ประสบการณ์สยอง ที่ภูเก็ต

กระทู้สนทนา
เหตุการณ์นี้เกิดทั้งกับเราและคนที่ไปด้วยกันค่ะ จริงๆเล่าไปแล้วในกระทู้ของเรา
แต่มีคนหลังไมค์มาว่าตามอ่านยาก ให้ตั้งกระทู้ใหม่ เพราะกระทู้เก่า รวมหลายเรื่องเกินไป และเรื่องงอกมาเรื่อยๆ บางคนเลยไม่รู้ว่ามีต่อ
ใครที่ได้อ่านแล้วขอโทษด้วยนะคะ คนที่รอก็ต่อในนี้นะคะ
ปล.ขอค่อยๆเอามาใส่นะคะ เผื่อใครยังไม่ได้อ่านจะได้ค่อยๆติดตามและไม่ยาวเป็นพรืด

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี้เองค่ะ เรากับพี่สาว เพื่อนพี่สาว และแฟนของเพื่อนพี่สาวไปเที่ยวทะเลกันที่ จ.ภูเก็ต
เราออกเดินทางกันสายๆเพราะจังหวัดที่เราอยู่ ก็ไม่ไกลจากภูเก็ตมากนัก ตอนไปถึงก็เป็นช่วงบ่ายๆ วันแรกเรากะจะกินบรรยากาศแบบวัยสาว เที่ยวดึกๆ (ดูฝรั่งหล่อๆ ล่ำๆ) ที่หาดป่าตอง จึงพักกันแถวหาดป่าตองเลยค่ะ
โรงแรมที่พักดูดี กว้างใหญ่ ข้างล่างมีนวดสปา ข้างๆกันมีร้านนั่งดื่มแบบโล่งๆ เดินไปไม่ไกลก็จะเจอห้างจังสีลอน และหากข้ามถนน เดินไปนิดนึงก็จะเป็นทางเดินลงหาด
เราพักกัน 2 ห้องค่ะ เรากับพี่สาว เพื่อนพี่สาวกับแฟน ห้องดูดีเลยหละค่ะ พื้นปูเป็นกระเบื้องไม่ใช่พรมจึงรู้สึกไม่อับ ห้องน้ำใหญ่โต เตียงใหญ่คิงส์ไซส์ แต่เสียอย่างเดียว รูปลั๊กมีแค่รูเดียวที่ว่าง และอีกรูคือรูที่เสียบทีวีอยู่
พอเข้าห้องได้ เราก็นัดแนะกันว่าจะนอนพักแป๊บนึง ชาร์จแบตโทรศัพท์หน่อย และจะไปเดินเล่นที่ชายหาด แอร์ในห้องค่อนข้างร้อน เพราะเป็นแอร์แบบที่แผงควบคุมแอร์ติดกับผนัง และใช้วิธีบิดองศาเพื่อให้เย็นขึ้น (พึ่งทราบจากพนักงานทีหลังว่าเราปรับสุดเกิน เครื่องเลยหยุดทำงาน งี้ก็มีด้วย)
พี่สาวเราชาร์จรูที่ว่างอยู่ ส่วนเราดึงปลั๊กทีวีออกและชาร์จของเรา และก็ยืนเล่นไลน์ เปิดเฟซเช็คอินนั่นนี่ว่ามาถึงแล้ว
ไม่นาน เพื่อนพี่สาว ก็มาเคาะประตู พอเราไปเปิดก็บอกว่า "แฟนพี่ แม่มนอนไปละ" และบ่นว่าแอร์ร้อน ของน้องร้อนมั้ย เราก็บอกว่าก็ร้อนนะ ควรจะเย็นกว่านี้ ระหว่างนั้นพี่เค้าก็เดิน และก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่หน้าโต๊ะทำงาน และพี่เค้าก็บ่นนั่นนี่ เม้ามอยด์กับพี่สาวเรา
ตอนนี้ตำแหน่งก็คือ พี่สาวเรานั่งอยู่ริมสุด ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์บนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งที่ไม่มีพนักพิง และเงยหน้ามาบ้างประปราย
เพื่อนพี่สาวนั่งตรงกลางบนเก้าอี้มีพนัก (โต๊ะทำงาน กับโต๊ะเครื่องแป้งติดกัน) และก้มเล่นโทรศัพท์ และเงยบ้างเช่นกัน เพื่อเม้าให้ได้อรรถรส
เรายืนหลังพิงกำแพง ก้มเล่นมือถือเหมือนกัน แต่ไม่เงย เพราะไม่ค่อยได้สนทนากับเค้า ก็แค่ฟังๆ
สักพัก ก็ได้ยินเพื่อนพี่สาวบอกว่า "นี่ๆ มาดูนี่ซิ เนี่ย สวนน้ำที่เราจะไปเที่ยวพรุ่งนี้ ก็ดูเหมือนใหญ่นะ แต่สู้ไอสวนน้ำหัวหินไม่ได้ ทริปหน้าเนอะ"
เราก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อไป เพราะเม้าติดพันกับเพื่อน
ส่วนพี่สาวเราก็ดูไม่สนใจเพราะเราไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากนาง (นางบอกว่า เงยมามองแว่บนึง)
แล้วเพื่อนพี่สาว (เริ่มขี้เกียจพิมพ์ สมมติว่าชื่อ ณี)
พี่ณีก็สะดุ้ง แล้วหันมาถามเราว่า "นี่น้องปุ้ม(สมมติว่าเราชื่อปุ้ม) เมื่อกี้ ได้มายืนข้างๆพี่มั้ย?"
เราก็ละหน้าจากโทรศัพท์ "ไม่นะ ก็ยืนตรงเนี้ย หน้ายังไม่เงยด้วยซ้ำ"
พี่ณี "เอาจริงๆนะน้อง? หรือว่ามุง?" และหันไปทางพี่สาวเรา (สมมติว่าชื่อแป้น)
พี่แป้น "กุเปล่า กุแชทเฟซอยู่ แต่ตอนกุเงยไปมอง กุเห็นน่าจะปุ้มอะ ยืนอยู่ข้างมุง"
เรา "เห้ย! เปล่านะ ยืนอยู่แต่ตรงนี้"
พี่ณี "เนี่ย เมื่อกี้เหมือนเดินมานะ แล้วมายืนตรงซ้ายมือพี่เนี่ย แล้วก็ชะโงกหัวมามองในมือถือ" พร้อมทำท่าทางประกอบ
เรา "ไม่เล่นนะพี่ ปุ้มยืนตรงนี้ไม่ขยับตัวเลยจริงๆ"
และเราทั้ง 3 คนก็มองหน้ากัน แบบรู้ตัวว่า อาจจะเจอตั้งแต่เริ่ม
จริงๆ พี่ณี เป็นคนมีเซนส์อ่อนๆ พี่เค้ามักจะเห็นหรือรู้สึกได้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่!! นางพึ่งมาเฉลยเราตอนระหว่างนั่งรถกลับบ้าน
พี่แป้น จึงยิงคำถามต่อไป "ตอน สึนามิ ยิ้มซัดไปไกลแค่ไหนวะ?"
พี่ณี "ไม่รู้ว่าไกลแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ที่ป่าตองคนตายเกลื่อน"
เรา "นี่ หาดป่าตองไม่ใช่หรอพี่?"
พี่ณี "ก็ใช่ไงคะ น้องปุ้ม" (พี่เค้าจะพูดเพราะมากกับเรา แต่มุงกุ กับพี่เรานะคะ)
เรา "เอ่อ เราออกไปหาของกินหรืออะไรข้างนอกมั้ยพี่?"
พี่ณี "แฟนพี่มันยังนอนอยู่เลย สงสัยเมื่อกี้พี่เบลอ ช่างเถอะๆ ไม่มีไรหรอกน่า"
เราก็เริ่มรู้สึกไม่ดีละ แต่ดีนะเราไม่เห็น เราก็พยายามไม่คิด คิดว่าพี่เค้าคงเบลอและเล่นโทรศัพท์ต่อ แต่คราวนี้เสียงเม้าเงียบๆไป พวกพี่ๆบอกทีหลังว่า หาข้อมูลสึนามิกันอยู่ และไลน์หากัน ไม่เรียกแบบโจ๋งครึ่มแล้ว เดี๋ยวจะมีคนอื่นมาดูแทน
สักพัก เราก็ไปถอดคอนแทคพักสายตา เพราะคืนนี้คงอีกยาวไกล และก็ขอตัวไปนอน แต่นอนแบบไม่ห่มผ้านะคะ นอนบนผ้าห่มที่ดึงตึงๆ
และเราก็ฝันไป คือค่อนข้างคิดว่าฝันนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่