บร๊ะเจ้าา!! ประสบการณ์การเป็นตากุ้งยิงครั้งแรก ><

สวัสดีค่ะ วันนี้รสาจะมาเล่าประสบการณ์การเป็นตากุ้งยิงให้เพื่อนๆฟังนะคะ
         เริ่มจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 58 เวลาประมาณตี 2 รสากำลังนอนหลับสบายเลย อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนโดนมดกัดที่ริมเปลือกตา แบบว่าเจ็บมากก แต่ด้วยความง่วงและงัวเงียก็เลยนอนต่อ พอตื่นมาตอนเช้า ก็รู้สึกเคืองๆที่เปลือกตา พอส่องกระจกดูก็จะเห็นเป็นตุ่มเล็กๆปวดๆคันๆ ก็ไม่สนใจ คิดว่าเดี๋ยวคงหาย
         ประมาณวันที่ 25 พ.ค. ก็เริ่มมีอากาศบวมที่ตุ่มเล็กๆนั้น จะบวมตอนเช้า พอสายๆก็จะยุบลง คิดว่าคงแพ้พิษแมลง ก็เลยไปหาเภสัช ได้ยาแก้แพ้และยาทามา ก็เป็นแบบนี้ประมาณ 4 วัน แล้วมันก็บวมขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ยุบเลยทั้งวัน เจ็บๆปวดๆ
         วันที่ 31 พ.ค. จึงตัดสินใจไปหาหมอที่คลีนิคตาโดยเฉพาะ เข้าไปก็ถูกจับไปวัดสายตา สแกนม่านตา แล้วจึงเข้าพบหมอ หมอก็ใช้เครื่องตรวจตาดู ถามว่าไปทำอะไรมา พอบอกว่ามดกัด หมอก็ไม่เชื่อ บอกว่าเป็นตากุ้งยิง จากนั้นก็ให้ยาหยอดตากับยาปฎิชีวนะมา แล้วก็ให้ประคบร้อน หมอบอกเดี๋ยวก็หาย หมดไป 700 เบาๆ
         หลังจากไปหาหมอที่คลีนิคมา ตาก็ยังบวมขึ้นเรื่อยๆจนรู้สึกว่ามันจะระเบิด ตู้มม กลายเป็นโกโก้ครั้นส์ ไม่ใช่แระ ==' รู้สึกว่าจะไม่ไหวแล้ว เหมือนมันจะแตกออก ก็เลยเอาวะ หาข้อมูลดูซิ ว่าคนที่เป็นตากุ้งยิงเขาหายได้ไง ก็ไปเจอกระทู้นึงในพันทิปจ้าา เขาบอกว่าต้องไปกรีดเอาหนองออก ตอนฉีดยาชามันเจ็บมากกกก รสานี่จะเป็นลมเลยทีเดียว แต่เป็นมาหลายวันแล้วไง ไม่ได้แล้ว ต้องหาย ก็เลยตัดสินใจไปหาหมอที่เดิม
         และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันนี้เนี้ยแหละ 4 มิ.ย 58 รสาก็ไปรอหมอที่คลีนิคตอนห้าโมงเช้า คนเยอะมากกก หมอมาเที่ยงกว่าๆ รอไปกลัวไป ตอนกรีดตาคิดว่าไม่กลัวนะ แต่กลัวตอนฉีดยาชา >< พอถึงคิวก็เข้าไปวัดสายตา สแกนม่านตา เหมือนเดิมเป๊ะ พอเข้าพบหมอ หมอก็ใช้เครื่องตรวจตาส่องดูตา แล้วก็บอกว่าต้องกรีดออกแล้วล่ะ รสาก็ โอเค นั่นแหละจุดประสงค์ของเรา 55
         จากนั้นผู้ช่วยหมอก็เอายาชามาหยอดใส่ตาให้ ครั้งแรกแสบมาก หยอดประมาณ 5 ครั้งได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าลูกกะตาไม่มีแล้ว ชาไปหมด 55 และแล้วคุณหมอก็เรียกขึ้นไปนอนบนเตียง รสาก็ใจง่าย ขึ้นไปโดยไม่รีรอ 55 พอนอนลงหมอก็อธิบายตลอดว่ากำลังจะทำอะไรให้ เริ่มจากทำความสะอาดเปลือกตา แล้วก็เอาผ้ามาคลุมหน้าไว้หมด เหลือแค่ตรงตาที่จะผ่าไว้ แล้วหมอก็อธิบายว่าจะฉีดยาชาแล้วนะ เจ็บหน่อยนะ ตอนนั้นพูดรัยไม่ได้แล้ว เกร็งมากก พอเข็มจิ้มที่ตาเท่านั้นแหละ โอ้พระพุทธเจ้าาา มันเจ็บมากกกก เจ็บจี๊ดสุดขั้วหัวใจ คือไม่ได้แทงลงไปแค่ครั้งเดียวจบนะ แทงเข้าทางนั้นทางนี้บ้างแหละ โอ๊ยย น้ำตาจิไหล ไม่มีเสียงร้องซักแอะ เจ็บเกินบรรยาย><
         พอฉีดยาชาเสร็จ (รู้สึกว่ามันไม่ชาเลยนะ) หมอก็เริ่มลงมือเอามีดอันคมกริบกรีดลงไป รับรู้ถึงคมมีดเลยอ่ะ เจ็บจี๊ดๆเลย ยาชาไม่ได้ช่วยอะไร TT แล้วหมอก็ทำอยู่อย่างนั้นซักพัก ไม่ถือว่านานนะ พอเสร็จหมอก็ปิดตาไว้ให้ บอกให้ปิดไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงก็เอาออกได้ ตอนก้าวลงจากเตียงนี่ขาอ่อนยวบเลย ไม่เคยเจ็บอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย ก็ได้ยาตัวเดิมไปเพิ่มอีกพร้อมยาแก้ปวดด้วย สิ้นสุดความเจ็บปวดซะที หมดไป 850 บาท บาววๆ กินมาม่าไปเถอะรสาา ><
         จริงๆแล้วตากุ้งยิงเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่เกิดจากสาเหตุคือ เปลือกตาไม่สะอาด มักเกิดจากการขยี้ตาบ่อย ๆ ใช้เครื่องสำอาง แล้วล้างออกไม่หมดหรือล้างไม่สะอาด ใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือที่ไม่สะอาด แต่รสาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเพราะอะไร เพราะตอนแรกนึกว่ามดกัด อยู่ดีๆกลายเป็นตากุ้งยิงซะงั้นเลย 55 ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีอาการปวดหนังตา มีอาการบวมที่เปลือกตา คลำได้ก้อนหรือเห็นเป็นก้อนที่เปลือกตา ควรรีบไปหาหมอทันทีนะคะ อย่าปล่อยไว้นาน รักษาเร็วก็สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องเจ็บปวดนะคะ ^_____^
         สุดท้ายนี้ก็ขอฝากเพื่อนๆให้ดูแลสุขภาพดวงตาให้ดีๆนะคะ เพราะตาเป็นอวัยวะที่สำคัญมากอย่างนึง เราใช้สายตานานมากในแต่ละวัน ควรบำรุงรักษาดวงตาให้ดีๆ ถ้าเริ่มมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ (จะได้ไม่เจ็บปวดรวดร้าวอย่างรสาน้าา)
         #ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่