บันทึกไขคดีซี้ซั้วกับ อาเคจิ เคียวทาโร่: สืบจับยัด
รูปจาก
http://www.animagshop.com/
โคบายาชิ ชูจิ นักเรียน ม.ปลายธรรมดาๆ
อันที่จริงควรจะเป็นนักเรียนม.ปลายธรรมดาๆที่มีชีวิตอันสดใสในวัยรุ่นอันรุมล้อมไปด้วยเพื่อนๆวัยเดียวกันมากหน้าหลายตา ถ้าไม่ใช่เพราะหมอนั้น
“นายคือคนร้ายในคดีนี้”
ประโยคอันคุ้นชินจาก อาเคจิ เคียวทาโร่ เพื่อนสมัยเด็กบ้านฝั่งตรงข้าม ที่ตั้งแต่ขึ้น ม.ปลาย มาจู่ๆก็เหมือนโดนผีคลั่งนักสืบเข้าสิง เที่ยวไขคดีซี้ซั้วมั่วไปเลยกับเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆในโรงเรียนเสมอ นั้นไม่ใช่ปัญหาเท่าสิ่งที่จะตามมาเสมอ
“ทำไมอะไรๆก็ตูฟะ”
ใช่แล้ว โคบายาชิ ชูจิ จะกลายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีของเคียวทาโร่ เสมอ
แรกๆไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พอโดยบ่อยขึ้นๆ
จำนวนเพื่อนๆที่ไม่เข้ามาสุงสิงด้วยกลับมากขึ้นๆ
จนตอนนี้เหลือคนที่เรียกว่าเพื่อนได้แค่สามคน
“สารภาพมาซะ”อาเคจิ เคียวทาโร่ ที่อยากจะตัดเพื่อนให้เหลือ 2 ซะเหลือเกิน
“สมแล้วที่เป็นเคียวจัง”ทามามุระ ฟุมิ ผู้ยกย่องเคียวทาโร่ซะเหลือเกิน
“ฉันดูคุณชูผิดไป” อาเคจิ ฟุตาเอะ น้องสาวของเคียวทาโร่
อาจารย์ก็เอากับเค้าด้วยรึ บ้าเอ๊ย สุดท้ายผมก็ต้องพูดประโยคอันคุ้นชินตนเองออกมา
“เอาหลักฐานมาซิวะ”
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้รีวิว LN มากเพราะอยู่ในช่วงเก็บเงินครับ แต่ว่าไม่ได้อ่านนิยายก็เหมือนขาดอะไรไป ต้องมีซื้อมาบ้าง
เรื่องนี้ซื้อมาเพราะเป็นแนวไขคดีในโรงเรียนแบบจับยัดครับ ใช่แล้ว โคบายาชิ ชูจิ ผู้โดนยัดข้อหาตลอดเวลาจะต้องซักค้านให้หลุดจากการเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คือแก่นของเรื่องนี้เลยหรืออย่างน้อยก็แก่นของเล่ม1
แต่อย่าหวังว่าจะสืบแบบจริงจังเหมือนเรื่องอื่นๆนะครับ กระบวนการสืบนั้นใช้หลักการที่สรุปได้ง่ายๆคือ
อันมโนเป็นที่ตั้ง แถและดริฟเป็นฟังชั่น
สำหรับคนที่ชอบแนวนักสืบ ส่วนตัวแล้วเห็นว่า บันทอนปัญญาดีแท้
แต่ผมก็พบว่าช่วงท้ายของเรื่องนั้นคุ้มค่าพอที่จะอ่านส่วนบันทอนปัญญาช่วงแรกๆได้
สามารถเรียกได้ว่า แนวนักสืบ ได้เต็มปาก
สรุป ความเข้มข้นที่มาช้ามากของเรื่องนี้ทำให้ผมให้แค่ 3ดาวครับ
[CR] LN Review; บันทึกไขคดีซี้ซั้วกับ อาเคจิ เคียวทาโร่: สืบจับยัด
รูปจาก http://www.animagshop.com/
โคบายาชิ ชูจิ นักเรียน ม.ปลายธรรมดาๆ
อันที่จริงควรจะเป็นนักเรียนม.ปลายธรรมดาๆที่มีชีวิตอันสดใสในวัยรุ่นอันรุมล้อมไปด้วยเพื่อนๆวัยเดียวกันมากหน้าหลายตา ถ้าไม่ใช่เพราะหมอนั้น
“นายคือคนร้ายในคดีนี้”
ประโยคอันคุ้นชินจาก อาเคจิ เคียวทาโร่ เพื่อนสมัยเด็กบ้านฝั่งตรงข้าม ที่ตั้งแต่ขึ้น ม.ปลาย มาจู่ๆก็เหมือนโดนผีคลั่งนักสืบเข้าสิง เที่ยวไขคดีซี้ซั้วมั่วไปเลยกับเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆในโรงเรียนเสมอ นั้นไม่ใช่ปัญหาเท่าสิ่งที่จะตามมาเสมอ
“ทำไมอะไรๆก็ตูฟะ”
ใช่แล้ว โคบายาชิ ชูจิ จะกลายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีของเคียวทาโร่ เสมอ
แรกๆไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พอโดยบ่อยขึ้นๆ
จำนวนเพื่อนๆที่ไม่เข้ามาสุงสิงด้วยกลับมากขึ้นๆ
จนตอนนี้เหลือคนที่เรียกว่าเพื่อนได้แค่สามคน
“สารภาพมาซะ”อาเคจิ เคียวทาโร่ ที่อยากจะตัดเพื่อนให้เหลือ 2 ซะเหลือเกิน
“สมแล้วที่เป็นเคียวจัง”ทามามุระ ฟุมิ ผู้ยกย่องเคียวทาโร่ซะเหลือเกิน
“ฉันดูคุณชูผิดไป” อาเคจิ ฟุตาเอะ น้องสาวของเคียวทาโร่
อาจารย์ก็เอากับเค้าด้วยรึ บ้าเอ๊ย สุดท้ายผมก็ต้องพูดประโยคอันคุ้นชินตนเองออกมา
“เอาหลักฐานมาซิวะ”
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้รีวิว LN มากเพราะอยู่ในช่วงเก็บเงินครับ แต่ว่าไม่ได้อ่านนิยายก็เหมือนขาดอะไรไป ต้องมีซื้อมาบ้าง
เรื่องนี้ซื้อมาเพราะเป็นแนวไขคดีในโรงเรียนแบบจับยัดครับ ใช่แล้ว โคบายาชิ ชูจิ ผู้โดนยัดข้อหาตลอดเวลาจะต้องซักค้านให้หลุดจากการเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คือแก่นของเรื่องนี้เลยหรืออย่างน้อยก็แก่นของเล่ม1
แต่อย่าหวังว่าจะสืบแบบจริงจังเหมือนเรื่องอื่นๆนะครับ กระบวนการสืบนั้นใช้หลักการที่สรุปได้ง่ายๆคือ
อันมโนเป็นที่ตั้ง แถและดริฟเป็นฟังชั่น
สำหรับคนที่ชอบแนวนักสืบ ส่วนตัวแล้วเห็นว่า บันทอนปัญญาดีแท้
แต่ผมก็พบว่าช่วงท้ายของเรื่องนั้นคุ้มค่าพอที่จะอ่านส่วนบันทอนปัญญาช่วงแรกๆได้
สามารถเรียกได้ว่า แนวนักสืบ ได้เต็มปาก
สรุป ความเข้มข้นที่มาช้ามากของเรื่องนี้ทำให้ผมให้แค่ 3ดาวครับ