หากนักจิตวิทยา นักวิทยาศาสตร์ ทำการทดลองเกี่ยวกับการเจริญสติจนสามารถสรุปวิธีการเป็นภาษาที่มนุษย์ยุคนี้เข้าใจได้ ..

ปัจจุบันนี้พุทธแบบ Original Version by พระพุทธเจ้านั้นมิได้เป็นที่นิยมโดยชาวพุทธจำนวนมาก (แปลกไหมขอรับ)
เพลอๆ ชาวพุทธจำนวนมากอาจไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร อะไรคืออริยสัจสี่ อะไรคือวิปัสสนา ...

ชาวพุทธจำนวนมากหลงไปกับพุทธนิยาย เพ้อไปกับเรื่องราวพิศดารเหนือโลกจนเข้าใจไปว่า การสักยันต์ การครอบครู การเอาหญ้าคาอาบน้ำประปาฟาดลงกระบาลคน การแก้ผ้าตัดกรรม การโชว์นั่งสมาธิในกะทะที่เต็มไปด้วยน้ำเดือด ตุ๊กตาคุณตาคุณยาย/กุมารทอง/ตุ๊กตาม้าลาย การติดสติ๊กเกอร์ชื่อวัดหลังรถ นั้นคือพุทธ!

มีหลายสาเหตุที่ชาวพุทธจำนวนมากไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับพุทธแบบ Original Version หนึ่งในสาเหตุนั้นคือเพราะไม่เคยปฏิบัติ ไม่เคยได้เจริญสติ และแน่นอนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิธีการเจริญสติในตำราหรือคัมภีร์นั้นยากที่จะเข้าใจยิ่งขอรับ

ภาษานั้นแปลแล้วแปลอีก แม้แปลมาเป็นภาษาไทยมาแล้วก็ตามแต่เวลาอ่านก็ยังต้องแปลไทยให้เป็นไทยอีกรอบ
ทุกวันนี้นักปฏิบัติโดยส่วนใหญ่ก็มีอาจารย์/ผู้รู้ เป็นผู้อธิบายความหรือสอนให้เจริญสติ
น้อยนักที่อยู่ดีๆจะไปหยิบเอาคัมภีร์มานั่งศึกษาแล้วลงมือปฏิบัติด้วยตนเองโดยไม่มีครูอาจารย์สอนหรือแนะนำเลย
กระนั้นก็ตามครู/อาจารย์จำนวนมากก็ยังพบกับความยากลำบากในการสื่อสารสิ่งที่ตนเข้าใจให้กับชาวพุทธจำนสนมาก(โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่) เพราะอาจไม่ได้มีความสันทัดในเรื่องของการถ่ายทอด

ทั้งความยากของภาษาและความลึกซึ้งของกระบวนการการเจริญสติ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวพุทธจำนวนมากจึงโน้มเอียงไปหาสิ่งที่เข้าใจหรือทำได้ง่ายกว่าเช่น การทำบุญแบบไม่ลืมหูลืมตาจนถูกหลอกโดยมิรู้ตัว การพึ่งพิงแท่งเหล็กแท่งปูนหรือพระกำมะลอจนลืมไปว่าพระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

หากนักจิตวิทยา นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ทำการทดลองเกี่ยวกับการเจริญสติจนสามารถสรุปวิธีการปฏิบัติเป็นภาษาที่มนุษย์ยุคนี้เข้าใจได้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนา และชาวพุทธเป็นจำนวนมากขอรับ

ไข่แมว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่