รีวิว ร้านกาแฟ ย่านอารีย์ "Puritan" และ "Thitaya"

**กระทู้นี้อาจจะมีคำพูดไม่สุภาพบ้าง แต่ทาง จขกท ได้พยายามดัดแปลงแล้วเรียบร้อย แต่เพื่อความได้อรรถรสแล้ว ยังขอคงไว้นิดหน่อย หากท่านผู้อ่านซีเรียสขนาดนั้นก็ปิดหน้าต่างไปเหอะคับ
***กระทู้อาจจะมีคำศัพท์ไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์เท่าใดนัก เนื่องจากจขกท โง่!!!!!! และใช้การพิมแบบภาษาชิทแชทบนมือถือ ดังนั้นกรุณาอย่าถือสาผมเลยนะคับ กราบขออภัยหากกระผมได้กระทำอะไรเป็นการขัดใจท่านผู้อ่าน
****กระทู้นี้เป็นการเขียนกระทู้รีวิวร้านกาแฟ ดังนั้นความคิดเห็นใดๆนั้น เกิดจากลิ้นของ จขกท ล้วนๆ ดังที่กล่าวข้างต้นไปแล้วว่า จขกท โง่!!!!!! จึงไม่สามารถบ่งบอกความรู้สึกแบบนักชิมผู้วิจารณ์อาหารแบบท่านอื่นได้ ดังนั้นกระผมสามารถบอกได้แค่ว่าอร่อย เริ่ด ประเสริฐ อู้ววววเย่ เนื่องจากประสาทรับรสของกระผม ซึ่งเพื่อนๆเรียกมันว่า "ลิ้นหมา" ของกระผมบอกได้แค่นี้เองคับ และอีกอย่างดังที่กล่าวและขอน้ำอีกครั้งคือผม โง่!!!!! ครับ

หากท่านชอบรีวิวแบบฮาๆ กระผมขอฝากอีกกระทู้นะคับ รับรองฮาขี้กระจาย!!! (กรุณาเช็ดขี้ของท่านผู้อ่านเองนะคับ)
กระผมไม่ขอรับผิดชอบต่อ "ขี้" อันเรี่ยราด ซึ่งเป็น "ขี้" ของท่านเองแต่อย่างใด

เบิ่ง "โพธาราม" แบบฮาๆไปกับคู่หูดูโอ "สเมิร์ฟ" (แถมเรื่องสยองด้วย)
http://ppantip.com/topic/33762605/



สวัสดีครับ

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้มีโอกาศมารีวิวที่เวปบอร์ดพันทิพแห่งนี้ หลังจากกระทู้รีวิว "โพธาราม" ที่ได้รับความนิยมสุดๆด้วยความคิดเห็น 5 ข้อความถ้วน น้ำตาจิไหลอย่างล้นเหลือ มันเกิดเป็นทั้งแรงผลักและแรงถีบให้ผมอดใจมาเขียนรีวิว ณ.จุดจุดนี้อีกครั้ง
อาทิตย์นี้ด้วยความกระสันของเพื่อนๆในกลุ่ม ที่อยากจิแดร๊กกาแฟร้านหรูๆ พร้อมกับนั่งเม้ามอยหอยสังข์ ซึ่งก็พูดกันตรงๆเลยว่าอิความอยากเนี่ย มันช่าง
"ผกผัน"
กับฐานะพวกผมอย่างยิ่งยวด แต่เอาว่ะในเมื่อมันเสนอ เพื่อนผู้ไม่มีสิทธิ์จะหืออืออย่างผม คงมีได้แค่ "สนอง" ความอยากของเพื่อนได้เท่านั้น

หลังจากการทำการบ้านโดยมะหนิงและเบียร์ ก็เลยมาจบอยู่ที่ย่านอารีย์ ดงแห่งร้านกาแฟ ที่ว่ากันว่ามีมากมายขึ้นกันยุบยับ ดั่งขนเส้นหนาๆที่รุมกันไปผุดขึ้นบนไฝก็มิปราณ

ถามว่าอันตัวกระผมรู้เรื่องอะไรกะเค้าบ้างมั้ย? ผมบอกตามตรง ณ ที่นี้เลยคับว่า "ไม่" ผมมีหน้าที่แค่พูดว่า "ไป" แล้วก็ระเห็ดไปตามแผนที่ของเหล่าคุณเทอที่วางไว้เท่านั้นเอง

วันเสาร์มะหนิงไลน์มาหาผม โดยที่บอกกับผมเพียงแค่ว่า "เจอกันที่อารีย์นะเมิงงงงงง" นี่คุณเมิงจะบอกกรูเท่านี้เลยใช่มะ "เอ่อม ร้านไหนล่ะเมิ๊งงงงง?"
บางทีอิคำพูดอันแสนห้วนและสั้นตามขนาดของมะหนิง ก็หาซึ่งใจความอะไรไม่ได้ เมิงบอกเท่านั้น แล้วกรูจะไปถูกม้ายยยยยยยยย

และแล้วมะหนิงก็ส่งข้อความอีกอันนึงตามมาทันที
"ที่อยู่ : 46/1 ซอยอารีย์ 5 ถ.พหลโยธิน สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ : 0-2357-1099, 08-1870-4102
เปิดบริการ วันอาทิตย์-พฤหัสบดี 11.00-22.00 น. / ศุกร์-เสาร์ 11.00-23.00 น."

"ขอบคุณ!!!!!!! นี่เมิงไม่คิดเลยเหรอว่ากรูเนี่ย โง่มากกว่าคนปกติ นี่จะไม่บอกชื่อร้านกรูให้กรูไปชื่อไปค้นในอากู๋เลยเรอะ!!!!"

ด้วยความที่กระผมก็ขี้เกียจจะถามอะไรมากมาย เอาว่ะไปซอยอารีย์ก่อนล่ะกัน ดังนั้นเองผมไม่รอช้า อาบน้ำแต่ตัว และขี่น้อง "สมศรี" ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนออกไปซอยอารีย์ทันที


(สมศรี ลูกสาวของผมคับ ขอบคุณภาพโดยมะหนิงคับ)

พอมาถึงซอยอารีย์ ผมก็ดูโทรศัพท์อีกครั้ง "โอเค............อารีย์ 15" พุ่งโลด
ผมก็เลยนับซอยทางด้านซ้ายมือ
"ซอยอารีย์ 1"
"ซอยอารีย์ 2"
...
"ซอยอารีย์ 5"

สุดทาง!!!! อิ๊บอ๋าย ด้านหน้าเป็นกรมสรรพากร ซึ่งมีทางเข้า เอาว่ะ เมื่อมีทางไป มันต้องมีอารีย์ 6 แน่นอน ผมเลยขับไปอย่างไม่ลังเล อีกแค่ 10 ซอยเอ๊ง!!!
พอขับไปได้สักพัก แน่นอน....มันไม่มีซอยหก

"ตรู๊ดๆๆ มะเหน้ง!!!! กรูหาซอย 15 ไม่เจ้อ!!!! ช่วยล่วยยยย"
"สิบห้า......? สิบห้า พระติงลี่เมิงเส่ะ ซอยห้าโว้ย!!!! นี่เมิงโง่จิงหรือแกล้งโง่เนี่ย หน้าโง่ซะเหมือนโง่จิงๆเชียว!!!"
ผมเองก็เพิ่งมารู้ตอนนี้ ว่าอินังมะหนิงมันด่าผม แล้วทำไมตอนนั้นกรูถึงไม่เอะใจฟร่ะ ว่ามันด่า หือ!!!? หรือว่ากรูจะ.....จิงๆ

และแล้วผมก็ต้องขับออกมาที่ซอยอารีย์ 5 อีกครั้ง โดยมะหนิงบอกผมว่า ร้านที่เราจะไปคือร้าน "Puritan"

จากนั้นผมก็ขับไปเรื่อยๆ มองก็กวาดมองซ้ายขวาหาร้านกาแฟสุดริด ขับไปขับมาอีกที โผล่ท้ายซอยที่ทะลุไปยังซอยารีย์สัมพันธ์ อ่าว อิหนิง เมิงเล่นกรูอีกและ
"อิมะเหน้ง!!!!!! กรูหาร้านไม่เจอโว้ย!! เมิงชัวร์ป่ะเนี่ย แล้วเมิงอยู่หน้ายยยยย???"
"กรูรออิเบียร์ อินี่มันกะลังนั่งสะเหรี่ยงมา เด่วกรูตามเข้าไป เมิงลองไล่เลขที่บ้านดูดิ เด่วก็เจอ"

และมะหนิงก็วางไป นี่ตั้งแต่คบเพื่อนมา ก็มีเมิงนี่แหล่ะที่แนะนำกรูให้ไล่เลขที่บ้านนี่แหล่ะ!!!!! เอาว่ะ ไล่ก็ไล่ และแล้วผมก็มาจบที่บ้านเลขที่ 47 แล้วไหนว่ะ 46/1!!? ถอยต้องถอยหลังมากอีกหน่อย


(บรรยากาศภายในร้านคับ)

ในที่สุดผมก็เจอบ้านที่ด้านหน้าเหมือนบ้านเก่าๆ ทั้งที่ผมผ่านมาตั้งสองรอบ ใครจะนึกฟร่ะ ว่าบ้านที่ข้างนอกเตมไปด้วยถาวัลย์ครึ้มๆจะเป็นร้านกาแฟ!!!?
แต่พอเข้ามาด้านในเท่านั้นแหล่ะ ที่นี่สวยมาก เค้าแต่งแบบสไตล์ยุโรปเก่าๆ ลืมบอกไป ที่นี่ต้องถอดรองเท้านะคับ และแล้วผมก็เข้าไปนั่งหาโต๊ะนั่ง พนักงานก็เดินเอาเมนูมาให้ ผมสะดุดเมนูกาแฟนึงซึ่งชื่อดูน่าสนใจคือ "De' Orange" แน่นอนคับ ผมสั่งเมนูนี้มาทันที


(De' Orange)

"อยู่ไหนเมิง!!!!" ผมโทรหามะหนิง
"เออๆเจอเบียร์แล้วกะลังไปแล้วๆ"
"เมิงเรียกมอไซค์เข้ามาเลยนะ มันไกลนะเฟร้ย กรูขับรถเข้ามา ง่ามกรูยังเหนียวเลย"
"เออๆ"

จากนั้นผมเดินไปรอบๆร้าน และผมก็มาสะดุดกับป้ายๆนึง นั่นคือ

"ป้ายห้ามถ่ายรูป"

อ่าว!!! คุณเพ่ ร้านสวยเยี่ยงนี้จะมิให้ถ่ายรูปได้ไงเล้า ร้านนี้สวยๆจิงคับ เพื่อไม่ให้พลาด ผมเลยบากหน้าไปถามพนักงานเลย เอาว่ะ!! เพื่อรีวิวครั้งนี้ โดนตีนกรูก็ย๊อม!!!
(แต่ในใจนี่อยากจะบอกว่า "อิม้าเหน๊ง!!!! ไม่ยอมมาลุยวิบากตรีนกะกรูเล้ย!!!!!")

"พี่คับ ที่นี่ถ่ายรูปได้มั้ยฮะ?" ผมถาม พร้อมกันกับมือที่ชี้ไปที่ป้ายห้ามถ่าย
"ถ่ายได้ค่ะ แต่แค่ห้ามเดินไปมา เท่านั้นเอง"
และแล้วก็กลับไปนั่ง และใช้ลีลาที่ผมเรียกว่า "ชะเนิบๆ" แอบถ่ายไปเรื่อยๆ


(บรรยากาศตรงโต๊ะที่ผมนั่งคับ)


(แอบถ่ายสุดริด จิงๆเค้าก็ไม่ได้ห้ามขนาดนั้นหรอกนะ เว่อร์ไปเอง กรั่กๆ)

อิชะเนิบๆ ของผมเนี่ย ตามภาษาท่านๆเรียกว่าการตีเนียนคับ อารมณ์ทำทีว่าดูนู่นนี่ แต่จิงๆแล้วมือถือไอโฟน ผมนี่ระรัวเลย และแล้วอิเพิ่ลเลิฟสองหน่วยก็มาซักที

"ฮอยยยยยยยย" เบียร์ทักทาย
(ฮอยพร่องงงงสิคับ ปล่อยให้กรูผจญวิบากอยู่ได้ตั้งนาน)
"ไมมานานจังว่ะเนี่ย" ของขึ้นเฟร้ย!!
"เออกรูเดินเข้ามาว่ะ ก็นึกว่าจะใกล้ ยิ้มไกลอิ๊บเอ๋ง หน้ากรูเยิ้มไปหมดและเนี่ย" นางตอบ
"เอเหน๊ง!!! ไหนกรูบอกให้นั่งรถเข้ามาไงฟร่ะ!!?"
"ก็อิเบียร์อ่ะเด่ะ มันบอกว่านั่งสะเหรี่ยงมานาน เดินเข้ามานิดหน่อยคงไม่เป็นไร กรูก็คิดว่ามันไม่ไกลเท่าไหร่ เลยเดินมา ยิ้มง่ามเยิ้มเลยกรู..."

และแล้วก็ถึงเวลาสั่งลืม!!! สรุปว่าผมสั่ง คาโบนาร่า กาแฟอะไรสักอย่างของมะหนิง เบียร์สั่งชามะนาว (ครือผมไม่ได้ถ่ายอ่ะ ลืม) และเราก็สั่งเค้กอีกสองอย่าง คือ Walnut Macadamia และ Almond Horlick


(เค้ก Walnut Macadamia คับ)


(เค้ก Almond Horlick อร่อยจิงๆ เจนนี่คอนเฟริ์ม)


(คาโบนาร่าคับ รสชาตินัว แต่อาจจะอ่อนๆไปหน่อย อย่างว่าล่ะน้า พวกผมเน้นจกส้มตำรสแซ่บๆจนลืมตัวล่ะมั้ง)


(ร้านเป็นสไตล์ยุโรปเก่าๆ เลยแอบถ่ายกระจ๊งรูปปั้นมานิดหน่อย ป๊าด!!!)

กาแฟที่นี่อร่อยคับ แต่ผมว่าเมนูที่ผมสั่งนั้น กาแฟเองอาจจะไม่ค่อยเข้ากับส้มสักเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยได้รสชาติส้มเท่าไหร่
ส่วนเค้กอร่อยมากๆคับ โดยเฉพาะเค้ก Almond Horlick ส่วนเค้ก Walnut Macadamia ค่อนข้างขมและได้กลิ่นไหม้ของคาราเมลมากไปสักนิด (จิงๆคาราเมลไหม้อร่อยนะคับ แต่นี่แอบเกินไปนิดอ่ะ ขม!!!) เลยไม่ค่อยถูกปากพวกเราเท่าที่ควร

สนนราคาก็ตามนี้เลยคับ
De' Orange              150 บาท
Iced Lemon Tea       140 บาท
คาโบนาร่า               230 บาท
Coffee Crunch ปั่น     150 บาท
Walnut Macadamia   170 บาท
Almond Horlick        180 บาท

ผมขอสรุปสำหรับร้าน Puritan ตามนี้เลยนะคับ


Coffee: กาแฟต้องจัดว่าอร่อยเลยคับ หอม กลมกล่อม แต่ผมอาจจิพลาดเองดันพิเรนเอาส้มมารวมง่ะ
Dessert: เค้กอร่อยๆมากคับ พอตักเค้กเข้าปุ๊ป ต้องกรีสในลำคอเบราๆกันเลยทีเดียว
Pricing: ด้วยฐานะยาจก แต่อยากกระแดะอย่างพวกผมแล้ว ก็อาจจิสูงไปสักหน่อยคับ
Cleaness: แน่นอนคับสะอาดมาก แทบจะเอาลิ้นเลียพื้นได้เลยทีเดียว
Environment: เห็นรูปก็มิต้องมีคำบรรยายแล้วล่ะคับ บรรยายกาศดีมาก
Service: ต้องขอบคุณพนักงานนะคับที่อุส่าห์ให้ผมถ่ายรูปบ้าง แต่ด้วยความใจรักบริการของพนักงานที่ยืนเฝ้าโต๊ะผมตลอดเวลา เลยออกจะอึดอัดไปสักหน่อยอ่ะคับ ตรูไม่ขโมยของหรอกเฟร้ยยยยยย!!!

จากนั้นเราก็เม้าทฺกันชนิดที่ว่า เหมือนไม่ได้เจอกัน 10 ชาติ อิครั้นจะสั่งเพิ่ม ฐานะอย่างเราน่ะหรือ หึหึ.....จอด!!!

"เฮ้ยๆ เราเห็นร้านกาแฟข้างๆก็น่าไปว่ะ เราไปต่อที่นั่นเลยดีกว่า"


(สักรูปก่อนจากคับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่