“ขอบคุณความเน่าเฟะ”

ในวันที่แสงสว่างกำลังส่องลงมาที่วงการฟุตบอลในบ้านเรา ทำให้หลายๆคนมีความสุข โดยเฉพาะแฟนบอลชาวไทย สาเหตุมาจากอะไร หลายคนอยากรู้ คำตอบคือ..มาจากความจนตรอกของวงการบอลไทย

ในวันที่-กันจนเกินงาม..ขนาดพระประธานยังช่วยไม่ได้
ในวันที่ฟุตบอลเป็นเหมือนระบบสอบเข้าโรงเรียนเอกชน
ในวันที่นักเตะเดินแอคเข้ารับใช้ชาติเพราะกูมาจากสโมสรดังๆ
ในวันที่บอลลีกพีคแต่ตรงข้ามกับทีมชาติ
ทุกอย่างต่างสะสมจนคำว่า..ศรัทธา ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับคำว่างมงาย..

จนเมื่อทุกอย่าง…มาถึงขีดสุด สุดถึงขั้นคนวงในเองก็แทบที่จะรับความเน่าหนอนของพวกเดียวกันเองไม่ไหว ก็เลยถึงเวลาทิ้งซากช้างศึก… แต่ยังคงมีบางคนบางกลุ่ม..ที่ยังคงหวงก้างเฝ้าซุ่มดูอยู่ห่างๆ เหมือนรอเอางาไปขายในวันที่ตายสนิท เป็นอันจบพิธี

แต่โชคยังเข้าข้างช้างเชือกนี้ เมื่อควานช้างคนเดิมที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แอบขนซากช้างศึกที่กำลังจะหมดลมหายใจ ไปทิ้งไว้หน้าหมู่บ้านเสนาเมือง เพียงเพื่อจะโยนภาระเท่านั้นเอง

บาดแผลของช้างศึกส่งกลิ่นคาวไปทั่วสารทิศ จนกระทั่งชายที่ชื่อซิโก้ได้ตื่นมาเห็นสภาพของช้างศึกผู้ยิ่งใหญ่ ที่เคยสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา นอนนิ่งเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดจากการเสียผลประโยชน์ให้กับควานช้างที่เห็นแก่ตัว

มีเพียงแววตาจากช้างศึกเท่านั้นที่มันสามารถบอกให้ซิโก้รับรู้ว่า..กูยังไหว!! กูอยากกลับมาเป็นช้างศึกที่ทุกคนเคยเห็นอีกครั้ง!!

และในที่สุด…ในเมื่อมีคนเอาซากที่ไม่มีใครต้องการมาวางไว้ถึงหน้าบ้าน จะกลบหลุมฝังก็ทำไม่ลง ซิโก้ ก็ขอช่วยชีวิตเพื่อนเก่าด้วยตัวเองเหมือนตอนที่เคยประกาศวางมือจากสนามรบ จัดการล้อมคอกป้องกันสัตว์ร้ายผู้หิวโหยเข้ามาทำร้าย จัดหาคนที่เข้าใจช้างด้วยกันและไว้ใจมาดูแล และห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาวุ่นวายในเขตที่เขาดูแล ในที่สุดมันก็แข็งแรง มันกลับมามีชีวิตและเป็นช้างศึกที่คนไทยเคยเห็นอีกครั้ง

ในอนาคต ไม่ว่าชีวิตของช้างตัวนี้จะเป็นอย่างไร จะขึ้นหรือจะลง หากอยู่ในมือของคนที่มีความรับผิดชอบ ต่อให้มันตายไป ก็จะมีช้างรุ่นใหม่ที่พร้อมจะสู้แบบถวายชีวิตอยู่ดี แม้แต่โชคทวีคุมทีมครั้งแรกยังได้แชมป์!!!

cr. http://sport.mthai.com/football-thai/233388.html

อยากให้ได้อ่านกันค่ะ เขียนดีมาก ๆ