Pre Wedding ที่มีแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกับฉากในสตูดิโอ จะสวยจริงหรอ?

Pre Wedding ที่มีแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกับฉากในสตูดิโอ จะสวยจริงหรอ?

     สวัสดีครับผ่านมาครึ่งปีแล้วนะหนุ่มเอาประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาของนะหนุ่มของปีนี้มาแชร์ไอเดีย และเทคนิคเล็กๆน้อยๆมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ภาพพีเวดดิ้งในสตูดิโอ ลองนึกภาพตามครับไม่มีวิวสวยสุดอลังการณ์มาช่วยดึงดูดสายตา หรือมีวิวสวยๆมาช่วยให้ภาพดูดีขึ้น มีเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่อยู่ในเฟรมกับฉากกระดาษ มีแค่ฉากอยู่ในห้องโล่งๆ เราจะทำยังไงให้ภาพถ่ายพีเวดดิ้งของเราให้ดูน่าสนใจกว่าวิวสวยๆ

     อยากให้หลายๆคนตีโจทย์ของการถ่ายพีเวดดิ้งออกมาให้เน้นถึงอารมณ์ และความรู้สึกที่ผู้ชมได้รับรู้จากภาพถ่ายที่สื่อออกมา ง่ายๆเลยครับสามารถถ่ายรูปออกมาแล้วทำให้คนที่เห็นรูปแล้วยิ้มตามได้หรือเปล่า สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใยที่เค้ามีให้แก่กันได้หรือเปล่า โจทย์ดูเหมือนไม่ยาก และโจทย์ก็ดูเหมือนไม่ง่าย

     สิ่งที่สำคัญที่นะหนุ่มไม่เคยมองข้ามคือทำไมเจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่ละคู่เค้าถึงรักกัน การที่เราได้ฟังเรื่องราวประสบการณ์ความรักของลูกค้าแต่ละคู่สามารถทำให้เราเข้าใจความรักได้มากขึ้น เราสามารถเปลี่ยนการรับรู้ความรู้สึกของเค้าทั้งสองออกมาเป็นภาพถ่ายได้ง่ายมากขึ้นลองให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเปิดใจเล่าถึงเรื่องราวที่เค้าประทับใจ ที่เค้าเสียใจ ความชอบ ออกมาเป็นเรื่องราวให้เราฟัง

     ภาพถ่ายแต่ละภาพที่นะหนุ่มถ่ายออกมาถึงแม้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่ละคู่จะทำท่าโพสเดียวกันแต่อารมณ์ ความอบอุ่น และความรู้สึกของแต่ละคู่จะสื่อออกมาในภาพแตกต่างกันแน่นอน หลักๆเลยเราสามารถเข้าถึงใจลูกค้าแต่ละคู่ได้มากขนาดไหน ยิ่งรับรู้และเข้าถึงใจของลูกค้าได้มากเท่าไหร เรายิ่งถ่ายภาพออกมาให้แตกต่างออกมาได้มากเท่านั้น  

     คอนเซปงานของนะหนุ่มเน้นความเรียบง่าย สไลติงมีแม้กระทั่งเสื้อยืดอยู่บ้าน ชุดทำงาน ชุดนักศึกษา ใส่สูทผูกไทค์ หรืออลังกาณ์สุดก็แค่ชุดแต่งงานธรรมดาๆ เนื้องานเน้นความเป็นธรรมชาติของอารมณ์ การยิ้ม ยิ้มของคนเราก็มีหลายเลเวล นะหนุ่มขอเรียกว่าเลเวล เลเวลหนึ่งอาจจะอมยิ้ม เลเวลสองอาจจะอ้าปากยิ้มนิดๆ เลเวลสามยิ้มแก้มปริ หรือเลเวลสี่ยิ้มแก้มฉีก เราต้องเลือกใช้การยิ้มแต่ละเลเวลให้เหมาะกับภาพแตกละภาพที่เราตั้งใจจะสื่อสารออกมา ส่วนยิ้มแล้วมันไม่ใช่ว่ายิ้มถ้าไม่ยิ้มออกมาจากดวงตา ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าไม่ยิ้มออกมาจากตาต่อให้จะยิ้มแก้มฉีก รูปที่ออกมาก็ไม่ยิ้มตามแน่นอนครับ ยิ้มออกมาจากตาทำยังไง ง่ายๆครับนะหนุ่มจะให้ลูกค้ายิ้มออกมาจากใจผ่านออกมาทางดวงตา ลองให้เค้านึกถึงเรื่องราวที่ประทับใจ หรือเรื่องตลกที่เค้าทั้งสองได้พบเจอด้วยกันมา แม้กระทั้งเรื่องที่ทุกข์ที่สุดของเค้าทั้งคู่

     ส่วนความสวยงามของฟิกเกอร์ร่างกาย ช่างภาพหลายๆคนมองข้ามเรื่องฟิกเกอร์ร่างกายคน สัดส่วน สเกล แต่ละคนแตกต่างกัน สุดท้ายไม่ว่าจะคนอ้วน หรือคนผอม เค้าย่อมมีจุดที่ดูดีที่สุดของเค้าแน่นอนเพียงแต่เราต้องเข้าใจในเรื่องของร่างกายคน องศาตัว องศาหน้า แม้กระทั่งองศาแขนหรือขา ก้มหน้าเงยหน้า เพียงขยับแค่เล็กน้อยความสวยงามของร่างกายก็จะออกมาต่างกัน แต่ก็เป็นเรื่องยากถ้าเราได้เจอลูกค้าตอนที่ลูกค้ามาถ่าย นะหนุ่มแนะนำว่าให้ลูกค้าส่งรูปคู่ของลูกค้ามาหลายๆมุมให้เราดูก่อน พอได้รูปลูกค้ามาเราก็ต้องทำการวิเคราะห์ครับ คนแต่ละสเกลสามารถทำท่าโพสให้ดูดีได้ด้วยท่าโพสที่แตกต่างกัน อันนี้ต้องใช้การสังเกต และประสบการณ์เป็นอย่างมาก แต่เราสามารถศึกษาได้จากภาพพีเวดดิ้งได้ตามหน้าเว็บต่างๆได้ ถ้าใครพอสเก็ตรูปเป็นจะสามารถช่วยได้เยอะ สิทั้งนี้ทั้งนั้นสำคัญที่สุดครับแยกให้ได้ว่าอะไรคือใช้ และไม่ใช่ หลายคนอาจจะใช้เวลาเดินไปผิดทางกว่าจะหาทางออกเจอ
     
     เขียนมาซะยาวอ่านแล้วอาจจะงงๆบ้างไม่ว่ากันนะครับหวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆช่างภาพหลายๆคน นะหนุ่มมีภาพที่ถ่ายจากงานของนะหนุ่มมาให้เพื่อนๆได้ดูกันลองดูกันครับว่าดูแล้วหลายๆคนจะดูรูปไปแล้วยิ้มตามไปด้วยมั้ย
ขอบคุณครับ
นะหนุ่ม
























แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่