ป.ป.ช. ฟันเงียบ "อดีตบิ๊กทศท.-พวก" แก้สัญญามือถือเอื้อ "เอไอเอส" 2 คดีรวด


ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.orgตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิดนายสุธรรม มลิลา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบัน คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน))และ นายโอฬาร เพียรธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ กรณีถูกกล่าวหาแก้ไขสัญญาอนุญาตให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ดำเนินกิจการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) กับผู้ให้บริการรายอื่น และอนุญาตให้หัก ค่าใช้จ่ายจากการใช้เครือข่ายร่วม ก่อนนำมา คำนวณส่วนแบ่งรายได้   

โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า นายสุธรรม มลิลา มีมูลความผิดทางวินัย อย่างร้ายแรง ตามข้อบังคับองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทยว่าด้วยการพนักงาน พ.ศ.2536 ข้อ 30 และข้อ 44 ประกอบคำสั่ง บริษัท ทศท. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ 1/2545 เรื่องหลักเกณฑ์เพื่อรองรับ การดำเนินงานของบริษัท ทศท. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2545 และสัญญาจ้างเป็นผู้บริหารในตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 8 มกราคม 2544 และมีมูลความผิด ทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดของพนักงานในองค์การหรือ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11  

ส่วนนายโอฬาร เพียรธรรม มีมูลความผิด ทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามข้อบังคับ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยว่าด้วย การพนักงาน พ.ศ.2536 ข้อ 30 และข้อ 44 ประกอบคำสั่งบริษัท ทศท. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ 1/2545 เรื่องหลักเกณฑ์ เพื่อรองรับการดำเนินงานของบริษัท ทศท. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2545 และมีมูลความผิด ทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดของพนักงานในองค์การหรือ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 และฐานเป็นผู้สนับสนุนนายสุธรรม มลิลา กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดของพนักงานในองค์การหรือ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

เบื้องต้น อยู่ระหว่างนำเสนอประธานกรรมการ ป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช. ลงนามในสำนวนการไต่ส่วนข้อเท็จจริง  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากกรณีถูกกล่าวหาแก้ไขสัญญาอนุญาตให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ดำเนินกิจการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) กับผู้ให้บริการรายอื่น และอนุญาตให้หัก ค่าใช้จ่ายจากการใช้เครือข่ายร่วม ก่อนนำมา คำนวณส่วนแบ่งรายได้ แล้ว  

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังได้ชี้มูลความผิด นายสุธรรม มลิลา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย บริษัท ทีโอที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กรณีถูกกล่าวหาแก้ไขสัญญาสัมปทาน (ครั้งที่ 6) เพื่อลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้า (Prepaid Card) ให้บริษัท แอด วานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด โดยมิชอบ ด้วย

โดย ป.ป.ช. ระบุว่า นายสุธรรม มลิลา มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามข้อบังคับองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทยว่าด้วยการพนักงาน พ.ศ.2536 ข้อ 30 ข้อ 33 ข้อ 36 และข้อ 44 และสัญญาจ้างเป็นผู้บริหาร ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 8 มกราคม 2544 และ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย พ.ศ.2497 มาตรา 17  

เบื้องต้น ป.ป.ช. ได้แจ้งบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) ดำเนินการให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) จ่ายส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงิน ล่วงหน้า (Prepaid Card) ให้เป็นไป ตามสัญญาหลัก ตามความเห็นของ คณะกรรมการประสานงาน ตาม มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วย การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการ ในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 และ ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.14/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2553 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ตามที่เสนอด้วย

พร้อมส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยัง ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว

ขอขอบคุณแหล่งข่าว
สำนักข่าวอิศรา http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/652669
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  Mobile Operator โทรศัพท์มือถือ AIS tot
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่