พ่อแม่คนไหนไม่หาไว้ให้ลูกบ้าง ?

ไม่รู้ว่าเรามีความคิดแปลกๆ หรือปกติ หรือธรรมดาๆ ที่คนอื่นเขาคิดกันใหม

พื้นฐานบ้านเรา แม่รับราชการ (ครู) มีพ่อเลี้ยง ฐานะทางบ้านปานกลาง ตอนเด็กๆ อยู่บ้านเช่า ต่อมาอยู่คอนโด ตอนนี้อยู่ทาวเอาส์
ตอนเล็กๆ เราอยู่คอนโด นั่งรถเมล์ไปโรงเรียน พอทำงาน+แต่งงาน ถึงได้ซื้อบ้าน ซื้อรถ มีลูก 5 ขวบ เราก็ขับรับ-ส่งเอง

ต่อมาเราเลิกกับแฟน เราขายบ้าน แต่รถยังอยู่ แม่เราบ่นมาตลอดว่าบ้านหลังนั้นน่าจะเก็บเอาไว้ให้ลูก
แต่เรากลับคิดว่า สมัยเรา เรายังต้องหาซื้อเอง แม่ก็ไม่ได้มีบ้านไว้ให้นะ

เราเห็นเพื่อนๆ หลายคน พยายามทำงานหาเงินมากๆ เพื่อให้ได้มีบ้าน มีรถ มีเงิน ประมาณว่าเอาไว้ให้ลูกใช้ โตมาจะได้ไม่ลำบาก
แต่ก็จะไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่กับลูกสักเท่าไหร่ เพราะต้องทำงานเยอะขี้น

แต่เรากลับคิดว่า เราก็ทำงานเท่าที่เราทำไหวนั่นแหละ ทำไปตามปกติ ไม่มากไป ไม่น้อยไป มีกิน มีใช้ไปเรื่อยๆ
จะมีทรัพย์สินอะไรเหลือไว้ให้ลูกบ้าง อันนี้เรามองว่า เฉยๆ ค่ะ มีก็ดี ไม่มีก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ถึงเวลานั้นก็ให้ลูกหาเองละกัน

แต่เห็นหลายๆ คน มองว่าเราไม่รักลูก ไม่ห่วงอนาคตลูก อะไรก็๋ว่าไป สิ่งเดียวที่เราทำให้ลูกคือประกันสุขภาพ+เงินออม+อุบัติเหตุของ AIA

แล้วพ่อแม่คนอื่นๆ มองเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ กับทรัพย์สินที่ควรจะมีไว้ให้ลูก ?

ประเด็นคือ เราไม่อยากทำงานหามรุ่ง หามค่ำ เพื่อหาเงินมาซื้อโน่น นี่ นั่น ไว้ให้ลูกเกินกำลัง
เราคิดว่า เวลาที่ผ่านไปมันย้อนกลับมาคืนมาไม่ได้ เอาเวลาเหล่านั้น มาอยู่กับลูกจะคุ้มค่ากว่าไหม

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
อาจจะคิดต่างซักนิดค่ะ
โดยตัวเราเอง พ่อแม่ก็ไม่มีจัดหาไว้ให้แต่อย่างใดค่ะ
บางทีเห็นเพื่อนซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อคอนโด
แล้วบอกว่า ที่บ้านช่วย

ในขณะที่เราจะซื้อรถซักคัน ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มา
ก็เกิดความรู้สึกหดหู่อยู่นิดๆค่ะ

ไม่อยากให้ลูกต้องหดหู่แบบเดียวกัน
ถึงซื้อบ้านแล้ว ลูกเติบโตแล้วจะไปซื้อบ้านหลังใหม่อยู่
ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอย่างน้อย เราก็ไม่ได้ไปอาศัยลูกอยู่
แต่มีไว้เพื่อที่ลูกจะได้ไม่ต้องลำบากในข้างหน้า
ความคิดเห็นที่ 8
แต่ จขกท. ก็ควรจะคิดในอีกมุมหนึ่งนะครับ...
ลูกที่ออกจากอกเราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่  โดยมีแต้มต่อในชีวิตที่ส่งต่อมาจากพ่อแม่น้อยมาก  เป็น 0 หรือติดลบ
เมื่อเทียบกับลูกที่มาจากครอบครัวที่ให้แต้มต่อติดตัวไปมากกว่า
ลองคิดถึงลูกที่พอเรียนจบออกมาทำงาน  ก็ต้องมานั่งผ่อนทุกอย่างในชีวิต
เมื่อเทียบกับลูกที่ทำงาน  โดยมีบ้านหรือรถแล้ว  ไม่ต้องมานั่งผ่อนอะไรอีก
ใครที่ควรจะดำเนินชีวิตต่อไปได้ดีกว่ากัน

พ่อแม่ทุกคนก็คงอยากให้ลูก ๆ เจริญก้าวหน้าในชีวิตไปตามทางของเขาทุกคน  โดยที่ลำบากน้อยที่สุด
ไม่ได้บอกว่าจะต้องทำประเคนให้คุณลูกกันแบบไม่ลืมหูลืมตานะครับ
ก็ทำไปตามกำลังของเราที่มีนั่นแหละ  แต่ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
ความคิดเห็นที่ 2
ให้ความรู้. ความอบอุ่น.  ให้เวลา  ก็ทรัพย์สินแล้ว
ความคิดเห็นที่ 19
" เอาเวลาเหล่านั้น มาอยู่กับลูกจะคุ้มค่ากว่าไหม"
อืมมมม มันเป็นข้อแก้ตัว ของคนที่มีความสามารถ ไม่เพียงพอ จะหาและเก็บได้มากๆ ในเวลาจำกัด อันเหมาะสมไหม???

"เอามาใช้ ณ วันนี้ก่อน เพราะวันหน้า อาจไม่ได้ใช้"  
ฟังดูดี  แต่มันใช่ไหม ...

"ให้ลูกหาเอง  เพราะเราก็หาเอง  ลูกจะได้เข้มแข็ง เติบโตเอง"
มันใช่จริงตามนั้นไหม??  ถามจริง.. หรือเพราะเราทำไม่ได้ ..
ไม่จำเป็นต้องหามรุ่งหามค่ำ  แต่ก็หาเหลือเก็บสำหรับตัวเอง และเหลือสำหรับลูก พร้อมทั้งมีเวลา ได้นะคะ
สำคัญที่ ต้องมีคุณภาพในทุกเวลา  คุณภาพเต็มเวลากับลูก คุณภาพเต็มเวลาทำงาน คุณภาพเต็มเวลาเรียนจนมีศักยภาพที่จะหาเงิน ฯลฯ
ยอมรับนะคะ  คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีโอกาส  ไม่มีความสามารถ  ไม่มีทัศนคติที่ชี้นำทาง  หลงทางกับความฟุ้งเฟ้อวัตถุ ...

แต่  มันเป็นข้ออ้าง หรือเปล่าคะ  ที่จะใช้เวลากับลูก จึงไม่มีเงินเหลือให้ลูก??

โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ  ... รุ่นปู่ย่า ติดลบไร้สัญชาติมาจากจีน , รุ่นพ่อแม่ เป็นศูนย์ การศึกษาน้อย ใช้แรงงานเข้าแลก, รุ่นเรา ยังเป็นบวก เพราะได้การศึกษามา , รุ่นลูก ควรมีอะไรติดตัวไป เพื่อมีอนาคตที่เทียบเท่าคนธรรมดาส่วนใหญ่ของประเทศ ... เราไม่ได้หมายถึงเงินอย่างเดียว แต่ได้ความหลักแหลมพิเศษสักด้าน รึเปล่าคะ?  .... หรือคุณ อยากรักษาความเป็นรากหญ้า สืบชั่วลูกชั่วหลาน
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สังคมคุณแม่ ปัญหาชีวิต มนุษย์เงินเดือน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่