...สวัสดีครับ...
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวท่องเที่ยวกระทู้แรกของผมครับ หลังจากแอบซุ่มอ่านและติดตามมานาน เอาล่ะ! ในที่สุดก็มีโอกาสได้รีวิวของตัวเองสักที ตื่นเต้นมากๆครับ ถ้าข้อมูลผิดพลาดหรือตกหล่นอย่างไร ผมต้องขออภัยด้วยน้าค๊าบบ
เพื่ออัธรสในการเสพกระทู้ เส้นทางรักสายเยอรมันโรเมนติกโรด นี้ ผมขอแนะนำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฟังเบาๆคลอตามไปด้วยครับ
ไปไงมาไงถึงได้มาจบที่ “บาร์เยิร์น”
เริ่มต้นการรีวิวการเดินทาง สู่ดินแดนเยอรมันนีใต้ "บาเยิร์น" (รัฐที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมัน ตั้งอยู่ทางตอนใต้มีชายแดนติดกับประเทศออสเตรียครับ) ด้วยกระเป๋าสองใบที่เต็มไปด้วยข้าวของอันพะลุงพะลังและแบ็คแพ็คใบเขียว อันแสนสาหัดหนักเอาการ อันที่จริงนอกจากทีมฟุตบอลบาร์เยินมิวนิก (ที่ไม่ค่อยจะรู้จักเท่าไหร่นัก) และปราสาทนอยชวานสไตล์ ที่ปรากฎให้เห็นก่อนดูการ์ตูนดิสนี่ตอนเด็กๆแล้ว ผมก็แทบจะไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับดินแดนแถบนี้อีกเลย เอาละ ไหนๆก็ว่างตั้ง 1 สัปดาห์ โดยกมลสัญดารส่วนตัวแล้ว เป็นไปไม่ได้แน่ๆที่ผมจะอยู่ในห้องโดยไม่ออกไปเที่ยวไหนเลย ประกอบกับเพื่อนชาวเยอรมันที่รู้จักกันตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา เขาคะยั้นคะยอให้มาเที่ยว ตอนแรกๆก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะไปสักเท่าไหร่ครับ แต่ด้วยข้อเสนอที่เพื่อนบอกผมว่า บ้านเขาทำธุรกิจโรงแรม มาพักฟรีได้เลย ห๊ะ!! ฟรี!! ขยี้ตาและถามกลับไปด้วยความแน่ใจอีกทีว่า ฟรี หมดเลยหรอ?? ใช่เลย ฟรี!! อื้อหื้อ วินาทีนั้น ผมรีบเปิดปฎิทินเช็ควันหยุดเลยครับ ฟรี ฟรี ฟรี ลอยเต็มหัว เอาละวะ! พรึมพรำกับตัวเองด้วยเสียงถอนหายใจดัง " ฝึด " ไหนๆก็ได้ที่พักฟรีแล้ว ไปก็ไป (นี่ไม่ค่อยจะดีใจเห็นแก่ของฟรีเลย ฮ่าๆๆ)
8 วัน 7 คืน ไปที่ไหนบ้าง
การเดินทางครั้งนี้นอกจากจะมีเมืองมุนเช่น(มิวนิก) และปราสาทดิสนี่ (นอยชวานไสตล์) เป็นจุดหมายปลายทางหลักแล้ว ผมยังมีเส้นทางเยอรมันโรแมนติดโรดเป็นอีกจุดหมายปลายทางด้วย
ไหนๆก็หยุดเรียนตั้ง 10 วันทั้งที ขอไปเที่ยวให้คุ้มสักหน่อย ผมจึงรีบเปิดแผนที่และมาร์คเมืองที่อยากไป ได้ดังนี้ครับ
**เส้นสีม่วง : ตั๋วรถไฟทั่วไปเยอรมัน จองผ่านเว็บ ยิ่งจองเร็วราคายิ่งถูกครับ
**เส้นสีแดง : ตั๋ว Bayern Ticket
**เส้นสีเขียว : ตั๋วโดยสารของประเทศออสเตรีย
DAY 1 Venlo - Dusseldorf
Dusseldorf - Heidelberg Stay at Heidelberg
DAY 2 Heidelberg - Würzburg Stay at Würzburg
DAY 3 Würzburg - Rothenburg
Rothenburg - Munich - Salzburg Stay at Salzburg
DAY 4 Salzburg - Hallstatt Stay at Hallstatt
DAY 5 Hallstatt - Salzburg
Salzburg - Munich
Munich - Bad Wörishofen Stay at Bad Wörishofen
DAY 6 Bad Wörishofen - Fussen Stay at Bad Wörishofen
DAY 7 Bad Wörishofen - Munich
Munich - Dusseldorf Train city night line
Day 8 Dusseldorf - Venlo
*** อนึ่ง คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง เฮ้ยย ไม่ใช่ // ผมเริ่มต้นการเดินทางจากเมือง VENLO เมืองเล็กๆในประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองที่ผมอาศัยและร่ำเรียนหนังสือหนังหาอยู่ครับ ค่าใช่จ่ายตลอดทริป 20,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รวมค่าเครื่องบินจากเมืองไทยนะค๊าบผม แต่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกเดินทางด้วยรถไฟจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ***
การเดินทาง
อย่างที่ได้บอกตั้งแต่ต้นครับ การเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกใช้บริการรถไฟซะส่วนใหญ่ เพราะความสะดวกสบายและตรงต่อเวลา รวมถึงราคาที่ไม่แพงมาก และกำหนดการเดินรถที่แน่นอน (เอ๊ะ!! ไม่เสมอไป เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับในพาร์ทต่อไปครับ)
การเดินทางในรัฐบาเยิร์น ประเทศเยรมันนี ผมใช้บัตรบาเยิร์นครับ เป็นบัตรโดยสารประเภทกลุ่ม(ไม่เกิน 5 คน) ONE DAY ที่จะเดินทางไปไหน กี่รอบก็ได้ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ร่วมเดินทางครับ ยิ่งเดินทางหลายคนราคาก็จะยิ่งถูกลงครับผม แต่ใช้เดินทางได้เฉพาะในเขตรัฐบาเยิร์นของประเทศเยรมนนีเท่านั้น และต้องใช้บริการหลังเวลา 9.00 นาฬิกาในวัน จันทร์- ศุกร์ ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ สามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ
นอกจากนี้ บัตรโดยสาร Bayern Ticket สามารถใช้โดยสารกับรถบัส รถแทรม(รถราง) ได้อีกด้วย รวมถึง สามารถใช้โดยสารรถไฟของประเทศออสเตรีย ในเส้นทาง Munchen-Salzburg ได้อีกด้วย
สามารถซื้อบัตรออนไลน์ และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.bahn.com/i/view/overseas/en/prices/germany-regional/bavaria-ticket.shtml
หรือจะไปซื้อที่ตู้ ตามสถานีรถไฟก็ได้ครับ อย่าลืม Validate วันที่เราจะเดินทางด้วยนะครับ ถ้าแปลนไม่นิ่ง ผมแนะนำให้ซื้อที่ตู้วันต่อวันดีกว่าครับ
เมื่อได้บัตรรถไฟมาแล้ว สิ่งถัดไปที่ต้องเช็คคือ ตารางรถไฟครับผม ซึ่งสามารถเช็คตารางเดินรถได้ที่
http://www.bahn.com/i/view/overseas/en/index.shtml
หรือจะดาวโหลด APP DB Navigator (สำหรับรถไฟเยอรมัน) OBB Ticket (สำหรับรถไฟในออสเตรีย) และ OBB Scotty (สำหรับรอบรถบัสในออสเตรีย) ลงสมาร์ทโฟน เชครอบรถแบบเรียลไทม์เลยครับ
*** เพิ่มเติมเรื่องการจองตั๋วรถไฟนะครับ (จะกล่าวเฉพาะเส้นทางที่ผมรีวิวครับ) ***
อันดับแรก >>>> วางแผนวันเดินทาง และเมืองที่จะไปครับ
>> เข้าเว็บรถไฟเยอรมัน
http://www.bahn.com/i/view/overseas/en/index.shtml เลือกตรง Information & Booking
>> ใส่ข้อมูลเมืองต้นทาง และเมืองปลายทาง รวมถึงช่วงเวลาที่เราวางแผนจะเดินทางครับ
>> จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต วิซ่า หรือ paypal วิธีใดวิธีหนึ่งครับ
>> กรอกรายละเอียดส่วนตัว ที่สำคัญ E-mail อย่าผิดเด็ดขาดนะครับ เพราะเขาจะส่งตั๋ว E-ticket มาให้
>> ปริ๊นตั๋วจากไฟล์ PDF เก็บตัวให้ดีจนถึงวันเดินทาง
นอกจากตั๋วปกติที่จองระหว่างเมืองแล้ว รถไฟเยอรมันยังมีตั๋วประเภทต่างๆอีกครับ (เราต้องเช็คข้อมูล ว่าเลือกใช้ตั๋วแบบไหนจะประหยัดและคุ้มค่าที่สุด)
>>
Day ticket for German regional trains : เดินทางหนึ่งวันในประเทศเยอรมนี ไปที่ไหนก็ได้ ใช้กี่รอบก็ได้ภายในหนึ่งวัน ใช้ได้เฉพาะ รถไฟประเภท regional trains (RE, IRE, RB,S-Bahn) , ไม่สามารถใช้กับรถไฟความเร็วสูง ICE IC ได้ครับ ราคาเริ่มต้น 44 ยูโร
>>
The German Rail Pass เลือกจำนวนวันเดินทาง 3, 4, 5, 7 หรือ 10 วัน ในระยะเวลาหนึ่งเดือนได้ แบ่งเป็น เดินทางแบบไม่ติดต่อกัน กับเดินทางแบบติดต่อกันทุกวัน
>>
Regional day tickets : เดินทางหนึ่งวันในรัฐที่เราซื้อบัตร ไปที่ไหนก็ได้ ใช้กี่รอบก็ได้ในรัฐ ใช้ได้เฉพาะ รถไฟประเภท regional trains (RE, IRE, RB,S-Bahn) , ไม่สามารถใช้กับรถไฟความเร็วสูง ICE IC ได้ครับ ตัวอย่างเช่น บัตร Bayern Ticket ที่ผมใช้เดินทางในเส้นทางสีแดง ตามแผนที่ที่โชว์ข้างต้นครับ
ว่าด้วยเรื่องรถไฟ
รถไฟในประเทศเยอรมันนีหรือยุโรปนั้น มีหลายประเภทครับ ต้องดูดีๆ
>>> Intercity-Express (ICE)/ Intercity-Express (ICE) Sprinter รถไฟความเร็วสูงสัญชาติเยอรมัน หรูมาก ผมชอบมากๆเลยครับ (รอนั่ง รฟท ไม่รู้อีกกี่ปี หึหึ) ซึ่งรถไฟความเร็วสูงแบ่งเป็นแบบ
Intercity-Express (ICE) จะจอดเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ไม่กี่เมืองครับ
Intercity-Express (ICE) Sprinter จะจะตามสถานีรายทางเมืองต่างๆด้วยครับ
>>> The Intercity (IC) train and the Eurocity (EC) train ก็เหมือนกับรถ ICE ต่างกันตรงที่ความเร็ว IC เป็นรถไฟวิ่งระหว่างเมืองความเร็วปานกลางครับ
** รถไฟทั้งสองประเภทข้างต้น สามารถสำรองที่นั่งได้ เลือกได้ว่าจะนั่งชั้นไหนครับ แต่เวลาสำรองที่นั่งต้องจ่ายเงินเพิ่มประมาณ 4-6 ยูโรต่อที่นั่งครับ หากเราไม่ได้สำรองที่นั่ง เวลาขึ้นรถไฟ ต้องเดินหารที่นั่งว่างๆ ต้องดูดีๆด้วยนะครับ บางที่มันว่าง แต่มีคนจองไว้ ซึ่งเขาอาจจะขึ้นในสถานีถัดไปได้ สังเกตได้จากชื่อสถานี ที่โชว์บนชั้นเก็บของเหนือเก้าอี้ครับ จะนั่งก็ดูดีๆหน่อยน้า ไม่งั้นจะต้องเดินย้ายที่ไปมาเหมือที่ผมเจอมาแล้ว
>>> Regional-Express (RE)/Regionalbahn (RB)/S-Bahn รถไฟความเร็วธรรมดา ที่จอดทุกสถานี ความสะดวกสบายอาจสู้ ICE IC ไม่ได้ แต่เราไม่ต้องสำรองที่นั่งและราคาถูกกว่ามากครับ
** บัตรโดยสารประเภท Bayern Ticket สามารถใช้ได้กับรถประเภทนี้เท่านั้น
>>> City Night Line Train รถนอนครับ มีให้เลือกตั้งแต่ที่นั่ง, 4 เตียงในหนึ่งตู้ , 6 เตียงในหนึ่งตู้ และห้องส่วนตัวที่มีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวมอยู่ในตู้เลยครับ
ที่พัก
เนื่องจากยังเป็นนักเรียน และเน้นประหยัดไว้ก่อน ที่พักคงหนีไม่พ้น Hostel ครับ ผมเน้นโฮสเทลราคาประหยัด ทำเลดี อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและสถานีรถไฟ วิธีการเลือกโฮสเทล ส่วนใหญ่ก็ดูที่รีวิวและเรทเป็นหลักครับผม สามารถสำรองโฮสเทลได้ที่
http://www.hostelworld.com/
>>> เอาละ พอรู้คร่าวๆแล้ว ว่าเดินทางยังไง ไปไหนบ้าน ถ้าพร้อมแล้ว ก็ตามผมไปตะลุยเยอรมันใต้บนเส้นทางโรเมรติกกันเลยครับ <<<
ยังไม่ทันเริ่มต้นทริป จขกท. ก็หน้าตาอิดโรยไปซะแล้ว ฮ่าๆๆ
IG : RUSLEERUSLY
[CR] [CR] ขึ้นรถไฟไป บาเยิร์น บนเส้นทางรักสายเยอรมันโรเมนติกโรด [8 วัน 7 คืน ด้วยงบสุดประหยัด 20,000 บาท]
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวท่องเที่ยวกระทู้แรกของผมครับ หลังจากแอบซุ่มอ่านและติดตามมานาน เอาล่ะ! ในที่สุดก็มีโอกาสได้รีวิวของตัวเองสักที ตื่นเต้นมากๆครับ ถ้าข้อมูลผิดพลาดหรือตกหล่นอย่างไร ผมต้องขออภัยด้วยน้าค๊าบบ
เพื่ออัธรสในการเสพกระทู้ เส้นทางรักสายเยอรมันโรเมนติกโรด นี้ ผมขอแนะนำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เริ่มต้นการรีวิวการเดินทาง สู่ดินแดนเยอรมันนีใต้ "บาเยิร์น" (รัฐที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมัน ตั้งอยู่ทางตอนใต้มีชายแดนติดกับประเทศออสเตรียครับ) ด้วยกระเป๋าสองใบที่เต็มไปด้วยข้าวของอันพะลุงพะลังและแบ็คแพ็คใบเขียว อันแสนสาหัดหนักเอาการ อันที่จริงนอกจากทีมฟุตบอลบาร์เยินมิวนิก (ที่ไม่ค่อยจะรู้จักเท่าไหร่นัก) และปราสาทนอยชวานสไตล์ ที่ปรากฎให้เห็นก่อนดูการ์ตูนดิสนี่ตอนเด็กๆแล้ว ผมก็แทบจะไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับดินแดนแถบนี้อีกเลย เอาละ ไหนๆก็ว่างตั้ง 1 สัปดาห์ โดยกมลสัญดารส่วนตัวแล้ว เป็นไปไม่ได้แน่ๆที่ผมจะอยู่ในห้องโดยไม่ออกไปเที่ยวไหนเลย ประกอบกับเพื่อนชาวเยอรมันที่รู้จักกันตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา เขาคะยั้นคะยอให้มาเที่ยว ตอนแรกๆก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะไปสักเท่าไหร่ครับ แต่ด้วยข้อเสนอที่เพื่อนบอกผมว่า บ้านเขาทำธุรกิจโรงแรม มาพักฟรีได้เลย ห๊ะ!! ฟรี!! ขยี้ตาและถามกลับไปด้วยความแน่ใจอีกทีว่า ฟรี หมดเลยหรอ?? ใช่เลย ฟรี!! อื้อหื้อ วินาทีนั้น ผมรีบเปิดปฎิทินเช็ควันหยุดเลยครับ ฟรี ฟรี ฟรี ลอยเต็มหัว เอาละวะ! พรึมพรำกับตัวเองด้วยเสียงถอนหายใจดัง " ฝึด " ไหนๆก็ได้ที่พักฟรีแล้ว ไปก็ไป (นี่ไม่ค่อยจะดีใจเห็นแก่ของฟรีเลย ฮ่าๆๆ)
การเดินทางครั้งนี้นอกจากจะมีเมืองมุนเช่น(มิวนิก) และปราสาทดิสนี่ (นอยชวานไสตล์) เป็นจุดหมายปลายทางหลักแล้ว ผมยังมีเส้นทางเยอรมันโรแมนติดโรดเป็นอีกจุดหมายปลายทางด้วย
ไหนๆก็หยุดเรียนตั้ง 10 วันทั้งที ขอไปเที่ยวให้คุ้มสักหน่อย ผมจึงรีบเปิดแผนที่และมาร์คเมืองที่อยากไป ได้ดังนี้ครับ
**เส้นสีม่วง : ตั๋วรถไฟทั่วไปเยอรมัน จองผ่านเว็บ ยิ่งจองเร็วราคายิ่งถูกครับ
**เส้นสีแดง : ตั๋ว Bayern Ticket
**เส้นสีเขียว : ตั๋วโดยสารของประเทศออสเตรีย
DAY 1 Venlo - Dusseldorf
Dusseldorf - Heidelberg Stay at Heidelberg
DAY 2 Heidelberg - Würzburg Stay at Würzburg
DAY 3 Würzburg - Rothenburg Rothenburg - Munich - Salzburg Stay at Salzburg
DAY 4 Salzburg - Hallstatt Stay at Hallstatt
DAY 5 Hallstatt - Salzburg
Salzburg - Munich
Munich - Bad Wörishofen Stay at Bad Wörishofen
DAY 6 Bad Wörishofen - Fussen Stay at Bad Wörishofen
DAY 7 Bad Wörishofen - Munich
Munich - Dusseldorf Train city night line
Day 8 Dusseldorf - Venlo
การเดินทาง
อย่างที่ได้บอกตั้งแต่ต้นครับ การเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกใช้บริการรถไฟซะส่วนใหญ่ เพราะความสะดวกสบายและตรงต่อเวลา รวมถึงราคาที่ไม่แพงมาก และกำหนดการเดินรถที่แน่นอน (เอ๊ะ!! ไม่เสมอไป เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับในพาร์ทต่อไปครับ)
การเดินทางในรัฐบาเยิร์น ประเทศเยรมันนี ผมใช้บัตรบาเยิร์นครับ เป็นบัตรโดยสารประเภทกลุ่ม(ไม่เกิน 5 คน) ONE DAY ที่จะเดินทางไปไหน กี่รอบก็ได้ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ร่วมเดินทางครับ ยิ่งเดินทางหลายคนราคาก็จะยิ่งถูกลงครับผม แต่ใช้เดินทางได้เฉพาะในเขตรัฐบาเยิร์นของประเทศเยรมนนีเท่านั้น และต้องใช้บริการหลังเวลา 9.00 นาฬิกาในวัน จันทร์- ศุกร์ ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ สามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ
นอกจากนี้ บัตรโดยสาร Bayern Ticket สามารถใช้โดยสารกับรถบัส รถแทรม(รถราง) ได้อีกด้วย รวมถึง สามารถใช้โดยสารรถไฟของประเทศออสเตรีย ในเส้นทาง Munchen-Salzburg ได้อีกด้วย
สามารถซื้อบัตรออนไลน์ และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.bahn.com/i/view/overseas/en/prices/germany-regional/bavaria-ticket.shtml
หรือจะไปซื้อที่ตู้ ตามสถานีรถไฟก็ได้ครับ อย่าลืม Validate วันที่เราจะเดินทางด้วยนะครับ ถ้าแปลนไม่นิ่ง ผมแนะนำให้ซื้อที่ตู้วันต่อวันดีกว่าครับ
เมื่อได้บัตรรถไฟมาแล้ว สิ่งถัดไปที่ต้องเช็คคือ ตารางรถไฟครับผม ซึ่งสามารถเช็คตารางเดินรถได้ที่
http://www.bahn.com/i/view/overseas/en/index.shtml
หรือจะดาวโหลด APP DB Navigator (สำหรับรถไฟเยอรมัน) OBB Ticket (สำหรับรถไฟในออสเตรีย) และ OBB Scotty (สำหรับรอบรถบัสในออสเตรีย) ลงสมาร์ทโฟน เชครอบรถแบบเรียลไทม์เลยครับ
*** เพิ่มเติมเรื่องการจองตั๋วรถไฟนะครับ (จะกล่าวเฉพาะเส้นทางที่ผมรีวิวครับ) ***
อันดับแรก >>>> วางแผนวันเดินทาง และเมืองที่จะไปครับ
>> เข้าเว็บรถไฟเยอรมัน http://www.bahn.com/i/view/overseas/en/index.shtml เลือกตรง Information & Booking
>> ใส่ข้อมูลเมืองต้นทาง และเมืองปลายทาง รวมถึงช่วงเวลาที่เราวางแผนจะเดินทางครับ
>> จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต วิซ่า หรือ paypal วิธีใดวิธีหนึ่งครับ
>> กรอกรายละเอียดส่วนตัว ที่สำคัญ E-mail อย่าผิดเด็ดขาดนะครับ เพราะเขาจะส่งตั๋ว E-ticket มาให้
>> ปริ๊นตั๋วจากไฟล์ PDF เก็บตัวให้ดีจนถึงวันเดินทาง
นอกจากตั๋วปกติที่จองระหว่างเมืองแล้ว รถไฟเยอรมันยังมีตั๋วประเภทต่างๆอีกครับ (เราต้องเช็คข้อมูล ว่าเลือกใช้ตั๋วแบบไหนจะประหยัดและคุ้มค่าที่สุด)
>> Day ticket for German regional trains : เดินทางหนึ่งวันในประเทศเยอรมนี ไปที่ไหนก็ได้ ใช้กี่รอบก็ได้ภายในหนึ่งวัน ใช้ได้เฉพาะ รถไฟประเภท regional trains (RE, IRE, RB,S-Bahn) , ไม่สามารถใช้กับรถไฟความเร็วสูง ICE IC ได้ครับ ราคาเริ่มต้น 44 ยูโร
>> The German Rail Pass เลือกจำนวนวันเดินทาง 3, 4, 5, 7 หรือ 10 วัน ในระยะเวลาหนึ่งเดือนได้ แบ่งเป็น เดินทางแบบไม่ติดต่อกัน กับเดินทางแบบติดต่อกันทุกวัน
>> Regional day tickets : เดินทางหนึ่งวันในรัฐที่เราซื้อบัตร ไปที่ไหนก็ได้ ใช้กี่รอบก็ได้ในรัฐ ใช้ได้เฉพาะ รถไฟประเภท regional trains (RE, IRE, RB,S-Bahn) , ไม่สามารถใช้กับรถไฟความเร็วสูง ICE IC ได้ครับ ตัวอย่างเช่น บัตร Bayern Ticket ที่ผมใช้เดินทางในเส้นทางสีแดง ตามแผนที่ที่โชว์ข้างต้นครับ
ว่าด้วยเรื่องรถไฟ
รถไฟในประเทศเยอรมันนีหรือยุโรปนั้น มีหลายประเภทครับ ต้องดูดีๆ
>>> Intercity-Express (ICE)/ Intercity-Express (ICE) Sprinter รถไฟความเร็วสูงสัญชาติเยอรมัน หรูมาก ผมชอบมากๆเลยครับ (รอนั่ง รฟท ไม่รู้อีกกี่ปี หึหึ) ซึ่งรถไฟความเร็วสูงแบ่งเป็นแบบ
Intercity-Express (ICE) จะจอดเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ไม่กี่เมืองครับ
Intercity-Express (ICE) Sprinter จะจะตามสถานีรายทางเมืองต่างๆด้วยครับ
>>> The Intercity (IC) train and the Eurocity (EC) train ก็เหมือนกับรถ ICE ต่างกันตรงที่ความเร็ว IC เป็นรถไฟวิ่งระหว่างเมืองความเร็วปานกลางครับ
** รถไฟทั้งสองประเภทข้างต้น สามารถสำรองที่นั่งได้ เลือกได้ว่าจะนั่งชั้นไหนครับ แต่เวลาสำรองที่นั่งต้องจ่ายเงินเพิ่มประมาณ 4-6 ยูโรต่อที่นั่งครับ หากเราไม่ได้สำรองที่นั่ง เวลาขึ้นรถไฟ ต้องเดินหารที่นั่งว่างๆ ต้องดูดีๆด้วยนะครับ บางที่มันว่าง แต่มีคนจองไว้ ซึ่งเขาอาจจะขึ้นในสถานีถัดไปได้ สังเกตได้จากชื่อสถานี ที่โชว์บนชั้นเก็บของเหนือเก้าอี้ครับ จะนั่งก็ดูดีๆหน่อยน้า ไม่งั้นจะต้องเดินย้ายที่ไปมาเหมือที่ผมเจอมาแล้ว
>>> Regional-Express (RE)/Regionalbahn (RB)/S-Bahn รถไฟความเร็วธรรมดา ที่จอดทุกสถานี ความสะดวกสบายอาจสู้ ICE IC ไม่ได้ แต่เราไม่ต้องสำรองที่นั่งและราคาถูกกว่ามากครับ
** บัตรโดยสารประเภท Bayern Ticket สามารถใช้ได้กับรถประเภทนี้เท่านั้น
>>> City Night Line Train รถนอนครับ มีให้เลือกตั้งแต่ที่นั่ง, 4 เตียงในหนึ่งตู้ , 6 เตียงในหนึ่งตู้ และห้องส่วนตัวที่มีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวมอยู่ในตู้เลยครับ
ที่พัก
เนื่องจากยังเป็นนักเรียน และเน้นประหยัดไว้ก่อน ที่พักคงหนีไม่พ้น Hostel ครับ ผมเน้นโฮสเทลราคาประหยัด ทำเลดี อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและสถานีรถไฟ วิธีการเลือกโฮสเทล ส่วนใหญ่ก็ดูที่รีวิวและเรทเป็นหลักครับผม สามารถสำรองโฮสเทลได้ที่ http://www.hostelworld.com/
IG : RUSLEERUSLY