แบ่งปันประสบการณ์ฝึกงานครับ

ช่วงนี้มีน้อง ๆ นักศึกษาหลายคนฝึกงานอยู่ รวมไปถึงรุ่นน้องมหา'ลัยผมด้วย ก็เลยอยากจะขอแบ่งปันประสบการณ์บ้างครับ

เดือน มี.ค.-พ.ค. ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่ผมไปฝึกงานมาครับ โดยที่มหา'ลัยของผมจะฝึกงานในช่วง ปี ๓ จะขึ้น ปี ๔ ก่อนอื่นก็ต้องหาสถานที่ฝึกงานก่อนครับ ก็ไปมาหลายที่ สุดท้ายก็มาลงเอยที่ JTB บริษัททัวร์ญี่ปุ่น

วันแรกที่ไปฝึกงานเลย ผมไปอยู่ที่อาคารหะรินธร ย่านบางรัก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทดังกล่าว ก็นั่งโต๊ะอ่ะครับ วันแรกยังไม่ค่อยมีอะไรมาก พี่เขาแค่ให้ผมแกะและเย็บเอกสารเก่า ๆ ใส่แฟ้มเก็บไว้ จะมีที่ตื่นเต้นก็ช่วงเช้าที่ต้องแนะนำตัว คือบริษัทญี่ปุ่นเขาจะต้องมีการประชุมทุกเช้า สรุปว่าวันนี้จะมีทำอะไรบ้าง แล้วก็ให้ผมแนะนำตัว ตอนนั้น ทุกสายตาในแผนกมองมาที่ผมเป็นตาเดียวเลย เป็นจุดเด่นมาก

ห้าวันแรกที่อยู่สำนักงานใหญ่ ผมเบื่อมากเลยครับ อย่างแรกเพราะไม่อยากฝึกงาน อีกอย่างคือผมไม่ชอบบรรยากาศของงานออฟฟิศ แต่จะมีที่ผ่อนคลายหน่อยคือมีคอมให้ผมเปิดเน็ตเล่นนั่นนี่ไปเรื่อย (แต่ไม่ได้เข้าเฟซนะ) กินข้าวก็ไปกินคนเดียว งานมันก็มีแต่แบบว่า ทำ DEPARTURE กับ ARRIVAL ซึ่งถึงตอนนี้ผมก็อธิบายไม่ถูกว่ามันคืออะไร เหมือนเคยเช็กรถที่ไกด์จะไปรับ-ส่งลูกทัวร์ เวลา เที่ยวบิน อะไรแบบนั้น จนมาถึงวันที่ห้านั่นแหละครับ ก็มีคนญี่ปุ่นมาบอกว่าจะย้ายผมไปสาขาสีลมคอมเพล็กซ์ ซึ่งผมดีใจมาก เพราะที่นั่นมีเพื่อนผมฝึกงานอยู่สองคน แล้วผมก็ชอบบรรยากาศที่โน่นด้วย มันอยู่ในห้าง แล้วไม่ใช่บรรยากาศแบบออฟฟิศเคร่งเครียดอะไรแบบสำนักงานใหญ่

เริ่มสัปดาห์ที่สอง ผมก็ไปสีลมคอมเพล็กซ์เลยครับ สาขานี้มันอยู่ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่มากนัก สามารถเดินถึงกันได้ พอมาที่นี่ ผมก็เริ่มผ่อนคลายขึ้น ทั้งมีเพื่อน ทั้งบรรยากาศไม่เครียด แต่มาที่นี่ก็มันก็ต่างจากตอนสำนักงานใหญ่นิดหน่อยครับ คือตอนอยู่ที่นั่น งานผมส่วนใหญ่ก็เป็นงานทั่ว ๆ ไป ถ่ายเอกสาร เย็บเอกสาร ติดต่อไกด์ แทบไม่ได้ใช้คอมทำงานเลย แต่พอมาที่นี่ ก็มีงานที่ต้องใช้คอมครับ ทำไอดีทัวร์

มีงานให้ได้ออกไปข้างนอกด้วยครับ ซึ่งผมชอบมาก เหนื่อยแต่ก็เหมือนได้เดินเล่นไปในตัว คือการแจกโบรชัวร์ มันจะมาเป็นมัดครับ มัดละ ๒๕ เล่ม ตอนแรกก็เอาไป ๓ มัด หรือ ๗๕ เล่มก่อน ตอนหลังหัวหน้าชาวญี่ปุ่นคงเห็นว่าผมแจกเก่งมั้ง เลยให้เอาไป ๔ มัด เท่ากับ ๑๐๐ เล่ม โบรชัวร์พวกนี้คือจะเอาไปแจกตามโรงแรมหรืออพาร์ตเมนท์ ทุกครั้งผมจะเข้าไปถามก่อนว่าโรงแรมนี้มีคนญี่ปุ่นพักอยู่รึเปล่า บางโรงแรมก็อนุญาตให้วางได้ บางโรงแรมก็ให้วางได้นิดหน่อย บางโรงแรมก็ไม่ให้วางเลย

พอมาที่สีลมคอมเพล็กซ์นี่มันว่างมากครับ พอผมไปของานพวกพี่เขาทำ พี่เขาก็บอกว่า "ตอนนี้ยังไม่มีอะไรอ่ะน้อง นั่งไปก่อนนะ" ก็ว่างครับ เล่นเฟซ เล่นนั่นนี่ไปเรื่อย แล้วพอถึงช่วงพัก ผมก็จะเอาใบงานไกด์ไปส่งที่สำนักงานใหญ่ คือที่นั่นจะมีเก๊ะที่เก็บงานของไกด์แต่ละคนไว้ ผมก็ต้องเอาไปใส่ เสร็จแล้ว ผมก็จะไปกินข้าว

มาช่วงกลาง ๆ ผมได้รับหน้าที่เพิ่มอีกอย่าง คือการไปนั่งโต๊ะให้ข้อมูลที่โรงแรมดุสิตธานี ตั้งแต่ สี่โมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม ผมชอบนะ เพราะมุมที่ผมนั่งมันเงียบสงบ ได้ปล่อยอารมณ์ ทำอะไรไปเรื่อย ๆ ปกติไม่ค่อยมีลูกทัวร์เข้ามาถามหรอกครับ แต่ถ้ามีผมก็ต้องอธิบาย แบบเขาอาจจะถามว่า จะไปซื้อของฝาก ต้องไปที่ไหน หรือจะหาร้านอาหารในโรงแรม

สองวันสุดท้ายที่ึฝึกงานนี่โลดโผนที่สุดแล้วครับ คือมีเพื่อนผม ที่ฝึกด้วยกันนี่แหละครับ เขาถูกทางแผนกของเขาสั่งให้เอากระเป๋าไปให้ลูกค้า เหมือนเป็นพวกของสมนาคุณอะไรแบบนั้น ต้องไปที่ซอยพหลโยธิน ๒๘ ผมก็ไปด้วย อยากจะบอกว่าบ้านในซอยพหลโยธิน ๒๘ นี่หายากมาก เพราะไม่ได้เรียงตามเลขที่ สมมติบ้านเลขที่ ๑๑๕ หลังต่อไปก็อาจจะโดดไปที่ ๑๖๐ เลย อะไรแบบนั้น วันต่อมาที่เป็นวันสุดท้ายก็ต้องเอากระเป๋าไปให้ลูกค้าที่แจ้งวัฒนะ วันนี้ไปกันครบทีมสามคนเลย

วันนั้น มื้อกลางวัน ก็มีพี่ที่แผนกพาไปเลี้ยงเอ็มเคโกลด์ แต่ช่วงบ่าย ผมก็ต้องออกไปแจกโบรชัวร์อีกเป็นการส่งท้าย แต่เสียดายที่วันนั้นผมไม่ได้ไปนั่งที่ดุสิตธานี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดในการฝึกงานครั้งนี้

ตอนแรกผมไม่อยากฝึกงานเลย อยากฝึกให้จบเร็ว ๆ ตอนแรกรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่พอปรับตัวได้แล้ว ชินแล้ว เวลากลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว และอยากจะกลับไปฝึกอีกครั้ง ก็ขอให้ทุกคนที่ฝึกงานอยู่ตอนนี้หรือกำลังจะฝึก ไม่ว่าจะในอนาคตกันไกลหรือใกล้ สู้ ๆ พยายามเข้าครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่