[CR] รีวิว--เมื่อนักศึกษาแพทย์ไทยไปแลกเปลี่ยนที่โรงเรียนแพทย์ญี่ปุ่น งาน backpack ต้องมา ความฮาก็คงจะมี

สืบเนื่องมาจาก กระทู้ http://ppantip.com/topic/33784862 ที่ไปรีวิวเรียกน้ำย่อยไว้ว่าจะนำมาเล่า วันนี้เลยได้ฤกษ์มาเปิดกระทู้นี้ไว้ก่อน ต้องขอโทษด้วยที่อาจจะข้อมูลไม่ปึ๊กเท่ากระทู้ก่อนหน้า เพราะทำ diary หายค่ะ แต่จะพยายามรีวิวจากภาพถ่ายมาให้ได้มากที่สุดนะคะ

          งานนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
          ต้องบอกเลยว่า เพราะเป็นนักศึกษาแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ! (โฆษณาไว้ให้เสร็จสรรพ) ปัดไม่รู้ว่าคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยอื่นจะมีแบบนี้ไหม แต่ที่ มช. เมื่อนักศึกษาขึ้นชั้นปีที่ 4-6 หรือที่เรียกว่าชั้นคลินิก มหาวิทยาลัยจะมีช่วงเวลา elective ซึ่งมีมหาวิทยาลัยจากเมืองนอกมาโคกับเราให้นักศึกษาของเราไปเรียนรู้กับเขา 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ที่ปัดไปนี่เป็นช่วงชั้นปีที่ 4 ค่ะ อันที่จริงตอนปีนั้น 2554 คณะกำหนดไม่ให้นักศึกษาปีที่ 4 ออกไปข้างนอกค่ะ นอกจากต้องเลือกวิชาเลือกในคณะเท่านั้น แต่มหาวิทยาลัยแพทย์นารา ประเทศญี่ปุ่น ส่งเรื่องมาขอแลกเปลี่ยนนักศึกษากับเราและขอเป็นนักศึกษาปีที่ 4 ตอนนั้นประกาศออกมาตอนกลางปี เป็นช่วงที่ นศพ. ทั้งหลายเพิ่งปรับตัวรับกับความยากลำบากที่เราไม่เคยคาดคิดจะเจอ แต่มันไม่เกินสปิริตของปัดค่ะ!

          ปัดอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น!!!

          ให้พลีชีพจนตัวตายต้องทำให้ได้

          อันนี้ขอรีวิวเผื่อน้องแพทย์เลยแล้วกันนะคะ ใครอ่านไม่เข้าใจต้องขออภัยน้า

          ตอนนั้นจำได้เลยว่าเรื่องแจ้งให้นักศึกษารู้ตอนปัดกำลังเรียนอยู่ที่ภาควิชาจิตเวช ตัดสินใจว่าจะสมัครแน่นอน ตอนเรียนที่ภาควิชาอันนี้ไม่หนักค่ะ ถึงจะเรียนสองสัปดาห์แต่ก็มีเวลาว่างมากพอให้เราเตรียมตัว (หลักสูตรใหม่ไม่ใช่แบบนี้แล้วมั๊งคะ) ตอนนั้นต้อง 1. เตรียมสไลด์พรีเซนต์จังหวัดเชียงใหม่ให้อาจารย์ที่จะตัดสินได้ดู 2.ต้องไปสอบระดับภาษาอังกฤษของมช. ที่สถาบันภาษาในม. (จำค่าสอบไม่ได้ค่ะ) มีระดับที่ต้องใช้อยู่ และ 3. ต้องสอบสัมภาษณ์กับอาจารย์ของคณะสี่ท่าน ทั้งหมดเสร็จสิ้นใน 1 สัปดาห์ค่ะทุกท่าน

          ก่อนสอบปัดเป็นคนเดียวที่ยื่นความจำนงค์ว่าจะไป คนอื่นอยากไปแต่ไม่มีเวลาไปเตรียมเอกสาร ปัดจะบอกว่าเวลาของปัดก็แทบไม่มีค่ะ แต่ปัดเชื่อว่าถ้าใครอยากไปจริงๆ ต่อให้มีเวลาแค่นาทีเดียวก็ทำได้ทุกอย่าง
          มีเพื่อนปัดที่ให้ความสนใจและยื่นตามปัดไปอีกสามคนค่ะ ขออนุญาตแนะนำตัวละครอีกสามท่านเลยนะคะ เพราะขออนุญาตแล้ว (ดังแน่เพื่อนฉัน! หลังไมค์ล่ะกัน ถ้าอยากให้ลบอะไรออกนะจ๊ะ)

          1. นศพ. ลูกปัด เจ้าของกระทู้ค่ะ
          2. นศพ. กั้ง หนุ่มหล่อชั้นปี ตำแหน่งนี้ได้จากการโหวตของเพื่อนเลยนะคะ ปีนี้ถ้าปัดได้ข่าวมาไม่ผิด เจ้าตัวได้ทุนจาก Columbia University ไปเรียนอายุรกรรมแล้วค่ะ เครือ Ivy leaque เลยนะคะ คนนี้เก่งจริงค่ะ
          3. นศพ. หนูนา ตัวเล็กๆ เหมือนตุ๊กตา ปัจจุบันกำลังเรียนต่อ Resident อายุกรรมที่ มช. ค่ะ สาวน่าร๊ากกกกเว่อวัง
          4. นศพ. บี สวยใสไม่แอ๊บ ปัจจุบันกำลังเรียนต่อ Resident หูคอจมูก (ENT) ที่ มช. น่าร๊ากกกกมั่กๆ ค่ะ

โชว์ตัวละครกันนิดนึง แสงไม่ได้แต่งนะคะ แสงจากร้านอาหารเป็นไงก็เป็นงั้นเลยค่ะ 55


          เหล่านี้คือเพื่อนที่เข้าสอบในปีนั้นค่ะ อาจารย์กำหนดไว้ 2 คน แต่มาสมัคร 4 โอย! ไม่อยากจะให้ใครหลุดไปเลยยย ทุกคนก็อยากไปทั้งนั้นค่ะ ตอนสอบคำถามไม่ยากค่ะ แต่เชื่อว่าน้องๆ หลายคนที่ภาษาอังฤษไม่เป๊ะจะลน อย่าไปลนค่ะ ช้าๆ ไม่ต้องไปกลัวเพื่อนจะไซโคภาษาใส่เรา เป็นตัวของจตัวเองให้มาที่สุดค่ะ
          ตอนนั้นพอปัดสอบเสร็จอาจารย์ก็ชมค่ะว่าสำเนียงดี ไปอยู่เมืองนอกมาหรือเปล่า เป็นปลิ้มค่ะ ตอบเลยว่าเคยอยู่มา 1 เดือน ^_^

          และแล้วฝันก็เป็นจริงค่ะ หลังสอบสัมภาษณ์ อาจารย์ตัดสินใจให้ไปยกเซ็ทนี้เลย เพราะเป็นปีแรกของนารา และอาจารย์ก็ยื่นเรื่องไปที่ยี่ปุ่นให้เพิ่มจำนวนนักศึกษามาเหมือนกัน และปีถัดๆ มาก็กลายเป็นธรรมเนียมไปสี่มาสี่แบบนี้เลยค่ะ

          ตอนสอบสัมภาษณ์นั้นปัดย้ายมาอยู่ภาควิชา rehabilitation ค่ะ คือภาคนี้ เรียน 1 สัปดาห์ เปิดมาวันจันทร์ เรียน! เรียน! เรียน! แล้วสอบวันศุกร์ค่ะ! คือโหดมาก วันที่ปัดมาสอบสัมภาษณ์คือวันพุธตอนบ่าย จำได้ว่าอาจารย์สอนพัน stump มันคือขาผู้ป่วยที่ถูกตัดแล้วต้องพันเก็บด้วยผ้ายืดให้สวยงามไม่ย้วยหย่อน เป็นข้อสอบค่ะ อาจารย์บอกเลย นศพ. ต้องทำได้! คือสอบสัมภาษณ์เสร็จปัดต้องวิ่งจากตึกราชนครินทร์ตึกกลางของคณะกลับไปที่ตึก rehab เพื่อเรียนอย่างน้อยให้ได้หนึ่งรอบ ลิ้นห้อยเลยค่ะ ใครเรียนมช. จะรู้ว่ามันไกลมากกกก

          แต่ก็ทำได้ค่ะ!!! สอบผ่านอย่างสวยงาม

          และช่วงเวลาที่ไปก็มาถึงค่ะ 12 กุมภาพันธ์ 2555-25 กุมภาพันธ์ 2555 วาเลนไทน์ค่าทุกท่าน!!!!!!!!

          ยุคที่ปัดไปเป็นยุคที่ไทยยังใช้วีซ่าเข้าญี่ปุ่นค่ะ โชคดีที่เชียงใหม่มีสถานทูตญี่ปุ่น พวกเราเลยรวมตัวกันไปทำพร้อมกัน เพราะถ้าทำพร้อมๆ กัน จะง่ายกว่าแยกกันไปทำ เพราะเขาพิจารณาเอกสารนาน อย่างว่าค่ะ หญิงไทยยังถูกมองว่าไม่ดี ยิ่งญี่ปุ่นมีแรงงานไทยหนีเข้าไปเยอะ เขาเข้มงวดมาก ตอนนั้นปัดย้ายมาเรียนที่ภาควิชาศัลยกรรม โหดและหนักค่ะ ต้องอ้อนวอน หลบหลีกเพื่อน จนทุกคนโมโหโกรธาว่าปัดหนีเรียน เพราะต้องมาทำเอกสาร ขอโทษน้าทุกคน T^T

          และด้วยพลังเด็กแพทย์ เราก็ได้วีซ่ามาพร้อมกันค่ะ!

          การเดินทางในครั้งนี้ คณะออกเงินค่าเครื่องบินทั้งไปและกลับให้ค่ะ (เงินส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับการนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยใดๆ ในโรงเรียนแพทย์นะคะ เดี๋ยวจะหาว่าเอาเงินมาให้ นศพ เที่ยว คณะมีนโยบายเพิ่มพูนทักษะแพทย์เช่นนี้อยู่แล้ว และเพราะกิจกรรมนี้แหล่ะค่ะ ที่ปัดได้ตัดสินใจจะเป็นแพทย์ด้านจิตเวชศาสตร์) คณะกำหนดต้องนั่งการบินไทยเท่านั้น (ลาก่อนเอมิเรตส์) และให้ Pocket money กะพวกเราไว้ค่ะคนละ ห้าพันบาท ที่จริงต้องได้คนละหมื่นบาทเพราะไปตามของเดิมคือกำหนดแค่ 2 คน แต่เท่าไรก็เอาค่ะ เที่ยวฟรีมีคนจ่ายตังค์ให้ แต่เงินได้จากกลับมาแล้วนะคะ ตอนไปต้องออกค่าใช้จ่ายไปก่อนกันเอง

          Trip นี่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการราคาประหยัดนะคะ เพราะมหาวิทยาลัยนารา take care เราแบบ premium มาก แต่ถ้าใครอยากดูว่าเด็กแพทย์แลกเปลี่ยนแบบใด ที่เที่ยวบางที่ที่คนไทยอาจไม่รู้จักและไปไม่ถึง และเสน่ห์สาวไทยมัดใจหนุ่มญี่ปุ่นแบบใดก็ตามดูนะคะ 55

          เม้นหน้าเหินฟ้ากันเลยยยย !!!

**********
          หลายคนเริ่มสงสัยว่าปัดเป็นแพทย์จริงหรือเปล่า เพราะท่าทางการเขียนไม่เหมือนเด็กแพทย์เลย ปัดเป็นแพทย์จริงค่ะ แพทย์หญิงเต็มตัวทำงานให้รัฐบาล แต่ปัดเป็นนักเขียนอิสระด้วย เพราะงั้นภาษาการพูดจา การหยอกเย้า ปัดเลยลื่นไหล ตัวจริงไม่หยิ่งค่ะ ถามได้ทุกเรื่อง (ตอบได้หรือเปล่าค่อยว่ากันค่ะ)

**********
ไม่รับเป็นแม่สื่อให้เพื่อนๆ อีกสามคนข้างต้นนะคะ เดี๋ยวถูกมีดผ่าตัดกระซวกท้องไม่รู้ตัว
ชื่อสินค้า:   ญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่