ทั้งๆที่รู้ว่าไป work and travel แล้วจะต้องเจอปัญหาเยอะ ทำไมหลายคนยังอยากไป ??

เห็นน้องๆหลายคนมาตั้งกระทู้เล่าเรื่องราวชีวิต work and travel ที่โดนกดขี่ โดนเอาเปรียบหลายอย่างจากนายจ้าง ทั้งโดนกด ชม. การทำงาน กดค่าแรงต่างๆนาๆ

ก่อนเข้าร่วมโครงการ เด็กๆรุ่นใหม่น่าจะหาข้อมูลจากกระทู้เหล่านี้แล้วบ้าง

ทำไมหลายคนยังอยากไปโครงการนี้ครับ ?

ถ้าจะตอบว่า ...

- เพราะเงิน ผมบอกเลยว่าได้กลับมาไม่เยอะหรอก เพราะต้องกินต้องใช้ สุดท้ายก็เอาไปเที่ยว+ช๊อปปิ้งกันหมดก่อนกลับ
- เพราะประสบการณ์ บางคนอาจจะได้เจอนายจ้างดีก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ดีเหมือนที่คุยกันตอนแรกเกือบทุกที่นั่นแหละ อ่านจากประสบการณ์ในหลายๆกระทู้ได้
- เพราะจะไปฝึกภาษา อันนี้ได้จริงๆเหรอ ? คือนอกจากที่ใช้พูดตอนทำงานซึ่งเป็นมีแพทเทิร์นของมันอยู่แล้ว กลับบ้านมาก็ขลุกอยู่กับคนไทย ไปเที่ยวกับคนไทย ผมเชื่อว่าการได้พูดภาษาอังกฤษแบบ native speaker จากโครงการนี้คงน้อยมากๆ
- ได้เที่ยว แน่นอนอยู่แล้วว่าน้องต้องได้เที่ยวอเมริกา แต่น้องก็ต้องทำงานหาเงินก่อนนะ

นอกจากเหตุผลเหล่านี้ ผมเลยอยากรู้ครับว่าทำไมเด็กไทยถึงยังอยากเอาเงินพ่อแม่ไปทิ้งเป็นแสนๆ ?  

ขอ discuss ด้วยเหตุผลแบบคนบรรลุนิติภาวะคุยกันนะครับ เรียนมหาวิทยาลัย โตๆกันแล้ว อย่าใช้อารมณ์ครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
เป็นเด็กเก่าที่เคยไปโครงการนี้ ตอนนี้ทำงานแล้ว ใช้หนี้แม่ค่าโครงการหมดแล้ว เอาตามตรงคือตอนนั้นที่ไปเพราะอยากเที่ยวครับ แค่นั้นจริงๆ ภาษาไม่ได้คิดว่าจะฝึกได้มากมายเพราะทักษะค่อนข้างดีอยู่แล้ว

แต่สิ่งที่ผมได้รับเลย คือนิสัยแบบฝรั่ง ความมั่นใจในตัวเอง ความกล้าคิดกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก่อนผมค่อนข้างเก็บตัว เป็นคนเงียบๆ หลังกลับจากอเมริกาโครงการนี้มา ผมรู้สึกว่าผมมีความกล้าในการแสดงออกต่างๆมากขึ้น สิ่งไหนที่ผมรู้สึกไม่ถูกใจ(ในทางที่ไม่อยู่นอกกฏเกณฑ์)หรือถูกเอาเปรียบ ผมกล้าที่จะเรียกร้องหาในสิ่งนั้น รวมถึงวิธีการคิด วิธีการแก้ปัญหาต่างๆด้วย ที่ช่วยให้ผมทำงานมีประสิทธิภาพและเข้ากับผู้ร่วมงานที่ background ต่างกันได้

ขอเพิ่มเติมเล็กน้อยเป็นประสบการณ์เนื่องจากผมตัดสินใจไปโครงการนี้ตอนปี 3 ซึ่งนิสิต นศ หลายๆคนได้ฝึกงานภาคฤดูร้อน คนเก่งๆก็ได้สถานที่ดังๆ คนเก่งรองลงมาก็ได้ไปสถานที่ต่างกันไป แต่ผมเลือกที่จะไปโครงการนี้แทน การตัดสินใจแบบนี้ตอนแรกทั้งแม่ผมและเพื่อนบางคน ต่างไม่เห็นด้วย ทั้งผมอยู่ในมหาลัยที่ค่อนข้าง competitive เรื่องวิชาการ หลายคนดูถูกถึงขั้นบอกงานกุลีบ้าง เป็นเด็กเตร็ดเตร่ เอาแต่คิดเที่ยว ไม่ตั้งใจเรียนบ้าง เพื่อนๆ ผมคงห้ามความคิดไม่ได้ แต่แม่ผมนั้น ทั้งแม่ผมกังวลเรื่องอนาคตผม ผมต้องหาข้อมูลเพื่อทำการ support ว่าฝึกงานไม่ได้ช่วยให้ผมพัฒนาอะไร(ผมมีผลงานต่างๆมากมายมาก่อนฝึกงานแล้ว และเนิร์ดมากไปแล้ว ขอพักผ่อนบ้าง) จนในที่สุดก็ได้ไป และพอกลับมาแล้ว เรียนปีสี่จนจบ ขั้นตอนการสมัครงานก็เหมือนเด็กปกติทั่วไป เพียงแต่ผมไม่ได้ฝึกงาน ด้วยทักษะส่วนตัวทางวิชาการที่มีและพัฒนาบุคลิกภาพจากโครงการนี้ของผมและภาษาอังกฤษที่ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมได้งานทั้งสิ้นสามที่ ที่นึงเป็นบริษัทไฟแนนซ์ชื่อดังของทางอเมริกาและผมก็ตัดสินใจทำงานที่นี้ เงินเดือนแซงบรรดาเด็กเกียรตินิยมทั้งหลาย ขณะที่เด็กเกียรตินิยมหรือเด็กฝึกงานบริษัทชื่อดัง ที่ทราบมีทั้งหางานไม่ได้เลยต่อโทบ้าง งานไม่ถูกใจจ่ายน้อยไปบ้าง บ้างก็อยู่บ้าน พ่อแม่รวยเป็นทุนเดิม

ที่เล่าข้างบนไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่งหรือว่าโครงการนี้มันดีที่สุด ตัวเองคิดถูกที่ไปหรืออะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ขอเล่ามุมมองและประสบการณ์นึงจากเด็กเก่า Work and Travel ซึ่งหลายคนเจอปัญหามากมายบ้าง แต่ในปัญหาแต่ละอย่างมันก็มีทางออกต่างกันไป บางคนก็อคติค่อโครงการนี้โดยถ้าเราลองคิดให้หลายมุม โครงการนี้มันก็มีประโยชน์แน่นอนเพียงแต่เราตักตวงจากมันได้มากแค่ไหน บางคนอาจรู้สึกไม่ถูกใจคำพูดประสบการณ์ผมหรือรู้สึกผมดูถูกเด็กเรียนเก่งก็ขออภัยด้วย ไม่ได้ตั้งใจทั้งสิ้น และเป็นความคิดเห็นของผมเอง โตๆกันแล้ว เคารพความเห็นต่างซึ่งกันและกันครับ

ส่วนตัวเท่าที่เห็นเด็กร่วมโครงการนี้ส่วนใหญ่ ค่อนข้างคาดหวังเกินไปกับโฆษนาสวยหรูของ agent โดยขาดการไตร่ตรองต่างๆ ไม่มีการหาข้อมูล(เช่นตั๋วเครื่องบิน เด็กหลายคนบินไปเป็นกลุ่ม แต่งเสื้อสีเดียวกันเหมือนเด็กอนุบาล จะเปลี่ยนตั๋วไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้เพราะไม่ได้ศึกษาเงื่อนไขของตั๋ว) หรือคาดหวังทั้งเรื่องงาน งานต้องสบายเงินเยอะๆ ชอปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของเล่นมากมายกลับเมืองไทย เที่ยว ประเทศอเมริกากว้างใหญ่ ชั้นจะไปให้ทั่วเลย

ผมเองรับทราบข้อมูลพวกนี้มามาก ก่อนไปเลยไม่คาดหวังอะไร และเที่ยวอย่างเดียว 555 แค่เที่ยวสองวันก็พอใจแล้ว สมัครเข้าโครงการต่างๆ เดินเรื่องขอวีซ่า ซื้อตั๋วเครื่องบิน เดินทางเองหมดเลย เหมือนแบบที่เด็กอเมริกาใต้ เด็กยุโรปตะวันออก(โรมาเนีย) เด็กฮ่องกง ไต้หวัน ทำกัน

ส่วนตัวสำหรับโครงการนี้ ถ้าทางบ้านไม่เดือดร้อนอะไร และรู้สึกว่าตัวเองว่างๆ ก็ไปได้ แต่สำคัญที่สุดสำหรับคนเข้าร่วมโครงการนี้คือ อย่าคาดหวังครับ แล้วจะไม่ผิดหวัง อย่าหวังอย่างที่บอกข้างบน ให้คิดซะว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศ จากห้องเรียนอุดอู้ จากบ้านแสนสบายที่มีครบทุกอย่าง มาลองใช้ชีวิตของตัวเอง ออกจาก comfort zone มันอาจจะไม่ได้สบายที่สุดแต่มันก็ช่วยให้เราแข็งแกร่งมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่