ม็อกค่าปาท่องโก๋ : คุยกับพระเอกซอมบี้ {สัมภาษณ์ เต้ย-พงศ์กร จาก ผีห่าอโยธยา}

สวัสดีครับ

      ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ

เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1197 ประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2558


     “ม็อคค่าปาท่องโก๋” ในสัปดาห์นี้ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักแสดงหนุ่ม ผู้กำลังมีผลงานลงจอเงินถึงสองเรื่องด้วยกัน คือ “สี่เส้า” และได้มีโอกาสเล่นเป็นตัวเอกในหนังแนวใหม่ล่าสุดของหนังไทย คือแนว “พีเรียด-ซอมบี้” ผลงานการกำกับของ “หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล” กับภาพยนตร์เรื่อง “ผีห่าอโยธยา” เราจะพาท่านไปพูดคุยกับ “เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์”

Mr. Coffee: เข้ามาสู่วงการหนังไทยได้อย่างไร

เต้ย : ผมได้มีโอกาสเล่นละครใหญ่ “พันท้ายนรสิงห์” กับ “ท่านมุ้ย” อดัม มาก่อนครับ และใน “พันท้ายนรสิงห์” ซึ่งใช้ระบบการถ่ายทำแบบภาพยนตร์โทรทัศน์ ซึ่ง“หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล” ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “ผีห่าอโยธยา” ก็เคยเข้ามาช่วย “ท่านมุ้ย” ในกองถ่าย และท่านก็อาจจะเห็นว่า ผมเล่นหนังพีเรียดได้ คือคงเห็นผมได้ประสบการณ์มาจาก “ท่านมุ้ย” แล้ว ก็เลยชวนผมมาเล่นเรื่องนี้ครับ

Mr. Coffee: บทบาทที่ได้รับในหนังเรื่องนี้

เต้ย : รับบทเป็น “คง” เด็กวัดที่โตขึ้นมากับข้าวก้นบาตร จากการที่หลวงตาเก็บมาเลี้ยง พ่อแม่ไม่มี เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น มีเพื่อนสนิทก็คือ “ไอ้ขวัญ” ซึ่งรับบทโดย แต๊บ AF (ธนพล มหธร) และซอนย่า (ซอนญ่า สิงหะ) รับบทเป็น “ เมี้ยน”  ก็มีความรักเดียวใจเดียวกับ “เมี้ยน” และทะเยอทะยานทางด้านของความรัก อยากดูแลคนรัก แต่มันเป็นไปได้ยาก เพราะเขาเป็นคนรวย บ้านเป็นคนมีกะตังค์ ก็โดนกีดขวางมาตลอดโดยพ่อแม่เขา

Mr. Coffee: ต้องมีการใช้ทักษะด้านการเล่นบทบู๊ Action มากน้อยแค่ไหน

เต้ย : ผมเคยมีประสบการณ์มาก่อนอยู่แล้วครับไม่ว่าจะเป็นเตะ ต่อย ใช้ดาบ บู๊มาหมดแล้วครับ ภาษาโบราณก็เคยใช้มาแล้วใน “พันท้ายนรสิงห์” แต่ที่ยังไม่เคยเจอก็เห็นจะเป็นเรื่องซอมบี้ เวลาเราเจอกับ “ผีห่า” ขึ้นมา ซึ่งเราต้องเชื่อให้ได้ ทั้งที่เรารู้เบื้องหลังอยู่แล้วว่ามันอาจจะไม่ใช่ เราก็ต้องใช้ความเชื่อด้านการแสดงออกมาให้คนดูรู้สึกให้ได้

Mr. Coffee: ชอบหนังซอมบี้มากน้อยแค่ไหน

เต้ย : ผมเป็นแฟนคลับ Walking Dead ก็ช่วยให้สามารถนำมาปรับใช้ในการแสดงได้พอสมควรครับ เวลาเจอเป็นยังไง การเอาชีวิตรอด การหนี การสู้ การปกป้องคนอื่น ช่วยได้เลย

Mr. Coffee: อยากให้เปรียบเทียบบทบาทกับ “สี่เส้า” ที่ออกฉายในเวลาไล่เลี่ยกัน

เต้ย : “สี่เส้า” เป็นหนังที่ผมเล่นเป็นวัยรุ่นในยุคปัจจุบันครับ แล้วก็ถ่ายทำมาก่อนเรื่องนี้ด้วย ถ่ายเสร็จตั้งแต่ปี 2556 เดิมหนังมีโปรแกรมจะเข้าฉายปี 2557 แต่จังหวะไม่ดี เลยย้ายมาฉายปี 2558 แตกต่างกันนิดหน่อย เพราะ “สี่เส้า” ผมเล่นเป็นหนุ่มติดเทคโนโลยี เป็นคนที่ทันสมัยมาก ตอนนั้นไว้ผมยาวด้วย เป็นความรักของวัยรุ่น มี 4 ตัวละคร เป็นความรักในแต่ละรูปแบบ ถ่ายทอดให้ผู้ชมได้รับชม ของผมเป็นความรักที่เสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกเทคโนโลยีที่ตัวเองใช้มา เพื่อไปอยู่กับคนรักที่บนดอย ซึ่งไม่มีเทคโนโลยี ไม่มี Wifi ไม่มี 3G ส่วนเรื่องนี้เป็นหนังพีเรียดซอมบี้ ซึ่งท่านก็พยายามขุดสัญชาตญาณของตัวละครแต่ละตัว ว่าแต่ละตัวมีคีย์เวิร์ดแบบไหนเพื่อสื่อออกมา

Mr. Coffee: คิดอย่างไรกับหนังซอมบี้

เต้ย : อย่างล่าสุดก็เชื้ออีโบล่า ถ้าคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ ก็คงเหมือน Walking Dead เตรียมลุยกับซอมบี้ได้เลย เราคงจะต้องหาทางเอาชีวิตตัวเองให้รอด ไม่ยอมให้พวกมันกินอย่างแน่นอน แต่จริงๆ Walking Dead สื่อออกมาว่าสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ ที่สุดก็คือคน ไม่ใช่ซอมบี้

Mr. Coffee: ระหว่างการเล่นหนังกับละคร แตกต่างกันอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

เต้ย : ด้านการแสดงทั้งหนังและละครทำการบ้านเหมือนกันเลยคือตีบทให้แตก หา Character ให้เจอ หาความต้องการของตัวละครให้เจอ การแสดงจะแตกต่างกันนิดหน่อย แต่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงทั้งหมด ภาพยนตร์จะมีความเป็นจริงมากกว่าละคร ละครจะต้องสื่ออารมณ์ในความคิดออกมาเป็นคำพูด ให้คนดูรู้ แต่ในหนังไม่พูดก็ได้ ต้องแสดงออกทางสายตาให้เยอะที่สุด เพราะในหนังมุมภาพจะรับแคบมาก แต่ในละครมากที่สุดก็แค่ Medium ไม่ก็มุมกว้าง มีโอกาสน้อยมากที่จะรับมุมแคบในละคร อธิบายง่ายๆ เลยว่าในละคร คนยืนคุยกันจะเป็นแผง เพราะกล้องจะได้ยิงมาได้ง่าย 3 ตัวเลย แต่ในหนังคุยกันยืนเป็นวงกลมได้ เพราะกล้องจะเอียงไปรับทีละคน ในหนังต้องเล่นหลายรอบ แต่ในละครเราเล่นรอบเดียว ไม่ผ่านก็เทคใหม่ แก้ใหม่ Edit ใหม่ได้ แต่ในหนังเราต้องเล่นใหม่ เพราะจะมีกล้องรับมุมกว้างรอบหนึ่ง แคบอีกรอบหนึ่งถ้าต้องการ Insert ก็แคบอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเท่ากับต้องแสดงสามรอบอย่างต่ำ

Mr. Coffee: อะไรยากง่ายกว่ากัน

เต้ย: ผมว่ามันก็คนละแบบนะ หนังมันจะเป็นธรรมชาติมาก มันไม่ได้เยอะเหมือนละคร ละครก็จะเยอะขึ้นมาหน่อย แต่ในหนังเราแค่รู้สึกนิดเดียว คนดูรู้แล้ว มันใกล้เพราะเวลาดูในโรงหนังจอมันใหญ่มากด้วย แต่ในละครจอทีวีมันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น มันจะดูไม่ Over ไป

Mr. Coffee: ชีวิตในกองละครกับกองถ่ายหนัง เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

เต้ย: จริงๆ สวัสดิการก็เหมือนกันนะครับ แต่จำนวนคิวที่ถ่าย ละครจะเยอะกว่า ถ่ายหนังปัจจุบันส่วนมากก็ไม่เกิน 30 คิว ดีไม่ดีก็แค่ 15 คิว ถ้าหนังสั้นก็แค่คิวเดียว ซึ่งละครก็ต้องเป็น 100 คิว 80 คิว และละครจะยังให้ OB ตัดต่อตรงนั้นเลย ส่วนหนังก็จะไปเข้าห้องตัดทีหลัง และก็มีการตีเสลดด้วย เพราะหนังเราจะต้องแยกเสียงกับภาพอีกทีหนึ่ง แต่ในละครอัด Wireless ได้เลย

Mr. Coffee: หนังแนวไหนที่อยากเล่นอีกบ้าง

เต้ย: หนังที่พี่อนันดาเล่นครับ คือ Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ ท้าทายมากครับ ทำยังไงที่จะทำให้คนเชื่อว่าเราเป็นอีกเพศหนึ่ง หรือหนังอย่าง Happy Birthday หนังตลกก็ดูน่าจะยากนะครับ เพราะต้องใช้ความจริงในการเล่น ไม่อย่างนั้นจะดูเป็นตลกปลอมๆ คนดูดูออกเลย หนังตลกก็เป็นอะไรทีท้าทายครับ จริงๆ ผมถนัดทางดราม่ามากกว่า อย่างโรแมนติกคอมมิดี้ก็ยังไม่เคยลอง แต่ผมชอบอะไรที่ยากๆ มันท้าทาย

Mr. Coffee: แนวหนังที่ชอบ ยกตัวอย่างหนังไทย เทศ

เต้ย: ชอบดูหนังครับ หนังไทยก็อย่าง Me...Myself หรือ Happy Birthday ชอบหนังบทยากๆ ถ้าหนังต่างประเทศผมจะชอบหนังที่ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ เล่นอย่าง Catch me if you can แล้วก็ล่าสุดอย่าง  The Wolf of Wall Street เขาเล่นได้สุดมาก ยิ่ง Catch me if you can เขาทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาจะเป็นใครก็ได้ที่เขาอยากให้คนคิดว่าเขาเป็นในตอนนั้น และคนก็เชื่อด้วย ผมชอบดูหนังครับ ชอบดูนักแสดงด้วย อย่างนักแสดงที่ยอมลดน้ำหนักตัวเองเพื่อหนังเรื่องหนึ่ง ยอมเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเอง ยอมไว้เครา ยอมไว้ผมยาว ยอมโทรม อย่างนี้มันคือนักแสดงจริงๆ หนังเรื่อง Cast Away ผมก็ชอบมากครับ เล่นคนเดียว เล่นกับลูกมะพร้าว

Mr. Coffee: อยากฝากอะไรถึงคนดูหนังไทย

เต้ย: อยากให้เปิดรับหนังไทยครับ หนังไทยตอนนี้ก็พัฒนาแล้ว ไม่ใช่รับแต่หนังนอกอย่างเดียว หนังไทย CG ตอนนี้ก็ทำได้ดี เราอย่าไปดูถูก ควรเปิดใจดูผลงานที่คนไทยทำขึ้นมาเอง อยากให้อุดหนุนหนังไทย อย่าไปซื้อแผ่นผีเลย เพราะว่าเบื้องหลังมันเหนื่อย ไม่ได้ทำออกมาง่ายๆ เจอแผ่นผี มัน Fail มากๆ ครับ มันหมดกำลังใจสำหรับคนที่ทำงานครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่