เป็นเรื่องเกิดกับพี่สาวจขกท.เมื่อ 1 มิ.ย. โดยหลังจากเห็นชิ้นส่วนแตกแล้วกลับไปถามกับทางร้านโดยตรงแล้ว แต่ร้านไม่รับผิดชอบ
ยืนยันอย่างเดียวว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากทางร้าน และบอกว่าพี่สาวทำเอง
เราจึงต้องการโพสต์เล่าความรับผิดชอบของทางร้านไว้ให้เป็น feedback ของร้าน
Moly care (โมลี่ แคร์) สาขา ท่าพระ
ขอยืนยันว่า รูปรถเราทั้งหมดถ่ายในวันที่ 1 มิ.ย. หลังจากรับรถจากร้าน
รูปชุดแรกสุดที่เราได้ดูที่พี่สาวถ่ายค่อนข้างเบลอเพราะความรีบค่ะ รูปพวกนี้เราจึงไปถ่ายด้วยตัวเอง
//และรูปจาก Vios คันอื่นเพื่อดูชิ้นส่วนปกติ ถ่ายโดยเจ้าของรถ ส่งให้ทางไลน์อีกที
เริ่มจากว่าพี่สาวเราเพิ่งจะเริ่มขับรถและเพิ่งซื้อรถมาขับ โดยเป็นรถ Vios ตัว 2015 เพิ่งจะรับรถเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
รถยังป้ายแดงอยู่เลย คนขับก็ป้ายแดงด้วยเหมือนกัน และพี่สาวเราใช้รถระวังมาก ถือว่ารถใช้น้อยในเดือนที่ผ่านมา (พ่อยังแซวว่านึกว่าซื้อมาจอดไว้เฉยๆ)
วันที่ 30 พ.ค.- 1 มิ.ย. พี่สาวเราขับรถไปปฏิบัติธรรมที่วัดต่างจังหวัด โดยไปกับเพื่อน 4 คนมีเพื่อนนั่งข้างหลัง 2 คน ข้าง 1 คน
วันที่ 1 มิ.ย. หลังจากส่งเพื่อนๆกลับบ้านหมดแล้ว ก็ได้ขับกลับมาที่คอนโด
โดยที่ร้าน
moly care โมลี่แคร์ สาขา ท่าพระ นั้น อยู่ติดกันกับคอนโดที่เราอยู่เลย
ถ้ามาจากพระราม 3 ก็จะถึงร้านก่อนถึงคอนโด แต่ถ้ามาจากจรัญฯ หรือวิ่งผ่านหน้า เดอะมอลล์ท่าพระ มา ก็ต้องไปยูเทิร์นที่แยกมไหสวรรย์มาก่อน
พี่เราก็เอารถเข้าไปส่งให้ร้าน ล้างรถ เวลาประมาณ 13.45 น. การล้างครั้งนี้เป็นการล้างรถกับ moly care ครั้งแรก แต่เป็นการล้างรถครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ได้รับรถมา
ตอนล้างรถครั้งแรก เอาไปล้างที่ร้านที่เพื่อนพี่สาวไปล้างบ่อยๆ ซึ่งอยู่ไกลออกไป แต่เราก็แนะนำกับพี่สาวว่า ทำไมไม่ล้างกับ moly care เพราะอยู่ข้างคอนโดเราแค่นี่เอง
หลังจากส่งรถล้างแล้วพี่สาวเราก็เดินกลับเข้ามาในคอนโดซึ่งอยู่ติดกัน ขึ้นมาบนห้องเพื่อเข้าห้องน้ำ
หลังจากนั้นเรากับแม่ก็ออกจากคอนโดไปนวดแผนไทยตอน 14.00น. พี่สาวเลยอยู่คนเดียว
จนเวลา 14.15 น. พี่สาวไปรับรถที่ล้างเสร็จคนเดียว
(ใบรับรถเค้าก็เก็บไปตอนจ่ายเงิน และไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหา จึงไม่มีหลักฐานมาให้ดู)
แล้วก็ขับรถเข้ามาจอดที่คอนโดใช้เวลาเพียง 5 นาที หลังจากจอดรถที่ลานจอดรถของคอนโด
พี่สาวก็เอาผ้ามาเช็ดคราบน้ำที่ตัวรถ ที่ร้านทำไม่เรียบร้อย และตรวจดูความเรียบร้อยของรถ
(ตรงนี้เรายอมรับว่า เราก็ถามพี่สาวว่าทำไมไม่ตรวจรถก่อนรับรถที่ร้าน พี่สาวก็ยอมรับว่าลืม เราก็ต้องเข้าใจว่า มือใหม่เพิ่งมีรถ บางอย่างก็ยังไม่ชินไม่ได้นึกถึง)
พี่สาวสำรวจภายในรถ เจอชิ้นส่วนแตกหัก ตกอยู่ บนพื้นรถอันแสนสะอาดเอี่ยม บนผ้ายางที่วางเท้าฝั่งด้านหลังคนขับ
พอเจอชิ้นส่วน พี่สาวก็พยายามหาว่ามาจากไหน
จนกระทั่งเจอว่า เป็นชิ้นส่วนแตกหักจาก ตัวปิดบริเวณปลายรางเลื่อนเบาะของที่นั่งคนขับ
โดยหักจากรางข้างซ้ายของที่นั่ง เจอเวลาประมาณ 14.35 น. และลักษณะแผลของรอยแตกคือการถูกงัดจนแตกหัก
พี่สาวจึงขับรถออกจากคอนโด กลับรถที่แยกรัชดา-ราชพฤกษ์ และกลับอีกครั้งที่แยกมไหสวรรย์ เพื่อไปที่ร้าน ถึงร้านประมาณ 14.55น.
พอจอดรถ เจ้าของร้านผู้ชาย จำได้ว่าเพิ่งรับรถออกไปจึงเข้ามาสอบถาม พี่สาวเราจึงเล่าให้ฟังและให้ดูรอยแตกหักและชิ้นส่วนหลุดออกมา
จข.ผู้ชายได้เรียกลูกน้องมา 3 คน และถามลูกน้องว่า ได้ทำตรงนี้ๆหรือเปล่า? ได้ทำรถลูกค้าเป็นแบบนี้หรือเปล่า?
ลูกน้อง 3 คนไม่ตอบเป็นภาษาไทย แต่คุยกันเองเป็นภาษาต่างด้าว
จข.ผู้ชายถามอยู่ 2-3 ประโยค แต่ลูกน้อง 3 คนนี้ก็ไม่ตอบจข.ผู้ชาย แต่คุยกันเองพรึมพรำเป็นภาษาต่างด้าว ซึ่งพี่สาวก็ฟังไม่ออก
แล้ว จข.ผู้หญิง (เจ๊น่าจะเป็นภรรยาของพี่ผู้ชาย) ซึ่งนั่งอยู่ในออฟฟิตติดแอร์อยู่ก่อน ได้ออกมา และไม่ได้ไถ่ถามอะไรกับลูกน้อง 3 คนนั้น
(คือเจ๊นั่งอยู่ในออฟฟิตติดแอร์ ห้องกระจก ไม่น่าจะได้ยินเสียงที่ยืนคุยกันอยู่ข้างนอกเลยนะ)
จข.ผู้ชายได้บอกว่า น้องเค้าบอกว่าเราทำอันนี้ของน้องเค้าแตก จข.ผู้หญิงก็เดินมาดูชิ้นส่วนที่แตกที่รถ
แล้วก็พูดสรุปขึ้นมาเลยว่า
เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะเกิดจากทางร้าน เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ดูดฝุ่นในรถเป็นแค่พลาสติกเบาๆ
ไม่น่าจะไปกระแทกอะไรแตกได้
พี่สาวเราคงจะทำแตกมาก่อนแล้วมากกว่า มันคงแตกมาแล้วก่อนจะมาล้าง พี่สาวเราคงจะชอบเลื่อนเบาะไปมาบ่อยๆจนมันแตกก่อนแล้วน่ะสิ
ซึ่งพี่สาวเราก็บอกว่า
รถใหม่เพิ่งได้มาแค่เดือนเดียว ป้ายแดง นี่ก็เพิ่งจะล้างเป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่ได้รถมา เบาะก็ไม่ค่อยได้ปรับเลย จะปรับจนหักได้ยังไง
เจ๊ก็ยืนยันแถพูดอ้างโน่นนี่ว่า พี่สาวคงจะทำแตกเองนั่นแหล่ะ ให้ไปถามร้านทำเบาะเอาเองว่าซ่อมหรือเปลี่ยนได้มั๊ย?
แล้วจากนั้น ทั้ง 5 คน เจ๊ เฮีย และลูกน้องต่างด้าว 3 คนก็เดินสลายตัวจากไป ไม่มีการขอโทษ หรือ สอบถามลูกน้องหรือว่ายังไงต่อเลย
พี่สาวเราก็ไม่กล้าจะคุยต่อค่ะ ไม่รู้จะพูดต่อยังไง เพราะมาคนเดียว
พี่สาวเราก็ขับรถกลับมาจอดที่คอนโด แล้วก็ถ่ายรูปจุดที่แตกและชิ้นส่วน ส่งไลน์ไปถามเพื่อนๆ
โดยเพื่อนคนที่นั่งเบาะหลังฝั่งหลังคนขับตลอดทางกลับมา ยืนยันว่า ตอนที่นั่งมาในรถ ชิ้นส่วนนี้ยังอยู่ในลักษณะปกติ
ซึ่งเพื่อนคนนี้เค้าก็มีรถยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันเลยด้วย แต่ซื้อก่อน อายุเกือบปีแล้ว ชิ้นส่วนนี้ยังไม่ยับเยินขนาดนี้ อยู่ในสภาพปกติ
แต่รถพี่สาวเดือนเดียว ใช้เองอย่างไรถึงจะแตกหักถึงขนาดนี้ได้ แถมยังมีรอยขีดข่วนเยอะแยะ
เราจึงขอให้ถ่ายรูปชิ้นส่วนนี้ของรถเค้าในสภาพปกติมาให้ดู
ล้างรถที่ Moly care (โมลี่ แคร์) สาขาท่าพระ ทางร้านทำชิ้นส่วนในรถแตกหัก แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ
ยืนยันอย่างเดียวว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากทางร้าน และบอกว่าพี่สาวทำเอง
เราจึงต้องการโพสต์เล่าความรับผิดชอบของทางร้านไว้ให้เป็น feedback ของร้าน Moly care (โมลี่ แคร์) สาขา ท่าพระ
ขอยืนยันว่า รูปรถเราทั้งหมดถ่ายในวันที่ 1 มิ.ย. หลังจากรับรถจากร้าน
รูปชุดแรกสุดที่เราได้ดูที่พี่สาวถ่ายค่อนข้างเบลอเพราะความรีบค่ะ รูปพวกนี้เราจึงไปถ่ายด้วยตัวเอง
//และรูปจาก Vios คันอื่นเพื่อดูชิ้นส่วนปกติ ถ่ายโดยเจ้าของรถ ส่งให้ทางไลน์อีกที
เริ่มจากว่าพี่สาวเราเพิ่งจะเริ่มขับรถและเพิ่งซื้อรถมาขับ โดยเป็นรถ Vios ตัว 2015 เพิ่งจะรับรถเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
รถยังป้ายแดงอยู่เลย คนขับก็ป้ายแดงด้วยเหมือนกัน และพี่สาวเราใช้รถระวังมาก ถือว่ารถใช้น้อยในเดือนที่ผ่านมา (พ่อยังแซวว่านึกว่าซื้อมาจอดไว้เฉยๆ)
วันที่ 30 พ.ค.- 1 มิ.ย. พี่สาวเราขับรถไปปฏิบัติธรรมที่วัดต่างจังหวัด โดยไปกับเพื่อน 4 คนมีเพื่อนนั่งข้างหลัง 2 คน ข้าง 1 คน
วันที่ 1 มิ.ย. หลังจากส่งเพื่อนๆกลับบ้านหมดแล้ว ก็ได้ขับกลับมาที่คอนโด
โดยที่ร้าน moly care โมลี่แคร์ สาขา ท่าพระ นั้น อยู่ติดกันกับคอนโดที่เราอยู่เลย
ถ้ามาจากพระราม 3 ก็จะถึงร้านก่อนถึงคอนโด แต่ถ้ามาจากจรัญฯ หรือวิ่งผ่านหน้า เดอะมอลล์ท่าพระ มา ก็ต้องไปยูเทิร์นที่แยกมไหสวรรย์มาก่อน
พี่เราก็เอารถเข้าไปส่งให้ร้าน ล้างรถ เวลาประมาณ 13.45 น. การล้างครั้งนี้เป็นการล้างรถกับ moly care ครั้งแรก แต่เป็นการล้างรถครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ได้รับรถมา
ตอนล้างรถครั้งแรก เอาไปล้างที่ร้านที่เพื่อนพี่สาวไปล้างบ่อยๆ ซึ่งอยู่ไกลออกไป แต่เราก็แนะนำกับพี่สาวว่า ทำไมไม่ล้างกับ moly care เพราะอยู่ข้างคอนโดเราแค่นี่เอง
หลังจากส่งรถล้างแล้วพี่สาวเราก็เดินกลับเข้ามาในคอนโดซึ่งอยู่ติดกัน ขึ้นมาบนห้องเพื่อเข้าห้องน้ำ
หลังจากนั้นเรากับแม่ก็ออกจากคอนโดไปนวดแผนไทยตอน 14.00น. พี่สาวเลยอยู่คนเดียว
จนเวลา 14.15 น. พี่สาวไปรับรถที่ล้างเสร็จคนเดียว
(ใบรับรถเค้าก็เก็บไปตอนจ่ายเงิน และไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหา จึงไม่มีหลักฐานมาให้ดู)
แล้วก็ขับรถเข้ามาจอดที่คอนโดใช้เวลาเพียง 5 นาที หลังจากจอดรถที่ลานจอดรถของคอนโด
พี่สาวก็เอาผ้ามาเช็ดคราบน้ำที่ตัวรถ ที่ร้านทำไม่เรียบร้อย และตรวจดูความเรียบร้อยของรถ
(ตรงนี้เรายอมรับว่า เราก็ถามพี่สาวว่าทำไมไม่ตรวจรถก่อนรับรถที่ร้าน พี่สาวก็ยอมรับว่าลืม เราก็ต้องเข้าใจว่า มือใหม่เพิ่งมีรถ บางอย่างก็ยังไม่ชินไม่ได้นึกถึง)
พี่สาวสำรวจภายในรถ เจอชิ้นส่วนแตกหัก ตกอยู่ บนพื้นรถอันแสนสะอาดเอี่ยม บนผ้ายางที่วางเท้าฝั่งด้านหลังคนขับ
พอเจอชิ้นส่วน พี่สาวก็พยายามหาว่ามาจากไหน
จนกระทั่งเจอว่า เป็นชิ้นส่วนแตกหักจาก ตัวปิดบริเวณปลายรางเลื่อนเบาะของที่นั่งคนขับ
โดยหักจากรางข้างซ้ายของที่นั่ง เจอเวลาประมาณ 14.35 น. และลักษณะแผลของรอยแตกคือการถูกงัดจนแตกหัก
พี่สาวจึงขับรถออกจากคอนโด กลับรถที่แยกรัชดา-ราชพฤกษ์ และกลับอีกครั้งที่แยกมไหสวรรย์ เพื่อไปที่ร้าน ถึงร้านประมาณ 14.55น.
พอจอดรถ เจ้าของร้านผู้ชาย จำได้ว่าเพิ่งรับรถออกไปจึงเข้ามาสอบถาม พี่สาวเราจึงเล่าให้ฟังและให้ดูรอยแตกหักและชิ้นส่วนหลุดออกมา
จข.ผู้ชายได้เรียกลูกน้องมา 3 คน และถามลูกน้องว่า ได้ทำตรงนี้ๆหรือเปล่า? ได้ทำรถลูกค้าเป็นแบบนี้หรือเปล่า?
ลูกน้อง 3 คนไม่ตอบเป็นภาษาไทย แต่คุยกันเองเป็นภาษาต่างด้าว
จข.ผู้ชายถามอยู่ 2-3 ประโยค แต่ลูกน้อง 3 คนนี้ก็ไม่ตอบจข.ผู้ชาย แต่คุยกันเองพรึมพรำเป็นภาษาต่างด้าว ซึ่งพี่สาวก็ฟังไม่ออก
แล้ว จข.ผู้หญิง (เจ๊น่าจะเป็นภรรยาของพี่ผู้ชาย) ซึ่งนั่งอยู่ในออฟฟิตติดแอร์อยู่ก่อน ได้ออกมา และไม่ได้ไถ่ถามอะไรกับลูกน้อง 3 คนนั้น
(คือเจ๊นั่งอยู่ในออฟฟิตติดแอร์ ห้องกระจก ไม่น่าจะได้ยินเสียงที่ยืนคุยกันอยู่ข้างนอกเลยนะ)
จข.ผู้ชายได้บอกว่า น้องเค้าบอกว่าเราทำอันนี้ของน้องเค้าแตก จข.ผู้หญิงก็เดินมาดูชิ้นส่วนที่แตกที่รถ
แล้วก็พูดสรุปขึ้นมาเลยว่า เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะเกิดจากทางร้าน เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ดูดฝุ่นในรถเป็นแค่พลาสติกเบาๆ
ไม่น่าจะไปกระแทกอะไรแตกได้
พี่สาวเราคงจะทำแตกมาก่อนแล้วมากกว่า มันคงแตกมาแล้วก่อนจะมาล้าง พี่สาวเราคงจะชอบเลื่อนเบาะไปมาบ่อยๆจนมันแตกก่อนแล้วน่ะสิ
ซึ่งพี่สาวเราก็บอกว่า รถใหม่เพิ่งได้มาแค่เดือนเดียว ป้ายแดง นี่ก็เพิ่งจะล้างเป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่ได้รถมา เบาะก็ไม่ค่อยได้ปรับเลย จะปรับจนหักได้ยังไง
เจ๊ก็ยืนยันแถพูดอ้างโน่นนี่ว่า พี่สาวคงจะทำแตกเองนั่นแหล่ะ ให้ไปถามร้านทำเบาะเอาเองว่าซ่อมหรือเปลี่ยนได้มั๊ย?
แล้วจากนั้น ทั้ง 5 คน เจ๊ เฮีย และลูกน้องต่างด้าว 3 คนก็เดินสลายตัวจากไป ไม่มีการขอโทษ หรือ สอบถามลูกน้องหรือว่ายังไงต่อเลย
พี่สาวเราก็ไม่กล้าจะคุยต่อค่ะ ไม่รู้จะพูดต่อยังไง เพราะมาคนเดียว
พี่สาวเราก็ขับรถกลับมาจอดที่คอนโด แล้วก็ถ่ายรูปจุดที่แตกและชิ้นส่วน ส่งไลน์ไปถามเพื่อนๆ
โดยเพื่อนคนที่นั่งเบาะหลังฝั่งหลังคนขับตลอดทางกลับมา ยืนยันว่า ตอนที่นั่งมาในรถ ชิ้นส่วนนี้ยังอยู่ในลักษณะปกติ
ซึ่งเพื่อนคนนี้เค้าก็มีรถยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันเลยด้วย แต่ซื้อก่อน อายุเกือบปีแล้ว ชิ้นส่วนนี้ยังไม่ยับเยินขนาดนี้ อยู่ในสภาพปกติ
แต่รถพี่สาวเดือนเดียว ใช้เองอย่างไรถึงจะแตกหักถึงขนาดนี้ได้ แถมยังมีรอยขีดข่วนเยอะแยะ
เราจึงขอให้ถ่ายรูปชิ้นส่วนนี้ของรถเค้าในสภาพปกติมาให้ดู