ต้องขอออกตัวก่อนว่าที่บ้านมี c class w204 ที่เพิ่งเอาไปแปลงโฉมและเปลี่ยนล้อ เป็น AMG sport รวมทั้งมี E coupe โฉมก่อนปัจจุบัน แต่ด้วยความรู้สึกที่เห็น the new c class แล้วสวยดี เลยไปจอง c200 สีขาวตั้งแต่ก่อนงาน motorshow และด้วยความที่พอไปเห็น c300 หลังคาแก้วสีดำตัดกับรถสีขาวเลยทำให้คิดว่า c300 สวยกว่า c200 เลยจอง c300 ไปอีกคันเพื่อล๊อคคิว ทั้งที่หวั่นๆเรื่อง hybrid อยู่ และ sale ก็แนะนำว่าหากเปลี่ยนใจก็เลือกเอาคันใดก็ได้
พอวันที่สอง ไปเดินในงานเห็นรถสี tenorite grey สีสวยโดนใจมาก เลยขอ sale เปลี่ยนสีเลยทั้งสองคัน หลังจากนั้นวันๆก็เอาแต่นั่งดู youtube รวมทั้งรูป c class ไปทุกวันประกอบกับลองไปนั่งดู เอะทำไมมันเล็กกว่า c class คันเดิมของเราหว่า ทั้งที่ spec บอกว่าใหญ่กว่าพอพาคนอื่นไปนั่งทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าเล็ก หลังจากดูไปทุกวันจนวันหนึ่งไปเห็นคันที่จอดอยู่ในห้างไปเดินรอบๆดู กับเกิดความรู้สึก เบื่อแล้วอะ เหตุผลจึงขึ้นมาแทน นี่เราจะซื้อ c class ทั้งที่มี c class เดิมอยู่แล้วมาทำไมเนี่ย และมันก็ไม่ได้ใหญ่กว่าเดิมด้วย รวมทั้งคันเก่าก็ยังใหม่อยู่
ก็เลยโทรไปขอถอนจอง และ ขอเปลี่ยนเป็น E class แต่เอารุ่น top เลย (E 300) เพราะภายในรุ่น เบนซิน E200 เป็นลายไม้ไม่สวยเอาซะเลย รวมทั้ังล้อก็ไม่สวยด้วย แม้ว่าจะต้องเอา เป็นรุ่น E300 ที่เป็น hybrid แต่ก็เอาวะ ไหนๆ E class ก็ออกมานานแล้ว น่าจะเสถียรแล้วน่า ประกอบกับ option เพียบ และส่วนลดสุดยอดมากๆ และคิดว่าที่บ้านเองก็ยังไม่มีรถ 4 ประตูที่มีขนาดใหญ่ให้ที่บ้านนั่งกัน (แม่บ่นมากว่าไม่อยากนั่ง E coupe เลยเวลาที่ C class ตัวเก่าไม่อยู่ เนื่องจากขึ้นลงลำบากมาก)
กับคำถามที่ว่ากลัวตกรุ่นไหม ตัวเองพยายามหาข้อมูลดูก็พบว่า รุ่นนี้น่าจะอยู่ได้ 1.5-2 ปีกว่ารุ่นประกอบนอกจะเข้าไทย (เข้ามาให้ซื้อนะ ไม่ใช่เปิดตัว) รวมๆกับเวลาที่ต้องรอรุ่นประกอบใน และรอให้ทุกอย่างเสถียร ร่วมด้วย E class ตัวนี้ซื้อในราคาที่ไม่แพงมาก (ได้ส่วนลดและของแถมแบบสุดๆ) รวมทั้ง การซื้อเเบบ บอลลูนตอนนี้ มีโปร ประกันชั้น 1 ฟรีไปเลย 5 ปีก็กะว่าเอาไว้หมดบอลลูนแล้วเปลี่ยนตอนนั้นน่าจะเหมาะที่สุด และราคาตอนนี้ก็สุดยอดจริงๆของความคุ้มค่า จึงคิดว่าตอนนี้จึงเป็นช่วงที่ควรซื้อมากที่สุด
กับคำถามเรื่อง hybrid ที่กังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องจังหวะการสลับกันระหว่าง ไฟฟ้า และ น้ำมัน ส่วนตัวไม่รู้สึกเลยเเละคิดว่าเป็นอารมณ์เหมือนเรา start เครื่องเท่านั้นเอง ไม่ใช่การกระชากอย่างที่เคยเข้าใจ นอกนั้นการขับก็เหมือนขับ c class ตัวเก่า แต่เพียงมีบางช่วงที่เงียบมาก และในขณะเดียวกัน ตอน น้ำมันทำงาน มันไม่ได้ดังเลยเมื่ออยู่ภายในรถอย่างที่กังวลกันว่า น้ำมัน diesel จะเสียงดัง
กับความประทับใจ อย่างแรกและอย่างสำคัญเลยคือ พบว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากที่ไม่ ซื้อ the new c class และมาซื้อ E class แทน เพราะหากวันนี้ออก c class มาคงได้แค่ความสวยอย่างเดียว ครั้นพอจะให้คนอื่นนั่งด้วยก็คงไม่ได้กว้างขวางเท่า E class สรุปคืออาจจะถูกใจแค่เราคนเดียวและที่สำคัญ เราเริ่มเบื่อแล้วละซิ
ความประทับใจภายนอกของ E class ตัวนี้ที่ชอบที่สุดคือมันเป็น model ที่สวยแบบ sport ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตระกูล E class และที่สำคัญมันใหญ่และมันทำให้คนในครอบครัวเรารู้สึกสบายไปกับมัน สำหรับภายนอกนอกจากความ sport แล้ว มันทำให้เรารู้สึกดูภูมิฐานแม้ว่าเราจะเป็นคนขับ และให้คนที่บ้านนั่งด้านหลังตลอด เรียกว่าที่นั่งฝั่งข้างคนขับเอาไว้วางของอย่างเดียว ทำให้เราเปรียบเหมือนเป็นคนขับรถให้ผู้บริหาร แต่เรากับรู้สึกดีกับ feeling นี้แฮะ แบบคนนอกมอง เหมือนเป็นรถผู้บริหารดีๆนั่นเอง นอกจากนั้นสีที่เราเลือกก็เป็นสีใหม่ (tenorite grey) ทำให้เหมือนได้รถ model ใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร
กับการขับขี่ เนื่องจากเราไม่ใช่เป็นพวกบ้าพลัง เลยไม่ค่อยสนใจ เราเลยไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ว่ารถแรงไหม ขับสนุกหรือเปล่าแต่โดยรวมเราว่าเหยียบนิดเดียวไป 140 แล้วพวงมาลัยก็ไม่ หนักเกินไปขับสบายดี
กับภายใน คล้าย E coupe ของเรามาก แต่ชอบตรง option ของความเป็นรถ 4 ประตูมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แอร์ที่เสา B เพิ่มให้คนนั่งหลัง,ม่านข้าง,ม่านหลัง,panoramic sunroof และ แสง ambient ซึ่งล้วนแต่เป็น option ที่อำนวยความสะดวกและเพิ่มความหรูหราให้กับคนนั่งหลังทั้งนั้น ซึ่งโดนใจเรามากเมื่อเอามารับใช้คนในครอบครัวเรา ประกอบกับเราว่า จริงๆแล้ว option ภายในของ the new c class เผลอๆน้อยกว่า c class ตัวเก่าเราด้วยซ้ำ เช่น ช่องแอร์ ด้านหลังไม่สามารถปรับอุณภูมิได้ ยิ่งถ้ามาเทียบกับ E class แล้วเราว่าเหมือนรถคนละฐานะเลย ทั้งที่ เป็น the new c class ส่วนเรื่องความสวยงาม เราว่าไม่ต่างกันมากไม่รู้เป็นเพราะเราดู the new c class บ่อยไปหรือเปล่า คือเราว่า สวยนะแต่ ไม่ได้สวยไปกว่า E class ตัวนี้เท่าไหร่เลย ทำให้ยิ่งตอกย้ำความคิดที่ว่า คิดถูกแล้วที่มาเอา E class
ทั้งหมดก็เป็นความเห็นเรานะจากการที่นั่งดูรถ 2 รุ่นนี้มาทุกวัน ใครเห็นต่างอย่างไรร่วมออกความเห็นได้จ้า
ความรู้สึกกับ ความภูมิใจกับ E class จ้า
พอวันที่สอง ไปเดินในงานเห็นรถสี tenorite grey สีสวยโดนใจมาก เลยขอ sale เปลี่ยนสีเลยทั้งสองคัน หลังจากนั้นวันๆก็เอาแต่นั่งดู youtube รวมทั้งรูป c class ไปทุกวันประกอบกับลองไปนั่งดู เอะทำไมมันเล็กกว่า c class คันเดิมของเราหว่า ทั้งที่ spec บอกว่าใหญ่กว่าพอพาคนอื่นไปนั่งทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าเล็ก หลังจากดูไปทุกวันจนวันหนึ่งไปเห็นคันที่จอดอยู่ในห้างไปเดินรอบๆดู กับเกิดความรู้สึก เบื่อแล้วอะ เหตุผลจึงขึ้นมาแทน นี่เราจะซื้อ c class ทั้งที่มี c class เดิมอยู่แล้วมาทำไมเนี่ย และมันก็ไม่ได้ใหญ่กว่าเดิมด้วย รวมทั้งคันเก่าก็ยังใหม่อยู่
ก็เลยโทรไปขอถอนจอง และ ขอเปลี่ยนเป็น E class แต่เอารุ่น top เลย (E 300) เพราะภายในรุ่น เบนซิน E200 เป็นลายไม้ไม่สวยเอาซะเลย รวมทั้ังล้อก็ไม่สวยด้วย แม้ว่าจะต้องเอา เป็นรุ่น E300 ที่เป็น hybrid แต่ก็เอาวะ ไหนๆ E class ก็ออกมานานแล้ว น่าจะเสถียรแล้วน่า ประกอบกับ option เพียบ และส่วนลดสุดยอดมากๆ และคิดว่าที่บ้านเองก็ยังไม่มีรถ 4 ประตูที่มีขนาดใหญ่ให้ที่บ้านนั่งกัน (แม่บ่นมากว่าไม่อยากนั่ง E coupe เลยเวลาที่ C class ตัวเก่าไม่อยู่ เนื่องจากขึ้นลงลำบากมาก)
กับคำถามที่ว่ากลัวตกรุ่นไหม ตัวเองพยายามหาข้อมูลดูก็พบว่า รุ่นนี้น่าจะอยู่ได้ 1.5-2 ปีกว่ารุ่นประกอบนอกจะเข้าไทย (เข้ามาให้ซื้อนะ ไม่ใช่เปิดตัว) รวมๆกับเวลาที่ต้องรอรุ่นประกอบใน และรอให้ทุกอย่างเสถียร ร่วมด้วย E class ตัวนี้ซื้อในราคาที่ไม่แพงมาก (ได้ส่วนลดและของแถมแบบสุดๆ) รวมทั้ง การซื้อเเบบ บอลลูนตอนนี้ มีโปร ประกันชั้น 1 ฟรีไปเลย 5 ปีก็กะว่าเอาไว้หมดบอลลูนแล้วเปลี่ยนตอนนั้นน่าจะเหมาะที่สุด และราคาตอนนี้ก็สุดยอดจริงๆของความคุ้มค่า จึงคิดว่าตอนนี้จึงเป็นช่วงที่ควรซื้อมากที่สุด
กับคำถามเรื่อง hybrid ที่กังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องจังหวะการสลับกันระหว่าง ไฟฟ้า และ น้ำมัน ส่วนตัวไม่รู้สึกเลยเเละคิดว่าเป็นอารมณ์เหมือนเรา start เครื่องเท่านั้นเอง ไม่ใช่การกระชากอย่างที่เคยเข้าใจ นอกนั้นการขับก็เหมือนขับ c class ตัวเก่า แต่เพียงมีบางช่วงที่เงียบมาก และในขณะเดียวกัน ตอน น้ำมันทำงาน มันไม่ได้ดังเลยเมื่ออยู่ภายในรถอย่างที่กังวลกันว่า น้ำมัน diesel จะเสียงดัง
กับความประทับใจ อย่างแรกและอย่างสำคัญเลยคือ พบว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากที่ไม่ ซื้อ the new c class และมาซื้อ E class แทน เพราะหากวันนี้ออก c class มาคงได้แค่ความสวยอย่างเดียว ครั้นพอจะให้คนอื่นนั่งด้วยก็คงไม่ได้กว้างขวางเท่า E class สรุปคืออาจจะถูกใจแค่เราคนเดียวและที่สำคัญ เราเริ่มเบื่อแล้วละซิ
ความประทับใจภายนอกของ E class ตัวนี้ที่ชอบที่สุดคือมันเป็น model ที่สวยแบบ sport ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตระกูล E class และที่สำคัญมันใหญ่และมันทำให้คนในครอบครัวเรารู้สึกสบายไปกับมัน สำหรับภายนอกนอกจากความ sport แล้ว มันทำให้เรารู้สึกดูภูมิฐานแม้ว่าเราจะเป็นคนขับ และให้คนที่บ้านนั่งด้านหลังตลอด เรียกว่าที่นั่งฝั่งข้างคนขับเอาไว้วางของอย่างเดียว ทำให้เราเปรียบเหมือนเป็นคนขับรถให้ผู้บริหาร แต่เรากับรู้สึกดีกับ feeling นี้แฮะ แบบคนนอกมอง เหมือนเป็นรถผู้บริหารดีๆนั่นเอง นอกจากนั้นสีที่เราเลือกก็เป็นสีใหม่ (tenorite grey) ทำให้เหมือนได้รถ model ใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร
กับการขับขี่ เนื่องจากเราไม่ใช่เป็นพวกบ้าพลัง เลยไม่ค่อยสนใจ เราเลยไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ว่ารถแรงไหม ขับสนุกหรือเปล่าแต่โดยรวมเราว่าเหยียบนิดเดียวไป 140 แล้วพวงมาลัยก็ไม่ หนักเกินไปขับสบายดี
กับภายใน คล้าย E coupe ของเรามาก แต่ชอบตรง option ของความเป็นรถ 4 ประตูมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แอร์ที่เสา B เพิ่มให้คนนั่งหลัง,ม่านข้าง,ม่านหลัง,panoramic sunroof และ แสง ambient ซึ่งล้วนแต่เป็น option ที่อำนวยความสะดวกและเพิ่มความหรูหราให้กับคนนั่งหลังทั้งนั้น ซึ่งโดนใจเรามากเมื่อเอามารับใช้คนในครอบครัวเรา ประกอบกับเราว่า จริงๆแล้ว option ภายในของ the new c class เผลอๆน้อยกว่า c class ตัวเก่าเราด้วยซ้ำ เช่น ช่องแอร์ ด้านหลังไม่สามารถปรับอุณภูมิได้ ยิ่งถ้ามาเทียบกับ E class แล้วเราว่าเหมือนรถคนละฐานะเลย ทั้งที่ เป็น the new c class ส่วนเรื่องความสวยงาม เราว่าไม่ต่างกันมากไม่รู้เป็นเพราะเราดู the new c class บ่อยไปหรือเปล่า คือเราว่า สวยนะแต่ ไม่ได้สวยไปกว่า E class ตัวนี้เท่าไหร่เลย ทำให้ยิ่งตอกย้ำความคิดที่ว่า คิดถูกแล้วที่มาเอา E class
ทั้งหมดก็เป็นความเห็นเรานะจากการที่นั่งดูรถ 2 รุ่นนี้มาทุกวัน ใครเห็นต่างอย่างไรร่วมออกความเห็นได้จ้า