22 ปีผ่านไป ไวเหลือเชื่อจริง ๆ กับระยะห่าง ระหว่าง Jurassic Park กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ ภาคแรก และ Jurassic World ภาคล่าสุด
กลิ่นอายที่คุ้นเคยเมื่อ 22 ปีก่อนกับการดูหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในโรงหนัง หวนกลับคืนมาอีกครั้ง
ป่าวครับ ไม่ได้ตื่นตะลึงกับเทคนิคพิเศษ หรือ บทภาพยนต์อะไรมากมายนักหรอก เพราะเห็นจนชิน CG ดีกว่านี้ยังมี
แต่หลาย ๆ ฉากที่โผล่มาในหนัง มันทำให้หวนระลึกกลับไป ณ ช่วงเวลานั้น
เราเห็นตอนนี้ เราว่ามันเชยจังวะ
แต่จำได้ว่า ตอนนั้นเห็นนี่ อะไรมันจะไฮเทคโนโลยีปานนั้น!!!
สำหรับคนรุ่นผม Jurassic Park หากนึกหวนกลับไป มันยังคงเป็นหนังที่สร้างความตื่นตะลึงได้อยู่เสมอ
สำหรับน้องๆ หลายคนที่อายุต่ำกว่า 25 ขวบ หรือที่เกิดหลังหนังเรื่องนี้ อาจจะสงสัยว่า
แค่หนังเรื่องเดียว อะไรมันจะขนาดนั้นกันน้อ พวกคนแก่ ๆ เนี่ย เอาเป็นว่า
ลุงจะอธิบายให้ฟังว่าเพราะอะไรนะเด็ก ๆ
หนู ๆ คงชินกับเทคนิคพิเศษที่เห็นในหนังสมัยนี้กันแล้วสินะ IRONMAN GODZILLA ในโลก นอกโลก นอกจักรวาล หลุมดำ
หนู ๆ คงไปกันมาหมดแล้ว อลังการงานสร้างทั้งนั้น เห็นจนชิน เห็นจนเบื่อ จนวันนึงมีอะไรใหม่ ๆ มาที่หนู ๆ ไม่เคยเห็น
หนู ๆ ก็จะ ว๊าววววว แม่ม เจ๋งโคตร สุดยอดแห่งความไฮเทค (ไม่รู้จะยกตัวอย่างอะไรเหมือนกันนะ 555555)
อารมณ์เดียวกับลุงตอนนั้นเลยครับ
เพราะ Jurassic Park เป็นหนังเรื่องแรกที่ใช้เทคนิค CG แบบที่เราเห็นกันทุกวันนี้ นั่นคือ การใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิค
ในการสร้างสัตว์ประหลาดที่ไม่มีอยู่จริงในโลกขึ้นมา เมื่อก่อนนี้การจะมีสัตว์ หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่มันเกินจินตนาการของมนุษย์เหล่านี้อยู่ในหนัง
เราใช้เทคนิคที่เรียกกันว่า Stop Motion นั่นคือหุ่นดินน้ำมันเสมือนจริงขนาดเล็ก นำมาค่อยๆ ขยับทีละเฟรม ๆ 1 วิฯ = 25 เฟรมเลท
การปรากฎตัวของสัตว์ประหลาดทุกอย่างที่อยู่ในหนังสมัยนั้นใช้เทคนิคแบบนี้ (นึกไม่ออกก็เทคนิคของ ทิมเบอร์ตัน นั่นแหล่ะครับ)
บางเรื่องลงทุนหน่อย ใช้หุ่น Animatonic ขนาดเท่าของจริง มีคนบังคับ เช่น Terminater ภาคแรก หรือตัว T-Rex ใน Jurassic Park ภาคแรก
ฉากที่โผล่มากินแพะ และ ทำลายรถนั่นแหล่ะครับ ฉากนั้น ไดโนเสาร์ช็อตไปหลายรอบกว่าจะถ่ายเสร็จ
หรือฉาก ไทเซอร์ราท็อป ตัวที่นอนป่วยพะงาบ ๆ อยู่นั่นก็หุ่นยนต์ไม่ใช่ CG รวมถึงอีกหลาย ๆ ฉาก ในทุกภาคของ Jurassic Park
ที่จะมีหุ่นขนาดจริงมาใช้ในการถ่ายทำด้วย
หนังเรื่อง Jurassic Park เป็นหนังเรื่องแรกในโลกที่ใช้ คอมพิวเตอร์กราฟฟิค หรือที่เรียกว่า CG ในการสร้างสิ่งที่เราไม่มีในหนัง
นั่นคือ ไดโนเสาร์ ก็คิดดูครับ อะไรที่คนไม่เคยเห็นแล้วได้เห็นมันจะสร้างปรากฎการณ์ขนาดไหน คนยุคนั้นจึงตื่นเต้นและตกตะลึงกันมากเลยทีเดียว
สมัยนั้นมีหนังไทยเรื่องหนึ่งที่พยายามจะใช้วิธีการนี้ในการสร้างไดโนเสาร์ขึ้นมาในหนัง แต่สู้ราคา 1 วินาที 10 ล้านบาทไม่ได้
นั่นคือ หนังเรื่อง ฉลุยหินคนไข่สุดขอบโลก ที่เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย แสดง อังเคิ้ลกำกับ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ เคยอ่านสัมภาษณ์นานมากแล้ว)
จึงหันมาหาเทคนิคเดิม คือ Stop Motion
วันเวลาผ่านไปกว่ายี่สิบปี คนรุ่นใหม่เห็นเทคนิคแบบนี้มาตั้งแต่เกิด จึงชินกับมันมากๆไม่ตื่นเต้นอะไร และหลังจาก Jurassic Park ภาคแรก
ภาคต่อๆ มาก็ไม่ว้าวอีกต่อไป (ยกเว้ณภาค 2 ที่คนรอดูกันมาก ๆ แต่ก็ค่อนข้างผิดหวัง) เพราะคนเริ่มชินกับเทคนิคเหล่านี้แล้ว
ประกอบกับเสน่ห์แห่ง Jurassic หายไปจนคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะหมดเสน่ห์ไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่า อะไรคือเสน่ห์ของ Jurassic Park แต่รู้สึกว่ามันมี
มีอยู่ใน Jurassic World ผมก็อธิบายไม่ถูก อาจจะคิดไปเองคนเดียวก็ได้
จนมาถึงภาคนี้ Jurassi World กลิ่นอายของความเป็น Jurassic Park กลับมาอีกครั้ง ฉากที่ T-Rex โผล่มาในช่วงท้าย
ต้องเรียกว่าคนรุ่นผมที่ผูกพันอยู่กับ T-Rex ตัวนี้นี่แทบจะกรี๊ดดังๆ ในโรงเลยทีเดียว เสียดายที่ตอนจบ สัตว์น้ำขโมยซีนไปแหล่กซะหน้าตาเฉย!!!
ไปดูกันครับสำหรับสาวก Jurassic Park รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ภาพภาคแรกจะผุดขึ้นมาในหัวตลอดเรื่องเลยทีเดียว
--[JURASSIC WORLD เสน่ห์แห่ง JURASSIC PARK ที่หวนกลับมาอีกครั้ง]--
กลิ่นอายที่คุ้นเคยเมื่อ 22 ปีก่อนกับการดูหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในโรงหนัง หวนกลับคืนมาอีกครั้ง
ป่าวครับ ไม่ได้ตื่นตะลึงกับเทคนิคพิเศษ หรือ บทภาพยนต์อะไรมากมายนักหรอก เพราะเห็นจนชิน CG ดีกว่านี้ยังมี
แต่หลาย ๆ ฉากที่โผล่มาในหนัง มันทำให้หวนระลึกกลับไป ณ ช่วงเวลานั้น
เราเห็นตอนนี้ เราว่ามันเชยจังวะ
แต่จำได้ว่า ตอนนั้นเห็นนี่ อะไรมันจะไฮเทคโนโลยีปานนั้น!!!
สำหรับคนรุ่นผม Jurassic Park หากนึกหวนกลับไป มันยังคงเป็นหนังที่สร้างความตื่นตะลึงได้อยู่เสมอ
สำหรับน้องๆ หลายคนที่อายุต่ำกว่า 25 ขวบ หรือที่เกิดหลังหนังเรื่องนี้ อาจจะสงสัยว่า
แค่หนังเรื่องเดียว อะไรมันจะขนาดนั้นกันน้อ พวกคนแก่ ๆ เนี่ย เอาเป็นว่า
ลุงจะอธิบายให้ฟังว่าเพราะอะไรนะเด็ก ๆ
หนู ๆ คงชินกับเทคนิคพิเศษที่เห็นในหนังสมัยนี้กันแล้วสินะ IRONMAN GODZILLA ในโลก นอกโลก นอกจักรวาล หลุมดำ
หนู ๆ คงไปกันมาหมดแล้ว อลังการงานสร้างทั้งนั้น เห็นจนชิน เห็นจนเบื่อ จนวันนึงมีอะไรใหม่ ๆ มาที่หนู ๆ ไม่เคยเห็น
หนู ๆ ก็จะ ว๊าววววว แม่ม เจ๋งโคตร สุดยอดแห่งความไฮเทค (ไม่รู้จะยกตัวอย่างอะไรเหมือนกันนะ 555555)
อารมณ์เดียวกับลุงตอนนั้นเลยครับ
เพราะ Jurassic Park เป็นหนังเรื่องแรกที่ใช้เทคนิค CG แบบที่เราเห็นกันทุกวันนี้ นั่นคือ การใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิค
ในการสร้างสัตว์ประหลาดที่ไม่มีอยู่จริงในโลกขึ้นมา เมื่อก่อนนี้การจะมีสัตว์ หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่มันเกินจินตนาการของมนุษย์เหล่านี้อยู่ในหนัง
เราใช้เทคนิคที่เรียกกันว่า Stop Motion นั่นคือหุ่นดินน้ำมันเสมือนจริงขนาดเล็ก นำมาค่อยๆ ขยับทีละเฟรม ๆ 1 วิฯ = 25 เฟรมเลท
การปรากฎตัวของสัตว์ประหลาดทุกอย่างที่อยู่ในหนังสมัยนั้นใช้เทคนิคแบบนี้ (นึกไม่ออกก็เทคนิคของ ทิมเบอร์ตัน นั่นแหล่ะครับ)
บางเรื่องลงทุนหน่อย ใช้หุ่น Animatonic ขนาดเท่าของจริง มีคนบังคับ เช่น Terminater ภาคแรก หรือตัว T-Rex ใน Jurassic Park ภาคแรก
ฉากที่โผล่มากินแพะ และ ทำลายรถนั่นแหล่ะครับ ฉากนั้น ไดโนเสาร์ช็อตไปหลายรอบกว่าจะถ่ายเสร็จ
หรือฉาก ไทเซอร์ราท็อป ตัวที่นอนป่วยพะงาบ ๆ อยู่นั่นก็หุ่นยนต์ไม่ใช่ CG รวมถึงอีกหลาย ๆ ฉาก ในทุกภาคของ Jurassic Park
ที่จะมีหุ่นขนาดจริงมาใช้ในการถ่ายทำด้วย
หนังเรื่อง Jurassic Park เป็นหนังเรื่องแรกในโลกที่ใช้ คอมพิวเตอร์กราฟฟิค หรือที่เรียกว่า CG ในการสร้างสิ่งที่เราไม่มีในหนัง
นั่นคือ ไดโนเสาร์ ก็คิดดูครับ อะไรที่คนไม่เคยเห็นแล้วได้เห็นมันจะสร้างปรากฎการณ์ขนาดไหน คนยุคนั้นจึงตื่นเต้นและตกตะลึงกันมากเลยทีเดียว
สมัยนั้นมีหนังไทยเรื่องหนึ่งที่พยายามจะใช้วิธีการนี้ในการสร้างไดโนเสาร์ขึ้นมาในหนัง แต่สู้ราคา 1 วินาที 10 ล้านบาทไม่ได้
นั่นคือ หนังเรื่อง ฉลุยหินคนไข่สุดขอบโลก ที่เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย แสดง อังเคิ้ลกำกับ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ เคยอ่านสัมภาษณ์นานมากแล้ว)
จึงหันมาหาเทคนิคเดิม คือ Stop Motion
วันเวลาผ่านไปกว่ายี่สิบปี คนรุ่นใหม่เห็นเทคนิคแบบนี้มาตั้งแต่เกิด จึงชินกับมันมากๆไม่ตื่นเต้นอะไร และหลังจาก Jurassic Park ภาคแรก
ภาคต่อๆ มาก็ไม่ว้าวอีกต่อไป (ยกเว้ณภาค 2 ที่คนรอดูกันมาก ๆ แต่ก็ค่อนข้างผิดหวัง) เพราะคนเริ่มชินกับเทคนิคเหล่านี้แล้ว
ประกอบกับเสน่ห์แห่ง Jurassic หายไปจนคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะหมดเสน่ห์ไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่า อะไรคือเสน่ห์ของ Jurassic Park แต่รู้สึกว่ามันมี
มีอยู่ใน Jurassic World ผมก็อธิบายไม่ถูก อาจจะคิดไปเองคนเดียวก็ได้
จนมาถึงภาคนี้ Jurassi World กลิ่นอายของความเป็น Jurassic Park กลับมาอีกครั้ง ฉากที่ T-Rex โผล่มาในช่วงท้าย
ต้องเรียกว่าคนรุ่นผมที่ผูกพันอยู่กับ T-Rex ตัวนี้นี่แทบจะกรี๊ดดังๆ ในโรงเลยทีเดียว เสียดายที่ตอนจบ สัตว์น้ำขโมยซีนไปแหล่กซะหน้าตาเฉย!!!
ไปดูกันครับสำหรับสาวก Jurassic Park รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ภาพภาคแรกจะผุดขึ้นมาในหัวตลอดเรื่องเลยทีเดียว