ฤดูฝนมาเยือน ทำให้ "เ มื อ ง พั ง ง า" เขียวชอุ่มขึ้น
ความสวยของเมืองพังงา คือ ภูเขาที่แปลกตา ภูผาที่ล้อมรอบ จนเป็นเมืองสวยในหุบเขา
วันนี้เวลาน้อย ได้แค่แวะ ตกบ่ายฝนตกหาที่หลบฝน
จะหลบฝนทั้งทีต้องมีสไตร์ ... เราจึงไปหลบฝน ในถ้ำ
ถ้ำซำ หรือ ถ้ำสำ
อยู่ ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา
เป็นถ้ำใต้ภูเขาหินปูน (Lime Stone) ที่ด้านบนมีป่าเขียว ด้านหน้าเป็นบึงกว้าง มองเห็นจากถนนเลย
มีป้าย โบราณ สถาน ถ้ำซำ
Tham Sam Rock Art
ทางเดินเลียบเข้าไปง่ายสะอาด ถึงจะดูแล้วว่า ไม่ค่อยจะมีคนเข้ามาดูแลสักเท่าไหร่
แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เป็นป่ารก
ตัวถ้ำด้านหน้าโปร่งสูง เหมาะจริงๆ กับการเป็นเพิงพักหลบฝน (Shelter)
ถ้าเป็นคนยุคถ้ำ ผมว่าก็คงเหมือนบ้านหลังใหญ่ๆ ทีเดียวแหละ
(แล้วก็นึกถึงหนังจักร์ ๆ วงศ์ ๆ ที่พระเอกนางเอกมักหนีผู้ร้ายฝ่าฝนมาหลบฝน)
มาดูผนังถ้ำกันครับ
จากป้ายบอกว่า เป็นศิลปะสมัยต้นรัตนโกสินทร์
ช่วงพ.ศ. ๒๓๙๔-๒๔๕๓ หรือ ช่วงปลายรัชกาลที่ ๔ ถึงช่วงปลายรัชกาลที่ ๕ นะ
ถึงจะไม่ใช่นักโบราณคดี แต่ก็เห็นว่ามันสวยดี
ใช้จินตนาการปั้นเรื่องราวที่ภาพมีอยู่ก็เพลินไม่น้อย
รูปนกมากมายและดอกไม้ น่าจะแทนสรวงสวรรค์
ถัดมาน่าจะเป็นเมืองมนุษย์
และถัดมาก็น่าจะเป็นนรก??? (ไม่ไปต่อละ...กลัว ฮ่าๆๆๆ)
ก็จินตนาการกันไป ให้เป็นเรื่องเป็นราว
คาดเดาว่าคนวาดจะสื่อถึงคนรุ่นหลังเช่นนี้หรือไม่
หรือเพียงวาดไว้แก้เหงากลางป่า
ตอนนี้หลบฝนรู้เพียงว่า
น่าเก็บไว้ให้ลูกหลานมาดู เรียนรู้ และ จินตนาการ
ทำให้มันมีค่า ด้วย ราคาของการคิด
-----------------------------------------------
ฝากชาวเมืองพังงา ชาวบ้านถ้ำน้ำผุด ดูแลรักษา ให้ลูกหลานดูว่า เราเติบโตมา
จาก ชนอันมีอารยธรรม
เช่นเดิม ... ใครเล่น Facebook สามารถไปคุยกันกับเรื่องราวของ เขาหลัก และ จ.พังงา
ได้ที่ Khaolak.Guru นะครับ
Instragram : KhaolakGuru
[CR] เที่ยวพังงา ตอนที่ 13 เที่ยวถ้ำซำ วันฝนพรำๆ ที่เมืองพังงา
ความสวยของเมืองพังงา คือ ภูเขาที่แปลกตา ภูผาที่ล้อมรอบ จนเป็นเมืองสวยในหุบเขา
วันนี้เวลาน้อย ได้แค่แวะ ตกบ่ายฝนตกหาที่หลบฝน
จะหลบฝนทั้งทีต้องมีสไตร์ ... เราจึงไปหลบฝน ในถ้ำ
ถ้ำซำ หรือ ถ้ำสำ
อยู่ ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา
เป็นถ้ำใต้ภูเขาหินปูน (Lime Stone) ที่ด้านบนมีป่าเขียว ด้านหน้าเป็นบึงกว้าง มองเห็นจากถนนเลย
มีป้าย โบราณ สถาน ถ้ำซำ
Tham Sam Rock Art
ทางเดินเลียบเข้าไปง่ายสะอาด ถึงจะดูแล้วว่า ไม่ค่อยจะมีคนเข้ามาดูแลสักเท่าไหร่
แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เป็นป่ารก
ตัวถ้ำด้านหน้าโปร่งสูง เหมาะจริงๆ กับการเป็นเพิงพักหลบฝน (Shelter)
ถ้าเป็นคนยุคถ้ำ ผมว่าก็คงเหมือนบ้านหลังใหญ่ๆ ทีเดียวแหละ
(แล้วก็นึกถึงหนังจักร์ ๆ วงศ์ ๆ ที่พระเอกนางเอกมักหนีผู้ร้ายฝ่าฝนมาหลบฝน)
มาดูผนังถ้ำกันครับ
จากป้ายบอกว่า เป็นศิลปะสมัยต้นรัตนโกสินทร์
ช่วงพ.ศ. ๒๓๙๔-๒๔๕๓ หรือ ช่วงปลายรัชกาลที่ ๔ ถึงช่วงปลายรัชกาลที่ ๕ นะ
ถึงจะไม่ใช่นักโบราณคดี แต่ก็เห็นว่ามันสวยดี
ใช้จินตนาการปั้นเรื่องราวที่ภาพมีอยู่ก็เพลินไม่น้อย
รูปนกมากมายและดอกไม้ น่าจะแทนสรวงสวรรค์
ถัดมาน่าจะเป็นเมืองมนุษย์
และถัดมาก็น่าจะเป็นนรก??? (ไม่ไปต่อละ...กลัว ฮ่าๆๆๆ)
ก็จินตนาการกันไป ให้เป็นเรื่องเป็นราว
คาดเดาว่าคนวาดจะสื่อถึงคนรุ่นหลังเช่นนี้หรือไม่
หรือเพียงวาดไว้แก้เหงากลางป่า
ตอนนี้หลบฝนรู้เพียงว่า
น่าเก็บไว้ให้ลูกหลานมาดู เรียนรู้ และ จินตนาการ
ทำให้มันมีค่า ด้วย ราคาของการคิด
-----------------------------------------------
ฝากชาวเมืองพังงา ชาวบ้านถ้ำน้ำผุด ดูแลรักษา ให้ลูกหลานดูว่า เราเติบโตมา
จาก ชนอันมีอารยธรรม
เช่นเดิม ... ใครเล่น Facebook สามารถไปคุยกันกับเรื่องราวของ เขาหลัก และ จ.พังงา
ได้ที่ Khaolak.Guru นะครับ
Instragram : KhaolakGuru