ไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปมั๊ย ระหว่างสามีกับเพื่อนรัก

กระทู้คำถาม
ไม่รู้ว่าเราคิดมากไปเองรึเปล่าจึงอยากปรึกษาเพื่อนๆในพันทิปว่าเราคิดมากไปรึว่าไม่ได้คิดมาก คือเรากับเพีอนคนนี้สนิทกันพอสมควรเนื่องจากเรียน ปวช.มาด้วยกัน แต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกกันเท่าแต่ก็คุยกันเรื่อย ส่วนสามีเราก็คุยได้แต่ไม่ได้สนิทอะไรกับเพื่อนเรามาก เราจึงหาช่วงเวลาว่างไปเที่ยวต่างประเทศเพราะเพื่อนสนิทเราทั้งคนอยู่ต่างประเทศเราก็ตกลงไปกัน ระหว่างเดินทางสามีเราก็เทคแคร์เพื่อนเราเนื่องจากเพื่อนเราไม่มีแฟนเราก็กลัวเพื่อนจะเหงาเลยชวนเดินชวนซื้อของ ตอนแรกแฟนเราก็ชวนคุยชวนอะไรเราก็ไม่คิดอะไรอีกอย่างแฟนเราเทค์แคร์เพื่อนเราเราก็โอเครนะ เรื่องมันมีอยู่ว่าไปเที่ยวถ่ายรูปกันเราก็ถ่ายๆแฟนเราพอเราเรียกถ่ายก็จะให้ความร่วมมือตลอด แต่คราวนี้ไม่ค่อยยิ้มเลย แต่พอเราเรียกเพื่อนเรามาถ่ายเค้ายิ้มตลอด เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศเค้ามีลูกเราก็เอาลูกเค้ามาถ่ายด้วยเหมือนเป็นครอบครัว เพื่อนเราเลยบอกอยากถ่ายบ้างอยากจับมือหลานแล้วถ่ายรูปกับแฟนเราเหมือนเรา เราก็ถ่ายให้ไม่ได้คิดอะไร หลังจากไปขึ้นกระเช้าซึ่งเพื่อนเรากลัวมาก เรากับแฟนไม่ได้นั้งด้วยกันคะ พอลงกระเช้า เราก็บอกแฟนเราว่าเพื่อนเรากลัวเพราะมันสูงมากๆ แฟนเราก็หัวเราะแล้วก็จับมือเพื่อนเราถามว่ามือเย็นมั๊ย ตอนนั้นในใจเริ่มคิดว่าเฮ่ออะไรอ่ะคุณ 2 คนไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะ ระหว่างทางเดินเราเดินไปคุยกับแม่เรา กับเพื่อนอีกคน เค้า 2 คนก็จะไปคุยกันเราเริ่มคิดมากแล้ว คราวนี้ไปกินข้าวตั้งแต่อยู่กันมา แฟนเราจะชิมกับข้าวให้เราก่อนว่าเรากินได้มั๊ย แต่คราวนี้ไม่คะไม่บอกและก็ตักกับข้าวให้เพื่อนเราก่อน กับข้าวใส่เครื่องเทศและแกงกระหรี่เยอะเค้า2คนขำข้ามหัวเรา แฟนเราไม่ได้สนใจตักกับข้าวให้เราเลย เพื่อนเรากินนกซึ่งเราไม่กินพอเพื่อนเรากินแล้วกินไม่ได้กัดมาคำแล้วบอกกินไม่ได้ส่งต่อให้แฟนเรา เราเลยบอกว่าไว้ข้างจานก็ได้แหนเราจะรับมากินต่อซึ่งเราก็ไม่ไหวแล้ว แล้วแฟนเราบอกเพื่อนเราว่ากินไม่ได้กินแซนวิสมั๊ยซึ่งเรากินอะไรไม่ได้เลยเค้าก็ไม่ถามเราเลยปกติแฟนเราจะห่วงเราเรื่องกินมากๆ นี้มาได้แค่ 2 วันเรายังรู้สึกคิดมากขนาดนี้นี้ต้องอยู่ทริปนี้อีก 3 วันเราจะรู้สึกคิดมากขนาดไหน เราไม่คุยอะไรกับแฟนเรานะเพราะกลัวการไปเที่ยวมันจะเสียบรรยากาศ เราคิดมากไปเองรึเปล่า
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ผมขออนุญาตออกความเห็นส่วนตัวนะครับ

ในฐานะที่ผมเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ผมเป็นคนไม่เจ้าชู้ครับ จากที่พิจารณาดูพฤติกรรมของสามีคุณ ผมให้ความเห็นว่า สามีคุณเป็นคนเจ้าชู้ครับ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาอาจจะปิ๊งเพื่อนคุณเข้าให้แล้วด้วย ซึ่งถ้าผมเอาตัวผมที่เป็นคนไม่เจ้าชู้เป็นเกณฑ์แล้ว ถ้าผมมีภรรยาอยู่แล้วและไปกับภรรยาผมด้วย 1.ผมจะให้เกียรติภรรยาผมก่อน ผมจะไม่ทำตัวข้ามหน้าข้ามตาภรรยาผมแน่นอน เพราะภรรยาก็คือภรรยา เพื่อนภรรยา ก็คือเพื่อนภรรยา อย่างไรแล้วการแคร์ความรู้สึกของคนใจครอบครัวย่อมมาก่อนเป็นอันดับแรกอยู่แล้วครับ

แต่จากที่อ่านแล้ววิเคราะห์พฤติกรรมของสามีคุณผมให้ความเห็นว่า เขาไม่ได้แคร์ความรู้สึกของคุณเลย พูดง่ายๆว่าทำยังกับว่าเราเป็นหัวตออย่างกับมากันแค่สองคน ซึ่งในที่นี้เพื่อนคุณอาจจะยังไม่ได้คิดอะไร หรือแอบรู้สึกนิดๆก็ไม่มีใครรู้ แต่สามีคุณแสดงความเจ้าชู้ออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง สำหรับคุณแล้วคุณอาจจะตัดสินใจในพฤติกรรมของสามีที่เป็นอยู่นี้ไม่ได้เด็ดขาด แต่ผมเป็นคนนอกและเป็นคนที่ไม่ผิดศีลข้อกาเมเป็นปรกติย่อมมองออกถึงลักษณะของผู้ชายด้วยกันที่รักและแคร์ความรู้สึกของภรรยาตนเองหรือเปล่า ถ้าให้พูดตรงๆคุณก็น่าจะศึกษาดูพฤติกรรมความเปลี่ยนแปลงของสามีคุณไปเรื่อยๆนะ เพราะนิสัยแบบนี้ขนาดต่อหน้าเรายังไม่เกรงใจ แล้วลับหลังเราจะขนาดไหน แต่ยังไงก็ควรพูดคุยถามไถ่กับสามีแบบตรงๆ ตรงไปตรงมาซะก่อน ดูเหตุผลที่เขาพูดออกมาว่ามีน้ำหนักของความจริงใจอย่างไรบ้าง เรื่องครอบครัวย่อมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ส่วนผมเป็นคนนอก อาจจะไม่รู้และเข้าใจพฤติกรรมที่แท้จริงของสามีคุณก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไรแล้ว ถ้าเป็นผมอยู่ในสถานการแบบนี้ ผมจะไม่ทำพฤติกรรมอย่างที่สามีคุณทำอย่างแน่นอน เพราะนั่นมันหมายถึงการไม่แคร์ความรู้สึกของภรรยาของเราเลย ซึ่งคนดีมีศีลธรรมเขาไม่ทำกัน

(ปล.ทุกถ้อยคำเป็นความเห็นส่วนตัวของผม ทั้งนี้คุณต้องพิจารณาพฤติกรรมของสามีของคุณเอง ผมพูดในสิ่งที่ผมรับรู้และเข้าใจเท่านั้นครับ ขอให้โชคดี มีทางออกนะครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่