สำหรับทริป ทองผาภูมิ-สังขละบุรีนี้เราก็รวมสมาชิกกันได้ 8 คนล้วนแต่เป็นมนุษย์เงินเดือนกันทั้งสิ้น วางแผน
ตั้งงบ ทะยอยเก็บเงิน แล้วเซทวันกันไป ช่วง 4-6 เมษา (ที่ตั้งใจกันไว้คือทริปนี้ไม่ลางานกันเพิ่มเพราะสัปดาห์
ถัดไปเป็นสงกรานต์) เลือกใช้รถฟอร์จูนเนอร์เป็นพาหนะขับเคลื่อนตลอดทั้งงาน (รถของเพื่อนในทริป)
วิธีการนั่งรถก็.. หน้าสุด 2 คน) ,กลาง 3 คน และแถวหลัง 3 คน (แถวหลังยึดคตินั่งไปเถอะเดี๋ยวก็ถึง)
การเที่ยวครั้งนี้เราปักธงที่หลักคือ 1. บ้านป้าเกล็น 2. สะพานมอญ แล้วเซทสถานที่อืนเพิมเติม
อย่ารอช้าไปอ่านคำบรรยาย และภาพประกอบอ่อนด๋อยกันเลยค่ะ
(วันที่ 4 เมษา) ออกจาก กทม.กันตั้งแต่ 6.30 น. ตอนเช้ามุ่งหน้าไป ทองผาภูมิ ซึ่งความตั้งใจอย่าง
ที่บอกคือการไปพักบ้านป้าเกล็น ที่อยู่ในเหมืองสมศักดิ์ ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ขับกันไปเรื่อยแวะกินของกันที่ 7-elevenในปั๊มแล้วก็ขับยาวไปถึงประมาณ 11 โมง
ก็เข้าสู่ทองผาภูมิ ขับไปเรื่อยๆ อีกสักเกือบค่อนชั่วโมงจะเห็นป้ายบอกสถานีตำรวจปิล๊อก
เอารถไปจอดแล้วลงชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ สน.เพื่อแจ้งความจำนงค์ในการขอพักรถไว้ที่นี่
สาเหตุที่กลุ่มเราไม่ได้เอารถเข้าไปถึงบ้านป้าเกล็น เพราะเช็คข้อมูลก่อนเที่ยว พบว่าเส้นทางเข้าเหมืองหรือ
บ้านป้าเกล็นที่เราจะไปเหมาะกับรถ 4WD เพราะเส้นทางค่อนโหดทีเดียว
รถบริการของบ้านป้าเกล็นเป็นรถกะบะมีหลังคา ก็กระจายกันนั่งไป เนื่องจากเรามีเวลาพักที่นี่แค่ 1 คืน
เลยให้พี่คนขับ(พี่เค้าเป็นชาวพม่าใจเย็นพูดน้อย) ขับพาเที่ยวกันก่อนแล้วค่อยเข้าที่พักตอนเย็น
ประเดิมที่เที่ยวที่แรกคือหมู่บ้านอีต่อง พี่คนขับพาไปทานข้าวกลางวันที่ร้าน"ครัวสุดแดน (ร้านประจำของผู้ที่
มาพักป้าเกล็น) มีหมาน้อยออกมาต้อนรับอย่างแสนรู้ อาหารจัดไว้ให้ทานประมาณ 5-6 อย่าง
อาหารอร่อยใช้ได้ ยำผักกูดอร่อยเป็นพิเศษ กินยังไม่จุใจ กลุ่มเราสั่งกับข้าวเพิ่มเองต่างหาก
ตระกูลแป้งพม่ามีนานาชนิด หลาก SKU ทุกคนต่างพากันเลือกซื้อกันตั้งแต่หมู่บ้านอีต่องกันเลย
(หารู้ไม่ว่าเมื่อไปถึงสังขละและข้ามไปฝั่งพม่าก็ยังคงมีให้ซื้อกันอีกเพียบ)
กินเสร็จก็ไล่เรียงเที่ยวกันไป -ช่องเขาขาด-เนินเสาธง-ฐานช้างศึก-จบที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่น (น้ำใสมากชุ่มใจ)
"เอารูปมาฝาก 1 รูปที่น้ำตกค่ะ"
เอาหล่ะต่อจากนี้ก็เข้าสู่เส้นทางไปยังเหมืองสมศักดิ์ เส้นทางโหดมาก และมันส์มาก
ถนนยังคงเป็นก้อนหิน ก้อนดิน สูงๆ ต่ำๆ มีจุดที่ปรับผิวหน้าถนนให้เรียบนิดเดียว
เห็นคนขี่ Big Bike ขี่ผ่านประปราย (ขี่ได้งัยก็ไม่รู้) อีกอึดใจใหญ่ก็ถึง
(จากปากทางไปถึงที่พักไม่กี่กิโลแต่เส้นทางโหดเลยใช้เวลาพอสมควร)
ดีใจมากๆ ถึง บ้านป้าเกล็น แห่งเหมืองลุงสมศักดิ์ "บ้านเล็กในป่าใหญ่" อากาศเย็นสบายผิดกับกรุงเทพ
(เค้าว่ากันว่าจุดที่พักบ้านป้าเกล็นเป็นที่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี) ป้าเกล็นเดินออกมาทักทายเราด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ป้าคล่องแคล่วมาก (อันนี้คือเรือนรับรองค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีรูปป้า รูปป้าจะอยู่ถัดๆไปจ๊ะ ^^)
เราจองไว้ 2 ห้อง มีห้องน้ำในตัว ทุกคนกระจายกันไปเก็บของ เดินเล่น อาบน้ำ สำรวจพื้นที่ ชมดอกไม้ เดินสะพาน
สิ่งปลูกสร้างล้วนเป็นสิ่งที่ป้าเกล็นคงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติจริงๆ ,คนงานที่อยู่ที่นี่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ก็คือ
อดีตคนทำงานในเหมืองที่คอยช่วยดูแลอยู่เคียงข้างไม่ห่างกันไปค่ะ
จริงๆ วันที่เราไปพักห้องพักเต็มนะคะ เพราะมีการจอง 3 กลุ่มใหญ่รวมกลุ่มเราด้วย
แต่มีการยกเลิกไป 2 กลุ่ม เลยอดเจอเพื่อนกลุ่มอื่นเลย แต่ไม่ว่าคนมากคนน้อยป้าเกล็นก็เต็มที่ค่ะ
หลังนี้ถ้าจำไม่ผิดเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ค่ะ
สะพานเชื่อมใจผูกพันธรรมชาติ ^^
ห้องพัก อากาศเย็นสบายเวลานอน
หลังจากที่ทำภารกิจส่วนตัวกันเสร็จแล้วก็ออกมาทานข้าวที่เรือนรับรอง (แต่เดิมเป็นโรงเก็บอุปกรณ์ของเหมือง)
อาหารจัดเต็มมากบอกเลยอร่อยทุกอย่าง
ปลาทอดราดมะม่วงยำ (ขอโทษค่ะเรียกชื่ออาหารไม่ค่อยถูก)
ผัดบวบอร่อยมาก ชอบมาก ปกติผัดบวบชอบที่แม่ทำเท่านั้น พอมาเจอที่นี่มันปัง!มาก
ไข่เจียวทรงเครื่อง
บาบีคิวมี บาบีคิวไก่ กับหมู เสิร์ฟมาให้เป็นไม้โตเลยค่ะ ชอบกินหมูเป็นพิเศษ
มื้อนั้นกินไปไม่รู้กี่ไม้ แต่กับข้าวบอกเลยหมดทุกอย่าง (จริงๆ มีแกงจืดฝักด้วย)
ป้าเกล็นมาดูแลพวกเราตอนทานข้าวเย็นด้วยค่ะ (ค่อนข้างเกรงใจแกมากเพราะป้ายืนตลอดไม่ยอมนั่งเลย)
แล้วก็เล่าเรื่องสม้ยอดีตให้ฟัง แกพูดไทยนะคะอาจแปร่งหูไปบ้างแต่ฟังเพลินเลย สิ่งที่สัมผัสได้จากป้าเกล็น
ป้าเป็นผู้หญิงที่ใจดีอ่อนโยน อบอุ่นและเข้มแข้ง
[CR] มนุษย์เงินเดือนทั้ง 8 ทริป 3 วัน 2 คืน ไปหาป้าเกล็นที่ทองผาภูมิ ลุยโลดต่อที่สังขละบุรี แอบไปฝั่งพม่า
ตั้งงบ ทะยอยเก็บเงิน แล้วเซทวันกันไป ช่วง 4-6 เมษา (ที่ตั้งใจกันไว้คือทริปนี้ไม่ลางานกันเพิ่มเพราะสัปดาห์
ถัดไปเป็นสงกรานต์) เลือกใช้รถฟอร์จูนเนอร์เป็นพาหนะขับเคลื่อนตลอดทั้งงาน (รถของเพื่อนในทริป)
วิธีการนั่งรถก็.. หน้าสุด 2 คน) ,กลาง 3 คน และแถวหลัง 3 คน (แถวหลังยึดคตินั่งไปเถอะเดี๋ยวก็ถึง)
การเที่ยวครั้งนี้เราปักธงที่หลักคือ 1. บ้านป้าเกล็น 2. สะพานมอญ แล้วเซทสถานที่อืนเพิมเติม
อย่ารอช้าไปอ่านคำบรรยาย และภาพประกอบอ่อนด๋อยกันเลยค่ะ
(วันที่ 4 เมษา) ออกจาก กทม.กันตั้งแต่ 6.30 น. ตอนเช้ามุ่งหน้าไป ทองผาภูมิ ซึ่งความตั้งใจอย่าง
ที่บอกคือการไปพักบ้านป้าเกล็น ที่อยู่ในเหมืองสมศักดิ์ ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ขับกันไปเรื่อยแวะกินของกันที่ 7-elevenในปั๊มแล้วก็ขับยาวไปถึงประมาณ 11 โมง
ก็เข้าสู่ทองผาภูมิ ขับไปเรื่อยๆ อีกสักเกือบค่อนชั่วโมงจะเห็นป้ายบอกสถานีตำรวจปิล๊อก
เอารถไปจอดแล้วลงชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ สน.เพื่อแจ้งความจำนงค์ในการขอพักรถไว้ที่นี่
สาเหตุที่กลุ่มเราไม่ได้เอารถเข้าไปถึงบ้านป้าเกล็น เพราะเช็คข้อมูลก่อนเที่ยว พบว่าเส้นทางเข้าเหมืองหรือ
บ้านป้าเกล็นที่เราจะไปเหมาะกับรถ 4WD เพราะเส้นทางค่อนโหดทีเดียว
รถบริการของบ้านป้าเกล็นเป็นรถกะบะมีหลังคา ก็กระจายกันนั่งไป เนื่องจากเรามีเวลาพักที่นี่แค่ 1 คืน
เลยให้พี่คนขับ(พี่เค้าเป็นชาวพม่าใจเย็นพูดน้อย) ขับพาเที่ยวกันก่อนแล้วค่อยเข้าที่พักตอนเย็น
ประเดิมที่เที่ยวที่แรกคือหมู่บ้านอีต่อง พี่คนขับพาไปทานข้าวกลางวันที่ร้าน"ครัวสุดแดน (ร้านประจำของผู้ที่
มาพักป้าเกล็น) มีหมาน้อยออกมาต้อนรับอย่างแสนรู้ อาหารจัดไว้ให้ทานประมาณ 5-6 อย่าง
อาหารอร่อยใช้ได้ ยำผักกูดอร่อยเป็นพิเศษ กินยังไม่จุใจ กลุ่มเราสั่งกับข้าวเพิ่มเองต่างหาก
ตระกูลแป้งพม่ามีนานาชนิด หลาก SKU ทุกคนต่างพากันเลือกซื้อกันตั้งแต่หมู่บ้านอีต่องกันเลย
(หารู้ไม่ว่าเมื่อไปถึงสังขละและข้ามไปฝั่งพม่าก็ยังคงมีให้ซื้อกันอีกเพียบ)
กินเสร็จก็ไล่เรียงเที่ยวกันไป -ช่องเขาขาด-เนินเสาธง-ฐานช้างศึก-จบที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่น (น้ำใสมากชุ่มใจ)
"เอารูปมาฝาก 1 รูปที่น้ำตกค่ะ"
เอาหล่ะต่อจากนี้ก็เข้าสู่เส้นทางไปยังเหมืองสมศักดิ์ เส้นทางโหดมาก และมันส์มาก
ถนนยังคงเป็นก้อนหิน ก้อนดิน สูงๆ ต่ำๆ มีจุดที่ปรับผิวหน้าถนนให้เรียบนิดเดียว
เห็นคนขี่ Big Bike ขี่ผ่านประปราย (ขี่ได้งัยก็ไม่รู้) อีกอึดใจใหญ่ก็ถึง
(จากปากทางไปถึงที่พักไม่กี่กิโลแต่เส้นทางโหดเลยใช้เวลาพอสมควร)
ดีใจมากๆ ถึง บ้านป้าเกล็น แห่งเหมืองลุงสมศักดิ์ "บ้านเล็กในป่าใหญ่" อากาศเย็นสบายผิดกับกรุงเทพ
(เค้าว่ากันว่าจุดที่พักบ้านป้าเกล็นเป็นที่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี) ป้าเกล็นเดินออกมาทักทายเราด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ป้าคล่องแคล่วมาก (อันนี้คือเรือนรับรองค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีรูปป้า รูปป้าจะอยู่ถัดๆไปจ๊ะ ^^)
เราจองไว้ 2 ห้อง มีห้องน้ำในตัว ทุกคนกระจายกันไปเก็บของ เดินเล่น อาบน้ำ สำรวจพื้นที่ ชมดอกไม้ เดินสะพาน
สิ่งปลูกสร้างล้วนเป็นสิ่งที่ป้าเกล็นคงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติจริงๆ ,คนงานที่อยู่ที่นี่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ก็คือ
อดีตคนทำงานในเหมืองที่คอยช่วยดูแลอยู่เคียงข้างไม่ห่างกันไปค่ะ
จริงๆ วันที่เราไปพักห้องพักเต็มนะคะ เพราะมีการจอง 3 กลุ่มใหญ่รวมกลุ่มเราด้วย
แต่มีการยกเลิกไป 2 กลุ่ม เลยอดเจอเพื่อนกลุ่มอื่นเลย แต่ไม่ว่าคนมากคนน้อยป้าเกล็นก็เต็มที่ค่ะ
หลังนี้ถ้าจำไม่ผิดเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ค่ะ
สะพานเชื่อมใจผูกพันธรรมชาติ ^^
ห้องพัก อากาศเย็นสบายเวลานอน
หลังจากที่ทำภารกิจส่วนตัวกันเสร็จแล้วก็ออกมาทานข้าวที่เรือนรับรอง (แต่เดิมเป็นโรงเก็บอุปกรณ์ของเหมือง)
อาหารจัดเต็มมากบอกเลยอร่อยทุกอย่าง
ปลาทอดราดมะม่วงยำ (ขอโทษค่ะเรียกชื่ออาหารไม่ค่อยถูก)
ผัดบวบอร่อยมาก ชอบมาก ปกติผัดบวบชอบที่แม่ทำเท่านั้น พอมาเจอที่นี่มันปัง!มาก
ไข่เจียวทรงเครื่อง
บาบีคิวมี บาบีคิวไก่ กับหมู เสิร์ฟมาให้เป็นไม้โตเลยค่ะ ชอบกินหมูเป็นพิเศษ
มื้อนั้นกินไปไม่รู้กี่ไม้ แต่กับข้าวบอกเลยหมดทุกอย่าง (จริงๆ มีแกงจืดฝักด้วย)
ป้าเกล็นมาดูแลพวกเราตอนทานข้าวเย็นด้วยค่ะ (ค่อนข้างเกรงใจแกมากเพราะป้ายืนตลอดไม่ยอมนั่งเลย)
แล้วก็เล่าเรื่องสม้ยอดีตให้ฟัง แกพูดไทยนะคะอาจแปร่งหูไปบ้างแต่ฟังเพลินเลย สิ่งที่สัมผัสได้จากป้าเกล็น
ป้าเป็นผู้หญิงที่ใจดีอ่อนโยน อบอุ่นและเข้มแข้ง