กว่า 22 ปีจากภาคแรก หรือห่างหายไปนาน 15 ปีก่อนจะกลับมาใหม่ สวนสนุกถูกเปลี่ยนมือไปให้ Masrani Global Corporation บริหารแทน ในชื่อ ‘Jurassic World’
หนังพุ่งตรงไปที่เรื่องราวของครอบครัวๆ หนึ่งที่พ่อแม่กำลังจะหย่าร้าง แต่ส่งลูกชายพี่น้องสองคนไปเที่ยวสวนสนุกจูราสสิค เวิลด์ โดยฝากฝังให้ญาติเป็นผู้ดูแล เด็กทั้งสองคนที่ไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่นัก ต้องมาอยู่ร่วมกันในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและแสนอันตราย เมื่อพวกเขาสนุกเพลินจนไม่สนใจคำประกาศปิดการแสดงทั้งสวนสัตว์
ครั้งนี้มีสัตว์ยักษ์หลุดออกจากกรง วิ่งไล่อาละวาดสร้างความโกลาหลอลหม่านให้กับจูราสสิค เวิลด์ อีกเช่นเคย และครั้งนี้ มีทีมงานในสวนสนุกแห่งนี้มีเก่งกาจขนาดสื่อสารกับแร็พเตอร์ได้ เขาไม่ใช่ใคร เขาคือ สตาร์ลอร์ด เอ้ย โอเวน (Chris Pratt) ความสามารถอันนี้เหมือนมีนัยยะแอบแฝงบางอย่างซึ่งดูท่าทางจะมาจากกลุ่มอำนาจเก่าอย่างอินเจ็น
ปมดราม่าของตัวละครในครอบครัว หรือแม้แต่ปมความหลังของโอเวนและแคลร์ ก็ไม่ถูกนำมาบอกเล่าได้มากและลึกพอจนผู้คนจะอินได้ เพราะหนังดูจะให้ความสำคัญกับไดโนเสาร์เสียมากกว่า ในภาคนี้ อุดมไปด้วยไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งพันธุ์ใหม่ๆ ที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมกันขึ้นมาด้วย
เห็นได้ชัดว่า Colin Trevorrow ผกก. ของ ‘Jurassic World’ เรื่องนี้พยายามอย่างยิ่งที่จะคารวะในสิ่งที่ Steven Spielberg เคยทำเอาไว้ในสองภาคแรก ด้วยรูปแบบของโครงสร้างเรื่องที่ใกล้เคียงกันมาก ต่างกันที่ภาคนี้มีไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ พร้อมสรรพทั้งเทคโนโลยีในการสร้างภาพ
แต่สิ่งที่ด้อยกว่า คือมันไม่ใหม่ไปเสียแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เคยดูไตรภาคก่อนจนจำติดตา
Jurassic World |
http://bit.ly/1GfbiFk
[SR] ## ความเห็นหลังชม -- Jurassic World -- ภาคต่อที่ย่ำรอยเดิม ##
หนังพุ่งตรงไปที่เรื่องราวของครอบครัวๆ หนึ่งที่พ่อแม่กำลังจะหย่าร้าง แต่ส่งลูกชายพี่น้องสองคนไปเที่ยวสวนสนุกจูราสสิค เวิลด์ โดยฝากฝังให้ญาติเป็นผู้ดูแล เด็กทั้งสองคนที่ไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่นัก ต้องมาอยู่ร่วมกันในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและแสนอันตราย เมื่อพวกเขาสนุกเพลินจนไม่สนใจคำประกาศปิดการแสดงทั้งสวนสัตว์
ครั้งนี้มีสัตว์ยักษ์หลุดออกจากกรง วิ่งไล่อาละวาดสร้างความโกลาหลอลหม่านให้กับจูราสสิค เวิลด์ อีกเช่นเคย และครั้งนี้ มีทีมงานในสวนสนุกแห่งนี้มีเก่งกาจขนาดสื่อสารกับแร็พเตอร์ได้ เขาไม่ใช่ใคร เขาคือ สตาร์ลอร์ด เอ้ย โอเวน (Chris Pratt) ความสามารถอันนี้เหมือนมีนัยยะแอบแฝงบางอย่างซึ่งดูท่าทางจะมาจากกลุ่มอำนาจเก่าอย่างอินเจ็น
ปมดราม่าของตัวละครในครอบครัว หรือแม้แต่ปมความหลังของโอเวนและแคลร์ ก็ไม่ถูกนำมาบอกเล่าได้มากและลึกพอจนผู้คนจะอินได้ เพราะหนังดูจะให้ความสำคัญกับไดโนเสาร์เสียมากกว่า ในภาคนี้ อุดมไปด้วยไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งพันธุ์ใหม่ๆ ที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมกันขึ้นมาด้วย
เห็นได้ชัดว่า Colin Trevorrow ผกก. ของ ‘Jurassic World’ เรื่องนี้พยายามอย่างยิ่งที่จะคารวะในสิ่งที่ Steven Spielberg เคยทำเอาไว้ในสองภาคแรก ด้วยรูปแบบของโครงสร้างเรื่องที่ใกล้เคียงกันมาก ต่างกันที่ภาคนี้มีไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ พร้อมสรรพทั้งเทคโนโลยีในการสร้างภาพ
แต่สิ่งที่ด้อยกว่า คือมันไม่ใหม่ไปเสียแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เคยดูไตรภาคก่อนจนจำติดตา
Jurassic World | http://bit.ly/1GfbiFk