สวัสดีค่า วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์จบที่ เจอแท็กซี่แปลกๆ ฮาๆ น่ากลัว มาให้ฟัง
เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใดขออภัยมาด้วยจ้า
Fast เร็วแรงทะลุมหาลัย
ตอนเรียนมหาลัยเรานั่งแท็กซี่ไปกลับมหาลัยบ่อยๆ โดยโทรบอกยามให้โบกแท็กซี่มารับหน้าบ้าน มีอยู่ครั้งนึง เราเรียกแท็กซี่ไปมหาลัย ออกจากหมู่บ้านมาได้สัก 5นาทีเราลืมชีทของเพื่อนไว้ที่บ้าน เลยต้องนั่งกลับไปเอา โดยบอกกับพี่คนขับว่า “พี่คะรบกวนวนกลับไปบ้านได้มั้ยคะ พอดีหนูลืมชีทไว้ ทำเวลาหน่อยนะคะ เพราะหนูมีสอบ เดี๋ยวไปไม่ทัน” พี่แท็กซี่ใจดีตบปากรับคำไม่พอตบเกียร์แบบซิ่งเร็วยิ่งกว่า fast 9
ระหว่างทางขับกลับบ้าน เนื่องจากตรงพื้นที่นั้นมีหมู่บ้านเยอะ รถเข้าออกเลยเยอะไปด้วย พี่แท็กซี่ไม่ปล่อยให้รถสักคันแหยมออกมานอกหมู่บ้าน แม้รถคันนั้นจะเข้าถนนมาครึ่งคันแล้วก็ตาม เฉียดจะชนหลายรอบมากค่ะ เรานี่นั่งเหวอ แต่ไม่กล้าบอกให้พี่ขับช้าๆเพราะดันบอกไว้ตอนแรกว่าให้ทำเวลา
และดูท่าทางพี่แกน่าจะมีความสุขกับการสวมวิญญาณวิน ดีเซลอย่างมาก เราได้แต่นั่งจับประตูรถไว้แล้ว หลับตา ยิ่งระหว่างทางออกมาถนนใหญ่พี่แกปาดรถทุกคันประหนึ่งว่าแกเป็นคนจะไปสอบเอง มาถึงมหาลัยอย่างทุลักทะเล เราเดินมาจากรถเจอเพื่อน เพื่อนได้แต่ถ้าเราว่าเป็นอะไรหน้าซีดเลย เราได้แต่ยิ้มกลับไป หึหึ
ถ้าไม่มีผู้โดยสารนะโดนแน่
ระหว่างทางกลับบ้านช่วงค่ำฟ้ามืดแล้วค่ะ นั่งแท็กซี่มาสักพัก อีกประมาณ10 นาทีจะถึงบ้าน มีมอเตอร์ไซค์ ขับมาเลนข้างๆแบบขอบถนนค่ะ เบียดพี่แท็กซี่อยู่สักพัก จนพี่แกคงทนไม่ไหว หักเลี้ยวรถจนเบียดมอเตอร์ไซค์ลงข้างทาง แต่ไม่ได้รถล้มนะคะ มอเตอร์ไซค์ตกใจและคงโมโหเหมือนกัน ขับขนานมากับแท็กซี่และชี้หน้า
แท็กซี่เปิดกระจกแล้วบอกว่า มาขับเบียดทำไมเล่าจะแซงก็แซงสิวะ มอเตอร์ไซค์ชี้หน้าและพูดอะไรสักอย่าง แล้วขับปาดไปข้างหน้าแท็กซี่และขับช้าๆอย่างกวนตีน จนพี่แท็กซี่เร่งเครื่องจะชนจริงๆ มอเตอร์ไซค์เลยเปลี่ยนมาขับเบียดด้านข้างแทน
เราได้แต่เหวอ นั่งนิ่งไม่พูดอะไร ขับมาแปลบนึงก็ถึงหมู่บ้านเราค่ะ แท็กซี่เปิดกระจกแล้วบอก รอตรงนี้นะเดี๋ยวกูไปส่งผู้โดยสารก่อน เรามองกลับหลังไปเห็นมอเตอร์ไซค์ชะลอรถและจอด! เราได้แต่คิดในใจพี่จอดตรงนี้ก็ได้พี่หนูอยากดูมวย
ระหว่างทางขับเข้าหมู่บ้านเราพี่แท็กซี่ก็ยังด่ามอเตอร์ไซค์ไม่เลิก เราได้แต่พูดคำเดียวว่า ใจเย็นค่ะพี่ พี่เค้าบอกว่าเนี่ยถ้าไม่มีผู้โดยสารนะโดนแน่ แล้วก็ก้มหยิบของใต้เบาะข้างๆคนขับขึ้นมาวางบนเบาะ สิ่งนั้นคือ !!! ดาบค่ะ เป็นดาบยาวๆเลย แต่หอด้วยกระดาษ กรี๊ดดดด คุณพี่คะ ใจเย็นค่า TT ก่อนลงรถ พี่เค้าได้แต่พูดว่าออกไปมันโดนแน่ เราเดินลงมามือไม้ขานี่อ่อนไปหมด กลัวพี่เค้าโมโหเอาดาบมาฟันเราแทน แม่ยืนรดน้ำอยู่หน้าบ้านได้แต่ถามเราว่าเป็นอะไรหน้าซีดเลย เราได้แต่ยิ้มกลับไป หึหึ
น้องมีองค์รึป่าว
ตอนมัธยมปลาย วันนั้นเราไปดูหนังกับเพื่อนค่ะ ปกติเราเป็นคนไม่ดูหนังผีนะ เราขี้กลัว และจะชอบหลอน จนอาบน้ำต้องแงมประตูทิ้งไว้ แต่วันนั้นเจอเพื่อนที่อยู่คนละจังหวัด และเพื่อนอยากดูหนังเรื่องโปรแกรมหน้าวิญญาณอาฆาตมากๆ เนื่องจากเพื่อนมาไกลเราจึงตามใจเพื่อน
บอกตรงๆเราดูหนังเรื่องนี้เราโคตรของความหลอน ตอนดูนี่เราได้แต่คิดว่าทำไมชีวิตตูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย จบเรื่องออกมาจากโรงโบกแท็กซี่กลับบ้านค่ะ วันนั้นเพื่อนเราไปค้างที่บ้าน เป็นอะไรที่โล่งใจมากวันนี้ไม่เหงามีเพื่อนนอนด้วย ระหว่างทางกลับบ้าน ตอนนั้นค่ำแล้วค่ะ เราก็นั่งคุยกะอะไรเพื่อนไปเรื่อย แต่ก็ยังรู้สึกหลอนๆจากหนัง
ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ สายตาเราชำเลืองไป เห็นเงาคนด้านข้างเหมือนยืนตรง ลอยผ่านมาข้างๆ เราได้แต่อุทานว่า เหี้--- แต่หลังจากมองดีๆ เป็นหุ่นถูกตั้งอยู่ในลักษณะยืนบนรถกระบะ เรานี้ใจตกไปอยู่ตาตุ่มด้วยความกลัว
จากนั้นเราก็นั่งคุยกับเพื่อนต่อ พี่แท็กซี่ชำเลืองมองจากกระจกและพูดขึ้นมาว่า... น้องมีองค์รึป่าว คราวหลังวางน้ำไว้ในห้องสิ เผื่อเค้ามากิน
นั่งตรงที่น้องนั่ง
วันนั้นกลับจากมหาลัย อีกประมาณ 10 นาทีถึงบ้านค่ะ ช่วงนั้นมืดแล้วประมาณ 3 ทุ่ม นั่งรถผ่านวัดนึง ตรงข้ามวัดเป็นคลองและมีป้ายรถเมล์เก่าๆไม่มีไฟ เราก็นั่งมองอะไรไปเรื่อย อยู่ดีๆพี่แท็กซี่ก็บอกว่าเนี่ยรู้มั้ยแถวนี้เค้าลือกันบ่อยนะ ป้ายรถเมล์นี้ เราก็หันไม่มองคนขับไม่ได้พูดอะไร ในใจนึกแต่ว่าไม่ต้องเล่าต่อนะพี่ -..-
เหมือนพี่เค้ารู้ใจ พูดต่อว่า เค้าลือว่าตอนดึกๆจะมีผู้หญิงมานั่งรอตรงป้ายรถเมล์เนี่ยพอรับขึ้นรถ ให้ไปส่งที่วัดนึง เราจำชื่อไม่ได้นะคะ รู้แต่อยู่แถวคลอง9-10 ปทุมธานี พอขับไปสักพักหันไปก็ไม่เจอผู้หญิงคนนั้นแล้ว
เราก็ได้แต่เงียบฟังค่ะ ด้วยความกลัว ไม่ถามอะไรต่อคิดว่าพี่เค้าจะหยุดพูด สักพักพี่เค้าก็พูดขึ้นมา พี่ก็เคยโดนนะ TT เห้ยพี่หนูอุสานั่งเฉยๆไม่ถามอะไร
พี่เค้าเล่าต่อว่าเนี่ยพี่รับตรงป้ายนี้แหละ ประมาณเที่ยงคืนกว่า เป็นผู้หญิงก้มหน้าก้มตา บอกว่าให้ไปส่งที่วัดนึงที่อยู่คลอง5 ระหว่างทางไป กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนนั้นก็ฉุนกึกเลย ระหว่างทางพี่ก็ชวนเค้าคุย แต่เค้านั่งเงียบไม่ตอบอะไรสักอย่าง เหมือนไม่ได้ยินที่พี่พูด เนี่ยเงียบกริบเหมือนน้องเลย เราก็ได้แต่ขำแล้วบอกว่าก็ตั้งใจฟังไงคะ ในใจได้แต่นึกอีกแปลบจะถึงบ้านแล้วโว้ยยยย
เราก็เลยถามต่อไปว่าแล้วเป็นไงคะ เค้าหายตัวไปรึป่าว แล้วพี่ได้เงินมั้ย พี่เค้าตอบไม่หายนะ ก็นั่งไปจนถึงวัดแหละเค้าก็ส่งเงินให้ปกติ แต่พี่มาดูเงินที่หลัง เงินนี่เปื้อนสีแดงๆเหมือนเลือดเต็มไปหมดแต่แห้งๆนะ เราก็อ๋อๆน่ากลัวจังค่ะ
พี่เค้าตบท้ายมาว่าวันนั้นผู้หญิงคนนั้นนั่งตรงที่น้องนั่งอยู่เนี่ยแหละ..
เรียกพี่สิจ๊ะ
วันนั้นเราในยามเรียกแท็กซี่มารับในหมู่บ้านค่ะ จะไปหอที่อยู่ข้างมหาลัย ช่วงประมาณบ่าย1 เราก็นั่งออกมาปกติ ก็ดูทาง ไปเรื่อย ออกมาจากหมู่บ้านสักพัก เริ่มรู้สึกว่ารถมันส่ายๆ แปลกๆเราเลยสังเกตคนขับแท็กซี่ค่ะ ตานี่ปรือเลย ท่าทางหลับๆตื่นๆ เหมือนง่วงมาก ตอนนั้นในใจนี่ซวยแล้ววว ชนขึ้นมานี่ซวยยยแน่ ตอนนั้นบอกตรงๆไม่กล้าขอลงค่ะ ไม่เคยขอลงกลางทาง เลยชวนแท็กซี่คุย
“ลุงขับแท็กซี่มานานยังคะ”
“หลายปีแล้วนะ”
“เงินดีป่าวคะ”
“ก็ดีนะ”
ยังตาปรือๆอยู่เหมือนไม่สนใจที่เราพูดเท่าไหร่ เราชวนเค้าคุยไปเรื่อยๆเลยค่ะ จะได้ไม่ง่วง
“ลุงออกมาขับตั้งแต่กี่โมงแล้วคะ”
“ตั้งแต่6โมงเย็นเมื่อวานแล้ว”
เห้ยยยอีเห้ ชัดเลยยยย ง่วงชัวร์ๆ เรายังชวนคุยไปเรื่อยค่ะ สักพักแกเริ่มตอบโต้เริ่มถามเราบ้างเรียนอยู่หรอ ไปทำอะไรที่หอ บลาๆๆๆ เราก็ตอบตามปกติไม่ได้คิดอะไรค่ะ เราถามต่อ
“ลุงมีลูกรึยังคะ”
“โหวววว ยังหรอ พี่เหมือนแก่แล้วหรอ”
“หนูเดาอายุคนไม่ค่อยถูกอ่าค่ะ แล้วลุงอายุเท่าไหร่แล้วคะ”
“อายุมันเป็นเพียงตัวเลข อย่าไปรู้มันเลยนะ เรียกพี่สิจ๊ะ อย่าเรียกลุง”
แล้วแท็กซี่ก็ชำเรืองตามาทางกระจกหลัง
เอ่ออออ ..... ตอนนั้นแบบขนลุกซู่เลยค่ะ ในใจนี่แบบ ลุงอย่ามาหื่นกาม จะอ้วกก ในใจนี่ทำไงดีว้า
“แล้วน้องชื่ออะไรหรอ”
“ทำไมคะมีอะไรรึป่าว”
“อยากรู้จัก”
“อ๋อ ชื่อ XX (บอกชื่ออื่นที่ไม่ใช่ชื่อเราค่ะ)”
“แลกเบอร์ไว้มั้ยน้องเผื่อมีปัญหา โทรเรียกพี่ให้ไปรับได้ตลอดเลยนะ”
พร้อมกับส่งสายตาหื่นกามมาทางกระจก ไม่นึกเลยค่ะว่าการชวนคุยให้เค้าไม่ง่วงจะกลายมาเป็นแบบนี้
“เออ พี่เอาเบอร์พี่มาดีกว่าค่ะ พอดีหนูจะไปเปลี่ยนเบอร์อาทิตย์นี้”
“ได้ๆ โทรมาได้ตลอดนะให้ไปรับที่ไหน รับฟรีได้นะ”
เค้าบอกเบอร์มาค่ะ แต่ด้วยความขนลุกขนพอง เลยไม่ได้เมมไว้ค่ะ มาเสียดาย น่าจะเอาไว้โทรไปด่า
“เออ น้องยิงมาเลยดีกว่านะพี่จะได้เมมเบอร์น้องไว้”
“ไม่ดีกว่าค่ะพี่ เดี๋ยวหนูก็เปลี่ยนเบอร์แล้วค่ะ ไว้เปลี่ยนเบอร์แล้วโทรไป”
ถึงตอนนี้ก็เลี้ยวเข้าซอยหอแล้วค่ะ เราบอกให้เค้า จอดหออื่นที่เราไม่ได้อยู่ค่ะ เพราะกลัวว่าจะรู้หอที่เราอยู่ มีการถามด้วยอยู่หอนี้หรอ เราก็บอกค่ะๆๆๆ แล้วรีบลง ไปหาเพื่อนที่ร้านอาหารใต้หอ ตอนนั้นมือสั่นน้ำตาไหลค่ะ เราบอกจริงๆนะว่ามันน่ากลัวกว่าที่เราเล่ามาก ดีที่ยังไม่มืด สาวๆต้องระวังตัวกันด้วยนะคะ
เพื่อนๆเคยเจอแท็กซี่แปลกๆป่าวคะมาแชร์กันนะ
มาแชร์ประสบการณ์การขึ้นแท็กซี่ แปลกๆ ฮาๆ น่ากลัวๆ กันค่ะ
เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใดขออภัยมาด้วยจ้า
Fast เร็วแรงทะลุมหาลัย
ตอนเรียนมหาลัยเรานั่งแท็กซี่ไปกลับมหาลัยบ่อยๆ โดยโทรบอกยามให้โบกแท็กซี่มารับหน้าบ้าน มีอยู่ครั้งนึง เราเรียกแท็กซี่ไปมหาลัย ออกจากหมู่บ้านมาได้สัก 5นาทีเราลืมชีทของเพื่อนไว้ที่บ้าน เลยต้องนั่งกลับไปเอา โดยบอกกับพี่คนขับว่า “พี่คะรบกวนวนกลับไปบ้านได้มั้ยคะ พอดีหนูลืมชีทไว้ ทำเวลาหน่อยนะคะ เพราะหนูมีสอบ เดี๋ยวไปไม่ทัน” พี่แท็กซี่ใจดีตบปากรับคำไม่พอตบเกียร์แบบซิ่งเร็วยิ่งกว่า fast 9
ระหว่างทางขับกลับบ้าน เนื่องจากตรงพื้นที่นั้นมีหมู่บ้านเยอะ รถเข้าออกเลยเยอะไปด้วย พี่แท็กซี่ไม่ปล่อยให้รถสักคันแหยมออกมานอกหมู่บ้าน แม้รถคันนั้นจะเข้าถนนมาครึ่งคันแล้วก็ตาม เฉียดจะชนหลายรอบมากค่ะ เรานี่นั่งเหวอ แต่ไม่กล้าบอกให้พี่ขับช้าๆเพราะดันบอกไว้ตอนแรกว่าให้ทำเวลา
และดูท่าทางพี่แกน่าจะมีความสุขกับการสวมวิญญาณวิน ดีเซลอย่างมาก เราได้แต่นั่งจับประตูรถไว้แล้ว หลับตา ยิ่งระหว่างทางออกมาถนนใหญ่พี่แกปาดรถทุกคันประหนึ่งว่าแกเป็นคนจะไปสอบเอง มาถึงมหาลัยอย่างทุลักทะเล เราเดินมาจากรถเจอเพื่อน เพื่อนได้แต่ถ้าเราว่าเป็นอะไรหน้าซีดเลย เราได้แต่ยิ้มกลับไป หึหึ
ถ้าไม่มีผู้โดยสารนะโดนแน่
ระหว่างทางกลับบ้านช่วงค่ำฟ้ามืดแล้วค่ะ นั่งแท็กซี่มาสักพัก อีกประมาณ10 นาทีจะถึงบ้าน มีมอเตอร์ไซค์ ขับมาเลนข้างๆแบบขอบถนนค่ะ เบียดพี่แท็กซี่อยู่สักพัก จนพี่แกคงทนไม่ไหว หักเลี้ยวรถจนเบียดมอเตอร์ไซค์ลงข้างทาง แต่ไม่ได้รถล้มนะคะ มอเตอร์ไซค์ตกใจและคงโมโหเหมือนกัน ขับขนานมากับแท็กซี่และชี้หน้า
แท็กซี่เปิดกระจกแล้วบอกว่า มาขับเบียดทำไมเล่าจะแซงก็แซงสิวะ มอเตอร์ไซค์ชี้หน้าและพูดอะไรสักอย่าง แล้วขับปาดไปข้างหน้าแท็กซี่และขับช้าๆอย่างกวนตีน จนพี่แท็กซี่เร่งเครื่องจะชนจริงๆ มอเตอร์ไซค์เลยเปลี่ยนมาขับเบียดด้านข้างแทน
เราได้แต่เหวอ นั่งนิ่งไม่พูดอะไร ขับมาแปลบนึงก็ถึงหมู่บ้านเราค่ะ แท็กซี่เปิดกระจกแล้วบอก รอตรงนี้นะเดี๋ยวกูไปส่งผู้โดยสารก่อน เรามองกลับหลังไปเห็นมอเตอร์ไซค์ชะลอรถและจอด! เราได้แต่คิดในใจพี่จอดตรงนี้ก็ได้พี่หนูอยากดูมวย
ระหว่างทางขับเข้าหมู่บ้านเราพี่แท็กซี่ก็ยังด่ามอเตอร์ไซค์ไม่เลิก เราได้แต่พูดคำเดียวว่า ใจเย็นค่ะพี่ พี่เค้าบอกว่าเนี่ยถ้าไม่มีผู้โดยสารนะโดนแน่ แล้วก็ก้มหยิบของใต้เบาะข้างๆคนขับขึ้นมาวางบนเบาะ สิ่งนั้นคือ !!! ดาบค่ะ เป็นดาบยาวๆเลย แต่หอด้วยกระดาษ กรี๊ดดดด คุณพี่คะ ใจเย็นค่า TT ก่อนลงรถ พี่เค้าได้แต่พูดว่าออกไปมันโดนแน่ เราเดินลงมามือไม้ขานี่อ่อนไปหมด กลัวพี่เค้าโมโหเอาดาบมาฟันเราแทน แม่ยืนรดน้ำอยู่หน้าบ้านได้แต่ถามเราว่าเป็นอะไรหน้าซีดเลย เราได้แต่ยิ้มกลับไป หึหึ
น้องมีองค์รึป่าว
ตอนมัธยมปลาย วันนั้นเราไปดูหนังกับเพื่อนค่ะ ปกติเราเป็นคนไม่ดูหนังผีนะ เราขี้กลัว และจะชอบหลอน จนอาบน้ำต้องแงมประตูทิ้งไว้ แต่วันนั้นเจอเพื่อนที่อยู่คนละจังหวัด และเพื่อนอยากดูหนังเรื่องโปรแกรมหน้าวิญญาณอาฆาตมากๆ เนื่องจากเพื่อนมาไกลเราจึงตามใจเพื่อน
บอกตรงๆเราดูหนังเรื่องนี้เราโคตรของความหลอน ตอนดูนี่เราได้แต่คิดว่าทำไมชีวิตตูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย จบเรื่องออกมาจากโรงโบกแท็กซี่กลับบ้านค่ะ วันนั้นเพื่อนเราไปค้างที่บ้าน เป็นอะไรที่โล่งใจมากวันนี้ไม่เหงามีเพื่อนนอนด้วย ระหว่างทางกลับบ้าน ตอนนั้นค่ำแล้วค่ะ เราก็นั่งคุยกะอะไรเพื่อนไปเรื่อย แต่ก็ยังรู้สึกหลอนๆจากหนัง
ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ สายตาเราชำเลืองไป เห็นเงาคนด้านข้างเหมือนยืนตรง ลอยผ่านมาข้างๆ เราได้แต่อุทานว่า เหี้--- แต่หลังจากมองดีๆ เป็นหุ่นถูกตั้งอยู่ในลักษณะยืนบนรถกระบะ เรานี้ใจตกไปอยู่ตาตุ่มด้วยความกลัว
จากนั้นเราก็นั่งคุยกับเพื่อนต่อ พี่แท็กซี่ชำเลืองมองจากกระจกและพูดขึ้นมาว่า... น้องมีองค์รึป่าว คราวหลังวางน้ำไว้ในห้องสิ เผื่อเค้ามากิน
นั่งตรงที่น้องนั่ง
วันนั้นกลับจากมหาลัย อีกประมาณ 10 นาทีถึงบ้านค่ะ ช่วงนั้นมืดแล้วประมาณ 3 ทุ่ม นั่งรถผ่านวัดนึง ตรงข้ามวัดเป็นคลองและมีป้ายรถเมล์เก่าๆไม่มีไฟ เราก็นั่งมองอะไรไปเรื่อย อยู่ดีๆพี่แท็กซี่ก็บอกว่าเนี่ยรู้มั้ยแถวนี้เค้าลือกันบ่อยนะ ป้ายรถเมล์นี้ เราก็หันไม่มองคนขับไม่ได้พูดอะไร ในใจนึกแต่ว่าไม่ต้องเล่าต่อนะพี่ -..-
เหมือนพี่เค้ารู้ใจ พูดต่อว่า เค้าลือว่าตอนดึกๆจะมีผู้หญิงมานั่งรอตรงป้ายรถเมล์เนี่ยพอรับขึ้นรถ ให้ไปส่งที่วัดนึง เราจำชื่อไม่ได้นะคะ รู้แต่อยู่แถวคลอง9-10 ปทุมธานี พอขับไปสักพักหันไปก็ไม่เจอผู้หญิงคนนั้นแล้ว
เราก็ได้แต่เงียบฟังค่ะ ด้วยความกลัว ไม่ถามอะไรต่อคิดว่าพี่เค้าจะหยุดพูด สักพักพี่เค้าก็พูดขึ้นมา พี่ก็เคยโดนนะ TT เห้ยพี่หนูอุสานั่งเฉยๆไม่ถามอะไร
พี่เค้าเล่าต่อว่าเนี่ยพี่รับตรงป้ายนี้แหละ ประมาณเที่ยงคืนกว่า เป็นผู้หญิงก้มหน้าก้มตา บอกว่าให้ไปส่งที่วัดนึงที่อยู่คลอง5 ระหว่างทางไป กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนนั้นก็ฉุนกึกเลย ระหว่างทางพี่ก็ชวนเค้าคุย แต่เค้านั่งเงียบไม่ตอบอะไรสักอย่าง เหมือนไม่ได้ยินที่พี่พูด เนี่ยเงียบกริบเหมือนน้องเลย เราก็ได้แต่ขำแล้วบอกว่าก็ตั้งใจฟังไงคะ ในใจได้แต่นึกอีกแปลบจะถึงบ้านแล้วโว้ยยยย
เราก็เลยถามต่อไปว่าแล้วเป็นไงคะ เค้าหายตัวไปรึป่าว แล้วพี่ได้เงินมั้ย พี่เค้าตอบไม่หายนะ ก็นั่งไปจนถึงวัดแหละเค้าก็ส่งเงินให้ปกติ แต่พี่มาดูเงินที่หลัง เงินนี่เปื้อนสีแดงๆเหมือนเลือดเต็มไปหมดแต่แห้งๆนะ เราก็อ๋อๆน่ากลัวจังค่ะ
พี่เค้าตบท้ายมาว่าวันนั้นผู้หญิงคนนั้นนั่งตรงที่น้องนั่งอยู่เนี่ยแหละ..
เรียกพี่สิจ๊ะ
วันนั้นเราในยามเรียกแท็กซี่มารับในหมู่บ้านค่ะ จะไปหอที่อยู่ข้างมหาลัย ช่วงประมาณบ่าย1 เราก็นั่งออกมาปกติ ก็ดูทาง ไปเรื่อย ออกมาจากหมู่บ้านสักพัก เริ่มรู้สึกว่ารถมันส่ายๆ แปลกๆเราเลยสังเกตคนขับแท็กซี่ค่ะ ตานี่ปรือเลย ท่าทางหลับๆตื่นๆ เหมือนง่วงมาก ตอนนั้นในใจนี่ซวยแล้ววว ชนขึ้นมานี่ซวยยยแน่ ตอนนั้นบอกตรงๆไม่กล้าขอลงค่ะ ไม่เคยขอลงกลางทาง เลยชวนแท็กซี่คุย
“ลุงขับแท็กซี่มานานยังคะ”
“หลายปีแล้วนะ”
“เงินดีป่าวคะ”
“ก็ดีนะ”
ยังตาปรือๆอยู่เหมือนไม่สนใจที่เราพูดเท่าไหร่ เราชวนเค้าคุยไปเรื่อยๆเลยค่ะ จะได้ไม่ง่วง
“ลุงออกมาขับตั้งแต่กี่โมงแล้วคะ”
“ตั้งแต่6โมงเย็นเมื่อวานแล้ว”
เห้ยยยอีเห้ ชัดเลยยยย ง่วงชัวร์ๆ เรายังชวนคุยไปเรื่อยค่ะ สักพักแกเริ่มตอบโต้เริ่มถามเราบ้างเรียนอยู่หรอ ไปทำอะไรที่หอ บลาๆๆๆ เราก็ตอบตามปกติไม่ได้คิดอะไรค่ะ เราถามต่อ
“ลุงมีลูกรึยังคะ”
“โหวววว ยังหรอ พี่เหมือนแก่แล้วหรอ”
“หนูเดาอายุคนไม่ค่อยถูกอ่าค่ะ แล้วลุงอายุเท่าไหร่แล้วคะ”
“อายุมันเป็นเพียงตัวเลข อย่าไปรู้มันเลยนะ เรียกพี่สิจ๊ะ อย่าเรียกลุง”
แล้วแท็กซี่ก็ชำเรืองตามาทางกระจกหลัง
เอ่ออออ ..... ตอนนั้นแบบขนลุกซู่เลยค่ะ ในใจนี่แบบ ลุงอย่ามาหื่นกาม จะอ้วกก ในใจนี่ทำไงดีว้า
“แล้วน้องชื่ออะไรหรอ”
“ทำไมคะมีอะไรรึป่าว”
“อยากรู้จัก”
“อ๋อ ชื่อ XX (บอกชื่ออื่นที่ไม่ใช่ชื่อเราค่ะ)”
“แลกเบอร์ไว้มั้ยน้องเผื่อมีปัญหา โทรเรียกพี่ให้ไปรับได้ตลอดเลยนะ”
พร้อมกับส่งสายตาหื่นกามมาทางกระจก ไม่นึกเลยค่ะว่าการชวนคุยให้เค้าไม่ง่วงจะกลายมาเป็นแบบนี้
“เออ พี่เอาเบอร์พี่มาดีกว่าค่ะ พอดีหนูจะไปเปลี่ยนเบอร์อาทิตย์นี้”
“ได้ๆ โทรมาได้ตลอดนะให้ไปรับที่ไหน รับฟรีได้นะ”
เค้าบอกเบอร์มาค่ะ แต่ด้วยความขนลุกขนพอง เลยไม่ได้เมมไว้ค่ะ มาเสียดาย น่าจะเอาไว้โทรไปด่า
“เออ น้องยิงมาเลยดีกว่านะพี่จะได้เมมเบอร์น้องไว้”
“ไม่ดีกว่าค่ะพี่ เดี๋ยวหนูก็เปลี่ยนเบอร์แล้วค่ะ ไว้เปลี่ยนเบอร์แล้วโทรไป”
ถึงตอนนี้ก็เลี้ยวเข้าซอยหอแล้วค่ะ เราบอกให้เค้า จอดหออื่นที่เราไม่ได้อยู่ค่ะ เพราะกลัวว่าจะรู้หอที่เราอยู่ มีการถามด้วยอยู่หอนี้หรอ เราก็บอกค่ะๆๆๆ แล้วรีบลง ไปหาเพื่อนที่ร้านอาหารใต้หอ ตอนนั้นมือสั่นน้ำตาไหลค่ะ เราบอกจริงๆนะว่ามันน่ากลัวกว่าที่เราเล่ามาก ดีที่ยังไม่มืด สาวๆต้องระวังตัวกันด้วยนะคะ
เพื่อนๆเคยเจอแท็กซี่แปลกๆป่าวคะมาแชร์กันนะ