หากจะต้องเลือก : คุณศาธนันท์ เขียนได้ดีมากครับ

ขออนุญาต นำมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันด้วยครับ เพราะผมอ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หากจะต้องเลือก


ระหว่างชัยชนะกับความพยายามที่จะให้ได้มาซึ่งชัยชนะ อย่างไหนมีความสำคัญกว่ากัน?

        ระหว่างการเป็นเจ้าซีเกมส์ กับการได้รับการยกย่องในฐานะทีมกีฬาที่ดี อย่างไหนน่าภาคภูมิใจมากกว่ากัน?
   
        และระหว่างการได้แชมป์ด้วยการเล่นชนิดที่ถูกบีบให้ตั้งรับ ไม่มีปัญญาโงหัว แต่พอโต้กลับทีเดียวแล้วได้ประตูชัย กับการเล่นที่สวยงาม ทุ่มเทร่วมกัน ที่สำคัญคือเล่นสมกับที่เป็นนักกีฬา ไม่มีตุกติก ไม่มีเอาคืนเมื่อโดนหวดโดยเจตนา แต่สุดท้ายกลับต้องแพ้ในบั้นปลาย ถ้าต้องเลือก เราจะเอาแบบไหน?
   
        ในช่วงของการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ระดับชาติที่ทีมไทยมีส่วนร่วมกับเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ หรือว่า โอลิมปิก นั่นคือช่วงเวลาแห่งความสุขของคนไทยที่ได้เชียร์ทีมไทยกันอย่างสุดเสียง เลือดรักชาติพุ่งพล่าน เสื้อที่มีสัญลักษณ์อะไรก็ได้ที่เป็นของทีมชาติไทยมาใส่เชียร์กันหน้าจอ หรือว่าออกไปร่วมชมกับเพื่อน รวมไปถึงการออกไปเชียร์กับคนที่ไม่รู้จักในกิจกรรมที่เขาจัดให้แฟนกีฬาได้รวมตัวกัน ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องนึง
   
        ทีมวอลเล่ย์บอลสาวไทยกลายเป็นที่รักของคนทั้งประเทศเพราะอะไร? เพราะพวกเธอเก่งถึงขนาดปราบคู่แข่งได้อย่างราบคาบไปทั่วหรือเปล่า ก็ไม่ใช่ เจอกับจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ เราก็เคยโดนตบดิ้นมาตั้งเท่าไหร่แล้ว แต่เราก็ยังปลื้มจิตปลื้มใจทุกครั้งที่ได้ดูพวกเธอเล่น ขณะที่น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ได้ใจคนไทยไปก่อนหน้าที่เธอจะก้าวขึ้นมาเป็นมือต้นๆ ของโลก หรือก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลกด้วยซ้ำ เราชื่นชมพวกเธอจากตรงไหนกัน?
   
        จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาถามกัน แต่หากมองย้อนกลับไป สิ่งที่เราชื่นชมพวกเธอกลับไม่ใช่ความสำเร็จ หรือความยิ่งใหญ่อะไรทั้งนั้น จริงๆ แล้วทีมวอลเล่ย์บอลหญิงของเราได้ใจผู้ชมทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะชาวเรา หากแต่รวมไปถึงเพื่อนร่วมสโมสรต่างชาติที่หลายคนได้แยกย้ายกันไปทำมาหากินนั่น ด้วย
   
        “ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกเธอถึงยิ้มได้ตลอด หัวเราะกันได้ตลอด ทั้งที่เกมกำลังเป็นรอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือมันดีมาก มันทำให้พวกเราไม่เครียด แล้วสถานการณ์ก็ดีขึ้นเรื่อยจนเรากลับมาชนะได้ ฉันดีใจที่มี ซาร่า อยู่ในทีมด้วย” เพื่อนร่วมทีมราบิตา บากู กล่าวถึงเธอไว้อย่างนั้น
   
        ไม่ใช่แค่ นุสรา คนเดียวที่เอารอยยิ้ม และความสดใสไปใส่ในทีม แต่ทั้งทีมของเราเป็นแบบนั้นกันทั้งหมด เล่นไปยิ้มไป ตบก็ยิ้ม โดนตบก็ยิ้ม ต่อให้แพ้ก็ยังยิ้ม

น้องเมย์ ไม่ได้เก่งฉกาจในตอนแรกที่เราได้รู้จัก เธอไม่ใช่พวกที่ตบหนักเอาตายเหมือนพวกนักแบดจีน หรือมาเลเซียที่ครองความเป็นเจ้าลูกขนไก่มาโดยตลอด เราหลงเสน่ห์ความเป็นเด็กน่ารักของเธอมากกว่า ทุกครั้งที่ไปขอเปลี่ยนลูกแบดจากกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ น้องเมย์ จะไหว้ทุกครั้งและทุกคนจนเป็นที่โจษขานกันไปทั่ววงการ เธอเป็นเหมือนผู้บุกเบิกให้วงการแบดของเรากลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง ต่อให้เมย์แพ้ เราก็ยังยิ้มได้ และภูมิใจที่มีเธอให้เราได้เชียร์
   
        แล้วจากนั้นเราก็ได้เห็นว่านักแบดแทบทุกคนก็เป็นอย่างเธอที่มีความนอบน้อมนำหน้า แล้วมีพลังแห่งความมุ่งมั่นตามหลังมาติดๆ

เช่นเดียวกับฟุตบอลไทยในยุคของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของทีมขี้แอ๊ค เก่งแต่ในสโมสร พอเล่นให้ทีมชาติก็ทำตัวเตะต้องไม่ได้ หรือเป็นดาราที่ใครจะต้องง้อทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ทุ่มเทให้กับทีมซักเท่าไหร่ ทว่าผลงานกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เราอยากเห็น แต่ในยุคของ ซิโก้ กลับไม่มีนักเตะคนไหนที่ออกอาการกร่างแบบนั้นเลย
   
        อาจจะเป็นเพราะวัยที่ไม่ห่างกันมาก ซิโก้ ทำให้เขาเข้าใจเด็ก ขณะที่เด็กก็ทันเห็น ซิโก้ เล่น และยึดถือเขาเป็นฮีโร่เสมอมา เมื่อได้มาทำงานร่วมกันจึงได้ใจนักเตะไปด้วยเป็นทุน แม้ว่านักเตะแต่ละคนของเรามีทักษะสูง ทว่ากลับไม่ได้ถูกยกให้เด่นขึ้นมาในระดับที่เหนือกว่าเพื่อนร่วมทีม ทุกคนรู้แล้วว่าเมื่อเล่นร่วมกัน ทีมเวิร์คเหนือสิ่งอื่นใด สิ่งนี้พิสูจน์ออกมาแล้วหลายต่อหลายครั้งว่านี่คือแนวทางที่ถูกต้อง รากฐานที่ ซิโก้ วางไว้ในทีมชุดใหญ่กลายเป็นแบบแผนเดียวกันที่นำมาใช้ในทีมชุดซีเกมส์ของ โชคทวี พรหมรัตน์ ด้วยเช่นกัน และผลที่ออกมาก็เหมือนกัน
   
        แต่เราชื่นชมทีมลูกหนังไทยตรงไหน เล่นชนะ หรือว่าวิธีการที่ชนะ?
           
        เสียงชื่นชมที่มีต่อทีมชาติไทยไม่ได้มาจากผลการแข่งขัน แม้แต่ต่างชาติที่เป็นคู่แข่งของเราก็ยอมรับทั้งความพ่ายแพ้ในเกม และความเป็นนักกีฬาของเรา ขนาดโดนเตะล้มโดนยันกระเด็น ล้มลงไปแล้วเราก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อ ไม่เคยมีปฏิกิริยา หรือแม้แต่จะหันมองหน้าว่าใครคือคนที่ทำ
           
        แล้วคู่แข่งก็กลายมาเป็นมิตร แฟนบอลอินโดนีเซียยังหันกลับไปจวกผู้เล่นของตัวเองที่เล่นสกปรกใส่ทีมไทย นี่ต่างหากคือสิ่งที่เราชื่นชมทีมบอลไทย เช่นเดียวกับทีมอื่นๆ ที่เรายังยินดีที่จะเชียร์ต่อไปโดยไม่สนใจว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร
        ทีมไทยเล่นฟุตบอลกันเหมือนเด็กครับ เด็กที่วิ่งเล่นแล้วหกล้ม จะมีแผลได้เลือดก็แค่ปัดๆ แล้ววิ่งเล่นต่ออย่างมีความสุข ไม่ได้สนใจว่าเมื่อกี้โดนเพื่อนคนไหนแกล้ง ไม่มีเวลาที่จะหันไปทะเลาะกับใคร เพราะเวลาที่จะเล่นมีจำกัด ภาพนั้นชัดเจนมากตอนที่ อาทิตย์ ดาวสว่าง ถูกผู้เล่นอินโดย่ำเข้าที่หัว เขาแค่เอามือกุมแล้วดูว่าแตกหรือเปล่าเท่านั้น เท่านั้นเองจริงๆ ไม่มีปฏิกิริยาอื่นใดนอกเหนือจากนั้น
   
        แล้วลองคิดในมุมกลับว่าถ้าเราเล่นแบบนั้นบ้าง เสียบเข้าใส่ ใครผ่านเข้ามาก็รวบ แล้วเราก็ชนะ ความรู้สึกของกองเชียร์จะเป็นอย่างไร จะภาคภูมิใจกับชัยชนะ หรือว่าแค่เก็บผลงานเอาไว้เป็นสถิติเท่านั้น แต่คงจะไม่กล้ากล่าวถึงวิธีการที่ได้มา
   
        ความชื่นชมของผู้ชมทั่วไปที่มีต่อไทย ไม่ได้มีแค่กับนักกีฬาเท่านั้น กองเชียร์ของเราก็ยังสร้างวัฒนธรรมใหม่ด้วยการเก็บขยะในสนามหลังจากจบเกม กลายเป็นภาพประทับใจที่ทำให้คนในภูมิภาคนี้ได้เห็นมาตรฐานที่สูงขึ้นของไทยทั้งคนเล่นและคนดู
   
        ต้องขอบคุณ ซิโก้ และทีมงานที่ทำให้เราไม่ต้องลังเลที่จะเลือกระหว่างชัยชนะ กับความพยายามที่จะให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
           
        เพราะพวกเราได้มาทั้งสองอย่าง ได้ทั้งชัย และได้ทั้งใจ
                                                                                                      ----ศาธนันท์-----
ที่มา ; http://www.siamsport.co.th/Column/150617_074.html
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ฟุตบอล กีฬา นักกีฬา วอลเลย์บอล แบดมินตัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่