อยากถามผู้รู้เกี่ยวกับความจำเป็นของการต้องมี บ่อพักน้ำสำหรับการติดตั้งระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ครับ เห็นบางคนเค้าจะสูบน้ำจากบ่อบาดาลหริอคลองมาเข้าบ่อพกน้ำ ถังเก็บน้ำ หรือหอส่งน้ำก่อน แล้วค่อยเอาไปเข้าระบบสปริงเกอร์ เราจะดูจากตัวแปรอะไรบ้างครับว่าจะต้องขุดบ่อหรือมีถังเก็บน้ำหรือไม่
ผมมีสวนอยู่ประมาณ15ไร่ กำลังจะออกแบบระบบน้ำ มีบ่ออยู่แล้ว2บ่อ บ่อนึงจะแห้งหน้าแล้ง อีกบ่อจะมีน้ำตลอด แบบค่อนๆบ่ออ่ะครับไม่ว่าจะแล้งยังงัยก็ตาม น่าจะมีตาน้ำ กำลังศึกษาอยู่ว่าจะต้องมีบ่อพักน้ำหรือหอส่งน้ำมั้ย จะปลูกลำไยประมาณ 250 ต้นครับ ลองคำนวณดูใช้น้ำต่อครั้งก็ 6-7แสนลิตร ครับ ถ้าลดอาทิตญ์ละครั้ง ช่วงที่ต้องการน้ำมากที่สุด
ผมเข้าใจเรื่องบ่อพักน้ำตามนี้ครับ
1. กรณี สูบน้ำจากบ่อบาดาลแล้วต้องมีบ่อพักน้ำอีกทีเพราะว่า เวลาสูบน้ำไปรดต้นไม้จำนวนมากๆด้วยอัตราน้ำออกที่ค่อนข้างเร็วเพื่อประหยัดเวลาในการรดน้ำ น้ำอาจจะไหลเข่าบ่อบาดาลไม่ทันเป่าครับ? ก็เลยสูบน้ำมาเก็บไว้มากๆก่อนแล้วค่อยรดทีเดียว
1.1 ส่วนการสูบจากบ่อบาดาลขึ้นหอส่งน้ำก็เพื่อจะส่งไห้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องใช้ปั้มใช่รึเป่าครับ แต่ยังสงสัยเหมือนกัน ค่าก่อสร้างหอส่งน้ำแบบนี้น่าจะแพงกว่าปั้มรึเป่าครับ ทำไมถึงใช้หอส่งน้ำ หรือว่าถ้าจะเอาแบบเตี้ยๆเล็กๆๅก็คงได้แค่ระบบน้ำหยดใช่มั้ยครับ?
2. สำหรับกรณีที่สูบน้ำจากคลองแล้วต้องมาเข้าบ่อพักน้ำก่อน อันนี้นีน่าจะเกิดจากปั้มน่าจะปั้มไห้ระบบสปริงเกิลเลยไม่ได้เพราะว่าคลองอยู่ไกล น่าจะใช่มั้ยครับ?
คราวนี้ก็เข้าเรื่องสวนผม ถ้าผมอยากจะทดสอบว่าน้ำในบ่อพอที่จะรดน้ำตามที่วางแผนไว้โดยที่ยังไม่ติดตั้งระบบสปริงเกลอร์ ก็ลองสูบน้ำในอัตราที่ต้องการดูว่าน้ำแห้งรึเป่า แบบนี้พอจะทดสอบได้มั้ยครับ
เช่น เอาปั้มที่สูบได้ 1200 l/m มาลองสูบ เวลา 9-10 ชม. ก็จะรดน้ำได้ตามที่วางแผนไว้(ุ600000-700000ลิตร) ถ้าสูบตามนี้แล้วบ่อยังไม่แห้งก็แสดงว่าน่าจะใช้ได้ใช่เป่าครับ
แต่ถ้าผมอยากรดน้ำเสร็จเร็วกว่าน้ีก็ต้องหาปั้มที่มีอัตราการไห้น้ำเร็วกว่านี้มาลองหรือใช้ปั้ม2ตัว แบบนี้ถูกมั้ยครับ
ขอบคุณมากครับ
บ่อพักน้ำในการทำเกษตร
ผมมีสวนอยู่ประมาณ15ไร่ กำลังจะออกแบบระบบน้ำ มีบ่ออยู่แล้ว2บ่อ บ่อนึงจะแห้งหน้าแล้ง อีกบ่อจะมีน้ำตลอด แบบค่อนๆบ่ออ่ะครับไม่ว่าจะแล้งยังงัยก็ตาม น่าจะมีตาน้ำ กำลังศึกษาอยู่ว่าจะต้องมีบ่อพักน้ำหรือหอส่งน้ำมั้ย จะปลูกลำไยประมาณ 250 ต้นครับ ลองคำนวณดูใช้น้ำต่อครั้งก็ 6-7แสนลิตร ครับ ถ้าลดอาทิตญ์ละครั้ง ช่วงที่ต้องการน้ำมากที่สุด
ผมเข้าใจเรื่องบ่อพักน้ำตามนี้ครับ
1. กรณี สูบน้ำจากบ่อบาดาลแล้วต้องมีบ่อพักน้ำอีกทีเพราะว่า เวลาสูบน้ำไปรดต้นไม้จำนวนมากๆด้วยอัตราน้ำออกที่ค่อนข้างเร็วเพื่อประหยัดเวลาในการรดน้ำ น้ำอาจจะไหลเข่าบ่อบาดาลไม่ทันเป่าครับ? ก็เลยสูบน้ำมาเก็บไว้มากๆก่อนแล้วค่อยรดทีเดียว
1.1 ส่วนการสูบจากบ่อบาดาลขึ้นหอส่งน้ำก็เพื่อจะส่งไห้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องใช้ปั้มใช่รึเป่าครับ แต่ยังสงสัยเหมือนกัน ค่าก่อสร้างหอส่งน้ำแบบนี้น่าจะแพงกว่าปั้มรึเป่าครับ ทำไมถึงใช้หอส่งน้ำ หรือว่าถ้าจะเอาแบบเตี้ยๆเล็กๆๅก็คงได้แค่ระบบน้ำหยดใช่มั้ยครับ?
2. สำหรับกรณีที่สูบน้ำจากคลองแล้วต้องมาเข้าบ่อพักน้ำก่อน อันนี้นีน่าจะเกิดจากปั้มน่าจะปั้มไห้ระบบสปริงเกิลเลยไม่ได้เพราะว่าคลองอยู่ไกล น่าจะใช่มั้ยครับ?
คราวนี้ก็เข้าเรื่องสวนผม ถ้าผมอยากจะทดสอบว่าน้ำในบ่อพอที่จะรดน้ำตามที่วางแผนไว้โดยที่ยังไม่ติดตั้งระบบสปริงเกลอร์ ก็ลองสูบน้ำในอัตราที่ต้องการดูว่าน้ำแห้งรึเป่า แบบนี้พอจะทดสอบได้มั้ยครับ
เช่น เอาปั้มที่สูบได้ 1200 l/m มาลองสูบ เวลา 9-10 ชม. ก็จะรดน้ำได้ตามที่วางแผนไว้(ุ600000-700000ลิตร) ถ้าสูบตามนี้แล้วบ่อยังไม่แห้งก็แสดงว่าน่าจะใช้ได้ใช่เป่าครับ
แต่ถ้าผมอยากรดน้ำเสร็จเร็วกว่าน้ีก็ต้องหาปั้มที่มีอัตราการไห้น้ำเร็วกว่านี้มาลองหรือใช้ปั้ม2ตัว แบบนี้ถูกมั้ยครับ
ขอบคุณมากครับ