วอลเลย์บอล..'ซีเกมส์' ที่มีอะไรมากกว่าซีเกมส์ (เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่นเพียวอยู่จนถึงวันชิงแล้วบินกลับ ฯลฯ)

กระทู้สนทนา
จบเป็นที่เรียบร้อยกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในครั้งนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามความสำเร็จที่ตั้งเอาไว้ ทีมหญิงรักษาบังลังก์แชมป์ และ ทีมชายคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันได้เป็นครั้งแรก แฟนวอลเลย์บอลไทยชื่นมื่น มีความสุขกันทั่วหน้า

แต่ถ้าลงรายละเอียดถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังจริงๆ การแข่งขันในครั้งนี้มันมีเรื่องราวดีๆที่น่าจดจำมากมาย

เริ่มจากทีมชาย การแข่งขันปีนี้ถือว่าทำการบ้านกันมาอย่างหนัก เพราะต้องหาตัวตายตัวแทน วันชัย ทัพวิเศษ และ ยุรนันท์ บัวแดง ที่ประกาศอำลาทีมชาติ หลังจากที่ช่วยมาอย่างยาวนาน พร้อมกับเปิดโอกาสให้กับนักกีฬาดาวรุ่งขึ้นมาเสริมทัพ

จากจุดนี้ทีมใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหาจุดลงตัวให้กับทีมได้ ลองผิดลองถูกมาหลายรายการ ทั้งเอวีซีคัพ และ เอเชี่ยนเกมส์ จนทำทุกอย่างเริ่มลงตัว แต่ที่สามารถทำให้ทีมมาถึงจุดนี้ ต้องชื่นชมนักกีฬารุ่นพี่ที่แบกรับหน้าที่ 2 อย่าง ทั้งประคองน้อง และ จัดเต็มกับบอลที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองไปด้วย


แชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการแข่งขันประเภทชาย เพราะศักยภาพแต่ละประเทศยังไม่ถึงกับขี่กันมาก แต่ครั้งนี้ทีมตบหนุ่มไทยทำผลงานได้เป็นอย่างดี เปิดตำราทุกหน้าทุบเอาชนะคู่แข่งได้ทั้งหมด

เชื่อว่า...ทุกหยาดเหงื่อที่เสียไปตั้งแต่การซ้อม จนหยดสุดท้ายของการแข่งขัน ครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะได้ทั้งแชมป์สมัยที่ 3 และ นักกีฬาที่แจ้งเกิดใหม่

แต่ต่อจากนี้ต้องทำให้แฟนวอลเลย์บอลที่จับตามองเห็นว่า "ทีมชายพร้อมแล้ว" ที่จะขึ้นไปสู้กับทีมชั้นนำในระดับเอเชีย ก้าวขั้นที่รออยู่คือการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2015 ที่ประเทศอิหร่าน วันที่ 31 กรกฎาคม – 8 สิงหาคมนี้

เผลอๆถ้าทำผลงานได้ดีเยี่ยม ติด 1 ใน 8 ของการแข่งขันกลับมา สมาคมฯอาจจัดหนักลงทุนส่งทีมเข้าแข่งขันเวิลด์ลีกในปีหน้าก็ได้

          นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่ต้องขอแสดงความเสียใจต่อทีมงานนักกีฬาหลายๆท่าน ที่เสียสละเวลาทำเพื่อชาติขณะที่ครอบครัวเกิดความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ของโค้ชด่วน ดนัยศรีวัชรเมธากุล ผู้ฝึกสอนทีมไทย และ คุณทวดของน้องเพียว อัจฉราพร คงยศ ที่เสียขณะที่กำลังแข่งขัน

ในรายของ"โค้ชด่วน"ต้องรีบกลับมาประเทศไทย และ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนา ก็รีบกลับมาทำหน้าที่ต่อ จุดนี้ต้องยอมรับในหัวจิตหัวใจจริงๆ

ส่วน "น้องเพียว" ต้องอยู่แข่งจนเสร็จในรอบชิง ถึงได้บินกลับมาส่งคุณทวด และ ชวดที่จะได้ขึ้นรับเหรียญทองซีเกมส์ในครั้งนี้

ขอแสดงความเสียใจต่อทั้ง 2 ครอบครัวอย่างสุดซึ้งครับ

ขณะเดียวกันอีก 2นักกีฬาไทยที่โชคร้าย ได้แก่ "น้องเดียร์" จรัสพร บรรดาศักดิ์  ที่ป่วยเป็นไข้อาการค่อนข้างหนักตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม และ เจ้าต้อง มนตรี แหวนประดับ ก็ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้จนถึงเกมสุดท้าย เพราะเข้ารับการผ่าตัดฝีที่บริเวณท้อง หลังจากที่ได้ลงไปช่วยทีมได้ไม่กี่นัดเท่านั้น

จุดนี้ถือว่าเสียดายแทนทั้งสองคน แต่แล้วก็ต้องให้เครดิตพวกเขาเพราะที่ผ่านมาก็ซ้อมหนักไม่แพ้คนอื่นๆเช่นกัน


มากันที่ทีมวอลเลย์บอลหญิง รายการนี้ถือว่าสอบผ่านด้วยคะแนนท๊อป เพราะผลงานที่ออกมาสำเร็จตามหมายที่วางไว้

เด็กๆหน้าใหม่อย่าง ชัชชุอร โมกศรี และ พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ได้ลงไปวาดลวดลายในฐานะ ดาวรุ่งของวงการ

ส่วน อัจฉราพร คงยศ มาครั้งนี้ถอดยศดาวรุ่งออก แล้วถูกเรียกว่าเป็นนักกีฬาทีมชาติชุดใหญ่ได้แบบเต็มปากเต็มคำ

ขณะที่ที่รุ่นเก๋า วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์,ปลื้มจิตร์ ถินขาว,นุศรา ต้อมคำ,อรอุมา สิทธิรักษ์ ยังคงเป็นแบบอย่างที่ดีต่อน้องๆ การเล่นที่เพิ่งพาอาศัยได้เสมอ การประคับประคองทีม และ ความเด็ดขาดที่ยังมีให้เห็นในยามที่จำเป็นต้องเร่งเครื่อง พูดง่ายๆคือใส่ออร์เดอร์ที่ต้องการเข้าไป แล้วสามารถผลิตออกมาได้ทันที

"บอลเร็ว" ของ หัตถยา บำรุงสุข ต้องบอกว่ามีวิชาที่แกร่งกล้ามากขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อาจจะเพราะเจ้าตัวทุ่มเทให้กับหน้าที่อย่างเต็มร้อย พร้อมกับเล่นด้วยความมั่นใจขึ้น ที่สำคัญคือ"กล้าเล่น"มากขึ้นด้วย จึงทำให้ทุกอย่างออกมาดี

ส่วนตำแหน่งตัวรับอิสระ 1 เดียวอย่าง "ปลาวาฬ" ปิยะนุช แป้นน้อย รายการนี้ได้ลงเล่นเต็มรูปแบบ และ โค้ชอ๊อต ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าพอใจกับผลงานของเธอ แม้จะมีผิดพลาดบ้างแต่สามารถนำไปแก้ไขเพื่อต่อยอดได้ในอนาคต

มาถึงตรงนี้....เป็นเรื่องที่ไม่อยากเขียนมากที่สุด เพราะเขียนแล้วรู้สึกใจหวิวๆทุกครั้งเมื่อกล่าวถึง " วรรณา บัวแก้ว " สุดยอดนักกีฬา ที่ทุกการแข่งขันต่อจากนี้ไปถึงคัดเลือกโอลิมปิกปีหน้า คือ "ครั้งสุดท้าย" ของเธอทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ผมเขียนเรื่อง"ครั้งสุดท้าย" เอาไว้หลังจากที่เสร็จสิ้นการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชีย แม้ครั้งนี้ผมพยายามเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง เพื่อซ่อนความรู้สึกไว้ แต่ไม่อาจที่จะทำได้

" เพราะทุกเรื่องของเธอ " มันจะเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกันที่ผมจะได้เขียนให้กับเธอในฐานะ"นักกีฬาทีมชาติ"



การเล่นซีเกมส์ครั้งนี้ คือครั้งที่ 8 ของ วรรณา บัวแก้ว แต่มาคราวนี้ได้เล่นใตตำแหน่งที่เธอบอกว่า เป็นตำแหน่งเก่า นั้นก็คือ " บอลเร็ว" แม้ว่าในความเป็นจริง โค้ชจะส่งลงไปเพื่อช่วยเกมรับในแดนหลัง แต่ก็มีจังหวะที่เธอได้ขึ้นมาซัดให้เราได้ชมกัน 1 ดอก แม้จะไม่ใช่จังหวะที่เป็นแต้ม แต่ก็เป็นการขึ้นตีบอลสั้นให้เหล่าแฟนวอลเลย์บอลไทยได้เห็น และ อมยิ้มกัน

" ไม่ได้แต้ม แต่ได้ความสุข "

จังหวะตีครั้งนั้น.....เชื่อไหมครับมันสามารถแปลงเป็นการสอนให้เราได้เห็นว่า " อะไรก็ตามหากเราทำมันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะประสบผลความสำเร็จหรือไม่ อย่างน้อยเราก็ภูมิใจที่ได้ทำมัน "

ทุกการกระทำของ วรรณา สอนให้เราได้หยิบนำไปใช้ในชีวิตได้เสมอ

ชีวิตเส้นทางวอลเลย์บอลของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ......จากเด็กบ้านนอก ที่อยากเล่นวอลเลย์บอล ได้โอกาสไปเก็บตัวซ้อมที่ยะลา ช่วงเวลาที่โคตรโหดของชีวิตนักกีฬาสำหรับใครหลายคน เธอกำลังจะถูกปลดออกจากทีมเพราะรูปร่างที่เล็ก แต่การเปลี่ยนมาเล่นตัวรับอิสระก็ทำให้เธอได้อยู่ต่อ และ เธอก็ตั้งใจที่ทำมัน

เธอคือคนที่ โค้ชอ๊อตยอมรับว่า " วรรณา คือคนที่อึดที่สุด "

เล่นตัวรับไม่กี่ปี แต่สามารถทำอันดับอยู่ในระดับโลกได้ จนต่างประเทศต้องมาซื้อตัวไปเล่นลีกอาชีพที่อิตาลี ......นี่มันเกิดจากความมุ่งมั่นทั้งนั้น

"คนที่เคยท้อที่สุด แต่กลับไม่เคยถอยสักครั้ง" กับช่วงเวลาที่ถูกดร๊อปพักการเป็นทีมชาติ และ สู้จนกลับมาเป็นกำลังหลักอีกครั้ง

"คนที่มีความฝันมากมาย แต่เสียสละตัวเองเพื่อแบ่งฝันให้คนอื่น " เธอเคารพการตัดสินใจของโค้ช ด้วยการพาเด็กๆน้องๆดาวรุ่งไปเก็บประสบการณ์ชิงแชมป์โลกที่อิตาลี แล้วนั่งดูเพื่อนๆที่เคียงบ่าเคียงไหล่กันมานาน รับเหรียญรางวัลในเอเชี่ยนเกมส์ ทั้งที่เหรียญนั้นคืออีก 1 ความฝันของเธอ

" คนที่ไม่ได้ทำผิด แต่รับผิดแทนคนอื่น เพื่อให้กำลังใจในทีมยังคงอยู่ " ทุกครั้งที่เพื่อนรับบอลพลาด เธอจะแสดงตัวขอโทษที่ไปช่วยไม่ทัน พร้อมกับบอกให้ทุกคนสู้และเอาใหม่

คำว่า"เสียสละ"ดูน้อยไปทันทีเมื่อเทียบกับสิ่งที่เธอทำ ......เพราะเธอพร้อมเป็นผู้ให้กับทุกคน

" นี่คือเรื่องที่ผมรู้จากเศษเสี้ยวความยิ่งใหญ่ที่เธอทำไว้"

มาถึงตรงนี้ผมอาจจะออกทะเลจากหัวเรื่องที่เขียนไว้ " ความสำเร็จของทีมวอลเลย์บอลชาย-หญิงไทย " แต่หวังว่าพี่ๆน้องๆจะไม่ว่ากัน เพราะตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้จะโค้งเรื่องเข้าไปยังไงดี เอาเป็นว่าผมขอจบงานเขียนเรื่องนี้เพียงเท่านี้ก่อนแล้วกัน

ขอสดุดีแด่เหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านครับ
เอก ประวิตร

ที่มา...http://www.smmsport.com/reader.php?article=5103
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่