ข้อผิดพลาดในพุทธศาสนา

กระทู้คำถาม
เนื่องจากเป็นกระทู้เก่าtopicstockของคุณrun1511จึงตอบไม่ได้ สามารถอ่านได้ที่http://topicstock.ppantip.com/religious/topicstock/2007/12/Y6150169/Y6150169.html ขอชี้เเจงก่อนว่ากระทู้นี้ไม่มีเจตนาจะหลบหลู่ใดๆทั้งสิ้นเเต่เพื่อจะชี้ให้เห็นขอเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์

               ผมว่าดีแล้วล่ะครับที่คุณไม่ได้เขียนหนังสือขายไม่งั้นคงจะเป็นการประจานความโง่ของตัวเองเหมือนหนังสือไอสไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น “ผมพยายามรวบรวมข้อมูลให้ดีที่สุดทำที่จะทำได้” นี่รวบรวมข้อมูลให้ดีที่สุดแล้วใช่มั้ยครับผมคิดว่าจะช่วยแก้ไขข้อมูลให้คุณคงยากเพราะว่ามันผิดไปเสียแทบทุกอย่างผมขอเรียกว่าเขียนใหม่เลยละกัน
อย่างแรก
1 ธัญญามาตร (ขนาดเล็กของเมล็ดข้าว)ประกอบด้วย 7 อูกา (ศรีษะของตัวเล็น)
1 อูกา ประกอบด้วย 7 สิกขา (รอยขีดเล็กๆ)
1 สิกขาประกอบด้วย 37 รถเรณู (ละอองเกษรดอกไม้)
1 รถเรณู ประกอบด้วย 36 ตัชชารี (ละอองรังสีในแสงแดด)
1 ตัชชารี ประกอบด้วย 36 อนู (อนุภาคขนาดเล็ก)
1 อณู ประกอบด้วย 36 ปรมาณู
1 ปรมาณู แบ่งแยกไม่ได้อีก เพราะหากแยกต่อไปจะหมดสภาพของสารนั้น
จะเห็นได้ว่าเม็ดข้าวหนึ่งเม็ด จะมีขนาดประมาณ(วัดจากแนวนอน) กว้างประมาณ0.7ซม สูงประมาณ0.2ซม
และหนาประมาณ0.2ซม จะประกอบไปด้วยอะตอมประมาณ 84,000,000 อะตอม
จากข้อความที่คุณอ้างมาผมไม่รู้ว่าคุณคำนวณยังไงได้84,000,000 อะตอมแต่มันผิด
ข้าว(แป้ง) สูตรคือ (C6H10O5)n หมายความว่า1โมเลกุลมี21อะตอม
จากที่คุณบอกมาข้าว1เมล็ดมี84ล้านอะตอม ทำให้ได้ว่าข้าว1เมล็ดมี4ล้านโมเลกุล และ 1โมเลกุลมีมวลเท่ากับ (72+10+60)/6.02*1023=2.358803987*10-22 กรัม
(C6H10O5)4*106โมเลกุลมีมวลเท่า4*106*2.358803987*10-22=9.435215947*10-16กรัม
ซึ่งข้าว1เมล็ดมีมวล1/64 กรัม(มากกว่ามวลของข้าวจากข้อมูลที่คุณให้มาอย่างเห็นได้ชัด)
“และถ้ามองลึกลงไปจะเห็นว่าอะตอมแต่ละตัวนั้นมีการ เรียงตัวกันเองโดยที่ไม่ได้มีการยึดติดใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นเพียงการรวมตัวของธาตุอะตอมนั้นๆ” ผมอ่านข้อความนี้แล้วไม่รู้อยากจะหัวเราะเพราะความโง่หรือร้องไห้กับอนาคตของการศึกษาไทยดีอะตอมทุกตัวทุกสภาวะยกเว้นแก็สสมบูรณ์(เป็นพียงtheoretical gas)มีแรงยึดเหนี่ยวหมดครับ
“พระพุทธเจ้ารู้ว่าโลกนี้กลมมา 2500 กว่าปีแล้ว ท่านตรัสไว้ใน พรหมชาลสูตร ว่า "โลกนี้กลมเหมือนผลมะขามป้อม"
ก็ คือโลกมีลักษณะกลมๆแต่ไม่ถึงกับกลมเหมือนลูกปิงปอง เพราะโลกเรามีทั้งภูเขาที่มีความสูงต่ำไม่เท่ากันจึงทำให้รู้ว่าโลกลักษณะ ที่ไม่เรียบคับ” ผมยอมรับว่าโลกมีลักษณะกลมๆแต่ไม่ถึงกับกลมเหมือนลูกปิงปอง แต่พอได้มาอ่านการให้เหตุผลเหมือนเด็กอนุบาล(โลกเรามีทั้งภูเขาที่มีความสูงต่ำไม่เท่ากันจึงทำให้รู้ว่าโลกลักษณะ ที่ไม่เรียบคับ)ของคุณแล้วแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ โลกไม่เป็นทรงกลมแต่เป็นทรงoblate spheroidซึ่งเกิดจากการหมุนและแรงโน้มถ่วงครับ

พระพุทธเจ้าจำแนกขั้นตอนการเกิดของมนุษย์ เมื่อเปรียบเทียบกับการเจริญของเชลล์ไข่ที่ผสมอสุจิมนุษย์แล้วมีดังนี้
เมื่อ เชลล์ไข่ผสมกับอสุจิ ภายใน 10-12 ชั่วโมง นิวเคลียสของทั้งสองก็จะรวมตัวอย่างสมบูรณ์ เรียกว่า การปฏิสนธิ (หมายถึง กลละ ในพระสูตร)
หลังจากนั้นจะมีการแบ่งเชลล์ 30-37 ชั่วโมง เรียกกว่า ไชโกด แล้วก็จะกลายเป็นกลุ่มเชลล์ เรียกว่า เอ็มบริโอ (หมายถึง อัพพุทะ ในพระสูตร)
หลังจากนั้นเจ็ดวัน เอ็มบริโอ ก็จะเคลื่อนที่ฝังในผนังมดลูก (หมายถึง เปสิ ในพระสูตร)
หลังจากนั้น 3 สัปดาห์ เริ่มมี หัวใจ สมอง และไข่สันหลัง (หมายถึง ฆานะ ในพระสูตร)
หลังจากนั้น 4 สัปดาห์ เริ่มมีปุ่มแขนขา จนถึงสัปดาห์ที่ 7 (เป็นช่วง ปรากฏ 5 ปุ่ม ในพระสูตร จนปรากฏ ศีรษะ แขนขา ชัดเจน)
หลังจากนั้นก็จะพัฒนา อวัยวะ ต่างๆ จนครบสมบูรณ์ ด้วยอาศัยอาหารจากมารดา (ซึ่งตรงตามพระสูตรทุกอย่าง)
อย่างแรกเลยนะครับแค่ข้อมูลคุณก้ผิดไปจากมหาตัณหาสังขยสูตรแล้ว
“ ในสัปดาห์แรกแห่งการปฏิสนธินั้น เกิดเป็นกลลรูป คือเป็นหยาดน้ำใสเหมือนน้ำมันงา ในสัปดาห์ที่ ๒ หลักจากกลละรูป ได้เกิดเป็นอัพพุทรูปขึ้น มีลักษณะเป็นฟอง สีเหมือนน้ำล้างเนื้อ ในสัปดาห์ที่ ๓ หลักจากอัพพุทรูป ก็ได้เกิดเป็นเปสิรูป ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนมีสัณฐานเหมือนไข่ไก่ ในสัปดาห์ที่ ๕ หลักจากฆนรูป จึงได้เกิดปัญจสาขา คือ รูปนั้นงอกออกเป็น ๕ ปุ่ม คือ เป็นศีรษะ ๑ , มือ ๒ , เท้า ๒ ต่อจากนั้น คือ ในระหว่างสัปดาห์ที่ ๑๒ ถึงสัปดาห์ที่ ๔๒ ผม ขน เล็บ ก็ปรากฏขึ้น ”
ไปเปิดดูเองนะครับ http://www.mettadham.ca/buddhist%20canon2.htm
อย่างที่สองนะครับต่อให้ข้อมูลคุณถูกเหมือนข้อมูลในตัณหาสังขยสูตรก้ผิด
ผิดดังนี้
เนื่องจากข้อมูลในสัปดาห์ที่2และ3คลุมเครือมากผมจึงใช้ความคิดเห็นผมพยายามจินตนาการตามที่พระพุทธเจ้าได้อ้างไว้
“ในสัปดาห์ที่ ๒ หลักจากกลละรูป ได้เกิดเป็นอัพพุทรูปขึ้น มีลักษณะเป็นฟอง สีเหมือนน้ำล้างเนื้อ” ช่วงสัปดาห์ที่2ไม่เป็นฟองครับช่วงนั้นเริ่มสร้างระบบเลือด,ประสาท ฯลฯ   
“ในสัปดาห์ที่ ๓ หลักจากอัพพุทรูป ก็ได้เกิดเป็นเปสิรูป ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนมีสัณฐานเหมือนไข่ไก่” ในความคิดผมลักษณะที่เหมือนไข่ไก่ที่สุดควรจะเปนสัปดาห์ที่2ครับ
“ในสัปดาห์ที่ ๕ หลักจากฆนรูป จึงได้เกิดปัญจสาขา คือ รูปนั้นงอกออกเป็น ๕ ปุ่ม คือ เป็นศีรษะ ๑ , มือ ๒ , เท้า ๒” limbsจะงอกออกมาตอนสัปดาห์ที่4ครับ
การที่คุณคุณจะยกเรื่องsupernovaหรือทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปมาอ้างหลุมดำว่าเป็นนรกภพต่ำสุดอะไรของคุณนั้นเป็นแค่การอ้างความคล้ายกันในสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ได้ไม่หมดไม่ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงเป็นเพียงสมมติฐานของคุณเท่านั้น ผมก็อยากจะพูดในเรื่องจักรวาลต่อนะครับแต่ถ้าพูดแล้วจะยาวเพราะออกแนวทฤษฎียิ่งเอาไปรวมกับเรื่องที่คุณอ้างว่าเปนนรกอีกและการพิสูจน์ของผมข้างบนก็น่าจะเพียงพอที่จะแสดงว่าข้อมูลของคุณผิดมากแค่ไหนผมหวังว่าประเทศไทยคงเหลือคนฉลาดอยู่บ้างที่จะมาdisproveเรื่องที่เป็นพียงสมมติฐานของคุณ,เรื่องผิดๆของการเกิดของสิ่งมีชีวิตและเรื่องที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้(มนุษย์ต่างดาว โลกของมนุษย์ต่างดาว ฯลฯ)ซึ่งคุณเอามาอ้างเป็นตุเป็นตะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่