สวัสดีค่า วันนี้จะมาแบ่งปันประสบการณ์เที่ยวเกาะด้วยตัวเองครั้งแรก ไม่เคยเขียนกระทู้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่รีวิว ผิดพลาดหรือขาดตกอะไรไปช่วยแนะนำด้วยนะคะ รีวิวอาจจะไม่แหวกแนวแต่ก็ขอบคุณล่วงหน้า ณ ที่นี้สำหรับคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ^3^ ปล.ถ้าหากแท็กห้องผิดหรืออะไร รบกวนแนะนำด้วยนะคะ
กล้องที่ใช้ในทริปนี้มีสองตัวนะคะคือเจ้า Olympus OMD-EM10 และ Nikon D5300 มีแจมด้วย Canon นิดหน่อย
ภาพอาจจะไม่สวยเพราะไม่ถนัดถ่ายสาย Landscape ธรรมดาเป็นสาย Portrait รูปอาจจะดูไม่เป็นเซตเท่าไหร่เพราะเอามาจากกล้องสองสามตัว 55555 #ไม่เกี่ยวเลย เกริ่นมาเยอะแล้ว เรามาออกเดินทางไปพร้อมกันโลดดด
ทริปนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คนนะคะ เป็นการเที่ยวครั้งแรกของเด็กจบปีสอง
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคนก่อนเลยแล้วกันเนอะ
“ ทั้งหมดตกคนละ 1,567 บาทถ้วน” มีรายการตามนี้เล้ยยย
- ค่ารถตู้ขาไปกลับ 240 บาท
- ค่าเรือข้ามฝากไปกลับท่าหน้าบ้าน 60 บาท
-ค่าอาหารตามสั่งมื้อแรก 57 บาท + ค่าอาหารเฉลียงลมคนละ 395 บาท + ค่าอาหารเช้ามื้อใหญ่คนละ 125 บาท + ค่าน้ำสตอเบอรี่สมูทตี้ 65 บาท รวมค่าอาหารทั้งหมด 642 บาท
- ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์คนละ 75 บาท
-ค่าที่พักหนึ่งคืนคนละ 450 บาท
-ค่าของกินเล่นอื่นอีกประมาณ 100 บาท
เรามาเริ่มเดินทางกันเล้ยยยยยยยยยยยยย
MAY 25, 2015
วันแรกพวกเรานัดเจอกันที่ท่ารถตู้ประมาณ 7.30 น. เพราะคิดว่าจะไปให้ทันขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายตอนสิบโมง ทุกคนออกจากบ้านมาเจอกัน แต่เวลาที่มากันครบช้าไปสิบนาทีจากที่คิดไว้ ทำให้เวลาที่คิดไว้เคลื่อนไปเยอะ เราไปขึ้นรถกันที่ท่ารถตู้ฝั่งเซนจูรี่ ในราคา 120 บาทต่อคน ได้ตั๋วมาพร้อมนามบัตร แล้วก็ถ้าห้างยังไม่เปิดใครดันอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา เดินไปทางเซเว่นมันจะมีซอยท่ารถตู้ ไปเข้าได้เลยคนละสามบาท
แต่กลับรู้สึกว่ารอรถอยู่นานพอสมควร ได้ขึ้นรถกันตอน 8.15 น. ใช้เวลาเดินทางถึง 2 ชั่วโมง 45 นาทีมาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ไม่แน่ใจว่าสายเดินรถของท่ารถตู้นี้เป็นยังไง เพราะไม่เคยขึ้นมาก่อน เหมือนจะวนไปส่งคนในซอยแถวศรีราชา เลยคิดว่าคงนี่ละที่ทำให้ช้า (ม๊ากกกกกกกกกกก) แต่ก็ช่างมัน !! สุดท้ายเราก็มาถึงจนได้ รถตู้จะจอดที่ท่าเรือเลยตอน 11 โมง เดินนิดเดียวถึงที่ซื้อตั๋วขึ้นเรือแล้ว
คนไม่เยอะเท่าไหร่ มั้งง ส่วนมากมีแต่คนจีนกับวัยรุ่นไทยกันถ้วนหน้า เราซื้อตั๋วเรือกัน 30 บาทต่อคน ธรรมดาเรือจะออกรอบ 12.00 น. แต่ถ้าคนเต็มเรือก็จะออก เราโชคดีไปถึงคนเต็มเรือพอดี เรือออก 11 โมงครึ่ง แต่กรุ๊ปเราขึ้นเรากันเกือบสุดท้าย ที่นั่งเต็มหมดเลย TTT^TTT เลยขึ้นไปชั้นสองแต่ก็ไม่มีที่นั่ง แต่ถ้าเจอคนขับเรือใจดีเค้าจะให้เข้าไปนั่งห้องคนขับเลยนะ เพื่อนเราไปนั่งจุ้มปุ๊กในห้องคนขับกันสองคน (แนะนำว่าชั้นสองเมาเรือน้อยกว่าชั้นแรกนะ แฟนเราตอนลงไปหยิบชูชีพชั้นแรก แทบอ้วก) สุดท้ายเรากับแฟนมายืนกินลมอยู่หน้าห้องคนขับ แฟนแชะรูปเรามาได้ตั้งรูปนึง ช่วงนี้เป็นหน้าฝน ลมจะแรงมาก เรือโคลงเคลงอยู่เหมือนกัน ใครเมาเรืออย่าลืมหายาติดตัวกันด่วนนนนนๆ
หลังจากยืนกินลมเมาเรือได้เกือบ 45 นาทีก็มาถึงเกาะจนได้ พอลงเรือมาก็รีบโทรหาที่พักเพื่อให้เค้ามารับ มาเที่ยวครั้งนี้เราพักกันที่ Riviera kohlarn พอโทรหาเจ้าของก็รอไม่นาน สิบนาทีก็มีรถมารับไปที่พัก นั่งไปตามซอยยย ที่รู้สึกว่าเล็กมาก ทั้งรถทั้งมอเตอร์ไซ ขี่สวนกันจนงงไปหมด ไม่นานก็ถึงที่พัก แต่ที่นี่จะอยู่ไกลจากท่าหน้าบ้านนิดหน่อย เลยราชาวดีขึ้นมาอีก แต่เงียบสงบดีมากจนนึกว่าไปพื้นที่ส่วนตัว 55555
ที่พักจะมาทำการรีวิวให้ท้ายยยกระทู้น้า ไปเที่ยวกันก่อนนนนนนน
รู้ๆกันว่าที่พักจะเช็คอินได้ 14.00 น. เรามีเวลาเหลืออยู่เยอะมาก เลยฝากกระเป๋าไว้กับเจ้าของ ขนแต่อุปกรณ์จำเป็นติดตัวไปเริ่มตะลอนกันโลดดดด ที่พักจะมีคุณลุงคอยขับรถส่งให้ เค้าจะส่งให้แค่ท่าหน้าบ้าน กับตรงวัด (อะไรไม่รู้ไม่ได้จำชื่อ) คุณลุงแนะนำให้ไปลงตรงวัด ขานั่งออกไปดั๊นนนนโชคดี เจอแก๊งค์สาวที่กำลังจะกลับนั่งไปด้วยกัน เลยถามว่าเที่ยวที่ไหนดีอะไรยังไง ได้เรื่องมาจบที่สามสาวแนะนำให้กินข้าวร้าน “เจ้จุ๋ม” ที่อยู่ตรงข้ามวัด [หน้าร้านจะมีดินปั้นรูปน่มน๊มผู้หญิงอยู่ พูดง่ายๆมีทั้งร้าน 55555]
เราไปกินมื้อแรกด้วยอาหารเมนูง่ายยมากก คือ กะเพราหมูไข่ดาว ในราคา 50 บาท มันอร่อยมากกก ไม่รู้ว่าอร่อยจริงๆหรือเพราะหิว เนื่องจากไม่ได้กินข้าวเช้าไป -_____-“ เราไปกินร้านนี้สองรอบ อีกรอบจะมาบอกว่าควรไปกินมั้ย ส่วนค่าน้ำแข็งร้านจะคิดรวม เป็นน้ำแข็งถังนึงกับน้ำเปล่าขวดลิตรหนึ่งขวด ราคา 30 บาท เขียนรวมมาในบิลเสร็จเลย
หลังจากอิ่มกันก็ตัดสินใจจะไปหาด ตาแหวนนนนน !! แลนมาร์คที่ทุกคนต้องไปเยือนสำหรับเกาะนี้ ทริปนี้มีสี่คนอย่างที่บอก มีผู้ชายคนเดียวคือแฟนเราเอง ทำให้การตะลอนรอบเกาะลำบากอยู่เหมือนกันเพราะเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์กันไม่เป็น แฟนเราเลยต้องพ่วงไปสองรอบ อ้ออค่ามอเตอร์ไซค์เช่าคือ 300 บาทนะ อยู่ได้จนอีกวันที่เราเช็คเอ้าท์ออก
" เรื่องที่สมควรรู้สำหรับการเที่ยวเกาะล้านเองคือเส้นทางไปตามหาดต่างๆ จะสูงและชัน (สำหรับเราคิดว่าชันมากเลยแหละ เราเคยไปเกาะช้างมาสองครั้งรู้สึกว่าไม่ชันเท่านี้) พี่คนให้เช่ารถจะถามว่าขี่ได้ชัวร์มั้ย ถ้าไม่ชัวร์เค้าก็จะไม่ค่อยเต็มใจจะให้เราเช่านะ อย่างที่บอก เส้นทางชันพอสมควรเลย และคนพื้นเมืองที่นั่นจะขับขี่กับเร็ว ถ้าไปกันครั้งแรกแนะนำให้ค่อยๆไป ช้าและชัวร์ดีกว่าเร็วแล้วพลาด แต่ถ้าใครขี่กันไม่เป็นสองแถวและวินมอไซค์ก็มีนะ อาจจะไม่สะดวกเท่าขี่เอง แต่พี่วินเรียกแล้วก็ไปส่งทุกหาดเลย"
บ่นมาเยอะ สุดท้ายก็มาถึงงงงงจนได้ -____-"
“หาดตาแหวน”
อย่างที่เห็นในรูป น้ำจะใสมากจริงๆ เป็นสีฟ้าเลย ถ่ายด้วยกล้องอะไรก็สวย แต่หาดนี้ลมแรงมากกกกกกก ย้ำว่ามากกกกกกกกกกกก เราไปถึงหาดตอนเกือบบ่ายหนึ่งได้ ถ่ายรูปไม่ค่อยสนุกเพราะของเยอะ ยังไม่ได้เข้าห้องพัก สำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ ไหนจะทั้งหมวก ทั้งแว่นกันแดด กล้องอีก ยิ่งหมวกสานที่ไม่ใช่หมวกแก๊ป จะปลิวตลอดเวลา จริงๆไม่ใช่แค่เรานะ มองคนอื่นที่ถ่ายรูปนี่จับหมวกกันให้ว่อน ปลิวทีนี่ไปไกลเลยอะ ทำให้ต้องจับนู่นจับนี่ตลอด 5555 เพราะฉะนั้นแนะนำให้ไปหลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
หาดนี้จะถ่ายกันแต่รูปตัวเอง ไม่ค่อยได้ถ่ายวิวเท่าไหร่ ถ้าเอาเลนส์มุมกว้างไปจะได้ภาพแบบนี้เลย แต่หาดนี้คนจะเยอะมาก วุ่นวาย แถมเราไปเจอคนจีนเป็นกรุ๊ป เดินกันเต็มหาดไปหมดเลย แต่หาดนี้จะมีพวกห่วงยาง มีบานาน่าโบ๊ทให้เล่น ถือว่าเป็นหาดที่ครึกครื้นสุดแล้ว
หลังจากที่ยื่นท่ามกลางแดดเปรี้ยงๆได้พักนึง ก็ทนไม่ไหวร้อนมากจนจะเกรียมมมม เลยเดินไปทางสะพานด้านข้างหาด มีร่มเงาต้นไม้ให้พอชื่นใจหน่อย เลยหยุดถ่ายรูปเล่นกัน แต่ก่อนจะเดินมาตรงนี้เราอยากเข้าห้องน้ำ เจอห้องน้ำพอดีเหมือนเพิ่งสร้าง โดนค่าเสียหายไป 10 บาท แอบตกใจ O.o เพราะธรรมดาเข้าห้องน้ำก็สามบาท แต่คงเป็นเพราะมันเป็นเกาะ เลยแพง แถมข้างในห้องน้ำไม่มีทีแขวนและที่วางอะไรทั้งสิ้น
เดินต่อไปเรื่อยๆจะเป็นเหมือนท่าเรือ มีเรือจอดและเป็นสะพานไม้เชื่อมไปอีกหาดนึง ไม่แน่ใจว่าใช่หาดสังวาลมั้ย อยู่ติดกับหาดตาแหวนเลย เราไม่ได้ลงไปที่หาด แค่ไปถ่ายรูปเล่นตรงสะพานเพราะหมดแรง มันร้อน แล้วถึงเวลาเช็คอินด้วย ก็เลยจะกลับที่พัก ได้แชะภาพมานิดหน่อย
กลับมาเช็คอินเข้าที่พัก ก็นอนตีพุงตากแอร์อยู่พักใหญ่ๆ แทบไม่อยากจะออกจากห้อง แอร์เย็นช่ำ กลิ้งไปกลิ้งมาจนสี่โมงได้ เอารูปมาอัพลงไอจีตามสไตล์ เช็คอินให้รู้ว่าเราอยู่นี่แล้วววว ! 55555555555 หลังจากพักเติมพลังก็ตัดสินใจจะกลับไปถ่ายรูปตรงจุดชมวิว ส่วนเพื่อนจะไปเล่นน้ำ เราเลยไปส่งเพื่อนเล่นน้ำที่หาดตายายก่อน เพราะเป็นหาดที่ใกล้กับที่พักที่สุด ไปไม่ยาก ใช้เวลาแปบเดียว ส่วนเรากับแฟนตะลอนไปจุดชมวิว ใกล้ๆหาดตาแหวน ไม่ได้อ่านชื่อเลยไม่รู้เรียกว่าอะไร TT^TT ขึ้นไปช่วงเย็นดันแดดหุบแล้ว น้ำทะเลพอถ่ายจากด้านบนเลยไม่ฟ้าเท่าไหร่ ก็เลยออกมา เพื่อไปหาดอื่น
ขี่ไปเรื่อยจนไปสุดที่หาดเทียน จากความรู้สึกเราคือไกลมากจากตาแหวน เหมือนไปสุดอีกฝั่งของเกาะเลย ไปถึงคนก็ไม่เยอะเท่าไหร่ สงสัยเพราะมันไกล ตอนเราไปถึงก็เย็นแล้วไม่มีแดด ไม่ร้อน เย็นสบายย ไปถ่ายรูปมานิดหน่อยเพราะรีบบ ทิ้งเพื่อนเล่นน้ำไว้อีกหาดตายาย
“หาดเทียน”
จะเป็นหาดไม่กว้างมาก มีทั้งโซนที่เป็นหินแล้วก็เป็นทราย เล่นน้ำได้ คนไม่เยอะด้วย ถ้าเดินเข้าไปทางโซนที่เป็นทรายจะมีสะพานไว้ให้ถ่ายรูป แต่เราไม่ได้เดินไป ดันไปทางซ้ายมือแทน จะเป็นหินทั้งหมด มีต้นไม้หน้าตาแปลกๆอยู่ต้นนึง เหมือนจะไว้ให้ถ่ายรูป ถ้าใครชอบอะไรอาร์ตๆ น่าจะชอบเจ้าต้นนี่ หลังจากนั้นก็รีบขี่กลับ แต่ทางไปหาดเทียน ก่อนถึงหาดเทียนจะมีป้ายเล็กๆ เขียนว่าไปหาดแสม อยู่ทางซ้ายมือด้วย หลังจากขี่มายาวนาน ก็ไปหาเพื่อนที่ถูกทิ้งอยู่ที่หาดตายาย พอเราไปถึงวิ่งหน้าตั้งกันมาสองคน บ่นอุบอิบเลยว่าแช่น้ำจนตัวเหี่ยวแล้ว 55555555 ขอโทษนะเพื่อนนนน
เดี๋ยวมาต่อน้าาาาาาา -3-
[CR] - หนีเมืองกรุงไป "เกาะล้าน" กันเถอะ -
กล้องที่ใช้ในทริปนี้มีสองตัวนะคะคือเจ้า Olympus OMD-EM10 และ Nikon D5300 มีแจมด้วย Canon นิดหน่อย
ภาพอาจจะไม่สวยเพราะไม่ถนัดถ่ายสาย Landscape ธรรมดาเป็นสาย Portrait รูปอาจจะดูไม่เป็นเซตเท่าไหร่เพราะเอามาจากกล้องสองสามตัว 55555 #ไม่เกี่ยวเลย เกริ่นมาเยอะแล้ว เรามาออกเดินทางไปพร้อมกันโลดดด
“ ทั้งหมดตกคนละ 1,567 บาทถ้วน” มีรายการตามนี้เล้ยยย
- ค่ารถตู้ขาไปกลับ 240 บาท
- ค่าเรือข้ามฝากไปกลับท่าหน้าบ้าน 60 บาท
-ค่าอาหารตามสั่งมื้อแรก 57 บาท + ค่าอาหารเฉลียงลมคนละ 395 บาท + ค่าอาหารเช้ามื้อใหญ่คนละ 125 บาท + ค่าน้ำสตอเบอรี่สมูทตี้ 65 บาท รวมค่าอาหารทั้งหมด 642 บาท
- ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์คนละ 75 บาท
-ค่าที่พักหนึ่งคืนคนละ 450 บาท
-ค่าของกินเล่นอื่นอีกประมาณ 100 บาท
วันแรกพวกเรานัดเจอกันที่ท่ารถตู้ประมาณ 7.30 น. เพราะคิดว่าจะไปให้ทันขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายตอนสิบโมง ทุกคนออกจากบ้านมาเจอกัน แต่เวลาที่มากันครบช้าไปสิบนาทีจากที่คิดไว้ ทำให้เวลาที่คิดไว้เคลื่อนไปเยอะ เราไปขึ้นรถกันที่ท่ารถตู้ฝั่งเซนจูรี่ ในราคา 120 บาทต่อคน ได้ตั๋วมาพร้อมนามบัตร แล้วก็ถ้าห้างยังไม่เปิดใครดันอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา เดินไปทางเซเว่นมันจะมีซอยท่ารถตู้ ไปเข้าได้เลยคนละสามบาท
แต่กลับรู้สึกว่ารอรถอยู่นานพอสมควร ได้ขึ้นรถกันตอน 8.15 น. ใช้เวลาเดินทางถึง 2 ชั่วโมง 45 นาทีมาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ไม่แน่ใจว่าสายเดินรถของท่ารถตู้นี้เป็นยังไง เพราะไม่เคยขึ้นมาก่อน เหมือนจะวนไปส่งคนในซอยแถวศรีราชา เลยคิดว่าคงนี่ละที่ทำให้ช้า (ม๊ากกกกกกกกกกก) แต่ก็ช่างมัน !! สุดท้ายเราก็มาถึงจนได้ รถตู้จะจอดที่ท่าเรือเลยตอน 11 โมง เดินนิดเดียวถึงที่ซื้อตั๋วขึ้นเรือแล้ว
คนไม่เยอะเท่าไหร่ มั้งง ส่วนมากมีแต่คนจีนกับวัยรุ่นไทยกันถ้วนหน้า เราซื้อตั๋วเรือกัน 30 บาทต่อคน ธรรมดาเรือจะออกรอบ 12.00 น. แต่ถ้าคนเต็มเรือก็จะออก เราโชคดีไปถึงคนเต็มเรือพอดี เรือออก 11 โมงครึ่ง แต่กรุ๊ปเราขึ้นเรากันเกือบสุดท้าย ที่นั่งเต็มหมดเลย TTT^TTT เลยขึ้นไปชั้นสองแต่ก็ไม่มีที่นั่ง แต่ถ้าเจอคนขับเรือใจดีเค้าจะให้เข้าไปนั่งห้องคนขับเลยนะ เพื่อนเราไปนั่งจุ้มปุ๊กในห้องคนขับกันสองคน (แนะนำว่าชั้นสองเมาเรือน้อยกว่าชั้นแรกนะ แฟนเราตอนลงไปหยิบชูชีพชั้นแรก แทบอ้วก) สุดท้ายเรากับแฟนมายืนกินลมอยู่หน้าห้องคนขับ แฟนแชะรูปเรามาได้ตั้งรูปนึง ช่วงนี้เป็นหน้าฝน ลมจะแรงมาก เรือโคลงเคลงอยู่เหมือนกัน ใครเมาเรืออย่าลืมหายาติดตัวกันด่วนนนนนๆ
หลังจากยืนกินลมเมาเรือได้เกือบ 45 นาทีก็มาถึงเกาะจนได้ พอลงเรือมาก็รีบโทรหาที่พักเพื่อให้เค้ามารับ มาเที่ยวครั้งนี้เราพักกันที่ Riviera kohlarn พอโทรหาเจ้าของก็รอไม่นาน สิบนาทีก็มีรถมารับไปที่พัก นั่งไปตามซอยยย ที่รู้สึกว่าเล็กมาก ทั้งรถทั้งมอเตอร์ไซ ขี่สวนกันจนงงไปหมด ไม่นานก็ถึงที่พัก แต่ที่นี่จะอยู่ไกลจากท่าหน้าบ้านนิดหน่อย เลยราชาวดีขึ้นมาอีก แต่เงียบสงบดีมากจนนึกว่าไปพื้นที่ส่วนตัว 55555
รู้ๆกันว่าที่พักจะเช็คอินได้ 14.00 น. เรามีเวลาเหลืออยู่เยอะมาก เลยฝากกระเป๋าไว้กับเจ้าของ ขนแต่อุปกรณ์จำเป็นติดตัวไปเริ่มตะลอนกันโลดดดด ที่พักจะมีคุณลุงคอยขับรถส่งให้ เค้าจะส่งให้แค่ท่าหน้าบ้าน กับตรงวัด (อะไรไม่รู้ไม่ได้จำชื่อ) คุณลุงแนะนำให้ไปลงตรงวัด ขานั่งออกไปดั๊นนนนโชคดี เจอแก๊งค์สาวที่กำลังจะกลับนั่งไปด้วยกัน เลยถามว่าเที่ยวที่ไหนดีอะไรยังไง ได้เรื่องมาจบที่สามสาวแนะนำให้กินข้าวร้าน “เจ้จุ๋ม” ที่อยู่ตรงข้ามวัด [หน้าร้านจะมีดินปั้นรูปน่มน๊มผู้หญิงอยู่ พูดง่ายๆมีทั้งร้าน 55555]
เราไปกินมื้อแรกด้วยอาหารเมนูง่ายยมากก คือ กะเพราหมูไข่ดาว ในราคา 50 บาท มันอร่อยมากกก ไม่รู้ว่าอร่อยจริงๆหรือเพราะหิว เนื่องจากไม่ได้กินข้าวเช้าไป -_____-“ เราไปกินร้านนี้สองรอบ อีกรอบจะมาบอกว่าควรไปกินมั้ย ส่วนค่าน้ำแข็งร้านจะคิดรวม เป็นน้ำแข็งถังนึงกับน้ำเปล่าขวดลิตรหนึ่งขวด ราคา 30 บาท เขียนรวมมาในบิลเสร็จเลย
หลังจากอิ่มกันก็ตัดสินใจจะไปหาด ตาแหวนนนนน !! แลนมาร์คที่ทุกคนต้องไปเยือนสำหรับเกาะนี้ ทริปนี้มีสี่คนอย่างที่บอก มีผู้ชายคนเดียวคือแฟนเราเอง ทำให้การตะลอนรอบเกาะลำบากอยู่เหมือนกันเพราะเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์กันไม่เป็น แฟนเราเลยต้องพ่วงไปสองรอบ อ้ออค่ามอเตอร์ไซค์เช่าคือ 300 บาทนะ อยู่ได้จนอีกวันที่เราเช็คเอ้าท์ออก
อย่างที่เห็นในรูป น้ำจะใสมากจริงๆ เป็นสีฟ้าเลย ถ่ายด้วยกล้องอะไรก็สวย แต่หาดนี้ลมแรงมากกกกกกก ย้ำว่ามากกกกกกกกกกกก เราไปถึงหาดตอนเกือบบ่ายหนึ่งได้ ถ่ายรูปไม่ค่อยสนุกเพราะของเยอะ ยังไม่ได้เข้าห้องพัก สำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ ไหนจะทั้งหมวก ทั้งแว่นกันแดด กล้องอีก ยิ่งหมวกสานที่ไม่ใช่หมวกแก๊ป จะปลิวตลอดเวลา จริงๆไม่ใช่แค่เรานะ มองคนอื่นที่ถ่ายรูปนี่จับหมวกกันให้ว่อน ปลิวทีนี่ไปไกลเลยอะ ทำให้ต้องจับนู่นจับนี่ตลอด 5555 เพราะฉะนั้นแนะนำให้ไปหลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
หาดนี้จะถ่ายกันแต่รูปตัวเอง ไม่ค่อยได้ถ่ายวิวเท่าไหร่ ถ้าเอาเลนส์มุมกว้างไปจะได้ภาพแบบนี้เลย แต่หาดนี้คนจะเยอะมาก วุ่นวาย แถมเราไปเจอคนจีนเป็นกรุ๊ป เดินกันเต็มหาดไปหมดเลย แต่หาดนี้จะมีพวกห่วงยาง มีบานาน่าโบ๊ทให้เล่น ถือว่าเป็นหาดที่ครึกครื้นสุดแล้ว
หลังจากที่ยื่นท่ามกลางแดดเปรี้ยงๆได้พักนึง ก็ทนไม่ไหวร้อนมากจนจะเกรียมมมม เลยเดินไปทางสะพานด้านข้างหาด มีร่มเงาต้นไม้ให้พอชื่นใจหน่อย เลยหยุดถ่ายรูปเล่นกัน แต่ก่อนจะเดินมาตรงนี้เราอยากเข้าห้องน้ำ เจอห้องน้ำพอดีเหมือนเพิ่งสร้าง โดนค่าเสียหายไป 10 บาท แอบตกใจ O.o เพราะธรรมดาเข้าห้องน้ำก็สามบาท แต่คงเป็นเพราะมันเป็นเกาะ เลยแพง แถมข้างในห้องน้ำไม่มีทีแขวนและที่วางอะไรทั้งสิ้น
เดินต่อไปเรื่อยๆจะเป็นเหมือนท่าเรือ มีเรือจอดและเป็นสะพานไม้เชื่อมไปอีกหาดนึง ไม่แน่ใจว่าใช่หาดสังวาลมั้ย อยู่ติดกับหาดตาแหวนเลย เราไม่ได้ลงไปที่หาด แค่ไปถ่ายรูปเล่นตรงสะพานเพราะหมดแรง มันร้อน แล้วถึงเวลาเช็คอินด้วย ก็เลยจะกลับที่พัก ได้แชะภาพมานิดหน่อย
กลับมาเช็คอินเข้าที่พัก ก็นอนตีพุงตากแอร์อยู่พักใหญ่ๆ แทบไม่อยากจะออกจากห้อง แอร์เย็นช่ำ กลิ้งไปกลิ้งมาจนสี่โมงได้ เอารูปมาอัพลงไอจีตามสไตล์ เช็คอินให้รู้ว่าเราอยู่นี่แล้วววว ! 55555555555 หลังจากพักเติมพลังก็ตัดสินใจจะกลับไปถ่ายรูปตรงจุดชมวิว ส่วนเพื่อนจะไปเล่นน้ำ เราเลยไปส่งเพื่อนเล่นน้ำที่หาดตายายก่อน เพราะเป็นหาดที่ใกล้กับที่พักที่สุด ไปไม่ยาก ใช้เวลาแปบเดียว ส่วนเรากับแฟนตะลอนไปจุดชมวิว ใกล้ๆหาดตาแหวน ไม่ได้อ่านชื่อเลยไม่รู้เรียกว่าอะไร TT^TT ขึ้นไปช่วงเย็นดันแดดหุบแล้ว น้ำทะเลพอถ่ายจากด้านบนเลยไม่ฟ้าเท่าไหร่ ก็เลยออกมา เพื่อไปหาดอื่น
ขี่ไปเรื่อยจนไปสุดที่หาดเทียน จากความรู้สึกเราคือไกลมากจากตาแหวน เหมือนไปสุดอีกฝั่งของเกาะเลย ไปถึงคนก็ไม่เยอะเท่าไหร่ สงสัยเพราะมันไกล ตอนเราไปถึงก็เย็นแล้วไม่มีแดด ไม่ร้อน เย็นสบายย ไปถ่ายรูปมานิดหน่อยเพราะรีบบ ทิ้งเพื่อนเล่นน้ำไว้อีกหาดตายาย
จะเป็นหาดไม่กว้างมาก มีทั้งโซนที่เป็นหินแล้วก็เป็นทราย เล่นน้ำได้ คนไม่เยอะด้วย ถ้าเดินเข้าไปทางโซนที่เป็นทรายจะมีสะพานไว้ให้ถ่ายรูป แต่เราไม่ได้เดินไป ดันไปทางซ้ายมือแทน จะเป็นหินทั้งหมด มีต้นไม้หน้าตาแปลกๆอยู่ต้นนึง เหมือนจะไว้ให้ถ่ายรูป ถ้าใครชอบอะไรอาร์ตๆ น่าจะชอบเจ้าต้นนี่ หลังจากนั้นก็รีบขี่กลับ แต่ทางไปหาดเทียน ก่อนถึงหาดเทียนจะมีป้ายเล็กๆ เขียนว่าไปหาดแสม อยู่ทางซ้ายมือด้วย หลังจากขี่มายาวนาน ก็ไปหาเพื่อนที่ถูกทิ้งอยู่ที่หาดตายาย พอเราไปถึงวิ่งหน้าตั้งกันมาสองคน บ่นอุบอิบเลยว่าแช่น้ำจนตัวเหี่ยวแล้ว 55555555 ขอโทษนะเพื่อนนนน
เดี๋ยวมาต่อน้าาาาาาา -3-