เมื่อคนขโมยโทรศัพท์ฉันคือคนที่ฉันไว้ใจ...

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกๆท่าน วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ โทรศัพท์หาย (Iphone5) ให้ฟังกันค่ะ
และคนที่เอาไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน... ก็คือคนที่เราไว้ใจที่สุดเองค่ะ


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาประมาณ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ สมัยไอโฟน5 ออกมาใหม่ๆเลย
ตอนนั้นแม่เราซื้อให้เป็นของขวัญปีใหม่ ใช้ได้ประมาณ 6 เดือน ก็มาโดนขโมยไปเลยค่ะ
เข้าเหตุการณ์กันเลยดีกว่า...

เราได้รุ้จักกับน้อง(ตุ๊ด) คนนึง จากการที่ชื่นชอบนักร้องคนเดียวกัน ด้วยความที่รู้จักกันมาเป็นปี
เราเลยไว้ใจเค้าทุกอย่าง น้องตุ๊ดคนนี้ตอนนั้นอายุ 15 เองค่ะ นางไม่เรียน นางอ้างว่า ออกมาทำงาน
ให้กับบริษัทนึง ได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท เราก็ไม่ได้สนใจว่านางพูดจริงหรือโกหก
แต่ก็ยอมรับว่า มีนินทานางบ้าง ตามโอกาสสะดวก
วันนึงค่ะ หลังจากที่เราไปหานักร้องคนนั้นที่บริษัทเสร็จ น้องตุ้ดก็ขอกลับหอเราด้วย
นางอ้างว่า นางอยากเจอเพื่อนของ จขกท. อยากพา จขกท. และเพื่อนไปเลี้ยงเหล้า
เนื่องจากเงินเดือนนางออก... ตอนแรกจขกท. ก็ไม่ให้ไปแล้วนะคะ เพราะ จขกท. อยู่หอใน
ล่ะเค้าห้ามคนนอกเข้า ถ้าโดนจับได้มีหวัง ไม่รอด... น้องตุ้ดก็บอกค่ะว่า โอ้ยย น้องไม่เข้าหอคุณพี่หรอกค่ะ
พอไปถึงมหาลัย เราก็ออกไปกินเบียร์กันเลย ล้ะค่อยแยกย้ายกลับ เราก็โอเคร ไปก็ไป ตามนั้น
พอไปถึงหอ เราก็บอก น้องตุ้ดว่า รอข้างนอกนะ เด่วเราตามเพื่อนมาเอง แล้วเราก็รีบเข้าห้องค่ะ
พอไปถึงห้องเราก็เข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นน้องเมทเราเปิดประตูห้องไว้พอดี น้องตุ้ดนี่เดินเข้ามาเลยค่ะ
(ห้องเรา ก่อนเที่ยงคืนคนอื่นสามารถเดินผ่านหน้าห้องไปยังห้องอ่านหนังสือได้ เพราะอยู่ชั้น2)
น้องตุ้ดนี่ก็แต่งหญิงอยู่แล้ว เลยรอดพ้นสายตา ยาม ที่หอมาได้ เราออกมาจากห้องน้ำแบบร้อยเห้ยเลยค่ะ
เข้ามาได้ไงเนี่ย?? คือจะให้ออกไปข้างนอกอีกก็ไม่ได้ละ กลัวยามเห็น กลัวโดนจับได้ เราเลยถามน้องตุ้ดว่า
ตกลงจะไปกินเบียร์ป้ะ เล่นเข้ามาในห้องแบบนี้จะออกไปได้ไง แล้วไหนเงินอ่ะ ตอนมาไม่เห็นมีสักบาท ให้เราออก
ค่ารถให้ น้องตุ้ดบอกว่า เนี่ย เงินเดือนโอนเข้ามาล่ะ ยังไม่ได้กดเงินออกมาเลย เราเลยต้องเป็นคนออกไปกดเงินให้นางเอง
เพราะกลัวว่าถ้านางออกมา เราจะไม่รอด สรุป... เงินในบัตรนางไม่มีสักบาท ตอนนั้นเรายังไม่คิดอะไรก็เดินกลับห้องไปบอกนางปกติ
นางก็โวยวายว่าทำไมเงินยังไม่โอนเข้า โน่นนี่นั่น บลาๆๆๆ.... เราก็เลยถามจะทำยังไง นี่มันก็จะเที่ยงคืนแล้ว ไหนบอกว่าจะให้พี่มารับ
นางก็ขอยืมโทรศัพท์เราโทรหาพี่นาง นางเปลี่ยนภาษาจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาไทย นางถอดเคสเราออก แล้วนางก็โทร แล้วบอกว่าเนี่ย
เค้ากำลังมา เราก็โอเค ไม่ค้องไปกินเบียร์ล้ะกัน ไม่สนุกแล้ว จะเที่ยงคืนล่ะ ออกนอกหอก็ไม่ได้ด้วย เลยไปอาบน้ำ ระหว่างนั้น
นางก็เอาโทรศัพท์เราถ่ายรุป ลงเฟสนางปกติ เราก็ถาม อ้าว จะเปลี่ยนภาษากับถอดเคสเราออกทำไม?
นางตอบมาว่า ก็มันไม่ถนัด  อ่ะจ้าา ตกลงโทรศัพท์ใครกันแน่ฟะ ก็นอนปกติไม่มีอะไร
เรื่องมาเกิดคืนที่2 ที่นางมานอนนี่แหล่ะค่ะ เผอิญคืนนี้ เรากับเพื่อนตกลงจะไปเที่ยวกลางคืนกัน
นางก็บอกว่า เด่วรอออกไปพร้อมพวกพี่ล่ะกัน เราก็โอเคร ไม่มีปัญหา พอไปถึงที่เที่ยว นางไม่ยอมกลับจ้า
นางบอกขออยู่เที่ยวด้วย เราก็แบบ เห้ย!! อายุเธอ 15 เองนะ นางก็แบบ อยากเที่ยวอ่ะะ พอดีตอนนั้นสามทุ่มกว่า
ผับนั้นยังไม่ตรวจบัตร นางเลยเข้าไปก่อนได้เลย สักพักนางนึกอะไรไม่รุ้ ออกไปกินข้าวกับเพื่อนชั้นจ้า คราวนี้เข้ามาไม่ได้ล้ะ
เพราะเค้าตรวจบัตรแล้ว นางก็ยังไม่ยอมกลับบ้าน ยืนยันว่า จะเข้าผับให้ได้ สุดท้ายต้องให้เพื่อนที่รุ้จักกับหุ้นส่วนพาเข้าไปค่ะ
ก็ดริ้งกันปกติ แต่ด้วยความที่โต้ะเรามาโค้ะแรก เราเลยเมา แต่ถามว่าตอนนั้นเมามากมั้ย ถึงจั้นอ้วกค่ะ
ระหว่างทางกลับหอ น้องตุ้ดยังคงกลับมากับเรา เราก็ไม่ได้สนใจ เพราะเมา เราอ้วกใส่ถุง เราถือโทรศัพท์ไว้ (ตอนนั้นแบทใกล้ตะหมด)
เมื่อก่อนเราเป็นคนชอบถือโทรศัพท์ติดตัวค่ะ จำได้ว่า ต่อให้เมามากแค่ไหน มือเรายังถือโทรศัพท์ค่ะ
ตอนนั้นจำได้คือ ถือโทรศัพท์มือนึง ถือถุงอ้วกอีกมือนึง ก็นั่งอ้วกมาเรื่อยๆจนถึงหอ เลยเอาถุงอ้วกกับโทรศัพท์มาถือรวมกัน
ล่ะอีกข้างถือรองเท้าค่ะ ก่อนขึ้นหอต้องตั้งสติดีๆก่อนด้วย เพราะถ้าที่หอเห็นว่าเมามาก เช้าวันรุ่งขึ้นจะโดนเรียกพบทันทีค่ะ
เราตั้งสติได้ ก็ไปที่เค้าเตอร์หอ เพราะต้องเซ็นเอากุญแจหลังเที่ยงคืน ตอนนั้นมีสติเซ็นชื่อนะคะ แต่ไม่แน่ใจว่ายังถือโทรศัพท์ติดตัวรึป่าว
พอเข้าห้องได้ รุ้สึกว่าเหมือนจะวางโทรศัพท์ไว้ที่โต้ะข้างเตียง แล้วสลบเลยค่ะ (น้องตุ้ด นอนข้างเตียงเรา)
พอรู้สึกตัวตื่นตอนเช้าคว้าโทรศัพท์ก่อนเลยค่ะ อ้าว??? หายไปไหน อ้าวว??? ไม่มี คราวนี้หาทั่วห้องค่ะ โทรหาก็ปิดเครื่อง คิดแบบ เชี่ยเอ้ย
โทรศัพท์ตูหาย!!!! เลยตั้งสติ รีบอาบน้ำค่ะ ไปถาม รปภ. หอก่อนเลย ว่าได้จดทะเบียนแทกซีที่มาส่งช่วงตีห้าเมื่อคืนมั้ย? เพราะตอนนั้นคิดว่า
คงลืมไว้บนรถแทกซี ล่ะแบตหมดพอดี รปภ.ก็น่ารักค่ะ จดทุกคัน ยกเว้นคันเรา (ดูได้จากเวลาที่แทกซีมาจอดค่ะ) รปภ. เลยถาม รปภ.หน้ามหาลัย
รปภ. หน้ามหาลัยก็ไม่ได้จด เอาล่ะตรู ซวยแท้ เลยไปแจ้งความค่ะ ว่าหายบนรถแทกซีไรงี้ น้องตุ้ดคนนั้นก็ไปเป็นเพื่อนนะคะ.....เราก็เครียดมาก
พยายามโทรก็ไม่ติด ตำได้เลยตอนโทรไปบอกแม่ แม่สตั้นไป2 นาทีค่ะ ล่ะบอกว่า ชั้นไม่รุ้ โตแล้ว จัดการเอาเอง ต่อไปอย่าหวังว่าจะได้อีก!!!!
เรานี่ทรุดเลยค่ะ ก็กลับไปตั้งหลักที่หออีก เสิชป้ากูเกิ้ลไปเรื่อยว่าต้องทำไงบ้าง จนไปเจอค่ะที่เค้าบอกว่า ต้องเอาเลขอีมี่ไปแจ้งความ แล้วขอเอกสารตราครุฑไปยื่นที่เครือข่าย แต่ละเครือข่าย หากมีคนเปิดใช้เครื่องเรา เราสามารถตามได้ คราวนี้วิ่งไปสถานีตำรวจอีกรอบค่ะ (น้องตุ้ดไปด้วยทุกสถาณการณ์) จนได้เอกสารตราครุฑมา ( เราเป็นคนชอบเก็บกล่องโทรศัพท์ไว้อยู่แล้วค่ะ เลขอีมี่เลยหาไม่ยาก) เราเลยเอาไปยื่นที่เครือข่ายแต่ล่ะเครือข่ายในห้างค่ะ น้องตุ้ดก็ไปกับเรานะ แต่นางก็ขอตัวกลับบ้านก่อน เราก็โอเค ให้นางกลับ ยังขอบคุณนางอีกด้วยซ้ำที่อยู่ให้กำลังใจ... จนเรากลับมาหอค่ะ ตกกลางคืน เพื่อนเราขอสายหูฟัง เราก็บอกว่า เอาไปสิ วางคู่กับสายชาทแบทบนโต้ะอ่ะ.. ตัวเรานอนตายอยู่บนเตียง ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรละค่ะ
เพื่อนก็เดินมาที่โต้ะเรา แต่.... ทุกอย่างมันหายไป????????

ขอนอนก่อนนะคะ เดี่ยวมาต่อให้พรุ่งนี้ค่า^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่