ซีนแรก เป็นการเอ่ยถึงธีมโดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งธีมที่ว่าก็คือ เมื่อมีมนุษย์ผู้ประสบภัยต่างๆอยู่แห่งหนใด"ในโลก" ถ้ามนุษยชาติที่เหลือ ได้รับรู้ภัยนั้นๆ ก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ แม้จะไม่ไช่เชื้อชาติเดียวกันก็ตาม และนี่คือธีมหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ "การช่วยเหลือ"



ซีนที่สอง ก็จะกล่าวถึงนาซ่า มีภารกิจออกไปสำรวจดาวอังคารของทีมนักสำรวจอวกาศกลุ่มนึง แต่ก็เกิดสิ่งไม่คาดฝัน พายุทรายอันรุนแรงบนดาวอังคาร ทำให้กลุ่มนักสำรวจต้องยกเลิกภารกิจโดยด่วน และอพยพกลับโลกทันที แต่ก็ประสบอุบัติเหตุกับ Mark Watney หนึ่งในักสำรวจอวกาศชุดนี้ ที่โดนพายุทรายหอบร่างปลิวออกไป เพื่อนๆในทีมสำรวจอวกาศไม่สามารถช่วยเหลือเค้าได้เลย และทุกคนก็ขึ้นยานอพยพกลับโลกทันที




ซีนที่สาม Teddy Sanders ซึ่งเป็นตัวแทนของภารกิจสำรวจอวกาศของนาซ่า ก็มาตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนต่างๆว่า ภารกิจสำรวจดาวอังคารครั้งนี้ เกิดอุบัติเหตุและทำให้สูญเสียชีวิตนักสำรวจไปหนึ่งคน นั่นก็คือ  Mark Watney



ซีนที่สี่ แต่ความจริงแล้ว Mark Watney ยังไม่ตายครับ และฟื้นขึ้นมาหลังจากพายุทรายบนดาวอังคารสงบ  เค้าก็กลับไปที่สถานีชั่วคราวของนาซ่าบนดาวอังคาร และเค้าก็กลับพบว่า ตนเองเหลืออยู่เพียงคนเดียวบนดาวอังคาร เพื่อนๆในทีมอพยพกลับโลกหมดแล้ว Mark Watney ต้องหาทางเอาชีวิตให้รอดบนดาวอังคารให้ได้ ด้วยปัจจัยต่างๆที่หลงเหลืออยู่ ทำให้เค้าสามารถใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคารได้เพียง 31 วัน Mark Watney ต้องงัดเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่ตนรู้ เพื่อหาทางยืดระยะเวลาเอาชีวิตรอดให้ได้นานที่สุด พร้อมกับค้นหาวิธีส่งข้อความกลับไปยังนาซ่าบนโลก ว่าตนยังอยู่



ซีนที่ห้า ในที่สุด ทางนาซ่าบนโลกก็รับรู้ข้อความของ Mark Watney ว่าเค้ายังมีชีวิตอยู่บนดาวอังคาร เพื่อนๆในทีมต่างก็หาหนทางที่จะกลับไปรับ Mark Watney กลับโลกกันให้ได้ แม้จะถูกนาซ่าปฏิเสธเลี่ยงความช่วยเหลือก็ตาม โดยที่เพื่อนๆของเค้าก็ต้องเสี่ยงกับชีวิตพวกตนเช่นกัน เพราะนี่คือภารกิจที่พลาดไม่ได้ พลาดก็ต้องถึงตายกลางอวกาศแน่นอน



ซีนสุดท้าย มีตัวหนังสือขึ้นเป็นข้อความว่า "การช่วยเหลือนี้ มีระยะทางไกลถึง 140ล้านไมล์" เลยทีเดียว




The Martian จึงไม่ใช่หนังหักมุม ไม่ใช่หนังลึกลับซับซ้อน หนังเรื่องนี้ไม่ได้ขายการลุ้นในตอนจบ ใครๆดูแค่ตัวอย่างก็รู้ว่า ตอนจบต้องออกมาประมาณไหน หนังเรื่องจึงนี้ขาย "ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการเอาตัวรอด และใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดในการช่วยเหลือ"  ซึ่งผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ได้จินตนาการเอาไว้ ผมก็ไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์มากนัก จึงไม่สามารถลงลึกในแง่นั้นได้ แต่ผมรู้อย่างนึงว่า ในแง่ของภาพยนตร์ หนังเรืองนี้ไม่ได้ขายความสนุกที่ "ปลายทาง" เพราะอย่างที่บอกไว้แล้ว ใครดูก็รู้ว่าปลายทางจะเป็นเช่นไร แต่หนังเรื่องนี้ เลือกที่จะขายความสนุก "ระหว่างเดินทาง" ครับผม

The Martian กำกับโดยผู้กำกับฝีมือดี Ridley Scott มีกำหนดเข้าฉายวันที่  1 October 2015 (อ้างอิงวันฉายของสิงคโปว์)


Facebook Fanpage " หลวงจีนหอไตร "
จบครับ สวัสดี