คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ขออนุญาตจัดกลุ่มให้ใหม่นะครับ
ตามที่ จขกท. เสนอมา จะมีน้ำหอมอยู่ 2 แนว ได้แก่
1. โทนสดชื่น
Armani - Acqua di Gio
Chanel - ALlure Homme Sport
L'Eau d'Issey Pour Homme
และ
2. โทนหวานอบอุ่น
Armani Code
Bvlgari BLV Pour Homme
ถ้าชอบโทนหวานๆ แนะนำให้เลือกระหว่าง Armani Code กับ BLV Pour Homme แต่ผมว่า Code คะแนนนำกว่า เพราะ BLV กลิ่นค่อนไปทางสบู่ๆ แต่ก็มีความหวานอบอุ่นอยู่ด้วย ส่วนความทนผมว่าพอๆกัน
จริงๆอยากให้พิจารณา One Million เพิ่มอีกตัว เพราะตัวนี้หวานแบบจริงจัง ติดทนและฟุ้งกำจายดียิ่งนัก
ส่วนโทนสดชื่น ผมว่าดีงามและเป็นที่นิยมทั้งสามตัว รักพี่เสียดายน้อง
Acqua di Gio กลิ่นสดชื่นแบบละมุนละไมเป็นเอกลักษณ์จนมีอีกหลายยี่ห้อทำกลิ่นเลียนแบบ แต่ความทนปานกลาง 7-9 ชั่วโมง
Allure Homme Sport หอมสดชื่นและติดโทนหวานในช่วงท้าย ติดทนและกระจายดีมากมาย คุ้มค่าเงิน
L'Eau d'Issey Pour Homme เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความสดชื่นของผลไม้ตระกูลส้ม ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างกลิ่นโทน Citrus-Floral-Woody จนได้มาซึ่งกลิ่นหอมสดชื่นเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับทุกโอกาส ให้ความรู้สึกสดชื่นแต่ก็ดูอบอุ่น ดมแล้วรู้สึกสงบ เรียบง่ายแต่ชัดเจน ที่สำคัญคือ ติดทนและกระจายตัวดีมากครับ
เพิ่มอีกนิดนึง สำหรับข้อเสียของ 3 ตัวนี้คือ อาจจะเกร่อไปสักนิด กลิ่นเป็นที่นิยมมากเนื่องจากความดีงามในเนื้อกลิ่นดังที่ได้กล่าวมาครับ
อาจจะลองหากลิ่นโทนสดชื่นตัวอื่นที่ไม่ฮิตเท่า แต่เนื้อกลิ่นและความทนก็ดีงามไม่แพ้กัน เช่น
Givenchy Blue Label กลิ่นสดชื่นสไตล์ Bvlgari Aqva ในเวอร์ชั่นที่ตัดความคาวทะเลออกไป เหลือไว้แต่กลิ่นหอมสดชื่น fruity-woody ใสๆ
Fan di Fendi Pour Homme Acqua กลื่นสดชื่นแบบน้ำผสมกลิ่นหนังบางๆ เห็นว่าติดทนใช้ได้ทีเดียว
ตามที่ จขกท. เสนอมา จะมีน้ำหอมอยู่ 2 แนว ได้แก่
1. โทนสดชื่น
Armani - Acqua di Gio
Chanel - ALlure Homme Sport
L'Eau d'Issey Pour Homme
และ
2. โทนหวานอบอุ่น
Armani Code
Bvlgari BLV Pour Homme
ถ้าชอบโทนหวานๆ แนะนำให้เลือกระหว่าง Armani Code กับ BLV Pour Homme แต่ผมว่า Code คะแนนนำกว่า เพราะ BLV กลิ่นค่อนไปทางสบู่ๆ แต่ก็มีความหวานอบอุ่นอยู่ด้วย ส่วนความทนผมว่าพอๆกัน
จริงๆอยากให้พิจารณา One Million เพิ่มอีกตัว เพราะตัวนี้หวานแบบจริงจัง ติดทนและฟุ้งกำจายดียิ่งนัก
ส่วนโทนสดชื่น ผมว่าดีงามและเป็นที่นิยมทั้งสามตัว รักพี่เสียดายน้อง
Acqua di Gio กลิ่นสดชื่นแบบละมุนละไมเป็นเอกลักษณ์จนมีอีกหลายยี่ห้อทำกลิ่นเลียนแบบ แต่ความทนปานกลาง 7-9 ชั่วโมง
Allure Homme Sport หอมสดชื่นและติดโทนหวานในช่วงท้าย ติดทนและกระจายดีมากมาย คุ้มค่าเงิน
L'Eau d'Issey Pour Homme เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความสดชื่นของผลไม้ตระกูลส้ม ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างกลิ่นโทน Citrus-Floral-Woody จนได้มาซึ่งกลิ่นหอมสดชื่นเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับทุกโอกาส ให้ความรู้สึกสดชื่นแต่ก็ดูอบอุ่น ดมแล้วรู้สึกสงบ เรียบง่ายแต่ชัดเจน ที่สำคัญคือ ติดทนและกระจายตัวดีมากครับ
เพิ่มอีกนิดนึง สำหรับข้อเสียของ 3 ตัวนี้คือ อาจจะเกร่อไปสักนิด กลิ่นเป็นที่นิยมมากเนื่องจากความดีงามในเนื้อกลิ่นดังที่ได้กล่าวมาครับ
อาจจะลองหากลิ่นโทนสดชื่นตัวอื่นที่ไม่ฮิตเท่า แต่เนื้อกลิ่นและความทนก็ดีงามไม่แพ้กัน เช่น
Givenchy Blue Label กลิ่นสดชื่นสไตล์ Bvlgari Aqva ในเวอร์ชั่นที่ตัดความคาวทะเลออกไป เหลือไว้แต่กลิ่นหอมสดชื่น fruity-woody ใสๆ
Fan di Fendi Pour Homme Acqua กลื่นสดชื่นแบบน้ำผสมกลิ่นหนังบางๆ เห็นว่าติดทนใช้ได้ทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
ช่วยเลือกน้ำหอมทีครับ คัดเลือกมาแล้ว
ตัวเลือกแรก ระหว่าง Acqua Di Gio By Giorgio Armani For Men
Giorgio ARMANI CODE
Chanel Allure Homme Sport
ปล. เป็นคนชอบกลิ่นน้ำหอมแบบหอมหวาน เช่น Paco Rabanne 1 Million for men
และตัวเลือกที่สอง น้ำหอมโซนสดชื่น
Bvlgari BLV pour Homme
Issey Miyake L'Eau D'Issey pour Homme
ถ้าต้องเลือกอย่างละ 1 ขวดจะตัดสินใจซื้อกลิ่นไหนดีครับ
หรือมีตัวอื่นเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ
แล้วก็อยากถามเพิ่มเติมว่า Paco Rabanne 1 Million for men
กับ davidoff the brilliant game
กลิ่นคล้ายกันมากมั้ยครับ ลองดมดูหลังจากลองดมมาหลายตัว เลยรู้สึกว่าเริ่มแยกกลิ่นไม่ค่อยออก