ลูกสาวอายุ 6 ขวบ เป็นภูมิแพ้ตั้งแต่เกิด (เป็นกรรมพันธุ์ เพราะพ่อก็เป็นภูมิแพ้) อาการก็คือเขาจะจามในตอนเช้า ตอนนอนกลางคืน ตอนกลางวัน แล้วแต่ว่าจะมีอะไรมากระตุ้นให้จาม สรุปคือ เค้าสามารถจามได้ทุกเวลา 24 ชั่วโมง ยุงกัดนิดเดียวก็เป็นตุ่มนูนใหญ่ หลายวันกว่าจะหาย เจออากาศร้อน ก็มีผื่นขื้นเต็มตัว

ไปหาหมอ ได้ยาZyrtec Syr (0.25 mg.)มาทานและมียาฉีดจมูก Avamys อาการดีขึ้นเมื่อใช้ยา พอหยุดยา อาการจามก็กลับมาเหมือนเดิม

คุณหมอแนะนำให้มาทำสกินเทสดู จะได้รู้ว่าแพ้อะไร ผลออกมาปรากฏว่าแพ้เยอะมาก แต่ตัวแพ้หลักๆ คือ ไรฝุ่น หญ้าแพรกและดอกหญ้า แมลงสาบ  ยุง และขนสุนัข

ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้ค่ะ เมื่อรักษาด้วยการทานยาแล้วอาการทรงตัวหรือไม่ดีขึ้น คุณหมอแนะนำให้ฉีดยาค่ะ ซึ่งสารที่ฉีดเข้าไปก็คือ สิ่งที่ลูกแพ้ หมอ บอกว่าเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา จะได้ไม่แพ้มัน แต่ต้องฉีดถึง 120 เข็ม อุต๊ะ! อิแม่จะเป็นลม  เราก็ตัดสินใจว่าฉีดเถอะ ลูกจะได้หาย ก็เลยเริ่มฉีดเข็มแรกไปเมื่อวาน หมอบอกว่าแรกๆ จะฉีดถี่หน่อย คืออาทิตย์ละครั้ง บลา บลา จำไม่ได้แล้ว แต่หมอก็บอกว่าโอกาศที่จะไม่หายก็มี 20% แต่เราคิดบวกค่ะ มั่นใจว่าลูกต้องหาย

พอบอกคนรอบข้างว่าเนี่ย จะให้ลูกฉีดยารักษาภูมิแพ้ 120 เข็ม คำถามมาเต็มเลยค่ะทีนี้ ตอบไม่หวาดไม่ไหว "ไม่สงสารลูกเหรอ" "จะทนไหวเหรอ ตั้ง 120 เข็ม" "เข็มละเท่าไหร่? ไม่หมดเป็นแสนเหรอ" ฯลฯ

ก็เลยอยากสอบถามเพื่อนๆ พี่ๆ คุณหมอหรือใครก็ได้ ช่วยให้ข้อเสนอแนะหน่อยค่ะว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้มันมาถูกทางแล้วหรือยัง เพราะคนเป็นแม่ ยังไงก็อยากให้ลูกหายค่ะ สงสารเค้า ยินดีรับฟังทุกคำแนะนำ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ