สวัสดีค่ะ ชื่อ ปุ้ย ค่ะ
อันนี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องบ้าน (ปกติจะเขียนแต่เรื่องบิ้วตี้)
ถ้ามีอะไรที่ผิดพลาด หรือผิดกฏ ต้องขออภัยไว้ ณ ย่อหน้าแรกนี้เลย และหากมีคำแนะนำ ปุ้ยขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
เนื่องจากกระทูมีผู้อ่านให้ความสนใจเยอะมาก ปุ้ยจึงขออนุญาติ โพสต์เป็น Blog ให้อ่าน จะได้อ่านสะดวกขึ้นค่ะ
เพราะจะมีลิงค์ที่ใส่ตรงรายละเอียดผลิตภัณฑ์ และรูปจะขยายได้ใหญ่ขึ้นค่ะ
ลิงค์นี้ค่ะ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=puyisme&group=9
IKEA D.I.Y. Bluid-in ห้องทำงาน สวยเต็มผนัง ด้วยงบ 29,300 http://www.bloggang.com/viewdraft.php?id=puyisme&month=16-06-2015&group=9&gblog=1
IKEA D.I.Y. ห้องเก็บของ+แต่งตัว 5.5 ตรม. ด้วยงบแค่ 27,500 http://www.bloggang.com/viewdraft.php?id=puyisme&month=16-06-2015&group=9&gblog=3
IKEA D.I.Y. มุมบิ้วตี้ ที่โถงทางเดิน ด้วยงบแค่ 900 - 3,000 http://www.bloggang.com/viewdraft.php?id=puyisme&month=16-06-2015&group=9&gblog=2
ส่วนถ้าใครถนัดอ่านแบบกระทู้ก็เชิญเสพเนื้อหาได้เลยค่ะ
บล็อกนี้เป็นความภาคภูมิใจที่มากๆ ในขีวิตเลย เพราะเกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรง ของปุ้ยเอง เพราะที่บ้านไม่อนุมัติงบเฟอร์นิเจอร์ จึงต้องเก็บเงินทำ DIY เองค่ะ แบบนี้ เป็นทางที่พอจะเป็นไปได้ ที่จะทำฝันให้เป็นจริง ได้มากที่สุด
ทั้งหมดนี้ เกิดจากไอเดียการออกแบบ การวัดพื้นที่ เลือกซื้อของทุกชิ้นเอง จ่ายเอง (แต่ให้สามีช่วยติดตั้งให้)
โอเค ขอเข้าเรื่องเลยค่ะ
โดยเริ่มจากพื้นที่ที่ใช้สอยบ่อยๆ ก่อนค่ะ ที่จะมารีวิวในบล็อกนี้ มี 3 ส่วน คือ
ห้องทำงาน (my Work Studio) ห้องเก็บของ (my StoreRoom) และมุมบิ้วตี้ตามทางเดินในบ้าน (my Beauty Station in Hallway)
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ ส่วนใหญ่เลย 95% ซื้อจาก IKEA งบไม่เกิน 30,000 /ห้อง
(ออกตัวไว้ก่อน ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ค่าจ้างรีวิวซักบาทนะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่า เชียร์เพราะมีเบื้องหลัง)
ที่ชอบอีเกีย เพราะว่าราคาไม่เว่อร์ ดีไซน์ดี คุณภาพโอเคกว่า พวก Index และ SB (ในชิ้นที่ราคาเท่าๆ กัน)
แถมที่เว็บและแคตตาล็อกมีภาพไอเดียการใช้งานมาแชร์เยอะ เราเห็นแล้วเกิดไอเดียอยากทำบ้าง
การเลือกสินค้าจากอีเกีย ปุ้ยจะเลือกของที่ประยุกต์ใช้งานได้ในราคาที่ไม่แพงเกินชิ้นละ 3 - 4,000 บาท
(สินค้าอีเกียแพงๆ เยอะ แต่ของถูกและดี ก็มีไม่น้อย ต้องเดินนานๆ ดูให้ทั่วๆ ค่ะ)
หลักการของปุ้ยคือ พยายามจะ DIY จากของชิ้นถูกๆ แต่เน้นใช้แรงมากหน่อยค่ะ คือ อยากได้ห้องสวยๆ แต่งบไม่เยอะ
ส่วนรูป ปุ้ยเป็นคนถ่ายเอง ถ่ายมั่วๆ ไม่ได้มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพ มากนัก บางรูปอาจจะเห็นว่าตู้เบี้ยวๆ เอียงๆ
จริงๆ ไม่ได้เบี้ยวนะคะ คือ ยืมเลนส์พี่เขยมา แล้วเลนส์คล้ายๆ จะเป็นเลนส์ Wide เลยทำให้รูปป่องๆ ตรงกลาง
มาพูดถึง
อุปกรณ์ที่เราจะต้องใช้ก่อนค่ะ
1) อุปกรณ์การวัด ได้แก่ ตลับเมตร ไม้บรรทัดยาว ไม้วัดระดับ
2) ดินสอ
3) กระดาษ Post-it พับเป็นตัว L เอาไว้รองฝุ่นที่เจาะ
4) อุปกรณ์เจาะ ได้แก่ สกรูไฟฟ้า
5) อุปกรณ์ติดตั้ง ได้แก่ น็อตและพุก เบอร์ 7 - 8 (เตรียมไว้ทั้งหัวแบบและหัวกลม) ไขควง ค้อนยาง
6) บันได
วิธีการ
1) ค้นหาแรงบันดาลใจ โดยส่วนใหญ่แล้วปุ้ยก็หาจาก pinterest.com และก็ IKEA Catalogue ประกอบกัน
2) สำรวจสินค้าตามแหล่งซื้อเฟอร์นิเจอร์
3) วัดพื้นที่หน้างานที่จะติดตั้งจริง แล้วก็เชคดูว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่เราเลือก นำไปวางได้พอดีมั้ย
4) ออกแบบ วาดรูปคร่าวๆ ว่าอะไรจะวาง จะแขวนตรงไหน โดยวิเคระห์จากการใช้สอยในชีวิตจริงๆ ของเรา
5) ไปซื้อของ เตรียมลิสท์ไป ถ้าเดินโชว์รูม เดินช้าๆ เพราะว่าถ้าเราหยิบของไม่ครบตามลิสท์จะต้องย้อนกลับมาใหม่ มันจะไกลเลยค่ะ แล้วก็ถ้าเจอเฟอร์นิเจอร์ที่จะซื้อในโชว์รูมถ่ายรูปรหัสตำแหน่งในสต๊อกด้วย เผื่อจะได้ไม่ต้องไปถามพนักงานว่าของชิ้นนี้อยู่ตรงไหนในโกดังค่ะ
6) เตรียมติดตั้ง วัดระดับที่จะติด โดยใช้ไม้วัดระดับช่วย เพื่อให้ตู้แขวนผนังไม่เอียง แล้วเอาดินสอขีดไว้ หรือถ้าต้องเจาะรู เอาดินสอจุดได้ ถ้าเมีคนช่วย ก็ให้เค้าช่วยเอาน็อตจริงๆ มาเสียบที่รู แล้วใช้ค้อนตอกลงไปให้ไปรอยว่า รูที่จะเจาะคือ “ตรงนี้นะ”
7) ขั้นตอนการติดตั้ง ดูตามคู่มือที่แนบมากับเฟอร์เจอร์ชิ้นนั้นๆ ได้เลย
** ข้อแนะนำในเรื่องการซื้อสินค้า IKEA สามารถให้เค้ามาส่งที่บ้านได้ค่ะ ถ้าอยู่ในเขตกรุงเทพก็ 590 บาท ถ้าไกลกว่านั้นก็ขึ้นกับระยะทาง
และถ้าเฟอร์นิเจอร์ ราคาไม่สูงเว่อร์ ก็ใช้ช่างเค้าประกอบให้ คิดราคา 7% ของราคาสินค้า อย่างตู้บางชิ้นรายละเอียดเยอะ ปุ้ยซื้อมา 1,000 ให้เค้าประกอบให้ เพิ่มอีก 70 บาท แบบนี้สามียิ้มเลยค่ะ(ให้ช่างประกอบให้ เสียเงินเล็กๆ น้อยๆ ดีกว่าที่ต้อง วานสามี กว่าจะต้องรอดูอารมณ์วันไหนอารมณ์ดี ที่ไม่เสี่ยงต่อการโดนบ่น บางทีรอเป็นเดือน)
รูปด้านล่างนี้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งห้องทำงานค่ะ
มาดูผลงานกันเลยค่ะ
ในการรีวิวนี้ ปุ้ยจะอธิบายวิธีคิด แล้วก็การใช้บัดเจ็ดไปด้วยเลย
(บัดเจ็ดจะแจงเฉพาะเฟอร์นิเจอร์และของที่ติดตั้งบนผนัง) เผื่อใครจะลองจดไปใช้กันได้ค่ะ
ห้องแรกเป็นห้องสตูดิโอ สำหรับนั่งเล่น อ่านหนังสือ นั่งทำงาน
โดยความตั้งใจ อยากให้ห้องสว่างมากๆ เพราะงานส่วนใหญ่ของปุ้ยต้องพึ่งแสงธรรมชาติค่ะ
ดังนั้นผนัง 2 ด้านจึงเป็นหน้าต่างบานสูง ดังนั้นห้องนี้ก็จะมีพื้นที่ให้ตกแต่งเหลือแค่ 2 ด้านเท่านั้นเอง
ซึ่งห้องสตูดิโอนี้ มีขนาด หน้ากว้าง 3.7 เมตร ลึก 6 เมตร
ปุ้ยแบ่งโซนด้วยการใช้บันได 3 ขั้น ช่วยให้ห้องดูมีมิติขึ้น เริ่มรีวิวจากชั้นบนหรือด้านหลังก่อนนะคะ
รูปแรกเป็นภาพตอนที่เพิ่งฉาบปูนเสร็จ กำลังติดตั้งหน้าต่าง
รูปที่ 2 ตอนนี้ทาสี ติดแอร์ และปูพื้นแล้ว
รูปที่ 3 หลังจากตกแต่งเสร็จ
ในเรื่องของพื้น ปุ้ยเลือกพื้นกระเบื้องยางเพราะดูแลง่าย เลือกลายสีเทาอ่อน เพราะเป็นคนชอบสีโทนเทาๆ มากกว่าโทนสีน้ำตาล
กระเบื้องยางสมัยนี้ดีมาก คือออกแบบมาเป็นระบบคลิ๊กล็อคไม่ต้องใช้กาว ติดตั้งเหมือนลามิเนตเลย แต่กันน้ำ และทนกว่าลามิเนต
ส่วนผิวสัมผัสก็มีหลายแบบทั้งการเลียนแบบเทคเจอร์ของไม้จริง และเทคเจอร์แบบลามิเนตค่ะ
ที่ห้องนี้ ปุ้ยลงทุนใช้ของดีหน่อย เป็นยี่ห้อ Alfa ราคาประมาณ 780 บาท/ตรม. (รวมค่าติดตั้งแล้ว และแถมบัวผนังด้วย)
เวิร์คมาก ช่วยให้ห้องดูดีขึ้นมาเลย [เพจของยี่ห้อง Alfa
http://www.facebook.com/alfaflooring]
** สำหรับคนที่สนใจกระเบื้องยาง ปกติกระเบื้องยางลายไม้จะตกเฉลี่ยอยู่ที่ ตรม. ละ 350 - 800 บาท ขึ้นกับคุณภาพและยี่ห้อค่ะ)
แต่พอติดแอร์ ช่างดันทำให้ปุ้ยเฟล เลย คือ ท่อแอร์สีคนละสีกับผนัง แล้วก็เห็นท่อแบบดูไม่สวยเลย
สุดท้าย ปุ้ยไปเอาสีทาบ้าน ปีนบันไดขึ้นไปทาค่ะ มันดูโอเคขึ้น แล้วก็ตกแต่งอีกหน่อย
ก็ช่วยพลาง เปลี่ยนจุดสนใจ ให้เราละสายตาจากจากท่อแอร์ไปได้
มาดูกันแบบละเอียดๆ เจาะทีละมุมกันค่ะ
เริ่มจากที่เห็นไกลๆ ก่อน คือ ผ้าม่าน ซึ่งช่วยให้ห้องดูดีขึ้นมาก บอกเลยว่าคุ้มค่า กับบัดเจ็ดประมาณ 1,350 บาท
โดยปุ้ยใช้ชุดราวสีดำ ให้สอดคล้องกับวงกบหน้าต่าง ส่วนผ้าม่านโครตคุ้ม คือ ดีและถูกมาก เป็นผ้าโปรงที่ยาวจรดพื้น
พอติดลงไปแล้วช่วยให้ห้องสว่างขึ้น เพราะกันแสงไม่ให้แชร์ออกไปยังโถงทางอีกฝั่งของห้อง
ซึ่งเป็นหน้าต่างบานกระจกใส และช่วยพลางตาจากโถงทางเดินด้วยค่ะ
ตรงกลางห้องเป็นโต๊ะเล็กๆ เซ็ทแบบลอยตัว คือเคลื่อนย้ายได้ตามจังหวะการใช้งาน อันนี้ขอข้ามนะคะ
RÄCKA curtain rod combination THB 356
Min. length: 120 cm, Max. length: 210 cm, Max. load: 5 kg
LILL net curtains, 1 pair THB 159
Length: 250 cm, Width: 280 cm, Weight: 0.40 kg
ใช้ชุดราวม่าน RÄCKA 2 ชุด 356x2 = 712 บาท
ผ้าม่าน LILL 4 ชุด 159x4 = 636
---------------------------
รวมเซ็ทผ้าม่านจาก Ikea 1,348 บาท
ส่วนตรงข้างบันได ตู้กระจกด้านขวา เป็นตู้ใส่เครื่องประดับ อันนี้ได้มาฟรี ขอเพื่อนมาจาก Her Anything
เพราะช่วยเค้าทำ Online Marketing อยู่ค่ะ (นี่ไม่ใช่โฆษณาแฝงนะคะ อย่าเข้าใจผิดเพราะตู้รุ่นนี้ ไม่มีนำเข้ามาขายแล้วค่ะ)
มุมนี้จริงๆ เราสามารถใช้กระจกเงาธรรมดาหรือ กรอบรูปมาตกแต่ง หรือจะหาโคมไฟตั้งพื้นมาวางก็ได้เหมือนกันค่ะ
ส่วนผ้าม่านอีกฝั่งนึง เป็นม่านปรับแสงสีขาว เลือกแบบที่ถูกที่สุด ของบางกอกการม่าน ราคา 2 บาน ประมาณ 4,000 บาท
และข้างบันไดด้านขวา ตกแต่งด้านการติดกรอบรูปเล็กๆ สีขาว เรียงกัน 2 แถว ช่วยให้ห้องดูมีรายละเอียดน่ารักขึ้น
ต่อมาเรามาดูการตกแต่งผนัง โดยปุ้ยตกแต่งให้เต็มผนังเลย
พูดถึงผนังฝั่งซ้ายก่อน ไอเดียการสร้างแรงบันดาลใจจากปกแม็กกาซีนที่เราชื่นชอบ ใช้ชั้นวางรูปภาพ RIBBA สีดำ ที่ IKEA เค้ามี 2 ไซส์
ขนาดยาว 115 ซม.และ 55 ซม. โดยออกแบบช่องไฟให้แต่ละชั้นห่างกันซัก 40-45 ซม. จะกำลังสวยค่ะ ไม่อึดอัดเกินไป
จากนั้นก็หากรอบรูป (ซื้อตามงานเฟอร์นิเจอร์ชิ้นละ 50-250 บาท) หรือแม็กกาซีนปกสวยๆ มาวางประดับค่ะ
ส่วนผนังว่างๆ ด้านหลังกรอบรูป ปุ้ยลองใช้กระจกเงามาติดดู ช่วยให้ห้องดูกว้างและดูหรูหรา มีมิติขึ้น
เพราะจะมีเงาสะท้อนให้ดูมีสีเงาๆ เงาๆ เล่นกับไฟดีขึ้น ซื้อจาก IKEA เช่นกัน กระจกเงา LOTS ขนาด 30x30 ซม. จะมี 4 ชิ้นค่ะ
เค้าจะให้เทปโฟมกาว มาให้ ติดตั้งไม่ยาก แต่ต้องแม่น เพราะถ้าติดแล้วขยับไม่ได้ ถ้าจะแกะก็ลำบากเลยค่ะ
แล้วก็มีราวแขวน ซีรีย์ FINTORP มีขอแขวน กระป๋องไว้ใส่ของ จริงๆ คือ ตั้งใจจะไว้เสียบพวกเครื่องเขียนค่ะ
RIBBA Picture ledge, black THB 199
Length: 55 cm, Depth: 9 cm, Max. load: 5 kg
RIBBA picture ledge, black THB 349
Length: 115 cm, Depth: 9 cm, Max. load: 7.50 kg
LOTS mirror THB 199 /4 pieces
Length: 30 cm, Width: 30 cm, Package quantity: 4 pieces
FINTORP rail THB 269
Length: 57 cm, Diameter: 1.6 cm
FINTORP hook THB 119 /5 pieces
Depth: 3 cm, Height: 7 cm, Package quantity: 5 pieces
FINTORP cutlery stand THB 239
Diameter: 13 cm, Height: 13 cm
งบที่ใช้ ชั้นวางรูปภาพ RIBBA ไซส์เล็ก 199 บาท
ชั้นวางรูปภาพ RIBBA ไซส์ใหญ่ 349 x 3 = 1,047 บาท
กระจกเงา LOTS 199x4 = 796 บาท
ราวแขวนติดผนัง FINTORP ไซส์เล็ก 269 บาท
ตะขอแขวน FINTORP 119 บาท
ตะกร้า FINTORP 239x2 = 478 บาท
-------------------
รวมผนังครึ่งซ้าย 2,908 บาท
[CR] รีวิวของถูกและดี IKEA D.I.Y. Bluid-in ห้องทำงาน ห้องเก็บของ+แต่งตัว งบไม่เกิน 30,000 และตบท้ายด้วยมุม Beauty โถงทางเดิน
อันนี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องบ้าน (ปกติจะเขียนแต่เรื่องบิ้วตี้)
ถ้ามีอะไรที่ผิดพลาด หรือผิดกฏ ต้องขออภัยไว้ ณ ย่อหน้าแรกนี้เลย และหากมีคำแนะนำ ปุ้ยขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
เนื่องจากกระทูมีผู้อ่านให้ความสนใจเยอะมาก ปุ้ยจึงขออนุญาติ โพสต์เป็น Blog ให้อ่าน จะได้อ่านสะดวกขึ้นค่ะ
เพราะจะมีลิงค์ที่ใส่ตรงรายละเอียดผลิตภัณฑ์ และรูปจะขยายได้ใหญ่ขึ้นค่ะ
ลิงค์นี้ค่ะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=puyisme&group=9
IKEA D.I.Y. Bluid-in ห้องทำงาน สวยเต็มผนัง ด้วยงบ 29,300 http://www.bloggang.com/viewdraft.php?id=puyisme&month=16-06-2015&group=9&gblog=1
IKEA D.I.Y. ห้องเก็บของ+แต่งตัว 5.5 ตรม. ด้วยงบแค่ 27,500 http://www.bloggang.com/viewdraft.php?id=puyisme&month=16-06-2015&group=9&gblog=3
IKEA D.I.Y. มุมบิ้วตี้ ที่โถงทางเดิน ด้วยงบแค่ 900 - 3,000 http://www.bloggang.com/viewdraft.php?id=puyisme&month=16-06-2015&group=9&gblog=2
ส่วนถ้าใครถนัดอ่านแบบกระทู้ก็เชิญเสพเนื้อหาได้เลยค่ะ
บล็อกนี้เป็นความภาคภูมิใจที่มากๆ ในขีวิตเลย เพราะเกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรง ของปุ้ยเอง เพราะที่บ้านไม่อนุมัติงบเฟอร์นิเจอร์ จึงต้องเก็บเงินทำ DIY เองค่ะ แบบนี้ เป็นทางที่พอจะเป็นไปได้ ที่จะทำฝันให้เป็นจริง ได้มากที่สุด
ทั้งหมดนี้ เกิดจากไอเดียการออกแบบ การวัดพื้นที่ เลือกซื้อของทุกชิ้นเอง จ่ายเอง (แต่ให้สามีช่วยติดตั้งให้)
โอเค ขอเข้าเรื่องเลยค่ะ
โดยเริ่มจากพื้นที่ที่ใช้สอยบ่อยๆ ก่อนค่ะ ที่จะมารีวิวในบล็อกนี้ มี 3 ส่วน คือ
ห้องทำงาน (my Work Studio) ห้องเก็บของ (my StoreRoom) และมุมบิ้วตี้ตามทางเดินในบ้าน (my Beauty Station in Hallway)
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ ส่วนใหญ่เลย 95% ซื้อจาก IKEA งบไม่เกิน 30,000 /ห้อง
(ออกตัวไว้ก่อน ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ค่าจ้างรีวิวซักบาทนะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่า เชียร์เพราะมีเบื้องหลัง)
ที่ชอบอีเกีย เพราะว่าราคาไม่เว่อร์ ดีไซน์ดี คุณภาพโอเคกว่า พวก Index และ SB (ในชิ้นที่ราคาเท่าๆ กัน)
แถมที่เว็บและแคตตาล็อกมีภาพไอเดียการใช้งานมาแชร์เยอะ เราเห็นแล้วเกิดไอเดียอยากทำบ้าง
การเลือกสินค้าจากอีเกีย ปุ้ยจะเลือกของที่ประยุกต์ใช้งานได้ในราคาที่ไม่แพงเกินชิ้นละ 3 - 4,000 บาท
(สินค้าอีเกียแพงๆ เยอะ แต่ของถูกและดี ก็มีไม่น้อย ต้องเดินนานๆ ดูให้ทั่วๆ ค่ะ)
หลักการของปุ้ยคือ พยายามจะ DIY จากของชิ้นถูกๆ แต่เน้นใช้แรงมากหน่อยค่ะ คือ อยากได้ห้องสวยๆ แต่งบไม่เยอะ
ส่วนรูป ปุ้ยเป็นคนถ่ายเอง ถ่ายมั่วๆ ไม่ได้มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพ มากนัก บางรูปอาจจะเห็นว่าตู้เบี้ยวๆ เอียงๆ
จริงๆ ไม่ได้เบี้ยวนะคะ คือ ยืมเลนส์พี่เขยมา แล้วเลนส์คล้ายๆ จะเป็นเลนส์ Wide เลยทำให้รูปป่องๆ ตรงกลาง
มาพูดถึงอุปกรณ์ที่เราจะต้องใช้ก่อนค่ะ
1) อุปกรณ์การวัด ได้แก่ ตลับเมตร ไม้บรรทัดยาว ไม้วัดระดับ
2) ดินสอ
3) กระดาษ Post-it พับเป็นตัว L เอาไว้รองฝุ่นที่เจาะ
4) อุปกรณ์เจาะ ได้แก่ สกรูไฟฟ้า
5) อุปกรณ์ติดตั้ง ได้แก่ น็อตและพุก เบอร์ 7 - 8 (เตรียมไว้ทั้งหัวแบบและหัวกลม) ไขควง ค้อนยาง
6) บันได
วิธีการ
1) ค้นหาแรงบันดาลใจ โดยส่วนใหญ่แล้วปุ้ยก็หาจาก pinterest.com และก็ IKEA Catalogue ประกอบกัน
2) สำรวจสินค้าตามแหล่งซื้อเฟอร์นิเจอร์
3) วัดพื้นที่หน้างานที่จะติดตั้งจริง แล้วก็เชคดูว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่เราเลือก นำไปวางได้พอดีมั้ย
4) ออกแบบ วาดรูปคร่าวๆ ว่าอะไรจะวาง จะแขวนตรงไหน โดยวิเคระห์จากการใช้สอยในชีวิตจริงๆ ของเรา
5) ไปซื้อของ เตรียมลิสท์ไป ถ้าเดินโชว์รูม เดินช้าๆ เพราะว่าถ้าเราหยิบของไม่ครบตามลิสท์จะต้องย้อนกลับมาใหม่ มันจะไกลเลยค่ะ แล้วก็ถ้าเจอเฟอร์นิเจอร์ที่จะซื้อในโชว์รูมถ่ายรูปรหัสตำแหน่งในสต๊อกด้วย เผื่อจะได้ไม่ต้องไปถามพนักงานว่าของชิ้นนี้อยู่ตรงไหนในโกดังค่ะ
6) เตรียมติดตั้ง วัดระดับที่จะติด โดยใช้ไม้วัดระดับช่วย เพื่อให้ตู้แขวนผนังไม่เอียง แล้วเอาดินสอขีดไว้ หรือถ้าต้องเจาะรู เอาดินสอจุดได้ ถ้าเมีคนช่วย ก็ให้เค้าช่วยเอาน็อตจริงๆ มาเสียบที่รู แล้วใช้ค้อนตอกลงไปให้ไปรอยว่า รูที่จะเจาะคือ “ตรงนี้นะ”
7) ขั้นตอนการติดตั้ง ดูตามคู่มือที่แนบมากับเฟอร์เจอร์ชิ้นนั้นๆ ได้เลย
** ข้อแนะนำในเรื่องการซื้อสินค้า IKEA สามารถให้เค้ามาส่งที่บ้านได้ค่ะ ถ้าอยู่ในเขตกรุงเทพก็ 590 บาท ถ้าไกลกว่านั้นก็ขึ้นกับระยะทาง
และถ้าเฟอร์นิเจอร์ ราคาไม่สูงเว่อร์ ก็ใช้ช่างเค้าประกอบให้ คิดราคา 7% ของราคาสินค้า อย่างตู้บางชิ้นรายละเอียดเยอะ ปุ้ยซื้อมา 1,000 ให้เค้าประกอบให้ เพิ่มอีก 70 บาท แบบนี้สามียิ้มเลยค่ะ(ให้ช่างประกอบให้ เสียเงินเล็กๆ น้อยๆ ดีกว่าที่ต้อง วานสามี กว่าจะต้องรอดูอารมณ์วันไหนอารมณ์ดี ที่ไม่เสี่ยงต่อการโดนบ่น บางทีรอเป็นเดือน)
มาดูผลงานกันเลยค่ะ
ในการรีวิวนี้ ปุ้ยจะอธิบายวิธีคิด แล้วก็การใช้บัดเจ็ดไปด้วยเลย
(บัดเจ็ดจะแจงเฉพาะเฟอร์นิเจอร์และของที่ติดตั้งบนผนัง) เผื่อใครจะลองจดไปใช้กันได้ค่ะ
ห้องแรกเป็นห้องสตูดิโอ สำหรับนั่งเล่น อ่านหนังสือ นั่งทำงาน
โดยความตั้งใจ อยากให้ห้องสว่างมากๆ เพราะงานส่วนใหญ่ของปุ้ยต้องพึ่งแสงธรรมชาติค่ะ
ดังนั้นผนัง 2 ด้านจึงเป็นหน้าต่างบานสูง ดังนั้นห้องนี้ก็จะมีพื้นที่ให้ตกแต่งเหลือแค่ 2 ด้านเท่านั้นเอง
ซึ่งห้องสตูดิโอนี้ มีขนาด หน้ากว้าง 3.7 เมตร ลึก 6 เมตร
ปุ้ยแบ่งโซนด้วยการใช้บันได 3 ขั้น ช่วยให้ห้องดูมีมิติขึ้น เริ่มรีวิวจากชั้นบนหรือด้านหลังก่อนนะคะ
รูปแรกเป็นภาพตอนที่เพิ่งฉาบปูนเสร็จ กำลังติดตั้งหน้าต่าง
รูปที่ 2 ตอนนี้ทาสี ติดแอร์ และปูพื้นแล้ว
รูปที่ 3 หลังจากตกแต่งเสร็จ
ในเรื่องของพื้น ปุ้ยเลือกพื้นกระเบื้องยางเพราะดูแลง่าย เลือกลายสีเทาอ่อน เพราะเป็นคนชอบสีโทนเทาๆ มากกว่าโทนสีน้ำตาล
กระเบื้องยางสมัยนี้ดีมาก คือออกแบบมาเป็นระบบคลิ๊กล็อคไม่ต้องใช้กาว ติดตั้งเหมือนลามิเนตเลย แต่กันน้ำ และทนกว่าลามิเนต
ส่วนผิวสัมผัสก็มีหลายแบบทั้งการเลียนแบบเทคเจอร์ของไม้จริง และเทคเจอร์แบบลามิเนตค่ะ
ที่ห้องนี้ ปุ้ยลงทุนใช้ของดีหน่อย เป็นยี่ห้อ Alfa ราคาประมาณ 780 บาท/ตรม. (รวมค่าติดตั้งแล้ว และแถมบัวผนังด้วย)
เวิร์คมาก ช่วยให้ห้องดูดีขึ้นมาเลย [เพจของยี่ห้อง Alfa http://www.facebook.com/alfaflooring]
** สำหรับคนที่สนใจกระเบื้องยาง ปกติกระเบื้องยางลายไม้จะตกเฉลี่ยอยู่ที่ ตรม. ละ 350 - 800 บาท ขึ้นกับคุณภาพและยี่ห้อค่ะ)
แต่พอติดแอร์ ช่างดันทำให้ปุ้ยเฟล เลย คือ ท่อแอร์สีคนละสีกับผนัง แล้วก็เห็นท่อแบบดูไม่สวยเลย
สุดท้าย ปุ้ยไปเอาสีทาบ้าน ปีนบันไดขึ้นไปทาค่ะ มันดูโอเคขึ้น แล้วก็ตกแต่งอีกหน่อย
ก็ช่วยพลาง เปลี่ยนจุดสนใจ ให้เราละสายตาจากจากท่อแอร์ไปได้
มาดูกันแบบละเอียดๆ เจาะทีละมุมกันค่ะ
เริ่มจากที่เห็นไกลๆ ก่อน คือ ผ้าม่าน ซึ่งช่วยให้ห้องดูดีขึ้นมาก บอกเลยว่าคุ้มค่า กับบัดเจ็ดประมาณ 1,350 บาท
โดยปุ้ยใช้ชุดราวสีดำ ให้สอดคล้องกับวงกบหน้าต่าง ส่วนผ้าม่านโครตคุ้ม คือ ดีและถูกมาก เป็นผ้าโปรงที่ยาวจรดพื้น
พอติดลงไปแล้วช่วยให้ห้องสว่างขึ้น เพราะกันแสงไม่ให้แชร์ออกไปยังโถงทางอีกฝั่งของห้อง
ซึ่งเป็นหน้าต่างบานกระจกใส และช่วยพลางตาจากโถงทางเดินด้วยค่ะ
ตรงกลางห้องเป็นโต๊ะเล็กๆ เซ็ทแบบลอยตัว คือเคลื่อนย้ายได้ตามจังหวะการใช้งาน อันนี้ขอข้ามนะคะ
RÄCKA curtain rod combination THB 356
Min. length: 120 cm, Max. length: 210 cm, Max. load: 5 kg
LILL net curtains, 1 pair THB 159
Length: 250 cm, Width: 280 cm, Weight: 0.40 kg
ใช้ชุดราวม่าน RÄCKA 2 ชุด 356x2 = 712 บาท
ผ้าม่าน LILL 4 ชุด 159x4 = 636
---------------------------รวมเซ็ทผ้าม่านจาก Ikea 1,348 บาท
เพราะช่วยเค้าทำ Online Marketing อยู่ค่ะ (นี่ไม่ใช่โฆษณาแฝงนะคะ อย่าเข้าใจผิดเพราะตู้รุ่นนี้ ไม่มีนำเข้ามาขายแล้วค่ะ)
มุมนี้จริงๆ เราสามารถใช้กระจกเงาธรรมดาหรือ กรอบรูปมาตกแต่ง หรือจะหาโคมไฟตั้งพื้นมาวางก็ได้เหมือนกันค่ะ
ส่วนผ้าม่านอีกฝั่งนึง เป็นม่านปรับแสงสีขาว เลือกแบบที่ถูกที่สุด ของบางกอกการม่าน ราคา 2 บาน ประมาณ 4,000 บาท
และข้างบันไดด้านขวา ตกแต่งด้านการติดกรอบรูปเล็กๆ สีขาว เรียงกัน 2 แถว ช่วยให้ห้องดูมีรายละเอียดน่ารักขึ้น
ต่อมาเรามาดูการตกแต่งผนัง โดยปุ้ยตกแต่งให้เต็มผนังเลย
พูดถึงผนังฝั่งซ้ายก่อน ไอเดียการสร้างแรงบันดาลใจจากปกแม็กกาซีนที่เราชื่นชอบ ใช้ชั้นวางรูปภาพ RIBBA สีดำ ที่ IKEA เค้ามี 2 ไซส์
ขนาดยาว 115 ซม.และ 55 ซม. โดยออกแบบช่องไฟให้แต่ละชั้นห่างกันซัก 40-45 ซม. จะกำลังสวยค่ะ ไม่อึดอัดเกินไป
จากนั้นก็หากรอบรูป (ซื้อตามงานเฟอร์นิเจอร์ชิ้นละ 50-250 บาท) หรือแม็กกาซีนปกสวยๆ มาวางประดับค่ะ
ส่วนผนังว่างๆ ด้านหลังกรอบรูป ปุ้ยลองใช้กระจกเงามาติดดู ช่วยให้ห้องดูกว้างและดูหรูหรา มีมิติขึ้น
เพราะจะมีเงาสะท้อนให้ดูมีสีเงาๆ เงาๆ เล่นกับไฟดีขึ้น ซื้อจาก IKEA เช่นกัน กระจกเงา LOTS ขนาด 30x30 ซม. จะมี 4 ชิ้นค่ะ
เค้าจะให้เทปโฟมกาว มาให้ ติดตั้งไม่ยาก แต่ต้องแม่น เพราะถ้าติดแล้วขยับไม่ได้ ถ้าจะแกะก็ลำบากเลยค่ะ
แล้วก็มีราวแขวน ซีรีย์ FINTORP มีขอแขวน กระป๋องไว้ใส่ของ จริงๆ คือ ตั้งใจจะไว้เสียบพวกเครื่องเขียนค่ะ
RIBBA Picture ledge, black THB 199
Length: 55 cm, Depth: 9 cm, Max. load: 5 kg
RIBBA picture ledge, black THB 349
Length: 115 cm, Depth: 9 cm, Max. load: 7.50 kg
LOTS mirror THB 199 /4 pieces
Length: 30 cm, Width: 30 cm, Package quantity: 4 pieces
FINTORP rail THB 269
Length: 57 cm, Diameter: 1.6 cm
FINTORP hook THB 119 /5 pieces
Depth: 3 cm, Height: 7 cm, Package quantity: 5 pieces
FINTORP cutlery stand THB 239
Diameter: 13 cm, Height: 13 cm
งบที่ใช้ ชั้นวางรูปภาพ RIBBA ไซส์เล็ก 199 บาท
ชั้นวางรูปภาพ RIBBA ไซส์ใหญ่ 349 x 3 = 1,047 บาท
กระจกเงา LOTS 199x4 = 796 บาท
ราวแขวนติดผนัง FINTORP ไซส์เล็ก 269 บาท
ตะขอแขวน FINTORP 119 บาท
ตะกร้า FINTORP 239x2 = 478 บาท
------------------- รวมผนังครึ่งซ้าย 2,908 บาท