[SR] Once Upon A Time : เที่ยวญี่ปุ่น เกาะใต้ในฤดูใบไม้ร่วง#4

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอเล่าต่อเนื่องกันไปเลยดีกว่านะคะ ต่อจาก
"เที่ยวญี่ปุ่นเกาะใต้ในฤดูใบไม้ร่วง 3 (ภูเขาไฟอะโสะ,ศาลเจ้าดาไซฟุ)" http://ppantip.com/topic/33757136

เช้าวันนี้เราต้องออกเดินทางกันเช้าหน่อยค่ะ เพราะเมืองนางาซากิกับโรงแรมที่เราพักนั้นอยู่ค่อนข้างไกลกันพอควร

(ในภาพนี้หนึ่งเดาว่าคงเป็นอะโรมาของทางโรงแรม เพราะสังเกตเห็นว่ามีจานใส่ใบไม้แบบนี้วางอยู่บริเวณลอบบี้ ลองพิสูจน์กลิ่นก็หอมเย็นๆดีค่ะ แต่ไม่ทราบว่ามีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง ^^)

ข้างหลังเป็นที่จอดเรือ เสียดายมากที่เช้าวันนั้นฝนตก เราเลยไม่ได้ออกไปเก็บภาพสวยๆข้างนอกโรงแรมเลยค่ะ
หนึ่งกับสามปกติเวลาไปเที่ยวแบบนี้เราก็จะไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าค่ะ อิอิ ตื่นเช้าทุกวันเพื่อเก็บทุกๆบรรยากาศ

"เมืองนางาซากิ"ที่เรากำลังจะไปกันนั้นเป็นเมืองเก่าแก่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งอดีต เมืองนี้ถือเป็นเมืองท่าที่สำคัญมีการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนอารยธรรมที่โลกตะวันตกนำเข้ามาสู่ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งเชื่อว่าทุกท่านคงเคยได้ยินชื่อเมืองนางาซากิมาก่อนแน่ๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (9 สิงหาคม ค.ศ. 1945) เมืองนี้เป็นเมืองที่ถูกระเบิดนิวเคลียร์ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศญี่ปุ่น

ที่ "อะตอมมิคบอม" ยังคงอนุรักษ์อาคาร สิ่งก่อสร้างที่ถูกระเบิดในครั้งนั้นไว้ให้คนรุ่นหลังได้เป็นอนุสรณ์

จำลองเหตุการณ์ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์
วิหารที่ถูกระเบิดนิวเคลียร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากเมืองนางาซากิเป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่นในสมัยนั้น มีอู่ต่อเรือรบขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายในการทิ้งบอม แต่สภาพอากาศไม่อำนวย ทำให้การทิ้งบอมผิดตำแหน่ง มาลงที่วิหารแห่งนี้ค่ะ

ข้างหลังหนึ่งคือระเบิดที่เค้าเรียกว่า fat man

ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้นำเสนอให้คนรุ่นหลังได้ดูว่าผลของสงครามไม่ได้ทำให้อะไรดีเลย

ยังคงมีการพับนกกระดาษจนถึงปัจจุบัน


และมีการสร้างสวนสันติภาพขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (สงครามมหาเอเชียบูรพา) อนุเสาวรีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสันติภาพและความโหดร้ายของสงคราม

โชคดีมากค่ะที่เมื่อออกจากอะตอมมิคบอม มาที่สวนสันติภาพ (ซึ่งเป็นสถานที่กลางแจ้ง) ฝนก็หยุดตกเพื่อให้เราได้เก็บภาพที่สวนแห่งนี้กันได้

ที่สวนแห่งนี้มีคุณลุงหนึ่งในสามของผู้รอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ครั้งนั้น ได้ทำหน้าที่เล่าเหตุการณ์ให้พวกเราได้ฟัง มีสมาชิกทริปท่านนึงถามถึงสาเหตุที่คุณลุงและอีกสองท่านผู้รอดจากภัยระเบิดนิวเคลียร์ว่ารอดมาได้อย่างไร คุณลุงบอกว่าถูกนำไปหลบภัยอยู่ใต้ดิน (อันนี้คุณไกด์เสื้อเหลืองแปลให้ฟังอีกทีค่ะ อิอิ)

จากนั้นเราก็มาทานมื้อเที่ยงกันค่ะ อิ่มมื้อเที่ยงกัน เราก็เดินย่อยอาหารกันไป "กลัฟเวอร์การ์เด้น" ซึ่งระหว่างทางเป็นร้านค้าขายสินค้า OTOP (ถูกใจหนึ่งกะสามมากกกกค่ะ เดินไม่มีเหนื่อย อิอิ)


หนึ่งชอบตรงนี้ค่ะ ถึงแม้สถานที่ท่องเที่ยวเค้าจะเป็นภูเขา เค้ายังทำทางขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ และสำหรับรถเข็ญอีกด้วยค่ะ

นกพิราบที่นี่ชอบกินอาหารปลาค่ะ อิอิ

กลัฟเวอร์การ์เด้น (บ้านสาวเครือฟ้าญี่ปุ่น) เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว อายุ 100 ปี ตกแต่งด้วยสนอย่างงดงาม

ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นอ่าวและท่าเทียบเรือ

เจ้าของสถานที่แห่งนี้คือ โธมัส กลัฟเวอร์ พ่อค้าชาวอังกฤษที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ญี่ปุ่น ตกหลุมรักสาวญี่ปุ่น จนเป็นแรงบันดาลใจให้นำไปสร้างเป็นบทประพันธ์เรื่อง มาดามบัตเตอร์ฟลาย ที่โด่งดังไปทั่วโลกค่ะ


ที่นี่เค้ามีเทศกาลคล้ายๆบ้านเราด้วยค่ะ มีการประกวดเรือพระ (ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร แต่หนึ่งเห็นว่าคล้ายๆเรือพระบ้านเราค่ะ)

สำหรับตอนที่ 4 นี้ขอจบที่กลัฟเวอร์การ์เด้น นะคะ บันทึกหน้าหนึ่งและสามจะพาไปอาบทรายร้อนเพื่อสุขภาพกันค่ะ
ชื่อสินค้า:   นางาซากิ,อะตอมมิคบอม,สวนสันติภาพ,กลัฟเวอร์การ์เด้น
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่