ประสบการณ์สร้างธุรกิจเสื้อผ้า จากปากแม่ค้าโดยตรง (บทที่ 11 กว่า 2 ปีของชีวิตแม่ค้าออนไลน์)

อ่านย้อนหลังบทที่ 6-10 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/33765578

ตอนเด็กๆ อยากเป็น “ปุ๋ย พรทิพย์” ค่ะ ไม่ใช่เพราะรักเด็ก แต่คิดว่าสวยพอ โตขึ้นมาหน่อยเริ่มรู้ภาษาอยากเป็น”มากาเรต แธทเชอร์” เพราะเธอดูฉลาดรอบรู้ แก่ขึ้นมาอีกนิดส์ เริ่มมีจิตสำนึก รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อยากเป็น “แองเจลิน่า โจลี” เพราะเธอ รักเด็ก รักโลก และเป็นภรรยาแบรด พิท พออายุขึ้นเลขสาม ไม่อยากเป็นคนแล้ว อยากเป็นแบรนด์สินค้า อยากเป็น Marisara, ZARA of Thailand

อยากฉลาดต้องกินปลา เปิดตู้เย็นเอาปลาทอดที่เพิ่งซื้อมาเมื่อเที่ยงมาอุ่นไมโครเวฟ แล้วนั่งคิด ZARA นี่เขาเป็นแบรนด์ระดับโลกเลยนะ  เจ้าของคือคุณ Amancio Ortega เนี่ยรวยเป็นอันดับ 4 ของโลก พร้อมสรรพด้วยทรัพย์ศฤงคารมูลค่ามากถึง 67.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ให้กูเกิลแปลงเป็นเงินไทยถึงกับอึ้ง เลขศูนย์ต่อท้ายยาวไปถึงดาวอังคารเลยเจ้า 2176641600000.00 ว่าง่ายๆ คือกว่า 2-แสน-ล้าน-บาท บระเจ้า!!! หากถอนเงินเธอมากองคงจะถมคลองทั่วกรุงเทพได้เลย ตกใจตามมารยาท กลับมากินปลาที่เพิ่งอุ่น แล้วคิดแผนการต่อ คือ ณ จุดนี้ 2 แสนล้านนี่ความเป็นไปได้พอๆ กับที่จะไปแย่งสามี “แอเจลินา โจลี” แต่จะรวยต้องตั้งธง เอาล้านแรกให้แตกก่อน แต่ร้านตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว แถมยอดขายออนไลน์ในรอบปีที่ผ่านมาแต่ละเดือนอ่อนแรงแผ่วเบา แบบสายลมว่าว ณ สนามหลวงยามเย็น ยอดขายน้อยขนาดไหนขอโชว์ตัวเลขให้ดูกันตรงนี้



ตัวเลขในวงกลมสีฟ้าคือยอดนำส่ง ช่วงของการขายออนไลน์เริ่มนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2556 จนถึงสิ้นเดือนเมษายน ปี 2557 ส่งสินค้าทั้งหมด 4 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 850 ชิ้น ยอดขายสุทธิได้เพียง 177 ชิ้น ที่เหลือเกือบ 600 ชิ้น “ส่งคืน” อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ที่ขายไม่ออกเกิน 90 วันทั้งหมด “ส่งคืน” ตัวเลขในวงกลมสีแดงคือจำนวนที่ส่งคืนในแต่ละครั้ง ลมจับซิค่ะ อย่าว่าแต่ “ล้าน” แรกเลยขนาด “แสน” แรกยังยาก จุดนี้ไพร่พลเริ่มอ่อนแอ ถึงเวลาต้องหันกลับมาทบทวนกลยุทธ์การศึก เริ่มจากการนำคอลเลคชั่นทั้ง 4 มาเปรียบเทียบดีไซน์และลายผ้า ผลปรากฏว่า



คอลเลคชั่นที่ 1



คอลเลคชั่นที่ 2



คอลเลคชั่นที่ 3



คอลเลคชั่นที่ 4

ดีไซน์ที่ขายไม่ดีเลย คือ 1. แบบไม่เรียบร้อย คือ มีโป้ เปิดโหว่ แหวกหน้า โชว์หลัง ตามรูป



2. ลายพร้อย สีจัดจ้าน แบบเจ้าของฟินคนเดียว สวยคนเดียว ส่วนใหญ่ไม่ได้ขายเพราะมักได้รับเฉพาะคำนิยม แต่ลูกค้าน้อยคนจะกล้าใส่



แต่ดีไซน์ที่ขายดีมักมีส่วนประกอบดังนี้

1. ลายผ้าน่าสนใจ เช่น ลายกราฟิก, ลายดอกไม้สีหวาน, ผ้าลูกไม้, ผ้าพิมพ์ลายที่สีไม่รุนแรง



2. ดีไซน์ที่ใส่ได้หลายโอกาส เช่น ใส่ไปงานแต่งงานก็ได้ ใส่ไปทำงานในวันปกติก็ได้ คุ้มค่าไม่ใช่ซื้อใส่ครั้งเดียวแล้วหาโอกาสใส่ไม่ได้อีก



3. สีคลาสสิคขายดี กลับไม่ใช่สีดำ แต่เป็นสีโทนเขียวและสีน้ำเงิน อุต๊ะ งง +++

ประกอบกับช่วงนั้นเวปไซต์ Zalora ยังไม่ได้ทำสปอตโฆษณา คูลๆ (Cool) อย่าง Own The Night และโหมประชาสัมพันธ์ออกทีวีและสื่อต่างๆ ทำให้ยังเป็นที่รู้จักในวงจำกัด

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นอกเหนือจากดีไซน์ สี และความฮิตของช่องทางการจัดจำหน่ายแล้ว ถ้าสังเกตกราฟจะเห็น pattern บางอย่างซ้ำๆ คือ เดือนที่ยอดขายปลีกสูงที่สุดคือเดือนกรกฏาคม แต่ในทางกลับกันเดือนกันยายนเป็นเดือนที่ยอดขายปลีกต่ำที่สุด หลังจากนั้น ยอดขายจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นในเดือน 10, 11, 12, 1 ก่อนจะเริ่มตกอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ (ส่วนหนึ่งก็เพราะมีแค่ 28 วัน) แล้วจะขึ้นอีกครั้งในเดือนมีนาคม สลับกับยอดตกในเดือนเมษายน (แน่นอนสงกรานต์หยุดเยอะ สาดน้ำ และส่วนใหญ่ใช้เงินกับการไปเที่ยว) หลังจากนั้นยอดขายจะกลับมาไต่ระดับอีกทีในเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน จนถึงระดับสูงที่สุดอีกครั้งในเดือนกรกฏาคม ก่อนจะไล่ระดับลงมาแตะจุดต่ำสุดในเดือนกันยายน นั่นคือแนวโน้มที่เกิดขึ้นกับเรา

ปัญหามากมายต้องแก้ไข สต๊อกคืนมากมายจะทำยังไงในเมื่อร้านก็ไม่มีแล้ว Boost Post บนเฟสบุคเลย ณ จุดนั้น ลดราคา 50% จากที่เคยขาย 1799 บาทเหลือ ุ600-890 บาท บูธเมืองทอง, ไบเทค ได้ยินเมื่อไหร่ ต้องหอบของไปขาย แต่ช่วงปี 2556-2557 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจประเทศไทยเจอพิษราหู ใครมีอาชีพออกบูธจะรู้ว่าหลายๆ ครั้ง แค่ลมจะถอนหายใจยังไม่มี แม่ค้านั่งตบยุง ลดต่ำกว่าทุนก็ไม่มีความหมาย เพราะได้แต่นั่งถามกันไปกันมาว่า “ลูกค้าหายไปไหนหมด” จำได้เลยว่า 7 ใน 10 ครั้งที่ไป ขายได้แค่เฉพาะค่าเช่าบูธ อีก 1 ครั้ง ได้ไม่พอค่าบูธด้วยซ้ำ มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่กำไร 5 วันขายได้ยอดแสนกว่าบาท ฟรุคๆ เหมือนถูกหวย (ลองคิดดู ชั่วชีวิตนี้จะมีสักกี่ครั้ง) คราวนั้นขายได้เพราะ Hall ติดกันที่เมืองทองธานี มีประชุมพยาบาลทั่วประเทศ คนหนึ่งมาซื้อ ชอบใจ อีก 1 ชั่วโมงหนีสัมมนากลับมาช้อปใหม่แถมลากเพื่อนมาอีก 4-5 คน – เวลาลูกค้าบอกต่อนี่ชีวิตแม่ค้าดี๊ดีนะ

ถ้า 90% ออกบูธแล้วขาดทุน แถมเปิดร้านก็ขาดทุน ค้าขายในประเทศช่วงนี้หนทางดูยากลำบาก ไปที่ไหนก็ได้ยินแต่เสียงบ่น คร่ำครวญ ของพ่อค้าแม่ค้า แล้วจะมาวนเวียนอยู่ในกรอบ เปิดร้าน ออกบูธ เก็บร้านหน้าบูดเพราะขายไม่ออกอยู่ทำไม ต้องตั้งเข็มทิศใหม่ และทางออกที่คิดได้ตอนนั้นคือ “Marisara” ต้อง โก-อินเตอร์ ว่าแล้วก็กางแผนที่ออก Zalora มีอยู่ในอีก 8 ประเทศ คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ใกล้ที่สุดที่จัดการได้ แถมรายได้ประชากรเฉลี่ยต่อคน (GPP) สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน อับดับ 3 ของโลกจัดอันดับโดย IMF อับดับ 4 ของโลกจัดอันดับโดย World Bank อับดับ 5 ของโลกจัดอันดับโดย CIA แล้วจะช้าอยู่ใย ไปสิงคโปร์ ณ บัดนาว !



ข้อมูลอ้างอิงจาก Wikipedia

อ่านย้อนหลังบทที่
1-5 ได้ที่http://ppantip.com/topic/33763651
6-10 ได้ที่ http://ppantip.com/topic/33765578
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่