สงสัยเวลา ลดหย่อนโทษนักโทษใครเป็นผู้พิจารณาบ้างครับ
พอดีดูซีรีย์ แล้วเห็นคดีที่มีเจ้าทุกข์ เหมือนเจ้าทุกข์มีส่วนในการพิจารณาด้วย ไม่รู้ว่า แค่ให้ความเห็น หรือสามารถคัดค้านได้
เลยสงสัยของไทยน่ะครับว่าเวลาลดหย่อนโทษในโอกาสต่างนี่โทษที่มีเจ้าทุกข์ เขามีส่วนในการพิจารราด้วยไหมครับ
เช่นฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย หรือเป็นเรื่องของรัฐ หรือผู้เกี่ยวข้องกับรัญพิจารณาอย่างเดียว
อย่างกรณีข้างล่างนี้ ญาติผู้เสียชีวิต มีส่วนกับการลดหย่อนโทษไหมครับ
พ.ต.เฉลิมชัย ถูกจับกุมตัวจากเหตุการณ์ที่นายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ถูกฆาตกรรมที่โรงแรมรอยัลแปซิฟิก ถนนพระราม 9 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2544 โดยมีชนวนเหตุมาจากการทุจริตโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเชื่อมโยงมาถึงเขา
ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิต พ.ต.เฉลิมชัย ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และศาลอุทธรณ์เห็นตามศาลชั้นต้น กระทั่งในปี พ.ศ. 2549 ศาลฎีกามีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด ยืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ประหารชีวิต
ในปี พ.ศ. 2550 เขาได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษ ได้ลดโทษจากโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต ในปี พ.ศ. 2553 ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษอีกครั้ง จากจำคุกตลอดชีวิต เหลือจำคุก 50 ปี และในปี พ.ศ. 2554 ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษเช่นเดียวกัน จากจำคุก 50 ปี ได้ลดวันต้องโทษ 13 ปี[1]
การลดหย่อนโทษ ของผู้ถูกจำคุก
พอดีดูซีรีย์ แล้วเห็นคดีที่มีเจ้าทุกข์ เหมือนเจ้าทุกข์มีส่วนในการพิจารณาด้วย ไม่รู้ว่า แค่ให้ความเห็น หรือสามารถคัดค้านได้
เลยสงสัยของไทยน่ะครับว่าเวลาลดหย่อนโทษในโอกาสต่างนี่โทษที่มีเจ้าทุกข์ เขามีส่วนในการพิจารราด้วยไหมครับ
เช่นฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย หรือเป็นเรื่องของรัฐ หรือผู้เกี่ยวข้องกับรัญพิจารณาอย่างเดียว
อย่างกรณีข้างล่างนี้ ญาติผู้เสียชีวิต มีส่วนกับการลดหย่อนโทษไหมครับ
พ.ต.เฉลิมชัย ถูกจับกุมตัวจากเหตุการณ์ที่นายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ถูกฆาตกรรมที่โรงแรมรอยัลแปซิฟิก ถนนพระราม 9 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2544 โดยมีชนวนเหตุมาจากการทุจริตโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเชื่อมโยงมาถึงเขา
ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิต พ.ต.เฉลิมชัย ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และศาลอุทธรณ์เห็นตามศาลชั้นต้น กระทั่งในปี พ.ศ. 2549 ศาลฎีกามีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด ยืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ประหารชีวิต
ในปี พ.ศ. 2550 เขาได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษ ได้ลดโทษจากโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต ในปี พ.ศ. 2553 ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษอีกครั้ง จากจำคุกตลอดชีวิต เหลือจำคุก 50 ปี และในปี พ.ศ. 2554 ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษเช่นเดียวกัน จากจำคุก 50 ปี ได้ลดวันต้องโทษ 13 ปี[1]