Le Buoa’s trip: Colmar-Luxembourg-Paris 3 ประเทศ 6 เมือง 10 วัน (Part 0): http://ppantip.com/topic/33782827
Le Buoa’s trip: Colmar-Luxembourg-Paris 3 ประเทศ 6 เมือง 10 วัน (Part 1) Colmar - France: http://ppantip.com/topic/33784825
Le Buoa’s trip: Colmar-Luxembourg-Paris 3 ประเทศ 6 เมือง 10 วัน (Part 2) Freiburg - Germany: http://ppantip.com/topic/33788726
Le Buoa’s trip: Colmar-Luxembourg-Paris 3 ประเทศ 6 เมือง 10 วัน (Part 3) Riquewhir - France: http://ppantip.com/topic/33789511
Le Buoa’s trip: Colmar-Luxembourg-Paris 3 ประเทศ 6 เมือง 10 วัน (Part 4) Luxembourg City - Luxembourg: http://ppantip.com/topic/33816520
Le Buoa’s trip: Colmar-Luxembourg-Paris 3 ประเทศ 6 เมือง 10 วัน (Part 5) Trier - Germany: http://ppantip.com/topic/33845139
Le Buoa’s trip: Colmar-Luxembourg-Paris 3 ประเทศ 6 เมือง 10 วัน (Part 6) จบ Paris - France: http://ppantip.com/topic/33845635

Part IV Luxembourg City (ลักเซมเบิร์ก) – Luxembourg



ตอนแรกตัดสินใจไปเมืองนี้เพราะดูจากรูปแล้วสวยดี แปลกตรงที่มีการแบ่งส่วนของเมืองเป็นชั้นๆ
ก่อนเดินทางเรื่องที่กังวล มีแค่การเดินทางภายในเมือง เพราะว่าเราพักในเขต Gare (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นยังไง รู้แค่ว่าใกล้สถานีรถไฟ) ซึ่งไม่รู้ว่าจะเดินทางเที่ยวในเมืองได้ยังไง...เท่านั้น

แต่ความรู้สึกแรกเมื่อได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองคือ Fail… ไม่ค่อยเดินทางไปต่างประเทศแล้วรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เท้าพ้นประตูทางเข้าของสถานีรถไฟ

ไปถึงวันอังคาร ตอนนั้นเป็นช่วงประมาณบ่ายสี่โมงนิดๆ คนเยอะ (มาก!! กอไก่ล้านตัว) เดินแบบไม่สนใจใคร ชนซ้ายชนขวา เราเดินชิดขวายังจะเดินมาเบียดมาชน เหยียบเท้า เตะกระเป๋าลากใบเขื่อง (ทั้งที่เราเอากระเป๋ามาลากไว้ข้างหลังเราแล้วด้วยซ้ำ) ความรู้สึกตอนนั้นคือแบบนี่มันอะไรวะ รู้สึกแย่มาก จะถามทางก็มีแต่คนสะบัดบ๊อบใส่ โชคยังดีที่สุดท้ายเดินไปจนถึงบริษัทนึงแถวๆนั้น ถามพนักงานที่เขากำลังกลับบ้าน เขาเลยบอกทางมาโรงแรมถูก

เย็นวันนั้นหมดอารมณ์จะไปไหนต่อ เพราะเดินทางเหนื่อยแถมยังเจอเจ้าบ้านต้อนรับแบบนี้ ความรู้สึกอยากลั้ลล้าเป็นอันโยนทิ้งไปได้เลย ก็เลยตัดสินใจหาซื้อของมาทำกินจากคาร์ฟูแล้วนอนเอาแรกดีกว่า ก่อนขึ้นห้องก็ขอแผนที่เมืองมาจากโรงแรมแล้วเขาก็แนะนำเส้นทาง ซึ่งหวังใจว่าอย่างน้อยในเมืองที่เราจะไปพรุ่งนี้จะให้ความรู้สึกที่ดีกว่านี้

เช้าวันต่อ...ฟ้าครึ่มแต่เช้า ฝนตกปรอยๆตลอดเวลา ฮ่าๆๆๆ หอยหลอด!!! เซ็งระดับสิบ เบื่อจนหมดแรงที่จะไปไหน แต่ก็เดินไปเรื่อยๆจากเขต Gare ข้ามสะพานเพื่อเข้าสู่เขต Centre



แค่สะพานเดียว!! อารมณ์ต่างกันมาก... ความวุ่นวายค่อยๆหายไป จนไม่อยากเชื่อ

2 แม่ลูกนั่งหลบฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์แล้วเจอนักศึกษามาหลบฝนเหมือนกัน แม่เลยถามนู้นนี้นั้น คุยไปตามประสา สาวนักศึกษ้เลยถามว่าเราพักกันที่ไหน พอบอกว่าพักโซน Gare นางเลยพูดว่า ...มันไม่ค่อยโอเค

ฮ่าๆๆๆ คือไร? คนบ้านเมืองนางเองยังพูดแบบนี้เลย นี่พี่คิดผิดสินะที่อยากพักใกล้ๆสถานีรถไฟเพราะเดินทางสะดวก หลังจากบอกลากันเพราะฝนเริ่มหยุดแล้ว และเริ่มออกเดินหาบรรยากาศสวยๆมาทดแทนความ Fail ที่เราเจอในวันแรกกันดีกว่า

ลักเซมเบิร์กแบ่งอยู่หลายส่วน แต่ที่เราได้ไปมาคือ Gare, Centre และ Grund
Gare เป็นบริเวณที่เราพัก ใกล้ๆสถานีรถไฟ และเป็นเขตเมืองใหม่ ส่วน Centre และ Grund เป็นเขตเมืองเก่า Grund อยู่ต่ำกว่า Centre จะต้องเดินลงไป แต่เห็นบางรีวิวบอกว่าลงลิฟท์ได้ (เราหาลิฟท์ไม่เจอ เพราะรีวิวที่อ่านมาไม่ได้บอกว่าลิฟท์อยู่ตรงไหน เราเดินเลยลงไปกับแม่แล้วก็เดินขึ้นตามทางที่ถามคนแถวๆนั้น)


เดินเรื่อยๆเข้าไปใน city center แล้วก็หาซื้อของกินมานั่งแถวๆ hall ของเขา บรรยากาศดี มีนกมาร้องขออาหารด้วย ฮ่าๆ เชื่องมาก หมั่นเขี้ยว ...น่าจับทอด!!



หลังจากนั่งกินข้าวเสร็จก็กะจะเดินไป หาร้านช๊อคโกแลตที่เป็นเป้าหมาย จริงๆแล้วเรามาลักเซมเบิร์กแบบมีข้อมูลน้อยมากๆ ไม่รู้ว่าจะต้องไปเที่ยวที่ไหน หรือว่าดูอะไรบ้าง ก็ไม่รู้ว่าไม่ค่อยมีคนไปหรือไม่ค่อยมีคนรีวิวกันแน่ (หรือไม่ได้อ่านก็ไม่รู้นะ ฮ่าๆๆ)

เป็นความโชคดีอีกอย่างคือ วันที่เราไปมันมีตลาด ตรงจัตุรัสแถวศาลากลางจังหวัด ขอบอกว่า 2 แม่ลูกเพลินกับที่นี่มาก ฮ่าๆๆ ทั้งผลไม้ แฮม แยม โน้นนี้ สนุกสนานกับการหาของกิน (โดยเฉพาะสตอเบอรี่ลูกโตๆ แค่ 3.50 ยูโร ฟินสุดอะไรสุด)



หลังจากนั้นก็เดินเรื่อยๆมาเจอกับราชวัง และป่ะกะคณะทัวร์มากมาย ฮ่าๆ เรายืนเล่น แถวๆนั้นแล้วก็มองหาร้านช๊อคโกแลตร้อน ที่เคยอ่านจากรีวิว จนเจอ... คือร้านอยู่หน้าวังเลยจ๊ะ หน้าวังไม่มีอะไรเขียนเลยว่าคือวัง มีแต่ประตูที่เป็นสัญลักษณ์กับทหารประจำประตู 1 นายถ้วน



นี่ชวนแม่เข้าไปนั่งในร้าน ตอนแรกนางจะไม่เขา เพราะกลัวว่ามันแพง หน้าร้านก็ไม่มีราคาติด แต่มีเมนูตั้งไว้เลยเปิดดู ราคาก็พอทนนะ ถือว่ากินบรรยากาศ