(เครดิตบทความจากไลน์ครับ)
สรุปรายละเอียดกองทุน EGATIF
1.ลงทุนในสิทธิรายได้ค่าความพร้อมใช้(AP1)ของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ขนาด 670MW(ไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สิน)
2.เป็นการระดมทุนเพื่อไม่ให้เกิดหนี้สาธารณะ เพื่อที่ EGAT จะนำเงินไปสร้างสาส่ง-โรงไฟฟ้าอื่นต่อไปๆ
3.อายุกองทุน 20 ปี โดยจะจ่ายคืนเงินต้นทุกปี(ทุนจดทะเบียนของกองทุนจะลดลงทุกปี) ในปีสุดท้ายราคาของหน่วยลงทุนจะเข้าใกล้ 0
4.ผลตอบแทนจริงๆที่จะได้รับประมาน 3-3.5%/ปี
5.ราคาขาย 10 บาท/หน่วย จำนวนประมาน 2,000(+/-)ล้านหน่วย แสดงว่าขนาดกองทุนประมาน 20,000 ล้าน +/-
6.กองทุนไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินโรงไฟฟ้า แต่ EGAT เป็นเจ้าของ กองทุนแค่ได้สิทธิทางรายได้ AP1 เท่านั้น (สิทธิรายได้จากค่าความพร้อมใช้ อธิบายตามรูป 3)
7.โรงไฟฟ้าดำเนินการมาตั้งแต่ปี 56 มีค่าความพร้อมใช้เกิน 90% ซึ่งถือว่าสูงกว่ามาตรฐาน
8.กำไรของกองทุนที่จะได้รับรู้ = รายได้ค่าความพร้อมใช้ AP1-เบี้ยประกัน-ค่าบริหารกองทุน
9.ประมานการกำไรที่ EGATIF จะจ่ายออกมาในปี 58 = 1745 ล้านบาท(ประมาน 8%เทียบกับเงินลงทุน) แบ่งเป็น คืนเงินต้น 5% + ผลตอบแทน 3%
10.ต้นทุนเชื้อเพลิง-ค่าซ่อมแซม-ค่า Operate กองทุน EGSTIF ไม่เกี่ยวข้องเพราะส่วนนั้นเป็นภาระของ EGAT
11.EGAT ยังถือกองทุนในสัดส่วน 25% เป็นเวลา 5 ปี แต่หลังจากนั้นจะขายไหมไม่สามารถบอกได้
12.มีการทำประกันทุกรูปแบบในกรณีโรงไฟฟ้าไม่สามารถจ่ายไฟได้ สรุปคือคล้ายๆ หุ้นกู้/พันธบัตร ดอกเบี้ย 3% เลยครับ แค่จับมันมาเป็นกองทุนเพื่อให้เปลี่ยนมือไ้ด้ง่ายและไม่เกิดหนี้สาธารณะ =..=" เริ่มเปิดจอง 22-26 มิ.ย.58 ติดต่อได้ที่ SCB / KTB
จดเข้าตลาด 13 ก.ค.58 ครับ
---------------------------------------
บทความจากไลน์ จากผู้วิเคราะห์นะครับ
คิดเห็นกันอย่างไรบ้าง
โดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยชอบข้อ 3 เท่าไหร่
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
-ขนาดของกองทุนจะลดลงทุกปี จำนวนเงินปันผลถึงแม้จะ % เท่าเดิม แต่จำนวนเงินก็น้อยลงทุกปีเช่นกัน
แล้วแบบนี้ Capital gain ในอนาคตจะไปมีได้อย่างไร
อีกข้อนึงครับ
ผมไม่เข้าใจว่าเค้าจะเปิดกองทุนไปเพื่ออะไร เอาเงินไปใช้ก่อนโดยใช้ค่าความพร้อมเดินเครื่องเป็นตัวประกันงั้นหรอครับ
ใครเข้าใจตรงนี้อธิบายที
ขอบคุณครับ
มาแล้วววว สรุปข้อมูลคร่าวๆ EGATIF รับได้/ไม่ได้ น่าเล่น/ไม่น่าเล่นตรงไหน มาดูกัน
สรุปรายละเอียดกองทุน EGATIF
1.ลงทุนในสิทธิรายได้ค่าความพร้อมใช้(AP1)ของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ขนาด 670MW(ไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สิน)
2.เป็นการระดมทุนเพื่อไม่ให้เกิดหนี้สาธารณะ เพื่อที่ EGAT จะนำเงินไปสร้างสาส่ง-โรงไฟฟ้าอื่นต่อไปๆ
3.อายุกองทุน 20 ปี โดยจะจ่ายคืนเงินต้นทุกปี(ทุนจดทะเบียนของกองทุนจะลดลงทุกปี) ในปีสุดท้ายราคาของหน่วยลงทุนจะเข้าใกล้ 0
4.ผลตอบแทนจริงๆที่จะได้รับประมาน 3-3.5%/ปี
5.ราคาขาย 10 บาท/หน่วย จำนวนประมาน 2,000(+/-)ล้านหน่วย แสดงว่าขนาดกองทุนประมาน 20,000 ล้าน +/-
6.กองทุนไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินโรงไฟฟ้า แต่ EGAT เป็นเจ้าของ กองทุนแค่ได้สิทธิทางรายได้ AP1 เท่านั้น (สิทธิรายได้จากค่าความพร้อมใช้ อธิบายตามรูป 3)
7.โรงไฟฟ้าดำเนินการมาตั้งแต่ปี 56 มีค่าความพร้อมใช้เกิน 90% ซึ่งถือว่าสูงกว่ามาตรฐาน
8.กำไรของกองทุนที่จะได้รับรู้ = รายได้ค่าความพร้อมใช้ AP1-เบี้ยประกัน-ค่าบริหารกองทุน
9.ประมานการกำไรที่ EGATIF จะจ่ายออกมาในปี 58 = 1745 ล้านบาท(ประมาน 8%เทียบกับเงินลงทุน) แบ่งเป็น คืนเงินต้น 5% + ผลตอบแทน 3%
10.ต้นทุนเชื้อเพลิง-ค่าซ่อมแซม-ค่า Operate กองทุน EGSTIF ไม่เกี่ยวข้องเพราะส่วนนั้นเป็นภาระของ EGAT
11.EGAT ยังถือกองทุนในสัดส่วน 25% เป็นเวลา 5 ปี แต่หลังจากนั้นจะขายไหมไม่สามารถบอกได้
12.มีการทำประกันทุกรูปแบบในกรณีโรงไฟฟ้าไม่สามารถจ่ายไฟได้ สรุปคือคล้ายๆ หุ้นกู้/พันธบัตร ดอกเบี้ย 3% เลยครับ แค่จับมันมาเป็นกองทุนเพื่อให้เปลี่ยนมือไ้ด้ง่ายและไม่เกิดหนี้สาธารณะ =..=" เริ่มเปิดจอง 22-26 มิ.ย.58 ติดต่อได้ที่ SCB / KTB
จดเข้าตลาด 13 ก.ค.58 ครับ
---------------------------------------
บทความจากไลน์ จากผู้วิเคราะห์นะครับ
คิดเห็นกันอย่างไรบ้าง
โดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยชอบข้อ 3 เท่าไหร่
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
-ขนาดของกองทุนจะลดลงทุกปี จำนวนเงินปันผลถึงแม้จะ % เท่าเดิม แต่จำนวนเงินก็น้อยลงทุกปีเช่นกัน
แล้วแบบนี้ Capital gain ในอนาคตจะไปมีได้อย่างไร
อีกข้อนึงครับ
ผมไม่เข้าใจว่าเค้าจะเปิดกองทุนไปเพื่ออะไร เอาเงินไปใช้ก่อนโดยใช้ค่าความพร้อมเดินเครื่องเป็นตัวประกันงั้นหรอครับ
ใครเข้าใจตรงนี้อธิบายที
ขอบคุณครับ