 กม. ตัดสินใจนอนพักที่นี่ 2 ชม.ครับ ผมหลับเป็นตาย ส่วนเพื่อนนอนไม่หลับ เมื่อถึงเวลาที่ตั้งปลุก เราก็เซ็ทรถออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้ากลับไปที่เช็คพ๊อยต์เดิม แหลมสิงห์
อากาศตอนเช้าตรู่สดใสมากครับ ปั่นสบายๆ ไม่มีแดด ยางผมมารั่วก่อนถึงเช็คพ๊อยต์ราวๆ 30 กม. ใช้เวลาปะไป 15 นาที เสร็จก็ออกเดินทางต่อ ระหว่างที่ผมปะเพื่อนก็เดินไปคุยกับชาวบ้านข้างทาง เดินกลับมามีเงาะติดมือมาด้วย 4-5 ลูก ฝีมือจริงๆ เรากลับมาที่เช็คพ๊อยต์แหลมสิงห์ ราวๆ 8.40 น. พักอีกราวๆครึ่งชม. เตรียมออกเดินทางต่อไปที่ จุดต่อไป เรือรบหลวงประแส ปากน้ำประแส ระยอง ระยะทางที่ต้องปั่นราวๆ 68 กม.
ตอนนี้แหล่ะครับ นรกเริ่มมาเยือน อากาศร้อนถึงร้อนที่สุด เราวิ่งชิดชายหาด ลมจากท้องทะเลซัดกระแทกเข้าด้านข้างจักรยาน เซวูบไปวูบมา เนินมีอยู่ทั่ว บางเนินชันมากปั่นขึ้นไม่ไหว ก็ต้องลงจูง ผ่านไปสัก 30 กว่า กม. เพื่อนผมก็น็อค เกิดอาการฮีทสโตรค จะเป็นลม ยอมยกธงขาวยอมแพ้ แต่ไม่วายฝากฝังให้ผมปั่นให้ได้
คราวนี้แหล่ะที่ต้องปั่นคนเดียว เดียวดาย ไม่นานตัวผมเริ่มร้อนจนทนไม่ไหว มีอาการฮีทสโตรคเกิดขึ้นบ้างแล้ว ตัดสินใจแวะร้านข้างทางซื้อน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบขวดนึง ราดทั้งตัวหัวจรดเท้า ค่อยยังชั่วอุณหภูมิลดลงหน่อย แต่อนิจจาปั่นมาได้ 10 นาที เสื้อผ้าแห้งสนิทเหมือนไม่เคยเปียกน้ำเลย 55
ยางมาแตกอีกครั้งก่อนถึงเช็คพ๊อยต์ราวๆ 8 กม. คราวนี้ไม่ปะครับ เปลี่ยนยางในที่เตรียมมาเลย ไม่มีเวลาปะแล้ว ในที่สุดก็ถึงเช็คพ๊อยต์ที่เรือรบหลวงประแสจนได้ ที่เวลา 13.19 ระยะทาง 454.8 กม.
หลังจากลงเวลาเสร็จแล้ว ก็เอาน้ำเย็นราดตัวตามสูตร แล้วก็เริ่มมองหากลุ่มที่จะขอเกาะไปด้วย ไปกลุ่มหลงยากครับ ทำเวลาได้ดีกว่า ผมปั่นตามไปจากประแสถึงหาดพลา ระยอง ระยะห่างระหว่างเช็คพ๊อยต์ 95 กม. มีเวลาให้ปั่น 5 ชม.นิดๆ ถ้าเป็นทางปกติก็คงไม่เท่าไหร่ แต่นี่เป็นเส้นทางเลาะชายหาดตลอดเส้น ลมแรงกระแทกด้านข้าง ผู้คนมาเที่ยวเล่นมากมาย ยวดยานขวักไข่ว เราทำเวลาได้ไม่ดีเลย มันไม่ใช่ทางโล่งๆที่จะอัดความเร็วได้เลย แต่ในที่สุดเราก็ถึงเช็คพ๊อยต์หาดพลา เวลา ทุ่มครึ่ง ระยะทาง 520 กม.
ต่อจากนี้มีเวลาอีกราวๆสามชั่วโมง กับระยะทางที่ต้องทำอีก 50 กม. เส้นทางไม่โหด แต่สภาพนี้อะไรๆก็โหดหมดครับ บางช่วงทางลาดลงเนินยาวๆ ราว 5 กม. แต่ตอนไต่ขึ้นต้องนึกสภาพกันเอาเอง เลาะชายหาดตั้งแต่นาจอมเทียนไปสุดทางแล้วเลี้ยงหักเข้าตัวเมือง ผ่านถนนหนทาง รถราขวักไขว่ ไฟแดงมากมาย เราต้องเสียเวลากับไปแดงไปเป็นสิบๆนาที และสุดท้ายก่อนถึงเป้าหมาย ผมต้องอัดรถขึ้นเนินอีก เป็นเนินที่ไม่อยากเจอเลย ผมใช้กำลังเฮือกสุดท้ายหมดไปแล้ว แต่เมื่อไม่มีทางหลีกเลี่ยงก็ต้องปั่นขึ้นเนินแบบนับก้าวทีละก้าว
ในที่สุดก็พ้นปลายเนินมาได้ เลี้ยวซ้ายตรงแยก มุ่งเข้าสู่ศาลากางพัทยา จบทริปราวๆ 5 ทุ่มตามเส้นตาย ระยะทางทั้งหมด 605 กม.นิดๆ ภารกิจสำเร็จบรรลุเป้าหมาย อุปสรรคที่สำคัญที่สุดคือเส้นทางและภูมิอากาศครับ เส้นทางไม่ง่ายเลย ไต่เนินลงเนินเป็นสิบๆเนิน ถนนสองเลนแคบๆ ผ่านชุมชนที่ไม่สามารถทำความเร็วได้ เลียบชายทะเลปั่นผ่าฝูงนักท่องเที่ยว สู้กับลมทะเลที่ปะทะด้านข้างตลอด และสุดท้าย เราไม่เจอฝนครับ เจอแต่อากาศที่ร้อนจนตับแทบแตก แต่มันก็จบครับ ไม่ต้องค้างคาใจอีกต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจมาช่วยครับ ร่างกายกระจายเป็นชิ้นส่วน อาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการประกอบกลับ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ
Audax 600 วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาครับ
จากคราวที่แล้ว Audax 400 ผมสามารถปั่นได้จนจบรายการ 400 กม.เศษ ร่างกายหลังจากนั้นก็ระบมไปหลายวัน คิดต่อไปว่าถ้ามีใครมาชวนไปปั่นรายการ 600 กม. ไม่เอาหรอก ตายแน่นอน
เวลาผ่านไปอีกอาทิตย์ ผมก็ยังแน่วแน่ว่าจะไม่ขอลงรายการ 600 กม.นี้ จนกระทั่งเพื่อนสนิทคนนึงไปลงสมัครเรียบร้อย แล้วโพสต์รายการให้ดู อาการตาร้อนผ่าวๆเริ่มเข้ามาจับ ปล่อยไว้อาจจะมีอาการอื่นกำเริบขึ้นมาอีก ตัดสินใจตัดไฟแต่ต้นลม เปิดเน็ทสมัครบ้างทันที แปลกมากอาการตาร้อนผ่าวๆหายเป็นปลิดทิ้งเลย
แข่งกันวันเสาร์ 7 โมงเช้า พัทยา-ตราด-พัทยา ระยะทาง 603 กม. ต้องกลับมาถึงจุด finish ไม่เกิน 5 ทุ่มวันอาทิตย์ สรุปว่ามีเวลาปั่น 40 ชม. มีจุดเช็คพ๊อยต์ ระหว่างทาง 8 จุด ซีเครทเช๊คพ๊อตย์อีก 2 จุด ผมไปเปิดโรงแรมนอนรอที่พัทยาตั้งแต่คืนวันศุกร์ ก่อนหน้านั้นราว 5 วันก็หยุดพักการออกกำลังกายทั้งหมด โหลดคาร์โบอย่างเดียว
ช่วงแรกปล่อยตัว 7 โมง เดินทางไปเช็คพ๊อยต์แรก 84.1กม. ระหว่างทาง มีซีเครทเช็คพ๊อยต์ซ่อนอยู่ ตรงราวๆ 42 กม. กันใครแอบขี้โกงไม่ปั่น เส้นทางจากพัทยาออกไปทางระยอง เป็นเนินยาว ขึ้นลงๆๆ ยังคงมีแรงปั่นอยู่ ณ เวลานี้เนินไม่ใช่ปัญหาครับ จากเช็คพ๊อยต์แรก ผมกับเพื่อนปั่นต่อไป ชพ.ที่ 2 กมที่ 141.2 ไปถึงราวๆ บ่าย 2 ครึ่ง ยังคงมีแรงอยู่
จากจุดนี้ ผมกับเพื่อนเริ่มมองหาข้าวกินกัน หลังจากโหลดคาร์โบลงท้องแล้ว เราก็ปั่นไปจุดเช็คพ๊อยต์ถัดไป คือ แหลมสิงห์ จันทบุรี
เนินและเนินและเนินๆๆ ยังคงมีอยู่ ถึงแหลมสิงห์ที่ระยะทาง 221.3 กม. เวลา 2 ทุ่ม ร่างกายยังดีอยู่ครับ ยังรู้สึกสดใส ปึ๋งปั๋ง ผมกินข้าวไข่เจียวที่เจ้าหน้าที่เตรียมมาให้ ทานเสร็จก็ปั่นต่อไปที่จุดเช็คพ๊อยต์ถัดไป เป็นจุดที่อยู่ตรงกึ่งกลางระยะทางพอดี แหลมงอบจังหวัดตราดครับ ตอนนี้ปั่นไปท่ามกลางความมืด กลุ่มก้อนนักปั่นเริ่มกระจัดกระจาย ไปตามเรี่ยวแรงที่มีอยู่ ผมกับเพื่อนตกลงกันว่าจะไปจอดนอนเอาแรงที่แหลมงอบล่ะกัน ตุนระยะทางไว้ก่อนครึ่งนึง
การปั่นตอนกลางคืนนี่ลำบากมากครับ ถนนต่างจังหวัดนั้นไม่ค่อยเรียบสักเท่าไหร่ ทำเวลาได้ไม่ดีเลย ประกอบร่างกายใช้พลังงานไปเยอะพอดู แต่ก็ต้องรีบปั่นครับ กลัวฝนจะตก ซึ่งถ้าฝนตกทุกอย่างก็จะจบเกม เราไม่อาจเสียเวลากับฝนไป 2-3 ชม.ได้
ในที่สุด เราก็ถึงแหลมงอบ ตราด เวลา ตี 1.30 น. ระยะทำไปทั้งสิ้น 304.3 กม. ตัดสินใจนอนพักที่นี่ 2 ชม.ครับ ผมหลับเป็นตาย ส่วนเพื่อนนอนไม่หลับ เมื่อถึงเวลาที่ตั้งปลุก เราก็เซ็ทรถออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้ากลับไปที่เช็คพ๊อยต์เดิม แหลมสิงห์
อากาศตอนเช้าตรู่สดใสมากครับ ปั่นสบายๆ ไม่มีแดด ยางผมมารั่วก่อนถึงเช็คพ๊อยต์ราวๆ 30 กม. ใช้เวลาปะไป 15 นาที เสร็จก็ออกเดินทางต่อ ระหว่างที่ผมปะเพื่อนก็เดินไปคุยกับชาวบ้านข้างทาง เดินกลับมามีเงาะติดมือมาด้วย 4-5 ลูก ฝีมือจริงๆ เรากลับมาที่เช็คพ๊อยต์แหลมสิงห์ ราวๆ 8.40 น. พักอีกราวๆครึ่งชม. เตรียมออกเดินทางต่อไปที่ จุดต่อไป เรือรบหลวงประแส ปากน้ำประแส ระยอง ระยะทางที่ต้องปั่นราวๆ 68 กม.
ตอนนี้แหล่ะครับ นรกเริ่มมาเยือน อากาศร้อนถึงร้อนที่สุด เราวิ่งชิดชายหาด ลมจากท้องทะเลซัดกระแทกเข้าด้านข้างจักรยาน เซวูบไปวูบมา เนินมีอยู่ทั่ว บางเนินชันมากปั่นขึ้นไม่ไหว ก็ต้องลงจูง ผ่านไปสัก 30 กว่า กม. เพื่อนผมก็น็อค เกิดอาการฮีทสโตรค จะเป็นลม ยอมยกธงขาวยอมแพ้ แต่ไม่วายฝากฝังให้ผมปั่นให้ได้
คราวนี้แหล่ะที่ต้องปั่นคนเดียว เดียวดาย ไม่นานตัวผมเริ่มร้อนจนทนไม่ไหว มีอาการฮีทสโตรคเกิดขึ้นบ้างแล้ว ตัดสินใจแวะร้านข้างทางซื้อน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบขวดนึง ราดทั้งตัวหัวจรดเท้า ค่อยยังชั่วอุณหภูมิลดลงหน่อย แต่อนิจจาปั่นมาได้ 10 นาที เสื้อผ้าแห้งสนิทเหมือนไม่เคยเปียกน้ำเลย 55
ยางมาแตกอีกครั้งก่อนถึงเช็คพ๊อยต์ราวๆ 8 กม. คราวนี้ไม่ปะครับ เปลี่ยนยางในที่เตรียมมาเลย ไม่มีเวลาปะแล้ว ในที่สุดก็ถึงเช็คพ๊อยต์ที่เรือรบหลวงประแสจนได้ ที่เวลา 13.19 ระยะทาง 454.8 กม.
หลังจากลงเวลาเสร็จแล้ว ก็เอาน้ำเย็นราดตัวตามสูตร แล้วก็เริ่มมองหากลุ่มที่จะขอเกาะไปด้วย ไปกลุ่มหลงยากครับ ทำเวลาได้ดีกว่า ผมปั่นตามไปจากประแสถึงหาดพลา ระยอง ระยะห่างระหว่างเช็คพ๊อยต์ 95 กม. มีเวลาให้ปั่น 5 ชม.นิดๆ ถ้าเป็นทางปกติก็คงไม่เท่าไหร่ แต่นี่เป็นเส้นทางเลาะชายหาดตลอดเส้น ลมแรงกระแทกด้านข้าง ผู้คนมาเที่ยวเล่นมากมาย ยวดยานขวักไข่ว เราทำเวลาได้ไม่ดีเลย มันไม่ใช่ทางโล่งๆที่จะอัดความเร็วได้เลย แต่ในที่สุดเราก็ถึงเช็คพ๊อยต์หาดพลา เวลา ทุ่มครึ่ง ระยะทาง 520 กม.
ต่อจากนี้มีเวลาอีกราวๆสามชั่วโมง กับระยะทางที่ต้องทำอีก 50 กม. เส้นทางไม่โหด แต่สภาพนี้อะไรๆก็โหดหมดครับ บางช่วงทางลาดลงเนินยาวๆ ราว 5 กม. แต่ตอนไต่ขึ้นต้องนึกสภาพกันเอาเอง เลาะชายหาดตั้งแต่นาจอมเทียนไปสุดทางแล้วเลี้ยงหักเข้าตัวเมือง ผ่านถนนหนทาง รถราขวักไขว่ ไฟแดงมากมาย เราต้องเสียเวลากับไปแดงไปเป็นสิบๆนาที และสุดท้ายก่อนถึงเป้าหมาย ผมต้องอัดรถขึ้นเนินอีก เป็นเนินที่ไม่อยากเจอเลย ผมใช้กำลังเฮือกสุดท้ายหมดไปแล้ว แต่เมื่อไม่มีทางหลีกเลี่ยงก็ต้องปั่นขึ้นเนินแบบนับก้าวทีละก้าว
ในที่สุดก็พ้นปลายเนินมาได้ เลี้ยวซ้ายตรงแยก มุ่งเข้าสู่ศาลากางพัทยา จบทริปราวๆ 5 ทุ่มตามเส้นตาย ระยะทางทั้งหมด 605 กม.นิดๆ ภารกิจสำเร็จบรรลุเป้าหมาย อุปสรรคที่สำคัญที่สุดคือเส้นทางและภูมิอากาศครับ เส้นทางไม่ง่ายเลย ไต่เนินลงเนินเป็นสิบๆเนิน ถนนสองเลนแคบๆ ผ่านชุมชนที่ไม่สามารถทำความเร็วได้ เลียบชายทะเลปั่นผ่าฝูงนักท่องเที่ยว สู้กับลมทะเลที่ปะทะด้านข้างตลอด และสุดท้าย เราไม่เจอฝนครับ เจอแต่อากาศที่ร้อนจนตับแทบแตก แต่มันก็จบครับ ไม่ต้องค้างคาใจอีกต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจมาช่วยครับ ร่างกายกระจายเป็นชิ้นส่วน อาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการประกอบกลับ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ