หลังจากเก็บข้อมูลเครื่องกรองน้ำอยู่นาน ก็ได้เวลาจัดหามาใช้กันครับ
แต่อ่านแล้วหลายกระทู้ ก็ไม่มีใครให้ข้อมูลเรื่องการต่อสายไฟลงใต้ซิงค์ (ฮา)
ก็กระทู้เขาว่าด้วยเครื่องกรองน้ำกันนี่นะ อย่ากระนั้นเลย หลังไมค์สอบถามพี่ทีดีกว่า
ได้รับคำแนะนำว่า ถ้าติดเต้ารับไม่ได้ ก็ลากเต้ารับชั่วคราวมาใช้ หรือตั้งไว้ด้านบนซิงค์น้ำก็ดี
ก็เลยตกลงปลงใจครับ แจ้นไปสวนสยามทันที
ร้านในตำนาน (เจ้ตุ้มเดิม) ของหมด เลยสั่งแต่ชุดกรองเรซิน คาร์บอนบล็อก แก็ก
ท่อน้ำ ที่ตัดท่อ มาแก้ขวย พร้อมกับดื่มโกโก้ปั่นหน้าร้านไปพลาง ๆ
เด็กในร้านยื่นของข้างต้นให้ ในราคาเจ็ดร้อยบาทเศษ แล้วบอกว่าร้านข้างกันก็มี
ก็เดินจากมาครับ มาร้านแรก ร้านนี้ไม่คึกคักเท่าไหร่ เงียบ ๆ แต่น้องก็ตั้งใจบริการดี
สั่งการทันใด เอาเครื่องกรอง RO 1 ชุด เท่าไหร่นะ อ๋อ สองพันหก (อืมม มิน่าล่ะ)
แพงกว่าร้านแรกที่ผมเข้าไปถาม 100 บาทนี่เอง ไม่ลืมถามน้องย้ำ ๆ ว่า
พี่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกไหม ยังขาดอะไรอีกไหม...
นึกไปนึกมา อ้อ เอา TDS มาวัดเล่น ๆ อีกสักตัวละกัน สามร้อยบาท
กลับบ้านเลยครับ ทิ้งไว้สามวัน!!! ก็มันไม่ว่าง 555
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ฤกษ์ครับ เหลียวมองสต็อกน้ำดื่มก็เหลืออยู่เพียง 1 ลัง
ใกล้ได้เวลาสั่งใหม่แล้ว เรามาติดตั้งกันเสียทีดีกว่า
เปิดกล่องออกมา พบว่าชุดปั๊ม โซลินอยด์ ท่อน้ำ และข้อต่อต่าง ๆ
ส่วนใหญ่ประกอบมาเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเป็นส่วนหัวละกันครับ
ยกออกมาจากกล่อง จากนั้นก็หยิบกระบอกบรรจุไส้กรองขึ้นมา ทีละกระบอก
ซึ่งก็จะมีไส้กรองใส่ไว้เรียงลำดับอย่างถูกต้องมาให้ ก็จับไส้เดิมลงถุงไป
เราก็เริ่มประกอบร่างกันเลยครับ
1. เอาไส้กรองเซรามิคตัวอ้วนมาแกะพลาสติก หย่อนลงไปในกระบอกใส หมุนเข้ากับฝากระบอกพอตึงมือ
2. เอาไส้กรองคาร์บอน แกะพลาสติก ดูให้แน่ใจว่าตรงไหนหัว-ท้าย ยัดใส่กระบอก แล้วหมุนเข้าฝาไป
3. เอาไส้กรองคาร์บอน แกะพลาสติก ดูหัวท้ายให้ดี หย่อนลงกระบอก แล้วหมุนเข้าฝาไป
4. แกะกระบอกไส้กรองคาร์บอนโพสต์ ที่อยู่ตัวบนสุดออกมาจากก้านยึดกระบอกเมมเบรน
หมุนข้อต่อออกทั้งสองด้าน แล้วหยิบไส้กรองคาร์บอนโพสต์ตัวใหม่มา
แกะพลาสติกปิดหัวท้ายสีฟ้าออก หมุนข้อต่อกลับคืนไปทั้งสองด้าน แล้วยัดกระบอกลงในที่ยึดให้เรียบร้อย
5. ถอดข้อต่อที่ฝากระบอกไส้กรองเมมเบรนออกมาก่อน
แล้วหยิบไส้กรองเมมเบรนที่อยู่ในซองพลาสติกใสออกมา
ใส่ลงไปในกระบอก ปิดฝา โช๊ะ เอ๊ะ ทำไมเข้าไม่สุดหว่า 555 ไม่ได้กินหรอกครับ
อาศัยว่าเราอ่านมาเยอะ ก็หมุนฝาออกมาอีกที หมุน ๆ ดึง ๆ ดัน ๆ ไส้กรองเมมเบรนไปมา
จนมันเข้าไปอีกนิดนึง ประมาณ 1 เซ็นติเมตร ก็ปิดฝาอีกที
6. ยกชุดกรอง RO มาตั้งหามุมเหมาะ ๆ งานนี้เราจะไม่เจาะกันนะครับ
โดยวางไว้ข้างซิงค์น้ำ ใกล้เต้ารับสายไฟ แล้วพักไว้ก่อน
7. แกะกล่องสุดท้ายออกมา เป็นถังแรงดัน เอามาวางไว้ข้าง ๆ กัน
จัดการหมุนวาวล์วหัวถังลงที่ทันใด (คิดว่ามันจะไม่รั่ว ที่ไหนได้ 555)
แล้วต่อท่อน้ำออกไปที่กระบอกกรองคาร์บอนโพสต์ให้เรียบร้อย
8. ต่อท่อน้ำด้านหนึ่งเข้าที่ตัวโฟลว์ 300 เป็นสายน้ำทิ้ง ตรงนี้น่ากลัวว่า
ถ้าหลุดขึ้นมา น้ำจะสาดลงไปในชุดโซลินอยล์หรือเพรสเซอร์สวิทซ์
หรือหม้อแปลงนะเนี่ย แต่ตอนนี้ช่างมันก่อน
9. จัดการต่อวาล์วน้ำเข้าเครื่องกรอง ให้มาในชุดอยู่แล้วสะดวกมากครับ
เอาเทปพันเกลียวพันไปยี่สิบรอบตามอาจารย์ทีบอก
ปรากฏว่า เกลียวมันเล็กไง ก็พันทีเดียวมิดเกลียวเลย
พอเอาไปประกอบร่างกับข้อต่อที่ให้มาก็ปีนเกลียวจะกัดกันเสียให้ได้สิน่ะ
ต้องฝืน ๆ อยู่นิดหน่อย
10. ต่อสายน้ำจากวาล์วเข้าเครื่องกรอง ที่ข้อต่อตัวแรก กระบอกใสขวามือ ตรวจสายน้ำทุกเส้นว่าขันแน่นดีแล้ว
11. หาสายน้ำจากข้อต่อตัวที่จะเข้าเมมเบรน แล้วถอดออกมา จ่อรอไว้
12. เปิดวาล์วน้ำตัวน้อยทันใด น้ำพุ่งแรงมากครับ เสียงน้ำหลั่งไหลไปตามท่อ
ลงกระบอกกรองตัวแรกอย่างพรั่งพรูเพราะผมใช้ปั๊มน้ำด้วย....
รอสักพักเดี๋ยวน้ำคงออกมา....
รอไปเหอะ นิ่งสนิทเลย
เอาล่ะสิ ถอดสายจากกระบอกตัวแรก ดูสิว่ามันตันหรือยังไง
ก็ไม่ตันนะ ไล่ไปมา อ้าว สายน้ำจากกระบอกที่สามมันไปเข้า Switch อะไรนี่นะ
ต้องใช้ไฟฟ้านี่ รุ่นพี่เขาเคยบอกกันไว้ แต่ไม่จำ นี่ขนาดอ่านกันเยอะนะ 555
เอื้อมมือไปเสียบสายไฟ วาร์ป...น้ำพุ่งออกมาเลยครับ สีดำ ๆ ตามตำราเป๊ะ
ดูรูป
13. มาถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้ต่อก็อกน้ำกรองที่แถมมากับชุดนะครับ
เพราะตั้งใจว่า จะล้างระบบให้เรียบร้อยก่อน แล้ว...ค่อยหาเรื่องต่อไป เอ๊ย ไม่ใช่ 555
ก็ล้างระบบไปเรื่อย ๆ ครับ จนรู้สึกว่าน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาล่ะ
จากนั้นจึงต่อสายน้ำเข้าขั้วต่อที่กระบอกโพสต์คาร์บอน แล้วล้างต่อไป
ความแรงจากน้ำดี จะแรงกว่าน้ำเสียนะครับ แล้วจึงเห็นว่าน้ำที่ออกมานั้นน่ะ
ไม่ได้ออกมาจากถัง มันกรองกันสด ๆ ดังนั้น เมื่อรู้สึกว่าเมื่อย จึงหยุดล้างระบบ
ชักปลั๊กไฟ ปิดวาล์วน้ำ แล้วต่อสายน้ำลงถังครับ แล้วเปิดใหม่ ปรากฏว่า น้ำรั่ว 555
ต้องเอาวาล์วถังน้ำออก แล้วพันเทปกันใหม่อีกทีครับ นี่เรียกว่าอะไรดี เลินเล่อ ซุ่มซ่าม ฯลฯ
14. พอต่อสายลงถังแล้ว ทำอย่างไรน้ำจึงจะไม่ออกมาที่กรองคาร์บอนโพสต์ล่ะ
ก็ต้องกั้นน้ำไว้สินะ ทีนี้ก็เลยไปรื้อกล่องออกมาอีกรอบครับ
เอาก๊อกแถมมาต่อเสียดี ๆ แล้วเปิดระบบใหม่อีกครั้ง
รอจนไฟแสดงสถานะขึ้นสีเขียวติดสว่าง ก็ชักปลั๊กออก
แล้วก็ยืนกดน้ำจากก๊อกครับ ตอนนี้เซ็งอีกล่ะครับ
เพราะก๊อกแถมเป็นแบบกดเปิดปล่อยปิด เมื่อยมือแย่
แถมถ้าคนอื่น ๆ ในบ้านมาใช้ สงสัยโดนบ่นมิใช่น้อย อย่ากระนั้นเลย...
พักรับประทานน้ำดื่มเย็น ๆ ก่อนครับ
[CR] ส่งการบ้านพี่ naytee: ติดตั้งเครื่องกรองน้ำ RO กันเถอะเรา
แต่อ่านแล้วหลายกระทู้ ก็ไม่มีใครให้ข้อมูลเรื่องการต่อสายไฟลงใต้ซิงค์ (ฮา)
ก็กระทู้เขาว่าด้วยเครื่องกรองน้ำกันนี่นะ อย่ากระนั้นเลย หลังไมค์สอบถามพี่ทีดีกว่า
ได้รับคำแนะนำว่า ถ้าติดเต้ารับไม่ได้ ก็ลากเต้ารับชั่วคราวมาใช้ หรือตั้งไว้ด้านบนซิงค์น้ำก็ดี
ก็เลยตกลงปลงใจครับ แจ้นไปสวนสยามทันที
ร้านในตำนาน (เจ้ตุ้มเดิม) ของหมด เลยสั่งแต่ชุดกรองเรซิน คาร์บอนบล็อก แก็ก
ท่อน้ำ ที่ตัดท่อ มาแก้ขวย พร้อมกับดื่มโกโก้ปั่นหน้าร้านไปพลาง ๆ
เด็กในร้านยื่นของข้างต้นให้ ในราคาเจ็ดร้อยบาทเศษ แล้วบอกว่าร้านข้างกันก็มี
ก็เดินจากมาครับ มาร้านแรก ร้านนี้ไม่คึกคักเท่าไหร่ เงียบ ๆ แต่น้องก็ตั้งใจบริการดี
สั่งการทันใด เอาเครื่องกรอง RO 1 ชุด เท่าไหร่นะ อ๋อ สองพันหก (อืมม มิน่าล่ะ)
แพงกว่าร้านแรกที่ผมเข้าไปถาม 100 บาทนี่เอง ไม่ลืมถามน้องย้ำ ๆ ว่า
พี่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกไหม ยังขาดอะไรอีกไหม...
นึกไปนึกมา อ้อ เอา TDS มาวัดเล่น ๆ อีกสักตัวละกัน สามร้อยบาท
กลับบ้านเลยครับ ทิ้งไว้สามวัน!!! ก็มันไม่ว่าง 555
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ฤกษ์ครับ เหลียวมองสต็อกน้ำดื่มก็เหลืออยู่เพียง 1 ลัง
ใกล้ได้เวลาสั่งใหม่แล้ว เรามาติดตั้งกันเสียทีดีกว่า
เปิดกล่องออกมา พบว่าชุดปั๊ม โซลินอยด์ ท่อน้ำ และข้อต่อต่าง ๆ
ส่วนใหญ่ประกอบมาเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเป็นส่วนหัวละกันครับ
ยกออกมาจากกล่อง จากนั้นก็หยิบกระบอกบรรจุไส้กรองขึ้นมา ทีละกระบอก
ซึ่งก็จะมีไส้กรองใส่ไว้เรียงลำดับอย่างถูกต้องมาให้ ก็จับไส้เดิมลงถุงไป
เราก็เริ่มประกอบร่างกันเลยครับ
1. เอาไส้กรองเซรามิคตัวอ้วนมาแกะพลาสติก หย่อนลงไปในกระบอกใส หมุนเข้ากับฝากระบอกพอตึงมือ
2. เอาไส้กรองคาร์บอน แกะพลาสติก ดูให้แน่ใจว่าตรงไหนหัว-ท้าย ยัดใส่กระบอก แล้วหมุนเข้าฝาไป
3. เอาไส้กรองคาร์บอน แกะพลาสติก ดูหัวท้ายให้ดี หย่อนลงกระบอก แล้วหมุนเข้าฝาไป
4. แกะกระบอกไส้กรองคาร์บอนโพสต์ ที่อยู่ตัวบนสุดออกมาจากก้านยึดกระบอกเมมเบรน
หมุนข้อต่อออกทั้งสองด้าน แล้วหยิบไส้กรองคาร์บอนโพสต์ตัวใหม่มา
แกะพลาสติกปิดหัวท้ายสีฟ้าออก หมุนข้อต่อกลับคืนไปทั้งสองด้าน แล้วยัดกระบอกลงในที่ยึดให้เรียบร้อย
5. ถอดข้อต่อที่ฝากระบอกไส้กรองเมมเบรนออกมาก่อน
แล้วหยิบไส้กรองเมมเบรนที่อยู่ในซองพลาสติกใสออกมา
ใส่ลงไปในกระบอก ปิดฝา โช๊ะ เอ๊ะ ทำไมเข้าไม่สุดหว่า 555 ไม่ได้กินหรอกครับ
อาศัยว่าเราอ่านมาเยอะ ก็หมุนฝาออกมาอีกที หมุน ๆ ดึง ๆ ดัน ๆ ไส้กรองเมมเบรนไปมา
จนมันเข้าไปอีกนิดนึง ประมาณ 1 เซ็นติเมตร ก็ปิดฝาอีกที
6. ยกชุดกรอง RO มาตั้งหามุมเหมาะ ๆ งานนี้เราจะไม่เจาะกันนะครับ
โดยวางไว้ข้างซิงค์น้ำ ใกล้เต้ารับสายไฟ แล้วพักไว้ก่อน
7. แกะกล่องสุดท้ายออกมา เป็นถังแรงดัน เอามาวางไว้ข้าง ๆ กัน
จัดการหมุนวาวล์วหัวถังลงที่ทันใด (คิดว่ามันจะไม่รั่ว ที่ไหนได้ 555)
แล้วต่อท่อน้ำออกไปที่กระบอกกรองคาร์บอนโพสต์ให้เรียบร้อย
8. ต่อท่อน้ำด้านหนึ่งเข้าที่ตัวโฟลว์ 300 เป็นสายน้ำทิ้ง ตรงนี้น่ากลัวว่า
ถ้าหลุดขึ้นมา น้ำจะสาดลงไปในชุดโซลินอยล์หรือเพรสเซอร์สวิทซ์
หรือหม้อแปลงนะเนี่ย แต่ตอนนี้ช่างมันก่อน
9. จัดการต่อวาล์วน้ำเข้าเครื่องกรอง ให้มาในชุดอยู่แล้วสะดวกมากครับ
เอาเทปพันเกลียวพันไปยี่สิบรอบตามอาจารย์ทีบอก
ปรากฏว่า เกลียวมันเล็กไง ก็พันทีเดียวมิดเกลียวเลย
พอเอาไปประกอบร่างกับข้อต่อที่ให้มาก็ปีนเกลียวจะกัดกันเสียให้ได้สิน่ะ
ต้องฝืน ๆ อยู่นิดหน่อย
10. ต่อสายน้ำจากวาล์วเข้าเครื่องกรอง ที่ข้อต่อตัวแรก กระบอกใสขวามือ ตรวจสายน้ำทุกเส้นว่าขันแน่นดีแล้ว
11. หาสายน้ำจากข้อต่อตัวที่จะเข้าเมมเบรน แล้วถอดออกมา จ่อรอไว้
12. เปิดวาล์วน้ำตัวน้อยทันใด น้ำพุ่งแรงมากครับ เสียงน้ำหลั่งไหลไปตามท่อ
ลงกระบอกกรองตัวแรกอย่างพรั่งพรูเพราะผมใช้ปั๊มน้ำด้วย....
รอสักพักเดี๋ยวน้ำคงออกมา....
รอไปเหอะ นิ่งสนิทเลย
เอาล่ะสิ ถอดสายจากกระบอกตัวแรก ดูสิว่ามันตันหรือยังไง
ก็ไม่ตันนะ ไล่ไปมา อ้าว สายน้ำจากกระบอกที่สามมันไปเข้า Switch อะไรนี่นะ
ต้องใช้ไฟฟ้านี่ รุ่นพี่เขาเคยบอกกันไว้ แต่ไม่จำ นี่ขนาดอ่านกันเยอะนะ 555
เอื้อมมือไปเสียบสายไฟ วาร์ป...น้ำพุ่งออกมาเลยครับ สีดำ ๆ ตามตำราเป๊ะ
ดูรูป
13. มาถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้ต่อก็อกน้ำกรองที่แถมมากับชุดนะครับ
เพราะตั้งใจว่า จะล้างระบบให้เรียบร้อยก่อน แล้ว...ค่อยหาเรื่องต่อไป เอ๊ย ไม่ใช่ 555
ก็ล้างระบบไปเรื่อย ๆ ครับ จนรู้สึกว่าน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาล่ะ
จากนั้นจึงต่อสายน้ำเข้าขั้วต่อที่กระบอกโพสต์คาร์บอน แล้วล้างต่อไป
ความแรงจากน้ำดี จะแรงกว่าน้ำเสียนะครับ แล้วจึงเห็นว่าน้ำที่ออกมานั้นน่ะ
ไม่ได้ออกมาจากถัง มันกรองกันสด ๆ ดังนั้น เมื่อรู้สึกว่าเมื่อย จึงหยุดล้างระบบ
ชักปลั๊กไฟ ปิดวาล์วน้ำ แล้วต่อสายน้ำลงถังครับ แล้วเปิดใหม่ ปรากฏว่า น้ำรั่ว 555
ต้องเอาวาล์วถังน้ำออก แล้วพันเทปกันใหม่อีกทีครับ นี่เรียกว่าอะไรดี เลินเล่อ ซุ่มซ่าม ฯลฯ
14. พอต่อสายลงถังแล้ว ทำอย่างไรน้ำจึงจะไม่ออกมาที่กรองคาร์บอนโพสต์ล่ะ
ก็ต้องกั้นน้ำไว้สินะ ทีนี้ก็เลยไปรื้อกล่องออกมาอีกรอบครับ
เอาก๊อกแถมมาต่อเสียดี ๆ แล้วเปิดระบบใหม่อีกครั้ง
รอจนไฟแสดงสถานะขึ้นสีเขียวติดสว่าง ก็ชักปลั๊กออก
แล้วก็ยืนกดน้ำจากก๊อกครับ ตอนนี้เซ็งอีกล่ะครับ
เพราะก๊อกแถมเป็นแบบกดเปิดปล่อยปิด เมื่อยมือแย่
แถมถ้าคนอื่น ๆ ในบ้านมาใช้ สงสัยโดนบ่นมิใช่น้อย อย่ากระนั้นเลย...
พักรับประทานน้ำดื่มเย็น ๆ ก่อนครับ